เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 279-280
ตอนที่ 279 ปะทะ(ตอนจบ)
หลินหยางเมื่อเห็นพวกมันปรึกษาหารือกัน ทำให้เขาอดขมวดคิ้วมิได้ ด้วยฝีปากของผู้นำชาวมนุษย์คนนั้นย่อมสามารถกล่อมให้ผู้นำทั้งสองคล้อยตามได้ยากไม่ยากเย็น
การที่พวกเขายังสามารถปักหลักปกป้องขบวนถอยทัพของเขาได้ตอนนี้ เป็นเพราะว่าเผ่ามนุษย์กิ้งก่ามิได้ยื่นมือเข้ามาร่วมวงหมากกระดานนี้แต่อย่างใด
ด้วยทักษะการปาหอกของมนุษย์กิ้งก่าทั้งหลายหากมันเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ แน่นอนพวกเขาต้องเสียเปรียบมหาศาล
ตอนนี้สิ่งที่พันธมิตรสามเผ่าพันธุ์ตรงหน้าขาดไปนั่นคือการโจมตีจากระยะไกล จึงมิทำให้พวกมันเป็นภัยอันตรายแต่อย่างใด เพราะมีเพียงมนุษย์หมาป่าเท่านั้นที่พอมีฝีมือต่อสู้ในระดับนึง
กระนั้นก็มิสามารถเทียบเท่ากับพลทหารของหลินหยางที่ผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชนพร้อมกับระดับติดตัวที่สูงส่งย่อมมีเปรียบสำหรับการต่อสู้ในระยะประชิดไม่มากก็น้อย
หากพันธมิตรทั้งสามร่วมมือกันอย่างจริงจัง โดยอุดช่องโหว่จากการปาหอกของเหล่ามนุษย์กิ้งก่า อาศัยเพียงโล่โลหะที่กำบังร่างกายเพียงครึ่งเดียวนี้คงไม่สามารถปกป้องชีวิตพวกเขาได้
นับตั้งแต่ขบวนทัพของหลินหยางถอยหนีออกมาจากถ้ำค้างคาวที่มืดมิดจนถึงตอนนี้ เวลาผ่านพ้นไปมิถึงห้านาทีด้วยซ้ำ!
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขบวนถอยทัพเองก็ยังมิได้เคลื่อนที่ไปไกลมากนัก
หากมิมีขบวนรูปลิ่มแห่งนี้คอยขัดขวางเส้นทางละก็ศัตรูทั้งสามเผ่าพันธุ์นี้สามารถบุกตามเข้าประชิดได้อย่างมิยากเย็น แต่น่าเสียดายที่พวกมันต้องตัดแหง็กอยู่ตรงจุดนี้
แคล๊ก~
ตอนนั้นเองจู่ๆก็มีเสียงบางอย่าง คล้ายกับเสียงแตกหักของบางสิ่ง
เสียงที่แปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นใกล้ตัวหลินหยางมากที่สุด
เขาค่อยๆหันศรีษะไปมองต้นตอของเสียงอย่างช้าๆ มันคือปากถ้ำแต่ทว่าปากถ้ำเดิมทีมิมีเสียงใดเล็ดรอดออกมาอยู่แล้ว
โดยพวกเขาได้ทดสอบกันก่อนหน้านี้แล้ว แม้จะให้คนสองคนยืนอยู่คนละฟากทว่าจะใช้เสียงตะโกนแหกปากดังเพียงใดแต่อีกฟากฝั่งก็มิได้ยินเสียงเลยแม้แต่น้อย ถ้างั้นเสียงแตกหักเมื่อครู่มาจากที่ใด?
มองไปยังปากถ้ำที่มีขนาดเท่าผนังภายใน กว้างสูงราวสองเมตรนี้ เขาพบเข้ากับรอยแยกเล็กๆเกิดขึ้นส่วนบนของปากถ้ำ
ตุบบ~
ณ ตอนนั้นเองมีเศษหินจากปากถ้ำก้อนหนึ่งแตกหักแยกตัวออกจากปากถ้ำตกลงกระทบสู่พื้นดิน
เห็นดังนั้นใบหน้าหลินหยางค่อยถอดสีเนื่องจากเขาเคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนในคราที่บุกรุกถ้ำค้างคาวคราแรกนั่นเอง
“วิ่ง” หลินหยางตะโกน
หลิวไห่และพวกอยู่ในความสับสน พวกมันมิได้สังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติตรงปากถ้ำแต่อย่างใด เพราะให้ความสนใจทั้งหมดไปที่มนุษย์หมาป่าที่ประจัญหน้ากันอยู่นั่นเอง
ขบวนทัพรูปลิ่มที่จัดสรรกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามสามารถป้องกันการโจมตีโดยรอบได้ พร้อมกับขัดขวางศัตรูมิให้เข้าประชิดทัพหลักที่กำลังถอย
พวกเขาทั้งหมดใบหน้าแตกตื่นรนลานหันมองหลินหยางที่ใบหน้าถอดสี เมื่อสิ้นเสียง หลินหยางผู้นำของพวกมันหันตัววิ่งตรงไปยังขบวนทัพหลักทันที
เห็นเช่นนั้นแม้จะสับสนงงงวย แต่เมื่อได้รับคำสั่งไม่นานก็ดึงสติรีบออกตัววิ่งทันที
ตอนที่ 280 แขกไม่ได้รับเชิญ(ตอนแรก)
“ไปๆเร็ว” หลินหยางวิ่งพลางส่งเสียงตามทางเพื่อเร่งขบวน
“มีอะไรหรอ พี่หยาง” เจียวซิ่นตัวมันอยู่หลังขบวนถอยทัพหลัก มันเห็นหลินหยางวิ่งตรงมาแต่ไกลพร้อมกับตะโกนเสียงดัง มันจึงสงสัยกล่าวถามไปอย่างสับสน
“ลดการป้องกัน เคลื่อนที่เต็มกำลัง” หลินหยางตะโกนเขาวิ่งสุดฝีเท้าใกล้ถึงขบวนหลักแล้ว ด้านหลังของเขามีหลิวไห่และพักพวกวิ่งตามมาไม่ห่าง
“…” มนุษย์หมาป่าทั้งสามสิบนายที่ยืนประจัญหน้ากับขบวนรบเมื่อครู่ พวกมันยืนนิ่งเงียบสับสนมองไปยังแผ่นหลังของชายทั้งยี่สิบคนที่วิ่งหนีแตกทัพอย่างอลหม่าน
“พวกมันทำอะไร หรือว่าพวกมันยอมแพ้แล้ว?” ผู้นำมนุษย์หมาป่ากล่าวออกมาอย่างสงสัย ผู้นำทั้งสามที่กำลังปรึกษากันอยู่นั้นมองศัตรูที่กำลังวิ่งหนีไม่สนใจสิ่งใด
“ฮ่าๆนี้แหละโอกาศของเรา จัดการพวกมันซะ” ผู้นำมนุษย์ตะโกนออกมาทันที เมื่อเห็นโอกาศในการเข้าโจมตี
บัดนี้ศัตรูของมันมิได้ตั้งโล่ป้องกันอันใดอีกแล้ว กองทัพของศัตรูมีแต่ช่องโหว่เต็มไปหมด
หากคนของมันโจมตีตลบหลังเข้าไปศัตรูกลุ่มนี้ต้องพ่ายแพ้ราบคาบเป็นแน่
นี่คือโอกาศแก้แค้นที่หาได้ยากยิ่งมันมิคิดเลยว่าศัตรูของมันจะโง่เง่าขนาดนี้ จู่ๆก็เปิดช่องโหว่เรียกร้องให้ข้าศึกเข้าโจมตีเสียอย่างนั้น
“ใช่แล้ว ไม่ต้องสนใจ โจมตีพวกฆ่าพวกมันให้หมด” พลเมืองชาวมนุษย์เริ่มส่งเสียงเชียร์
มนุษย์หมาป่าทั้งสามสิบนายที่ยืนสับสนอยู่นั้น เมื่อได้รับรู้ความประสงค์ของพันธมิตรตนมันจับดาบวิ่งตามหลินหยางและพวกไปทันที
ผู้นำมนุษย์กิ้งก่ายังมิได้ให้สัญญาณอันใด แม้ตอนนี้จะเป็นโอกาศทองที่สามารถเก็บกวาดหลินหยางและพวกให้สิ้นซาก
มันเองก็สับสนกับขบวนรบของศัตรูที่จู่ๆก็แตกพ่ายออกด้วยตัวเอง มันเกรงว่านี่จะเป็นแผนการที่วางทับซ้อนล่อให้พวกเขาติดตามไปและลอบโจมตีก็เป็นได้
มันจึงมองไปยังบริเวณรอบๆเพื่อเสาะหากำลังเสริมของศัตรู แต่ทว่าก็มิพบสิ่งใด ทำให้มันยิ่งสับสนมากกว่าเดิม..
“พี่หยางพวกมันตามมาแล้ว” หลิวไห่ป่าวร้องอย่างร้อนลน
“ไม่ต้องสนใจ พวกนายไปช่วยคนย้ายผู้บาดเจ็บ ใครที่ขยับตัวไหวสับเท้าวิ่งให้ไว ใครที่เดินไม่ไหวก็หามมันไปอย่ารอช้า” หลินหยางตะโกนออกคำสั่งเขาไม่สนใจศัตรูที่ตามหลังมาเลยแม้แต่น้อย
บัดนี้พวกเขาหันหลังให้ศัตรูแล้ว หากพวกมันเข้ามาประชิดตัวได้พวกเขาคงไม่มีโอกาศป้องกันตัวเป็นแน่!
วูบ~
แคว๊ก~
ทันใดนั้นเองกลับมีเสียงบางอย่างดังขึ้นมา สำหรับเสียงนี้มันช่างเป็นเสียงที่คุ้นเคยยิ่งนักสำหรับหลินหยางและพวกมันเป็นเสียงที่พวกเขามิอยากได้ยินอีกเลยหลังจากออกจากถ้ำมา..
แต่ทว่าสำหรับกองกำลังพันธมิตรสามเผ่าพันธุ์พวกมันมิได้สนใจเสียงประหลาดที่ดังขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย ยังคงวิ่งไล่ขบวนรบตรงหน้าเข้าใกล้ขบวนทัพของหลินหยางขึ้นเรื่อยๆไม่ลดลง
“เหวออ” หลิวไห่เมื่อได้ยินเสียงที่ชัดเจนคุ้นเคยดังใกล้ไม่ห่างกาย
ทำให้มันร้องเสียงหลงสับเท้าเหยียบย่ำไปบนพื้นหญ้าแทบจะวิ่งแซงหลินหยางเลยทีเดียว นี่อาจเป็นความเร็วสูงสุดในชีวิตของมันก็เป็นได้..