เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 241-242
ตอนที่ 241 จนตรอก
เหตุที่พวกเขามิรีบร้อนบุกนั้น เพราะเขาให้ความสำคัญของแนวป้องกันมาเป็นอันดับแรก หากคนของเขาต้องบาดเจ็บล้มตายเพื่อแลกเปลี่ยนกับระดับที่เพิ่มขึ้น พวกเขาคงจะเสียหายมากกว่าผลประโยชน์ที่ได้รับ
เมื่อหลินหยางให้สัญญาณ กองกำลังป้องกันเคลื่อนขบวนทัพอีกคราใกล้เหล่าค้างคาวปีกเหล็กขึ้นอีกก้าว
เมื่อใกล้ขึ้นมาเช่นนี้ค้างคาวปีกเหล็กที่มิสามารถถอยล่นไปได้อีก จึงมีบางส่วนที่บินชนเข้ากับโล่ป้องกันและถูกความร้อนจากทักษะหลอมไฟย่างผิวหนังของมันจนเกรียมตกตายลงอย่างทรมาน
ค้างคาวเหล่านี้เริ่มบินกันอย่างทุลุกทุเล แต่ไม่นานก็มีบางอย่างที่คุ้นเคยเกิดขึ้นส่งผลให้ค้างคาวที่ตกอยู่ในความโกลาหลเหล่านี้กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
แคว๊กก~
นั่นคือเสียงร้องแหลมยาวของค้างคาวระดับหกนั่นเอง
ทุกคราที่ขบวนทัพเดินหน้าบุกลึกเข้ามาภายใน หลินหยางมักมองเห็นค้างคาวระดับหกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากการก้าวเดินเมื่อครู่ จากสายตาเขาเห็นค้างคาวระดับหกกว่าสามสิบตัวเลยทีเดียว
พวกมันเหล่านี้ปะปนผสมกันอยู่ในฝูงค้างคาวปีกเหล็กระดับสี่ทั่วไป ร่างกายของพวกมันนั้นมิแตกต่างจากค้างคาวระดับสี่มากนัก มีเพียงขนาดที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย หากมิได้จดจ่อสังเกตุก็มิสามารถระบุความแตกต่างของพวกมันได้
ทั้งนี้ต้องให้ความดีความชอบไปที่ทักษะดวงตาเหยี่ยวของเขา ตั้งแต่เขาได้ทักษะตาเหยี่ยวมานับว่ามันคือทักษะที่เขาใช้บ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ แม้จะมิใช่ทักษะโจมตีหรือป้องกัน แต่ความสามารถของมันที่สามารถสอดแนมสังเกตฝ่ายตรงข้าม ทำให้เขาสามารถวางแผนป้องกันเอาไว้ก่อนได้นั่นเอง
เมื่อสิ้นเสียงร้องของค้างปีกเหล็กระดับหก
บรรยากาศภายในถ้ำตกอยู่ในความเงียบงัน มีเพียงลมหายใจของฝ่ายผู้บุกรุกและเสียงกระพรือปีกของเหล่าเจ้าบ้านค้างคาว
ฝ่ายค้างคาวมิส่งเสียงร้อง ผู้บุกรุกเองก็มิได้รุกคืบหน้าเข้ามาต่อ
ทันใดนั้นเอง หลินหยางสังเกตุเห็นบางอย่างจากฝูงค้างคาวปีกเหล็ก ส่งผลให้คิ้วของเขาขมวดปมแน่นเข้าหากัน
“เพิ่มการป้องกัน” หลินหยางตะโกน
เมื่อสิ้นเสียงหลินหยาง หอกที่วางพลาดกันอยู่นั้นถูกดึงกลับมาและเข้าแทนที่ด้วยโล่โลหะที่แข็งแรง
ทำให้ขบวนทัพของพวกเขากลายเป็นป้อมปราการมนุษย์อีกครั้ง ปิดกั้นเส้นทางภายในถ้ำจนมิดชิด ทำให้พวกเขามิสามารถเคลื่อนที่ไปได้ต่อ
ฟิ้วว~
เคล้งงง~
เกิดเสียงโลหะกระทบกันดังแสบแก้วหู
‘หึ่ม’ หลินหยางพ่นลมออกจมูก ใบหน้าตรึงเครียด
เมื่อครู่เขาเห็นเจ้าค้างคาวปีกเหล็กระดับหกทั้งสามสิบตัวนี้ กำลังสยายปีกที่กว้างใหญ่โตแหลมคมกว่าค้างคาวทั่วไป ราวกับตั้งท่าเตรียมจู่โจม
หากค้างคาวระดับสี่ที่เป็นฝ่ายบุกจู่โจมเขาคงมิต้องเป็นห่วงอันใด
แต่เมื่อเป็นการโจมตีจากค้างคาวระดับหกเช่นนี้ เขามิมั่นใจว่าการป้องกันที่หละหลวมของเขาจะสามารถต้านทานการโจมตีจากค้างคาวระดับหกทั้งสามสิบตัวได้ เพื่อมิให้เกิดการสูญเสียเขาจึงเพิ่มการป้องกัน
ค้างคาวปีกเหล็กระดับหกทั้งสามสิบตัว พวกมันมิได้ใช้แรงหมดเพื่อดับเครื่องชนพลีชีพเข้าใส่แนวป้องกันแต่อย่างใด พวกมันใช้ปีกเหล็กของตนบินโฉบเฉี่ยวไปมาปาดเข้าใส่แนวโล่ป้องกันหวังจะตัดฝ่าเพื่อเปิดทางให้ค้างคาวระดับสี่!
ตอนที่ 242 แผนการต่อเนื่อง(ตอนต้น)
พลโล่ที่ประจำการแนวป้องกันนั้นบัดนี้มีทั้งหมดสิบห้าคน โดยเพิ่มขึ้นมาอีกเก้าคนตั้งเป็นโล่ป้องกันสามชั้น โดยชั้นหนึ่งและสองนั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ถือครองทักษะหลอมไฟ พวกเขาใช้ทักษะดังกล่าวเสริมลงเข้าใส่ในโล่โลหะของตน
เมื่อค้างคาวระดับหกบินโฉบเฉี่ยวใช้ปีกเหล็กเข้าโจมตี คราที่ปีกเหล็กของพวกมันกระทบเข้ากับโล่เหล็ก ส่งผลให้ปีกของพวกมันมีอุณหภูมิสูงขึ้นส่งความเจ็บปวดตรงเข้าใส่ร่างกายของพวกมันทางอ้อม
เมื่อถูกตอบโต้ด้วยความร้อนเช่นนี้พวกมันส่วนใหญ่มิสามารถอดทนต่อไปได้ จึงถอยล่นกลับไปยังตำแหน่งเดิมมิเข้ามาโจมตีต่อ
แต่เนื่องจากโล่โลหะทั้งสิบห้าอันนี้มีเพียงครึ่งเดียวที่ผู้ถือมีทักษะหลอมไฟอยู่ ค้างคาวปีกเหล็กบางตัวมิได้โจมตีเข้าถูกโล่โลหะหลอมไฟพวกมันจึงมิได้บาดเจ็บอันใด ยังคงโบยบินโจมตีเข้ามาต่อ
เมื่อโล่โลหะถูกความร้อนล่อหลอมมันจึงมีเฉดสีแตกต่างจากโล่อันอื่นขึ้นมาเรื่อยๆ ยิ่งเวลานานมากเท่าใดสีของมันค่อยๆแดงมากขึ้นจากความร้อน
เมื่อเป็นเช่นนั้นทำให้ค้างคาวระดับหกที่มีสติปัญญาสูงกว่าพักพวกเริ่มจับแนวทางการโจมตีได้ พวกมันจึงระดมโจมตีเข้าใส่โล่โลหะธรรมดาที่มิได้มีทักษะอันใดควบคู่
ยิ่งใช้เวลานานเท่าใดยิ่งเป็นผลเสียให้แก่ฝั่งผู้บุกรุก ความเหน็ดเหนื่อยของพวกเขายิ่งนานยิ่งมากมี การใช้ทักษะต่อเนื่องเป็นเวลานานส่งผลให้มีเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาตามร่างกายของพวกเขา
“ธนูไฟ” หลินหยางสั่งการอีกครา
เมื่อสิ้นเสียงคำบัญชา
แถวกลางขบวนรบมีเหล่าผู้ถืออาวุธโจมตีในระยะไกลทั้งหน้าไม้และธนูแทรกขึ้นมา โดยส่วนใหญ่เป็นหน้าไม้ ผู้ใช้ธนูนั้นมีเพียงห้าคนเท่านั้น
พวกเขาสวมใส่ลูกศรลงบนคันธนูและจุดก่อไฟขึ้นเล็กๆ พลธนูทั้งห้าคนนำลูกศรที่มีเศษผ้ามัดติดปลายศรเข้าจุดไฟขึ้นมา ส่งผลให้ระยะการมองเห็นของพวกเขาเพิ่มเติมขึ้นเล็กน้อย
แต่หากพวกเขาจุดไฟขึ้นนอกแนวป้องกันละก็ความสว่างไสวจากการสะท้อนแสงไฟเข้ากับปีกเหล็กของเหล่าค้างคาวพวกนี้คงทำให้ภายในถ้ำสว่างจ้าจนแสบตาเป็นแน่
หนึ่งในห้านั้นมีจิ่นเหออดีตนายพรานหนุ่มรวมอยู่ด้วย ฝีมือการยิงธนูของเขานั้นมิเป็นสองรองใครเลยทีเดียวนับว่าเก่งกาจที่สุดในกองกำลังแห่งนี้ก็ว่าได้ เหนือล้ำยิ่งกว่าหลินหยางไปมากโข แต่ก็ยังมิเทียบเท่าเหล่าเอลฟ์
เมื่อพวกเขาเตรียมพร้อมกันเสร็จสรรพ
“โจมตี!” หลินหยางให้สัญญาณโจมตีทันที ส่วนตัวเขานั้นอยู่แนวหน้าติดกับพลโล่
เมื่อได้รับคำสั่งพลโล่ชั้นบนเปิดเส้นทางทันที พวกเขาก้มหมอบลงอย่างรวดเร็วเปิดทางให้แก่แนวโจมตีของธนู
ฟิ้ววว~
ฉึกก!
ลูกธนูไฟทั้งห้าดอกถูกปลดปล่อยออกจากคันศร พุ่งข้ามผ่านแนวป้องกันเป็นอิสระ แต่ทว่าลูกธนูทั้งห้านั้นมิได้ปักเข้ากับร่างกายของค้างคาวปีกเหล็กตัวใด แต่ไปปักเข้ากับเพดานถ้ำด้านบนของแนวป้องกัน!
มิใช่ว่าพลธนูนั้นมีฝีมือต่ำทราม แต่กลับกันพวกเขาทั้งห้าคือผู้ที่มีฝีมือการยิงธนูสูงที่สุดในกองกำลังแห่งนี้แล้ว การใช้ออกด้วยธนูนี้มิใช่เพื่อโจมตีปลิดชีวิตแก่เหล่าค้างคาวอีกเหล็กอันใด แต่เพื่อส่องแสงเปิดเส้นทางให้การโจมตีระลอกต่อไปต่างหาก!