เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 105-106
ตอนที่ 105 ถ้ำมด(ตอนแรก)
เป็นไปดังคาด เหล่ามดไฟเหล่านี้มันแบกร่างการมนุษย์ไว้บนหลังของมันพลางเดินตามติดกันเป็นแถวขบวน คล้ายตอนที่พวกมันมาบุกเมืองของเขา
หลินหยางและพวกติดตามพวกมันไปทันที เขาอยากทราบสถานที่ที่พวกมันไป
ณ พื้นที่ราบแห่งนึง
มีฝูงมดที่เดินตามติดกันเป็นแถว ไม่ไกลห่างมีกลุ่มคนกว่าสามสิบคนย่องตามพวกมันอยู่ คนกลุ่มนี้เมื่อเดินได้ไม่ไกลมักแวะนั่งพักเพื่อรอแถวมดเคลื่อนขบวนไปไกลห่างจึงลุกขึ้นติดตาม นั่นเพราะขบวนมดมันเชื่องช้าเสียยิ่งกว่าเต่าคลานเสียอีก
หลังจากติดตามมันได้กว่าหนึ่งชั่วโมงตอนนี้ห่างจากเมืองหลินหยางกว่าห้าสิบกิโลเมตรแล้ว ดูท่ายังคงต้องเดินอีกไกล เพราะยังคงไม่ทราบจุดหมายปลายทางของมันเนื่องจากการเดินทางที่เชื่องช้าของมันแม้แต่เทียนหนิงเจี้ยนที่ติดสอยห้อยตามมาเพื่อจดบันทึกข้อมูลที่พบเจอ ยังสามารถเดินตามได้อย่างสบายๆ มิเหน็ดเหนื่อย
หลินหยางได้ส่งคนเพื่อกลับไปบอกข่าวแก่ผู้คนในเมืองไว้ก่อน
การติดตามยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ เขาใกล้หมดความอดทนเต็มทีอยากเข้าไปฆ่าพวกมันเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ความสงสัยยังคงมีอำนาจเหนือกว่าจึงจำใจติดตามมันอย่างต่อเนื่อง
เวลาผ่านไปจนมืดค่ำ ในที่สุดพวกเขาก็ถึงจุดหมายปลายทางเสียที เพราะเขามองเห็นถ้ำหินที่เหล่ามดที่ได้ตามติดชีวิตของมันมาได้เดินเรียงแถวเพื่อเข้าไปในปากถ้ำแห่งนั้น หายเข้าไปมิกลับออกมาอีกเลย
ถ้ำแห่งนี้คล้ายกับถ้ำโครงกระดูกที่หลินหยางพบเจอมิผิดเพี้ยน มันโผล่ขึ้นมาเพียงปากถ้ำเท่านั้นด้านหลังคือผืนหญ้าที่ว่างเปล่าเส้นทางภายในล้วนอยู่ใต้ดิน
“พวกเราจะเข้าไปเลยไหมพี่หยาง” จิ่นเหอกล่าวถาม
“ยังก่อนตอนนี้มืดแล้วพวกเราจะค้างแรมกันที่นี่แหละ” หลินหยางกล่าว เพราะเขาทราบดีภายในถ้ำมันมืดมิดเพียงใด
ตอนที่เขาเข้าไปในถ้ำโครงกระดูกแม้จะเป็นช่วงกลางวันแต่กลับมืดมิดเสียยิ่งกว่ากลางคืนเสียอีก รวมกับการเดินทางที่ยาวนานในวันนี้ หลินหยางจึงอยากให้คนของเขาพักผ่อนเสียให้เพียงพอ เพราะไม่ทราบถ้ำตรงหน้าจะเจอสิ่งใดหากมีเพียงมดไฟนี่ย่อมเป็นเรื่องดีสำหรับเขา เพราะมันคือที่เพิ่มระดับดีๆนี่เอง เนื่องจากการจะฆ่ามันนั้นช่างง่ายดายราวกับปลอกกล้วยก็มิปาน
ครอกกกzzZ
ฟี้zzZ
แม้จะบอกว่าพักแรมแต่พวกเขาก็แค่นอนกองรวมกันบนพื้นเท่านั้น การนอนรวมกันของชายชาตรีกว่าสามสิบคนทำให้หลินหยางแทบนอนไม่หลับ เพราะเสียงกรนที่แข่งกันดังสนั่นเยี่ยงนี้ รวมถึงเทียนหนิงเจี้ยนที่นอนเคียงข้างบัดนี้มันเอาหัวมาซบอยู่บนหน้าอกของเขา คล้ายกับเหมยเหมย…
ตอนเช้า
“พวกนายพร้อมแล้วใช่ไหม” หลินหยางกล่าว ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าแถวที่ยืนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบคล้ายฝึกทหารกันอยู่
“ครับ” มีเสียงตอบกลับอย่างแข็งขัน หนึ่งในนั้นคือเทียนหนิงเจี้ยนมันยืนถือดาบอยู่
หลินหยางต้องการให้เทียนหนิงเจี้ยนเข้าไปด้วยเช่นกัน หากข้างในคือรังของมดไฟหลินหยางจะได้แก้ไขความอ่อนแอเหน็ดเหนื่อยของเทียนหนิงเจี้ยนเสียที โดยการให้มันไปเพิ่มระดับซะ!!
“ไปได้” หลินหยางตะโกนปลุกใจพลางเดินนำขบวนมุ่งหน้าสู่รังของมดไฟ!
ตอนที่ 106 ถ้ำมด(ตอนสอง)
เมื่อเดินมาถึงปากทางเข้าถ้ำ มองลอดเข้าไปภายในถ้ำมิเห็นสิ่งใดมันมืดมิดคล้ายกับมีม่านกั้นมิสามารถมองผ่าน หัวใจเขาก็เต้นรุนแรงเป็นเพราะเหตุใดมิทราบแน่
หลินหยางตัดสินใจเดินเข้าไป ดังคาดเพราะเมื่อก้าวเท้าเข้าไปตัวเขาราวกับถูกแรงลมดูดเข้าไป เหตุการณ์เช่นนี้เขาเคยพบเจอมาแล้วการถ้ำโครงกระดูก เขาจึงมิแตกตื่นตกใจ
เมื่อหลินหยางเข้าไปคนอื่นๆก็ติดตามเขาไปอย่างกระชั้นชิด
ในถ้ำที่มืดมิดมีเสียงคนดังขึ้นเป็นระยะๆ คือพวกหลินหยางนั่นเอง
เหวอออ~~
และแล้วคนสุดท้ายก็เข้ามาจนครบโดยมันร้องเสียงหลงเมื่อถูกดูดเข้ามา นั่นคือเทียนหนิงเจี้ยนนั่นเอง
“ฮ่าๆ”
เมื่อคนอื่นๆเห็นมันเปล่งเสียงร้องที่น่าอายพวกเขาล้วนระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่น
เทียนหนิงเจี้ยนเมื่อรู้ตัวจึงก้มหน้าลง หากตอนนี้พวกเขาเห็นหน้าตาของมันพวกเขาคงต้องหัวเราะดังขึ้นไปอีก เพราะมันหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
ดวงตาหลินหยางเริ่มปรับสภาพได้เขามองเห็นลางๆ ผนังสองด้านห่างกันราวสองเมตรเพียงพอให้คนเดินเข้าไปภายในเป็นคู่เท่านั้น ช่างคล้ายคลึงกับถ้ำโครงกระดูกยิ่งนัก พวกเขาจุดคบไฟที่ตระเตรียมมาพลางเดินเข้าไปภายในอย่างช้าๆ
“ระวังตัวด้วย” หลินหยางกล่าว
กี๊~
มีเสียงดังออกมาจากส่วนลึกของถ้ำอยู่เป็นระยะ คาดว่าคงเป็นเสียงของมดไฟเป็นแน่ ระยะการมองเห็นที่จำกัด รวมถึงผนังถ้ำที่มิกว้างใหญ่ สิ่งเหล่านี้บังคับให้พวกเขาตกอยู่ในความกดดันแม้จะทราบว่านี่คือถ้ำมดไฟที่มีเพียงระดับสองก็ตาม
หลินหยางและพวกเดินเรียงแถวกันเข้าไปลึกเรื่อยๆ แต่ยังมิเจอมดไฟแม้แต่ตัวได้ยินเพียงแค่เสียงของมันเท่านั้น อากาศภายในถ้ำนี้แตกต่างจากถ้ำโครงกระดูกอย่างสิ้นเชิง เพราะถ้ำแห่งนี้มันร้อนอบอ้าวไปเสียทุกส่วนราวกับอยู่ในห้องอบก็มิปาน ใบหน้าแต่ละคนล้วนมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมากันทั้งสิ้น อาจเป็นเพราะความร้อนจากร่างกายของมดไฟที่ปลดปล่อยออกมาหรืออย่างไรมิทราบแน่
“…”
ทันใดนั้นเองหลินหยางมองเห็นมดไฟตัวนึงที่ตรงหน้าเขา เขาจึงยิ้มออกมาอย่างยินดี
มดไฟตัวนั้นกำลังเดินตรงมาอย่างช้าๆเมื่อมันมองเห็นหลินหยางและพวก มันหยุดชะงักทันทีสายตาทั้งคู่จ้องมองกันอย่างมิลดละ
กี๊~~
พอมันเห็นสีหน้าหลินหยางที่มองมันพลางยิ้มอย่างชั่วร้ายมันตกใจหันตัวกลับพลางร้องเสียงดังไปก้องไปทั่วภายในถ้ำแห่งนี้จนแสบแก้วหู
หลินหยางมองมันอย่างสับสน เจ้านี่มันวิ่งได้? เพราะเจ้ามดไฟตัวเมื่อครู่เมื่อมันหันกลับมันพุ่งตัววิ่งอย่างรวดเร็วหายเข้าไปในความมืด ตามปกติเขามักเห็นพวกมันเดินเชื่องช้าราวกับเต่าคลาน เขาไม่คิดว่าพวกมันจะรวดเร็วเช่นนี้
‘แบบนี้มันผิดปกติ แต่พวกเขามาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับ จึงตัดสินใจเดินลึกเข้าไปต่อถึงอย่างไรพวกมันก็มีเพียงระดับสองเท่านั้น คงไม่สามารถทำอันตรายทีมสำรวจที่ฝึกฝนกันมาเป็นอย่างดีได้’ หลินหยางคิดในใจ
เสียงร้องของมันดังสะท้อนไปทั่วถ้ำ ไม่นานก็มีเสียงร้องประสานดังละงมดูท่าเจ้ามดไฟตัวเมื่อครู่คงส่งเสียงเตือนพวกพ้องของ
หลินหยางที่กำลังจะเดินต่อต้องหยุดชะงักลง เพราะจากที่ฟังเขาคงระบุจำนวนที่แน่นอนมิได้ แต่พวกมันคงมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันตัวเป็นแน่!
หลินหยางเมื่อทราบเช่นนั้นเขากลับมิได้ถอยกลับ มุมปากของเขาค่อยๆยกขึ้นจนเกือบถึงหู เพราะตอนนี้มีมดไฟกว่าพันตัวกำลังรอให้พวกเขาไปกวาดล้าง จะมิให้เขายินดีได้เยี่ยงไร!