เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 393-394
ตอนที่ 393 ค้างคาวปีกเหล็ก(ตอนหก)
ถึงค้างคาวปีกเหล็กจะมีมากมายเพียงใดก็ตาม แต่จำนวนที่พวกเขาทั้งหกต้องต่อสู้ด้วยจริงๆนั้นมีมิถึงสิบตัวด้วยซ้ำ
เนื่องจากผนังถ้ำที่ห่างกันมิถึงสามเมตร ยามที่ค้างคาวตัวใหญ่กางปีกออกมานั้นความกว้างของแต่ละตัวก็แทบมิต่ำกว่าหนึ่งเมตรเข้าไปแล้ว
และความสูงของถ้ำที่มิต่างกันมากนักทำให้พวกมันสามารถบินซ้อนกันได้ไม่กี่แนว แม้จะพยายามหดตัวให้เล็กเพียงใดเส้นทางที่ใช้ในการบุกเข้าหาพวกเขาทั้งหกนั้นก็เพียงพอที่จะรองรับพวกมันได้มิถึงสิบตัว
แถวล่างของแนวป้องกันชั้นแรกนั้นนำโดยเจียวซิ่นมนุษย์หมาป่าหนุ่ม พวกเขาทั้งสามคนมิสามารถฟันเป็นแนวนอนได้เนื่องจากถูกโล่เหล็กชั้นที่สองกีดขวางเส้นทางเอาไว้ พื้นที่ใช้สอยจึงลดน้อยถอยลงทำให้มิสามารถเงื้อแขนฟาดฟันออกไปได้
แต่นั้นมิใช่ปัญหา พวกเขาทั้งสามใช้ดาบสั้นในมือแทงเข้าใส่ค้างคาวปีกเหล็กที่บินในแนวต่ำระนาบพื้นดินหมายจะโจมตีเข้าใส่แนวโล่ชั้นแรก มิได้ทันเข้าใกล้พวกมันก็ตกตายลงไปก่อนเสียแล้ว
ฉึบบ~
หลินหยางตัดศรีษะของค้างคาวตัวหนึ่งลงอย่างง่ายดายมิต้องใช้ทักษะใดๆควบคู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการของโจมตีเลยแม้แต่น้อย
ส่วนที่แข็งที่สุดของร่างกายของค้างคาวเหล่านี้ก็คือปีกเหล็กของพวกมัน ปีกเหล็กแผ่นบางมีหรือจะสามารถต้านทานคมดาบที่กวัดแกว่งด้วยความรวดเร็วได้
แม้จะใช้ปีกเหล็กที่มันภาคภูมิใจมาปกป้องร่างกายสุดท้ายก็ถูกตัดขาดปลิดชีวิตอยู่ดี
ค้างคาวพวกนี้สำหรับคนทั่วไปที่มีระดับหนึ่ง มันอาจจะดูน่ากลัวส่งผลให้พวกเขามิกล้าเข้าใกล้มาปะทะ
แต่แท้จริงแล้วตัวค้างคาวหากไม่มีทักษะโจมตีที่ทำให้เลือดมิหยุดไหล การต่อสู้กับมันนั้นง่ายดายเสียยิ่งนัก ขนาดตัวของพวกมันยังมิถึงครึ่งของมดไฟระดับสองด้วยซ้ำ
ยิ่งกว่านั้นการต่อสู้ในถ้ำที่คับแคบทำให้มันมิสามารถกางปีกโบยบินสร้างช่องว่างให้แก่ตนเองและคู่ต่อสู้ได้ นี่ทำให้มันไม่สามารถดึงข้อได้เปรียบของตนเองออกมาได้ใช้อย่างเต็มที่
แต่ทว่า..
เวลาผ่านไปกว่าห้านาที
ชายฉกรรจ์ทั้งหกยังคงกวัดแกว่งดาบสั้นตัดลำตัวและศรีษะของค้างคาวปีกเหล็กอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงบัดนี้เพียงห้านาทีเท่านั้น
ตรงหน้าพวกเขามีกองซากร่างค้างคาวกองใหม่เกิดขึ้นมา มันคือค้างคาวที่ตกตายลงใต้คมดาบของพวกเขานั่นเอง บัดนี้มีจำนวนไม่ต่ำกว่าสองร้อยตัวเข้าไปแล้ว
นับว่าพวกเขาสามารถเข่นฆ่าพวกมันได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด สามารถฆ่าได้มากเสียกว่าพลโล่ทั้งเก้านายจะทำได้เสียอีก
แต่สิ่งที่ต้องแลกมานั้นคือความเหน็ดเหนื่อยจากการกวัดแกว่งอาวุธโจมตีอย่างต่อเนื่องมิได้หยุดพัก แขนของพวกเขาบัดนี้เริ่มออกอาการเหนื่อยล้าอ่อนแรงบ้างแล้ว
มีค้างคาวบางตัวเริ่มเข้ามาประชิดตัวพวกเขาได้เป็นบางส่วน แต่พวกมันก็ถูกโล่เหล็กภายในมือกระแทกปลิวกลับไปอย่างรวดเร็ว
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆอีกไม่นานพวกเขาก็คงไม่สามารถทนไหวยกแขนมิขึ้นเป็นแน่
แคว๊กก~
ทันใดนั้นเองมีเสียงร้องแหลมยาวดังก้องออกมาจากภายในถ้ำลึก มันเป็นเสียงร้องประสานของค้างคาวจำนวนหลายสิบตัวจนมิสามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้
มิเพียงเท่านั้นเสียงร้องแหลมนี้ค่อยๆคืบหน้าเข้ามาใกล้หลินหยางและพวกมากขึ้นเรื่อยๆ ความดังของมันค่อยๆเพิ่มขึ้นจนแสบแก้วหู
ตอนที่ 394 ค้างคาวปีกเหล็ก(ตอนเจ็ด)
หลินหยางขมวดคิ้วแน่น เพราะนี่มันคือเสียงจากค้างคาวปีกเหล็กระดับหกนั่นเอง
จนถึงบัดนี้พวกมันยังมิได้แสดงตัวร่วมรบกับพักพวกของตนเองแล้วแม้แต่น้อย
มันคอยออกคำสั่งจัดแจงการรบให้แก่บริวารของตนอยู่ในที่ปลอดภัยมาอย่างยาวนาน
มิทราบเหตุใดตอนนี้พวกมันจึงกำลังรุดหน้าเข้ามาใกล้พวกเขาขึ้นเรื่อยๆเช่นนี้ เมื่อฟังจากน้ำเสียงและระยะทางแล้วพวกมันคงห่างจากพวกเขาไม่ใกล้ไม่ไกลอีกเพียงอึดใจคงมาถึงพวกเขา
แคล้ง~
ฉึก~
การต่อสู้ยิ่งมายิ่งหนักหนาขึ้นเนื่องจากความเหนื่อยล้าสะสม
ค้างคาวปีกเหล็กเริ่มโจมตีเข้าใส่พวกเขาได้บ้างแล้วโชคดีที่พวกมันยังมิสามารถโจมตีถูกร่างกายพวกเขาได้โดยตรง เพราะยังมีโล่เหล็กคอยป้องกันเอาไว้อยู่
แต่การต่อสู้ที่ใช้มือข้างหนึ่งกวัดแกว่งอาวุธฟาดฟันทิ่มแทงศัตรูตรงหน้าและมืออีกข้างต้องคอยป้องกันการโจมตีมิให้เข้าถึงตัว มันย่อมเหน็ดเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
ตอนนี้พวกเขาคล้ายกับกำลังอบซาวน่ากันอยู่ มีเหงื่อเม็ดโตอาบชโลมร่างกายจนเปียกชุ่ม มนุษย์หมาป่าทั้งห้าตนที่มีขนเรียบนุ่มลื่นสวยงามก็ต่างถูกอาบย้อมไปด้วยเหงื่อไคลทำให้ขนบนร่างกายพวกเขาลู่ติดกับร่างกายเป็นเส้นทางให้เหงื่อผ่านหยดลงบนพื้นถ้ำ
“ถอย” หลินหยางหายใจหอบจากความเหนื่อยพวกเขาใช้เวลาต่อสู้อยู่ตรงนี้มาเกือบสิบนาทีแล้วในช่วงสิบนาทีนั้นพวกเขาไม่มีแม้แต่เวลาที่จะพักดื่มน้ำแก้กระหายได้เลย
ในเรื่องความอึดอดทนนั้นพวกเขามิสามารถเทียบเคียงได้กับเหล่ามนุษย์จากทีมระยะใกล้ได้เนื่องจากพวกมันนั้นล้วนแล้วแต่ลงสถานะหลักไปที่พลังทำให้ร่างกายแข็งแรงมีพละกำลังความอดทนสูงสามารถต่อสู้ยืดเยื้อเป็นเวลานานได้หากมิถูกโจมตีเข้าไปเสียก่อน
เขาให้สัญญาณถอยทันที หากยังคงยื้อการต่อสู้เอาไว้คงมีใครซักคนหมดแรงล้มพับลงเป็นแน่
พวกเขาทั้งหกค่อยๆขยับร่างกายถอยไปด้านหลังทีละก้าวอย่างเชื่องช้าเนิบนาบ
พวกเขามิสามารถสลายลดการป้องกันลงและหันตัววิ่งกลับไปได้
มิเช่นนั้นอาจจะถูกค้างคาวปีกเหล็กโจมตีเข้าใส่จากมุมอับทางด้านหลัง
เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเขาทำได้แค่ค่อยๆคืบคลานถอยกลับไปยังทางออกทีละก้าวเท่านั้น พร้อมกับใช้ดาบสั้นในมือโจมตีปลิดชีวิตศัตรูไปด้วยขณะที่กำลังถอยนั่นเอง
ทั้งหกโจมตีพร้อมกับล่าถอยอย่างเป็นระเบียบมิมีใครเคลื่อนที่เร็วกว่าใครเพื่อมิให้เหลื่อมล้ำและเปิดช่องว่างให้ศัตรูตรงหน้า พวกเขายังถอยกลับไปยังทางออกอย่างต่อเนื่องมิได้หยุดอยู่กับที่เลย
ฉึบบ~
ค้างคาวตัวหนึ่งที่หมายจะเข้าใกล้แนวป้องกันได้ถูกปลิดชีวิตลงไปอย่างรวดเร็ว จากฝีมือของหนึ่งในหกผู้บุกรุกนั่นเอง พวกเขายังคงฆ่าศัตรูเบื้องหน้าทั้งๆที่กำลังล่าถอยกันอยู่ มิเปิดโอกาศให้มันได้เข้าประชิดตัว
ด้วยเหตุนี้เองความเร็วของพวกเขาไม่ต่างจากการคลานของเต่า มันเชื่องช้ายิ่งนัก เมื่อเป็นเช่นนี้แน่นอนคงไม่สามารถหนีรอดสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดมิได้
และแล้วก็เจอเข้ากับช่วงเวลาวิกฤต นั่นเพราะบัดนี้หลินหยางมองเห็นค้างคาวปีกเหล็กระดับหกที่ปะปนอยู่ภายในฝูงค้างคาวกลุ่มนี้แล้ว!