เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 407-408
ตอนที่ 407 วิกฤตการณ์(ตอนจบ)
“เตรียม….ไป!” หลินหยางตะโกนให้สัญญาณเสียงดัง
เจียวซิ่นพละกระชากตนเองถอยออกจากแถวป้องกัน มันหันตัวก้าวเท้าใช้กำลังที่เหลือเดินออกไปพลางใช้มือกุมหน้าอกของตนไว้ด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ตอนนี้มันมิสามารถอดกลั้นแสดงท่าทีแสร้งแข็งแรงออกมาได้อีก มันเดินขากระเผลกหายลับไปในความมืดอย่างช้าๆ
พรึ่บ~
หลินหยางย่อตัวลงทันที ตอนนี้เขาต้องควบตำแหน่งในแนวป้องกันถึงสองตำแหน่งด้วยกันเนื่องจากเจียวซิ่นที่้อยู่ตำแหน่งกลางของโล่ชั้นแรกได้ปลีกตัวออกไปแล้ว
เขาซึ่งอยู่ตำแหน่งเดียวกันจากชั้นสองนั้นจึงย่อตัวตั้งโล่ของตนไว้ตรงกึ่งกลางระหว่างชั้นล่างและบน
ตอนนี้หากมองมาทางฝูงค้างคาวมันจะเห็นแนวป้องกันของผู้บุกรุกเป็นรูบแบบกากบาท
ตอนนี้พวกเขาเสียเปรียบมากกว่าเดิมยิ่งนัก
ช่องว่างด้านบนยิ่งกว้างขึ้นมากกว่าเดิม ตรงกลางของแนวป้องกันนั้นเองก็มีช่องว่างเพิ่มขึ้นมาจากข้อเท้าของหลินหยางจนถึงช่วงเข่าเช่นกัน เนื่องด้วยโล่เหล็กทรงกลมนี้มีขนาดเพียงครึ่งลำตัวเท่านั้นเขามิสามารถป้องกันได้อย่างมิดชิด ได้เพียงเท่านี้ก็นับว่ามากพอแล้วสำหรับพวกเขา
มันพอจะสามารถป้องกันการโจมตีจากค้างคาวที่เข้ามาโจมตีได้ แต่หากพวกมันกรูกันเข้ามาทั้งฝูงพวกเขาก็คงต้องพลาดท่าเป็นแน่
นั่นแสดงว่าพวกเขาไม่สามารถคงรูปแนวป้องกันเอาไว้ต่อไปได้อีก ตอนนี้โล่ในมือของคนทั้งห้ามีไว้เพียงป้องกันการโจมตีของศัตรูหนึ่งหรือสองตัวที่เข้ามาโจมตีพวกเขาเท่านั้น
“พี่หยางพวกเราจะเอาไงต่อ” มนุษย์หมาป่าตนหนึ่งกล่าวถาม
หลินหยางครุ่นคริดใช้เวลาชั่วครู่
ตอนนี้ค้างคาวทั้งฝูงไม่โจมตีโหมกระหน่ำเข้ามาแต่อย่างใดแม้ฝ่ายเขาจะเหลือสมาชิกเพียงห้าคนเท่านั้น
เขาพอจะทราบช่วงเวลาที่มันจะโจมตีเข้ามาแล้วหากพวกเขาขยับตัวเคลื่อนที่ถอยหลัง จังหวะนั้นเองเจ้าค้างคาวตัวจิ๋วมันจะเริ่มโจมตีเข้ามาอีกครา
นั่นแสดงว่าพวกเขากำลังถูกศัตรูกดดันมิให้เคลื่อนที่ไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว!
หากกลับมาเริ่มถอยทัพอีกคราด้วยมนุษย์หมาป่าทั้งสี่ตนนี้คงไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากค้างคาวตัวจิ๋วได้ ทั้งตัวเขาเองก็ไม่แน่ว่าจะสามารถต้านทานแรงปะทะของมันได้เช่นกัน
แม้เขาจะได้เพิ่มสถานะลงไปยังพลังป้องกันส่วนหนึ่งแต่เขาก็มิคิดว่าตนเองจะสามารถต้านพลังโจมตีที่ทำให้เจียวซิ่นบาดเจ็บสาหัสไปได้ในคราวเดียว
เรี่ยวแรงของเขาตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ถูกสูบหายไปมากเกินครึ่งจวนใกล้จะหมดลงเต็มที ทักษะระดับสูงอย่างราชสีห์คำรามที่ใช้สะกดศัตรูเป็นจุดแข็งของเขาคงจะสามารถใช้ออกได้เพียงแค่คราเดียวเท่านั้น
แต่จำนวนศัตรูมากขนาดนี้ เขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถใช้ทักษะดังกล่าวโจมตีหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมันได้หมดเพราะเขาไม่มีเรี่ยวแรงเพียงพอที่จะใช้ออกอย่างเต็มที่
การใช้ออกด้วยทักษะระดับสูงที่สูบกำลังมหาศาลออกไป เขาก็มิทราบเช่นกันว่าสภาพของตนหลังจากใช้ไปแล้วจะเป็นเช่นไร
บางทีอาจจะอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงที่จะคลานยังทำมิได้!
ตอนที่ 408 ดับกระหาย
พึ่บ~
เสียงตีปีกของค้างคาวนับพันดังระงม
ตอนนี้หลินหยางเหลือแรงพอที่จะใช้ทักษะระดับสูงอย่างทักษะสะบั้นพสุธาที่สิ้นเปลืองพละกำลังน้อยกว่าทักษะราชสีห์คำราม เขาพอที่จะใช้ทักษะนี้ได้อย่างเต็มกำลังได้หนึ่งครา
แต่ด้วยทักษะดังกล่าวเป็นการโจมตีแบบสุ่มในพื้นที่เป้าหมาย เขาไม่มั่นใจว่ามันจะสามารถสกัดกั้นการรุกรานของฝูงค้างคาวทั้งพันตัวเอาไว้ได้หรือไม่
ทั้งยังมิทราบว่าหินแหลมที่งอกขึ้นมาหลังจากใช้ทักษะดังกล่าวมันจะเสียบถูกร่างกายที่เล็กกระจ้อยร่อยของค้างคาวตัวจิ๋วหรือเปล่า..
ตอนนี้ค้างคาวระดับสี่และหกนั้นไม่คณามือของพวกเขาทั้งห้า
ที่เป็นปัญหาตอนนี้มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือค้างคาวตัวจิ๋วปริศนาคาใจที่หลินหยางยังมิสามารถตรวจสอบมันได้ เขาไม่รู้ทั้งจำนวน ระดับหรือทักษะที่มันครอบครองอยู่
เกรงว่าหากมันมีระดับสูงและเป็นสัตว์ที่มีสถานะทางพลังวิญญาณละก็ ทักษะราชสีห์คำามที่เขาภาคภูมิใจคงทำอันใดกับมันได้ไม่มากเท่าที่ควร เมื่อเป็นเช่นนั้นสู้เขาใช้ทักษะสะบั้นพสุธาเสียยังดีกว่า
“รอก่อน หากพวกมันไม่โจมตีเข้ามาพวกเราก็มิต้องถอยกลับไป ดูซิใครจะอดทนได้นานกว่ากัน” หลินหยางยิ้มกล่าว
เป็นดังที่เขากล่าวตอนนี้เมื่อศัตรูไม่โจมตีเข้ามาเหตุใดพวกเขาจะต้องเรียกร้องให้มันโจมตีด้วยเล่า พวกเขาใช้เวลานี้ในการพักจากการสู้รบเก็บแรงเอาไว้มิดีกว่าหรือ?
ทั้งนี้เจียวซิ่นก็ได้ถอยกลับไปแล้วบัดนี้อาจจะออกไปยังนอกถ้ำแล้วก็เป็นได้
มันคงจะบอกกล่าวเล่าความเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในถ้ำให้แก่คนภายทราบแล้ว ด้วยเหตุนี้พวกเขามิต้องกังวลว่าคนภายนอกจะเป็นห่วงจนทำให้เสียแผน พวกเขาแค่ยืดระยะเวลาที่ได้วางเอาไว้ออกไปหน่อย
เมื่อค้างคาวปีกเหล็กทั้งฝูงทนไม่ไหวพวกมันก็จะเปิดฉากเริ่มโจมตีเข้ามาก่อนเอง เมื่อถึงเวลานั้นกำลังของพวกเขาคงจะฟื้นคืนกลับมาแม้จะเล็กน้อยก็ตามที
อึกๆ~
ฮ่า~
หลินหยางดื่มน้ำอึกใหญ่เพื่อดับกระหาย
จนถึงตอนนี้ร่างกายของเขาพึ่งจะมีน้ำหยดแรกเติมเข้าไป ไม่ทราบเขาเสียเหงื่อไปมากเท่าใดแล้ว จนน้ำลายภายในปากเหนียวแห้งผากไปเสียนาน ปอดที่หายใจเข้าออกราวกับถูกบีบเอาไว้มิให้ทำงานได้เต็มที่ ร่างกายร้อนไม่ต่างจากอยู่ในตู้อบ
หลังจากเขาดื่มน้ำลงไปเป็นทำให้ร่างกายกลับคืนสภาพมาเล็กน้อย ไม่ช้ามนุษย์หมาป่าตนหนึ่งหยิบถุงน้ำของตนเองขึ้นมากรอกน้ำภายในลงใส่ปากจนเกือบหมดเมื่อมันดื่มเสร็จแล้ว ก็ถึงคิวมนุษย์หมาป่าอีกตน
พวกเขาทั้งห้าสลับเรียงกันดื่มน้ำดับกระหายทีละคนๆ เพื่อให้คนที่เหลือคอยเฝ้าระวังฝูงศัตรูตรงหน้า
ถึงแม้จะดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่แล้วก็ตามมันมิได้ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยสั่งสมหายไป เพียงแค่ดับกระหายหล่อเลี้ยงลำคอที่แห้งผากให้กลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง
ตอนนี้มือข้างที่ถือโล่ของพวกเขาบางคนเริ่มแสดงอาการสั่นบางเบาเห็นถึงความเมื่อยล้าที่มันได้รับ
แม้จะสามารถต้านทานการโจมตีจากค้างคาวได้เต็มรูปแบบแต่ทว่าแรงปะทะที่ได้รับมิได้หายไปไหน เป็นร่างกายของพวกเขาที่ต้องรับภาระนั้นไปเสียเอง