เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 47-48
ตอนที่ 47 ก้อนหิน
เจ้าเหยี่ยวยักษ์ค่อยๆเดินหายเข้าไปในถ้ำ
ตอนนี้หลินหยางยังคงซุ่มอยู่ด้านนอกมิกล้าเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า เมื่อหันกลับมาเพื่อจะพูดกับคนทีม
“…” ชายหนุ่มชะงักด้วยความตกเพราะเบื้องหลังของมันกลับไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลยซักคน
“ไปไหนกันหมดเนี้ย!” หลินหยางกล่าวพลาวขมวดคิ้ว
พวกมันมิได้ไปไหนมิได้ออกนอกเส้นทางเพียงแต่ว่าพวกมัน…วิ่งไม่ทัน!
เพียงแค่ครึ่งทางที่ตามติด ร่างของหลินหยางและเหยี่ยวยักษ์ก็หายลับไปจากสายตา ครั้นจะร้องเรียกมันก็ไกลเกินไปจนอีกฝ่ายมิได้ยิน
หลินหยางที่ให้ความสนใจไปกับเจ้าเหยี่ยวมรกตจนลืมดูข้างหลัง เขาไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทิ้งห่างทีมของตนไปไกลแล้ว ยังคงวิ่งต่อไปมิหยุดและคิดว่าทีมของเขายังคงวิ่งตามมาเช่นกัน
แต่จะให้กลับไปเสียตอนนี้เห็นทีคงไม่เหมาะ ชายหนุ่มซุ่มดูอยู๋นอกถ้ำเฝ้ารอเจ้าเหยี่ยวมรกตออกมาเสียก่อนเพื่อที่ตนจะได้เข้าไปเสียบ…ถ้ำ
‘เดี๋ยวพวกนั้นคงมา’ หลินหยางคิด
———————————————————————————————
ทางด้านทีมสำรวจเหล่าชายชาตรีกว่าสามสิบคนกำลังนั่งหอบแฮกกันอยู่
“เห้ย!? พี่หยางไปทางไหน” จิ่นเหอถาม
“ผมเห็นพี่หยางไปทางนั้น” ชายคนนึงกล่าว
“ไอโง่ข้าเห็นพี่หยางไปทางนั้น” ชายอีกคนกล่าว
“พี่หยางไปนู้นกูรู้กูเรียนมา” ชายอีกคนแทรกขึ้น
“ไม่ใช่โว้ยพี่หยางวิ่งไปทางนี้” อีกคนก็อ้างขึ้นเช่นกัน
‘ตกลงมันทางไหนวะ’ จิ่นเหอคิดแต่ก็มิได้พูดออกไปเพราะเขาก็ไม่เห็นหลินหยางเช่นกัน…
———————————————————————————————
หลินหยางเขารออยู่ทางเข้าถ้ำอยู่นานสองนานและแล้วเหยี่ยวมรกตก็กลับออกมาและบินกลับไปยังรังของมัน
“ทำไมพวกนั้นยังไม่มาอีก” หลินหยางสับสน
‘ช่างเหอะเราไปดูก่อนแล้วกัน’ หลังจากทนรอต่อไปไม่ไหว เขาเขียนข้อความทิ้งไว้บนพื้นหญ้าว่า ‘หลินหยางอยู่ข้างใน’
ปากถ้ำอันดำมืดไร้แสงสาดส่องหลินหยางลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนจะตัดสินใจย่างกรายเข้ายื่นเท้าข้างหนึ่งแทรกเข้าไปในถ้ำและพริบตานั้นราวกับร่างของตนถูกดูดกระชากเข้าไปภายใน
ณ ภายในถ้ำ
หลินหยางใบหน้าแตกตื่นตกใจกับเหตุการณ์พึ่งพานพบ ก่อนที่มันจะค่อยๆสงบสติตรวจดูสภาพแวดล้อมปรับดวงตาให้เข้ากับความมืด ภายในนี้มีกลิ่นเหม็นอับชื้นผนังถ้ำไม่สูงมากและไม่กว้างเช่นกันทางเดินเพียงพอสำหรับคนเพียงสามถึงสี่คนเท่านั้นหากเขาพาทีมมาด้วยพวกเขาต้องเดินเรียงกันเข้าไป
ชายหนุ่มเดินลึกเข้าไปตามเส้นทางซึ่งเขาก็มิรู้ตัวเช่นกันว่าเดินเข้ามาลึกแค่ไหน หากแต่เขาก็มิได้หยุดเดินเนื่องจากเจ้าเหยี่ยวมรกตเข้ามาในถ้ำอยู่นานสองนานและยังกลับออกไปได้อย่างปลอดภัย ตัวเขาที่สามารถฆ่าเหยี่ยวมรกตในการโจมตีเดียวย่อมต้องปลอดภัยกลับออกไปได้เช่นกัน
แกร๊บ!!
หลินหยางตกใจมองลงไปใต้ฝ่าเท้าเขาเดินไปเหยียบถูกอะไรบางอย่างทว่าความมืดเป็นอุปสรรคทำให้การมองเห็นถูกจำกัด
‘คงจะเป็นหินละมั้ง’ เขาคิดและยังเดินต่อไปมิได้ให้ความสนใจมากนัก
วิ้ววว~~
เสียงลมกระทบโสทประสาททำให้หลินหยางขนลุกขนพอง ลมเย็นพัดออกมาจากในส่วนลึกของถ้ำบวกกับความมืดไร้แสงสีทำให้ทำนี้ดูน่าหวาดกลัวทีเดียว มิทราบว่าเหยี่ยวมรกตมันเข้ามาในถ้ำแห่งนี้ทำไม
แกร๊บ!!
ห่างจากจุดแรกไม่ไกลหลินหยางก็ไปเหยียบอะไรบางสิ่งเช่นเดิม แต่ครานี้เขามิได้นิ่งเฉยใช้สายตาจ้องมองที่ฝ่าเท้าพร้อมก้มตัวลงหยิบสิ่งที่กวนใจขึ้นมาดูให้ชัดๆ
เมื่อสายตาเริ่มคุ้นชินกับสิ่งของตรงหน้าหลินหยางก็ตกใจสุดขีด รีบโยนของภายในมือทิ้งทันทีเพราะสิ่งนั้นหาใช่ก้อนหินที่เขาเคยคิดไม่
มันคือกระดูกและยังเป็นกระดูกมนุษย์ส่วนศรีษะที่ไร้ผิวหนังห่อหุ้ม
หัวกระโหลก!! หลินหยางอุทาน
ตอนที่ 48 ถ้ำประหลาด(ตอนต้น)
หลินหยางค่อยๆตั้งสติและมองรอบๆตัว มันมีแต่กระดูกมนุษย์เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นเต็มไปหมด
‘ทำไมถึงมีกระดูกมากมายขนาดนี้’ หลินหยางคิดจากที่เขามองด้วยสายตาคงไม่ต่ำกว่ายี่สิบศพที่เสียชีวิตและเหลือเพียงโครงกระดูกมิทราบเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โครงกระดูกทุกโครงมีรอยแตกและชิ้นส่วนบางส่วนหายไป บ้างก็แขน ซี่โครงหรือแม้แต่กระโหลก
เขากลั้นใจเดินต่อไปแต่เขาก็มีความกลัวอยู่เช่นกันเพราะยังไงเขาก็เป็นมนุษย์คนนึง
ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไหร่ความอับชื้นของผนัง ลมเย็นที่พัดออกมาหรือแม้แต่กองกระดูกก็มากขึ้นเรื่อยๆ
กรอด~~
จู่ๆก็มีเสียงที่น่าสยดสยองน่าขนลุกลอยมาตามลมผ่านหูของเขาไป
‘อะไรน่ะ’ หลินหยางหยุดเดินทันใดจ้องมองไปข้างหน้า ทัศนวิสัยการมองเห็นของเขาสามารถมองเห็นลางๆได้เพียงแค่ระยะหนึ่งเมตรรอบๆตัวเท่านั้นเมื่อเขาไม่พบอะไรจึงเดินหน้าต่อไปอย่างช้าๆระมัดระวังมากขึ้น
กรอด~~
เสียงที่ดังออกมาจากภายในถ้ำเริ่มได้ยินชัดขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ใบหน้าของหลินหยางมีเหงื่อผุดขึ้นมาเม็ดใหญ่เขากดดันยิ่งนัก มิทราบเสียงมาจากอะไร ความมืดมิดยิ่งเพิ่มอุปสรรคให้แก่เขา
แกร๊ก~~
ทันใดนั้นเองเขาได้ยินเสียงคล้ายกับที่เขาเหยียบโครงกระดูก แต่ตัวเขานั้นมั่นใจว่าตนเองมิได้เหยียบถูกอะไร
อยู่ๆมีแสงดีแดงสองดวงส่องออกมาจากผนังถ้ำบริเวณด้านข้างของเขา เขามองมันอย่างรวดเร็วเพราะในถ้ำที่มืดมากกลับมีแสงที่ดึงดูดความสนใจ
‘นี้อะไร’ เขาจ้องมองมันอยู่ครู่นึงแสงสองดวงนั้นราวกับรู้สึกถึงการจ้องมองของเขามันขยับไปมาเคียงคู่กันเข้าใกล้หลินหยางขึ้นทีละนิด ทีละนิด
เมื่อเข้ามาถึงระยะหนึ่งเมตรซึ่งเป็นระยะที่หลินหยางสามารถมองเห็นได้แม้จะไม่ชัดก็ตาม เขาก็ต้องตกใจ
นี้มันเป็นโครงกระดูกมนุษย์!
โครงกระดูกมนุษย์ที่มีแสงในดวงตาสีแดง มันเดินได้และกำลังเดินเข้ามาหาเขาด้วย!!
หลินหยางตกใจรีบถอยห่างทว่าดวงไฟสีแดงก็ยังคงเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆเช่นเดิม เขามิสนใจรีบถอยอย่างรวดเร็วหลายสิบก้าวเมื่อหันกลับไปดูก็พบว่าบัดนี้ชายหนุ่มได้ทิ้งระยะห่างจากโครงกระดูกมากโข
หลินหยางใช้ทักษะตาเหยี่ยวทันที
ปีศาจโครงกระดูก ระดับ 4
พลังโจมตี 7
ป้องกัน 1
ความเร็ว 1
คำอธิบาย : กำเนิดจากศพของมนุษย์ซึ่งได้รับกลิ่นอายที่ชั่วร้าย
คำเตือน : การโจมตีจากปีศาจโครงกระดูกทำให้บวิเวณบาดแผลมีโอกาศติดเชื้อ ฟื้นฟูช้า
‘ฮึ่มคิดว่าจะโดนผีหลอกแล้วซะอีก’ หลินหยางโล่งใจเล็กน้อยเมื่อคิดว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาดทั่วไป
‘เจ้าเหยี่ยวบัดซบ มันคงมากินกระดูกพวกนี้เป็นแน่’ หลินหยางรู้สึกว่าตนเองโดนเหยี่ยวปั่นหัวเข้าให้แล้ว
มิผิดถ้ำแห่งนี้คือแหล่งอาหารของมันมิใช่สำหรับมนุษย์ ซากโครงกระดูกที่นอนเกลื่อนกลาดที่หลินหยางเคยเห็นนั้นคือซากอาหารของเหยี่ยวมรกต แม้หลินหยางจะขาดแคลนอาหารแค่ไหนก็คงเอาซากศพเหล่านี้ไปทำอะไรไม่ได้
เขาค่อยๆเดินเข้าไปใหม่หวังจะคร่าเจ้าโครงกระดูกนี้ แม้นเขาจะไม่เจออาหารอย่างที่หวังแต่เขาอาจจะได้เหรียญเงินและทักษะหรือแม้แต่เลื่อนระดับจากมัน
หลินหยางค่อยๆย่องเบาคืบคลานเข้าใกล้และทั้งสองฝ่ายต่างย่างเท้าอย่างแช่มช้าจนกระทั่งระยะทางระหว่างทั้งคู่ลดลงเหลือแค่สองเมตร
โครงกระดูกเงื้อแขนขึ้นเหนือศรีษะในมือถืออาวุธหมายโจมตีผู้บุกรุก ทว่า…มันช้าจริงๆ นอกจากจะเคลื่อนที่ช้าแล้วการเคลื่อนไหวของมันช้ายิ่งกว่า
โป๊ก
อาวุธคู่ใจฟันลงกลางกระบาลของเป้าหมาย
‘คุณฆ่าปีศาจโครงกระดูกระดับ 4 หนึ่งตัว’
เฉาะกระโหลกเป้าหมายผุพังแตกสลายไปในบัดดล
หลินหยางยิ้มมันง่ายดายกว่าที่เขาคิดเสียอีกแม้พลังโจมตีมันจะสูงแต่หากมันมิทันได้โจมตีเขามันก็เป็นเพียงแค่กระสอบทรายเท่านั้น
แต่เขายังมิทันได้ดื่มด่ำกับความสำเร็จ ก็มีดวงไฟสีแดงส่องสว่างจนกลบความมืดภายในถ้ำเสียจนหมด
มองจากสายตาเขาเห็นดวงไฟสีแดงไม่ต่ำกว่าร้อยคู่!!