เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 31-32
ตอนที่ 31 ราชสีห์ตาเดียว(ตอนต้น)
หลินหยางขมวดคิ้ว แม้เสียงที่ได้ฟังจะเป็นใสหวานหูแต่เขากลับมิอยากได้ยินอีกเลยเพราะมันเป็นเสียงเตือนก่อนที่เมืองของเขาจะถูกโจมตีนั่นเอง
ชายหนุ่มเร่งรีบเตรียมรับมือกับเจ้าสิงโตตาเดียวนี้
“ทีมระยะไกลขึ้นไปอยู่บนกำแพงเมืองให้หมด ส่วนเด็กหยิบธนูและขึ้นไปสมทบบนกำแพง” หลินหยางตะโกนมอบหมายหน้าที่ให้แก่ทีมระยะไกลและรวมไปถึงมนุษย์และมนุษย์หมาป่าวัยเยาว์ด้วย พวกเขาเหล่านี้ต่างก็ได้รับการฝึกอบรมการใช้อาวุธมาแล้วทัง้สิ้นและนี่ก็เป็นโอกาศอันดีที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสถานการณ์จริง
“ทีมระยะใกล้ทำร่างกายให้พร้อม ทีมก่อสร้างเตรียมรถยิงธนู” เขาออกคำสั่งจากนั้นทีมระยะใกล้ทั้งยี่สิบคนก็วอมร่างกายกันอยู่
ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากเอลฟ์ได้ เนื่องจากระยะทางระหว่างเมืองที่ห่างกัน การจะไปและกลับคงไม่ทันการ
ผ่านมากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่มีเสียงเตือน
แม้ราชสีห์ตาเดียวจะมีระดับห้าซึ่งน้อยกว่าเหยี่ยวมรกตและกบพิษย์ แต่มันกลับมีถึงสามสิบตัวและต้องสู้อย่างไม่มีทางเลือก เพราะสำหรับเหยียวมรกตและกบพิษ หากพวกเขาสู้ไม่ได้ก็สามารถถอยได้ แต่สำหรับการบุกโจมตีครั้งนี้หากพวกเขาแพ้ ก็ไม่ต่างกับเสียชีวิตไปแล้ว พวกเด็กและคนแก่ทั้งหลายภายในเมืองคงไม่สามารถหนีได้
หลินหยางจัดวางขบวนรบ ทีมระยะใกล้นำทัพเป็นแนวหน้าถัดมาคือทีมระยะไกลและทีมก่อสร้างที่มาพร้อมกับรถยิงธนูเคลื่อนที่ รูปลักษณ์คล้ายเกวียนขนส่งสิ่งที่ประกอบติดคันธนูขนาดมหึมาน้ำหนักหลายสิบกิโลเอาไว้และใช้หอกแทนลูกธนูผสมกับลูกธนูพิเศษที่ผลิตขึ้นมาเองอีกด้วย อานุภาพของมันเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการทำสงครามชั้นดีทรงพลังยิ่งกว่าธนูธรรมดาหลายขุม น่าเสียดายเนื่องจากการขาดแคลนไม้ซึ่งเป็นวัสดุหลักในการผลิตทำให้ตอนนี้พวกเขามีรถยิงธนูเพียงสามคันเท่านั้น
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ อีกไม่นานก็จะถึงกำหนด
‘ราชสีห์ตาเดียวระดับ 5 จำนวน 30 ตัวจะมาถึงเมืองของท่านในอีก 10 นาที’
“มาแล้ว!!” หลังจากสิ้นเสียงไม่นาน คนบนกำแพงก็ตะโกนบอก
ตอนนั้นเองจากระยะไกล มองเห็นเงาลางๆเป็นกลุ่มเข้ามาใกล้เรื่อยๆแม้จะอยู่ไกลและเห็นเพียงเงาลาง แต่สำหรับหลินหยางที่มีทักษะดวงตาเหยีย่วที่ช่วยให้การมองเห็นแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น ราชสีห์ตาเดียวสัตว์ประหลาดที่มีรูปลักษณ์แทบจะคล้ายคลึงกับสิงโตปกติแต่ที่ผิดปกติก็คือมันมีดวงตาเพียงดวงเดียวขนาดใหญ่อยู่กึ่งกลางใบหน้าพร้อมกับขนาดร่างกายใหญ่โตเทียบเท่าวัวหรือควายก็มิปาน
‘สัตว์ในโลกนี้มันกินอะไรเข้าไป ตัวพวกมันถึงใหญ่ขนาดนี้’ หลินหยางคิดพลางส่ายหัว
พวกเขาเตรียมตัวต่อสู้เต็มที่ ทุกคนแม้จะเคยผ่านการต่อสู้กันมาแล้วก็ยังมีความหวั่นเกรงอยู่ไม่น้อย แต่มิใช่ความกลัว
เมื่อมันเข้าใกล้ในระยะหนึ่งร้อยเมตร ก็มีเสียงดังและมีบางอย่างปรากฏ
‘ราชสีห์ตาเดียวระดับ 5 กำลังจะเข้าโจมตีเมืองของท่าน ปกป้องเมืองไว้ให้ดี’
ราชสีห์ตาเดียว ระดับ 5
พลังโจมตี 2
ป้องกัน 3
ความเร็ว 1
พลังวิญญาณ 2
คำอธิบาย : ขอบเขตการมองเห็นจึงแคบกว่าปกติ
คำเตือน : ระวังการโจมตีทางวิญญาณ
ตอนที่ 32 ราชสีห์ตาเดียว(ตอนกลาง)
‘หืม? โจมตีทางวิญญาณคืออะไร’ หลินหยางคิด
แต่เขาจะมัวเสียเวลาไม่ได้ยิ่งมันเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆพื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน เนื่องมาจากขนาดตัวของพวกมัน
“ทีมระยะใกล้แบ่งเป็นสองกลุ่ม ขนาบข้างมันร่วมกันฆ่าทีละตัว ทีมระยะใกล้ยิงสนับสนุน เล็งไปที่ดวงตาของมันทีมก่อสร้าง ใช้รถยิงธนูฆ่าให้ได้มากที่สุด”
“ครับ/ค่ะ!!” หลังจากสิ้นเสียงคำสั่งของหลินหยางก็มีเสียงตอบกลับมาอย่างพร้อมเพรียง
การโจมตีเริ่มขึ้นทันทีเขาและทีมระยะใกล้อีกสิบคน พุ่งไปด้านข้างขวาส่วนทีมระยะใกล้อีกสิบเอ็ดคนซึ่งมีซิ่นก้งและจิ่นเหออยู่ พวกเขานำทีมขนาบด้านซ้าย
“ทีมก่อสร้างโจมตี!” หลินหยางตะโกน
ฉุ่บ~~
ฉึก!!
มีหอกไม้พุ่งเข้าเสียบลำตัวสิงโตตาเดียวตัวนึง จนทะลุออกอีกฟากมันไม่ทันได้รับรู้ความเจ็บปวดก็สิ้นชีวี เพราะมันวิ่งเข้าผสานงากับหอกไม้ที่ยิงมาจากรถยิงธนู
ทันทีที่สหายของมันถูกดับลมหายใจ ราชสีห์คำรามที่เหลือหยุดชะงักในบัดดลพวกมันมิเร่งฝีเท้าวิ่งกรูกันเข้ามาเหมือนก่อนกลับกันย่างเท้าอย่างเชื่องช้ามองกวาดไปมาซ้ายขวาระมัดระวังตัวอย่างยิ่ง
‘พวกมันมีสติปัญญา’ หลินหยางขมวดคิ้ว สิ่งมีชีวิตตรงหน้ามันมีความคิดเป็นของตัวเองมิโง่งมดั่งสัตว์เดรัจฉานทั่วไป
หากพวกมันโง่เหมือนมดไฟพวกเขาคงจัดการมันได้ไม่ยาก แต่หากมันมีสติปัญญามันย่อมไม่ติดกับการโจมตีเดิมๆได้
“ทีมระยะไกล โจมตี!!”
ฟิ้ว~~
ฉึก~
หลังสิ้นเสียงคำสั่ง ห่าฝนธนูลอยล่องเต็มท้องฟ้ามุ่งตรงสู่ฝูงราชสีห์ ทว่าแม้หลินหยางจะกำชับให้พวกเธอเล็งไปที่ดวงตาของเป้าหมายแต่ด้วยระยะการโจมตีที่ไกลเกินห่างร่วมร้อยเมตรผนวกกับความเชี่ยวชาญต่ำ การโจมตีของพวกนางจึงมิสามารถหวังผลได้ บางดอกปักลงบนร่างเป้าหมาย บ้างก็ทิ่มลงพื้น บางศรพลาดเป้ายิงมิถึงตำแหน่งเป้าหมาย แต่อย่างน้อยมันก็ยังทำให้ฝูงราชสีห์ตกอยู่ในความโกลาหล
หลินหยางเห็นดังนั้น ยกมือให้สัญญาณหยุดยิงพร้อมกับนำทัพทีมระยะใกล้เปิดฉากบุก
หลินหยางใช้ทักษะหลอมไฟฟันเข้าใส่กลางหัวของสิงโตตัวข้างหน้าแม้มันจะจ้องมองเขาอยู่ แต่ก็ไม่สามารถหลบความเร็วของหลินหยางได้
ฉึก!!
ดาบที่ฟันด้วยความแรงของเขาเจาะผ่านกระโหลกของมัน ทำให้สิงโตตัวนั้นล้มทั้งยืนตายโดยมิทันเจ็บปวด
เห็นดังนั้นหลินหยางก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ
‘คุณฆ่าราชสีห์ตาเดียวระดับ 5 หนึ่งตัว’
ทีมระยะใกล้ ก็สามารถฆ่าสิงโตไปได้สี่ตัวแม้พวกเขาจะไม่สามารถโจมตีได้รุนแรงเหมือนหลินหยางแต่พวกเขามีถึงยี่สิบสองคน การที่โดนกระหน่ำฟัน แทง เช่นนี้มันก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของตนได้
หลังจากการบุกระลอกแรกหลินหยางมิได้รีบร้อนเผด็จศึก มันยกมือให้สัญญาณถอยกลับมาตั้งหลักเข้ารูปขบวนรบอีกคราวก่อนจะออกคำสั่งหยุดทัพศัตรูด้วยการโจมตีจากระยะไกล
หลินหยางใช้วิธีผลัดโจมตีไปเยี่ยงนี้เพียงสองระลอกพวกและผลลัพธุ์ก็คือพวกเขาสามารถปลิดชีพราชสีห์ตาเดียวไปได้ถึงสิบสามตัว!
พวกมันไม่มีโอกาศตอบโต้เพราะการโจมตีที่ต่อเนื่องผลัดกันโจมตีจากทั้งสามหน่วยไม่หยุดหย่อนบังคับให้พวกมันตกเป็นฝ่ายตั้งรับ
เมื่อการโจมตีระลอกที่สี่ลุล่วงก็คร่าชีวิตพวกมันไปอีกสี่ตัวตอนนี้พวกมันเหลือเพียงเก้าตัวเท่านั้น
เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ระลอกแรกจนถึงบัดนี้ผ่านไปเพียงแค่ห้านาทีเท่านั้นพวกเขาก็ฆ่ามันไปได้กว่า ยี่สิบเอ็ดตัว
แต่กระนั้นการโจมตีระลอกที่สามและสี่เริ่มจะเห็นความแตกต่าง จำนวนราชสีห์ตาเดียวที่พวกมันฆ่าได้เริ่มลดลง
มิใช่เพราะผู้คนอ่อนแอพวกเขานั้นเริ่มกะจังหวะได้และการโจมตีของแต่ละทีม ประสานกันได้มากขึ้นทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมเสียอีก
แต่เป็นเพราะเจ้าสิงโตพวกนี้เริ่มโต้ตอบการโจมตีของทีมระใกล้ เมื่อเป็นการโจมตีของทีมระไกลและทีมก่อสร้างพวกมันก็กระจายตัวกัน พวกมันสังเกตุการจังหวะการโจมตีพวกเขาเช่นกัน
เมื่อถึงการโจมตีครั้งที่ห้า
หลินหยางก็พุ่งเข้าไปฟันเจ้าตัวข้างหน้าของเขาพร้อมกับทีมระยะใกล้อีกสองคน แต่มันก็ถอยกลับหลบการโจมตี
กรรร~~~
จู่ๆมันก็อ้าปากคำรามเสียงดัง
ตึง!!
หลังสิ้นเสียง หลินหยางราวกับถูกค้อนทุบเข้าที่ศรีษะเลือดกำเดาไหลออกจากจมูก เข่าอ่อนร่างทรุดลงกับผืนดิน