เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 189-190
ตอนที่ 189 สอง
ณ เมืองหลินหยาง
หน้าประตูเมืองมีผู้คนยืนจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างออกรสพวกเขายืนล้อมรอบกองไฟขนาดใหญ่เพื่อคลายหนาวให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย พลางมองไปยังทางเดียวกันเป็นระยะคล้ายกับรอคอยบางสิ่งกันอยู่
ไม่นานสิ่งที่พวกมันเฝ้ารอก็โผล่มาให้เห็นนั่นคือทีมสำรวจที่หนึ่งที่หลินหยางเป็นผู้นำทีมนั่นเอง หลินหยางและพวกวิ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าทีมสำรวจอื่นกำลังรอคอยเขาอยู่
“เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมาถึงหลินหยางกล่าวถามอย่างตื่นเต้น
“มันดีมากเลยครับ” เจียวซิ่นกล่าวเขาเป็นผู้นำทีมสำรวจที่เจ็ด
“มันอยู่ห่างจากเมืองของเรายี่สิบกิโล” เจียวซิ่นกล่าวต่อ
หลินหยางเมื่อได้ฟังยิ่งตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ แหล่งอาหารยิ่งใกล้เมืองเขาเท่าใดยิ่งดีเพราะการขนส่งที่สะดวกสบายหากเกิดการบุกโจมตีจากเมืองอื่นสามารถส่งกำลังรบไปป้องกันได้อย่างทันท่วงที
“แต่ว่า..มันมีมอนสเตอร์ตัวใหญ่กว่าห้าตัวคอยปกปักรักษาอยู่” เจียวซิ่นกล่าว
หลินหยางนั่งฟังรายละเอียดอย่างจดจ่อ จากที่ฟังจากเจียวซิ่นมอนสเตอร์ที่คอยเฝ้าอยู่ห้าตัวนั้นร่างกายของพวกมันใหญ่โตมโหฬารเลยทีเดียว แต่มิได้เทียบเท่าออร์คตัวยักษ์ที่เฝ้าโพรงกระรอก
“พี่หยางพวกผมเจอถ้ำบางอย่างครับ” ตอนนั้นเองหลิวไห่กล่าวขึ้นมาเขาคือผู้นำทีมสำรวจที่ห้า
“หืม!?” หลินหยางกล่าวอย่างตื่นเต้น
ตามปกติแล้วถ้ำที่เขาเคยพบเจอมาภายในมักมีมอนสเตอร์อยู่ภายใน พวกมันคล้ายกับเป็นรังที่พักอาศัยของเหล่ามอนสเตอร์ ถ้ำแรกที่หลินหยางพบเจอคือถ้ำโครงกระดูกซึ่งมีโครงกระดูกระดับสี่อยู่ภายในตอนนั้นมีเพียงเขาคนเดียวที่เข้าไปกวาดล้างพวกมันจนสิ้นซากจึงทำให้ระดับของเขาเพิ่มขึ้นมาสูงไม่น้อยและยังได้รับทักษะติดตัวกระดูกศิลาระดับสองมาอีกสามเล่มซึ่งเขาได้ใช้ไปเองจนหมด
ทำให้ตอนนี้ทักษะกระดูกศิลาของเขาได้รับการเลื่อนขั้นเป็น 3/10 เรียบร้อย โดยทักษะนี้นับว่าเห็นผลตั้งแต่การใช้คราแรกเลยทีเดียวเพราะมันทำให้กระดูกของเขาแข็งแรงแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมจนสามารถรู้สึกได้
พลังป้องกันและพลังโจมตีของเขาจึงเพิ่มขึ้นกว่าเก่าก่อน แต่ก็ทำให้เขาพบเจอห้องลับที่อยู่ภายในถ้ำเช่นกันซึ่งเขาได้รับทักษะระดับศูนย์ติดไม้ติดมือกลับมาแม้จะเพิ่มระดับจนเป็นระดับหนึ่งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็เถิด…
ส่วนถ้ำอีกแห่งคือถ้ำมดไฟ ถ้ำมดไฟแห่งนี้นับว่าสร้างคุณประโยชน์ให้แก่หลินหยางมากมายมหาศาลโดยแท้เพราะเมื่อทำการกวาดล้างมดไฟภายในจนสิ้นทำให้เหล่าพลทหารอันมีค่าของเขาระดับสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนสามารถเทียบเคียงได้กับเมืองที่อยู่มามากกว่าหนึ่งปี!
และตอนนี้หลิวไห่ผู้นำทีมสำรวจก็พบเจอกับถ้ำลึกลับที่อาจจะเป็นแหล่งเพิ่มพูนระดับเช่นนี้ จะมิให้เขาตื่นเต้นดีใจได้เช่นไร
“ดีมาก” หลินหยางยิ้มกว้างตบลงบนบ่าของหลิวไห่กล่าวชื่นชมมิหยุดปาก ทำให้หลิวไห่ยืดอกอย่างภาคภูมิใจในผลงานของตน
ตอนนี้ทีมสำรวจทั้งหมดกำลังเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์กันอย่างขมักเขม่นเตรียมพร้อมสู้รบกันอย่างสุดฝีมือ
“เอาล่ะ..ไปกันเถอะ” เมื่อเห็นทุกคนหยุดพักเตรียมตัวกันเสร็จเรียบร้อยหลินหยางจึงให้สัญญาณออกเดินทางทันที
ตอนที่ 190 เนื้อ
ทีมสำรวจที่รวบรวมคนจากทีมจู่โจมและทีมระยะใกล้ทั้งหมดออกเดินทางกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ตอนนี้ใบหน้าพวกเขาล้วนยิ้มรื่นชื่นบานแตกต่างจากคราแรกที่ต้องออกไปสำรวจบริเวณโดยรอบเพราะความกดดันจากการขาดแคลนอาหาร
แต่ตอนนี้พวกเขาพบเจอแหล่งอาหารแล้วจึงทำให้สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสปลอดโปร่งโล่งใจ
โดยการเดินทางครั้งนี้มิได้มีเพียงระยะใกล้และทีมจู่โจมเท่านั้น หลินหยางยังนำทีมก่อสร้างกว่าสามสิบคนติดตามไปด้วยพร้อมกับรถยิงธนูสามลำและเครื่องขว้างหินอีกสองลำ เพื่อเอาไปปราบปรามเจ้ามอนสเตอร์ที่ขวางทางทำมาหากินของเขาทั้งห้าตัวนั่นเอง
จุดหมายหลักของขบวนรบคือแหล่งอาหารที่ทีมสำรวจที่เจ็ดค้นพบ เนื่องจากมันคือเป้าหมายหลักในการออกสำรวจครั้งนี่รวมถึงอาหารคือสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าหลินหยางจึงต้องการบุกยึดครอบครองแหล่งอาหารเสียก่อน
จึงค่อยไปยังจุดต่อไปนั่นคือถ้ำปริศนา ซึ่งเขาส่งคนกว่าสิบคนไปตั้งกระโจมเฝ้าจับจองเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย
ตอนนี้เวลาล่วงเลยใกล้รุ่งเช้า
พวกเขายังมิได้นอนหลับพักผ่อนกันเลยแม้แต่น้อยรวมถึงพลเมืองภายในเมืองที่อดหลับอดนอนคอยเฝ้ายามป้องกันเมืองกันอย่างเข้มงวดนับว่าในเมืองหลินหยางวันนี้พวกเขายังมิได้นอนหลับกันเลยตั้งแต่เมื่อวานทำงานกันหามรุ่งหามค่ำกันอย่างขัยแข็ง แต่กระนั้นก็ยังมิถึงเวลาที่จะสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้เพราะยังทำงานมิเสร็จสิ้น
พวกเขาเร่งฝีเท้ามุ่งตรงไปอย่างมิหยุดพัก หากยังมิสามารถยึดครองได้อย่างสมบูรณ์ก็ยังเรียกมิได้ว่าปลอดภัย เพราะอาจจะถูกเมืองอื่นคาบเอาไปเสียก่อนฉะนั้นจึงเหมือนกับแข่งกับเวลาพวกเขาเร่งฝีเท้าเดินเร็ว
ณ สถานที่แห่งหนึ่งห่างไกลกับเมืองของหลินหยางราวยี่สิบกิโล
มีก้อนหินก้อนใหญ่ยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่มันสูงกว่าสองเมตรกว้างกว่าสามเมตร บนหินก้อนยักษ์นั้นมีรูที่ใหญ่โตพอๆกับขนาดของมันเพียงพอที่จะให้คนเดินเข้าออกเบียดเสียดกันได้กว่าสามคนอย่างสบายๆ
ดูจากมุมนี้คล้ายปากถ้ำที่มิมีส่วนท้ายมีเพียงทางเข้าถ้ำเท่านั้น มองดูหินก้อนนั้นมันมืดมิดมิสามารถมองทะลุเข้าไปยังภายในได้มิทราบมีสิ่งใดอยู่กันแน่
ไม่นานก็มีบางอย่างออกมาจากถ้ำแห่งนั้น มันโผล่ออกมาจากความมืดมิดเป็นแท่งสีขาวขนาดเท่าแขนของเด็กเล็กปลายแหลมมิสั้นมิยาวโค้งงอเล็กน้อยโผล่ออกมาจากความมืดไม่นานก็ค่อยๆยาวขึ้นมาทีละน้อยและสุดท้ายก็พบเจอกับต้นตอของแท่งสีขาว
มีหัวของสิ่งมีชีวิตบางอย่างโผล่ออกมาให้เห็นหน้าตาของมันดูแล้วมิมีพิษสงอันใดดวงตากลมโต น่าเอ็นดูสงสาร บนหัวมีเขางอกโค้งงอสวยงาม ค่อยๆเดินเบียดผนังหินที่พอดิบพอดีกับตัวของมันจนมิมีที่ว่างหลงเหลือ เดินออกมาจากความมืดอย่างเชื่องช้า จนร่างกายหลุดพ้นออกมาจากถ้ำทำให้สามารถมองเห็นทั้งตัวได้อย่างเต็มตา มันคือวัว!
วัวสีน้ำตาลตัวใหญ่ ใหญ่เสียกว่าวัวทั่วไปที่พบเจอเสียอีกมันตัวอ้วนกลมมิสูงมากร่างกายสมส่วนมิมีผิวหนังห้อยย้อย ราวกับผ่านการเลี้ยงดูมาอย่างดีเพื่อให้ได้เนื้อแน่นแสนอร่อย!