เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 481-482
ตอนที่ 481 ข้อแม้
เมืองที่รวบรวมทหารฝีมือดีเอาไว้เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก ที่ตัวผู้นำของพวกมันอย่างเมิ่งโจวกลับโง่เง่าบ้าตัณหา ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับเขาเสียนี้และในวันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เมืองของมันล่มสลายไปตลอดกาล
ด้วยเหตุที่พวกมันยกพักพวกเตรียมซุ่มโจมตีพวกเขาในกลางดึก แผนการของพวกมันนี้หากนำไปใช้กับเมืองอื่นคงจะได้ผลอย่างดิบดี แต่โชคร้ายที่เป้าหมายของพวกมันคือเมืองหลินหยางที่มีกำแผงสูงใหญ่กว่าสองเท่าปกคลุมทั้งสี่ทิศ
ทำให้สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบได้กว้างไกลและชัดเจนมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังมีเหล่าเวรยามที่สลับสับเปลี่ยนเวรกันอยู่ตลอด พวกมันจึงถูกตรวจจับเสียก่อนนั่นเอง
ท้ายสุดแล้วเมิ่งโจวและพักพวกก็ถูกไล่ต้อนตอบโต้จนสิ้นชีวีไปเกือบสิ้น เหลือทิ้งไว้เพียงทหารไม่กี่นายที่หมดใจสู้ยอมรับความพ่ายแพ้
เมื่อพวกมันไม่มีพิษภัยอีกต่อไปหลินหยางจึงปล่อยพวกมันกลับไป โดยมีเงื่อนไขก็คือมิให้พวกมันนำของติดตัวไปแม้สักชิ้น กระทั่งเสื้อผ้าหรือชั้นในพวกมันก็มิได้สวมใส่
และนี่คือจุดจบของเมืองเมิ่งโจวและพักพวก
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาเขาก็มิได้พบเจอคนที่เหลือรอดจากเมืองของมันอีกเลย ส่วนตัวเมืองของมันนั้นถูกปล่อยทิ้งล้างเอาไว้จวบจนถึงบัดนี้ ไร้ผู้อยู่อาศัย
เดิมทีเขาคิดว่าพวกมันตกตายลงไปหมดแล้วเสียอีก
เนื่องจากคนที่เหลือถูกเปลื้องผ้าเดินเตร็ดเตร่ร่อนเร่พเนจรไปทั่วผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ ช่างน่าแปลกยิ่งนักที่พวกมันยังมีชีวิตอยู่ มิทราบหกเดือนที่ผ่านมาพวกมันต้องพบเจอกับสิ่งใดบ้าง
‘ใช่แล้ว!’ ชายคนนั้นกล่าว แต่ด้วยเหตุใดมิทราบน้ำเสียงของมันนั้นแฝงไปด้วยความปิติผิดคาด ทั้งที่หลินหยางนั้นเป็นฝ่ายไล่ตะเพิดพวกมันให้ร่อนเร่ไร้ที่คุ้มกระลาหัว
‘…’ หลินหยางหน้านิ่วคิ้วขมวด ตอนนี้เขารู้สึกว่าตนเองโง่งมยิ่งนักที่ให้ความสนใจแก่พวกมันทั้งสองแทนที่จะมุ่งหน้าเดินต่อ บางทีป่านนี้เขาอาจจะกลับออกไปนอกถ้ำแล้วก็เป็นได้..
เขายกมือซ้ายขึ้นจับดาบสั้นที่คาดเอวของตน
‘อย่าๆ’ ชายร่างท้วมเร่งรีบร้องห้ามปรามทันที
หลินหยางมิได้รับฟังความเห็นของมันแต่อย่างใด
แต่เมื่อเห็นท่าทีของมันไร้การต่อต้านเขาจึงผ่อนคลายลงบ้าง แต่มือข้างหนึ่งของเขายังคงจับด้ามดาบเอาไว้อยู่เพื่อจะได้สามารถตอบโต้ได้ทันท่วงทีในยามที่ถูกลอบโจมตีทีเผลอ
‘พวกนายต้องการอะไร?’ หลินหยางกล่าวถามน้ำเสียงมิได้เป็นมิตรมากนัก
หากพวกมันแสดงออกถึงภัยคุกคาม เขาจะบั่นคอปลิดชีพพวกมันทั้งสองเสีย และมุ่งหน้าค้นหาเส้นทางต่อไปดังเดิม
เพราะมันทั้งสองและตัวเขานั้นเรียกได้ว่าทั้งคู่ต่างเคยเป็นศัตรูคู่แค้นกันมาก่อน คนของเขาได้เข่นฆ่าปลิดชีพพวกพ้องมันไปหลายสิบคนจนเหลือรอดเพียงหยิบมือเท่านั้น บางทีตอนนี้มันอาจจะกำลังคิดวางแผนแก้แค้นตัวเขาก็เป็นได้
‘พี่หยางพี่กำลังหาทางออกใช่ไหม’ ชายร่างท้วมขานตอบ
น้ำเสียงของมันแปรเปลี่ยนราวกับสุนัขที่เลียแข้งเลียขาประจบสอพลอเจ้านายของตน มันเปลี่ยนแม้กระทั่งคำแทนตัวเขา
‘ผมรู้ทางออกอยู่ไหน แต่ผมมีข้อแม้นั่นคือพี่หยางต้องพาพวกผมออกไปด้วย’ ชายผู้มีระดับสี่กล่าวเสริมดวงตาของมันเป็นประกายระยิบระยับ
‘หืม? นายรู้ได้ยังไง’ หลินหยางกล่าว
‘พวกผมก็ทำแบบเดียวกันกับพี่หยางทำนั่นแหละครับ พวกเราค่อยๆแนบกับผนังไปเรื่อยๆจนสุดท้ายพวกเราก็เจอทางออกเอง’ มันกล่าวน้ำเสียงแสดงออกถึงความภาคภูมิใจ
‘อืม’ หลินหยางพยักหน้า
‘หืม?เดี๋ยวนะมิใช่ว่าเจ้านี่มันพึ่งบอกทางออกที่พวกมันทราบหรอกหรือ?’ เขาคิด…
ตอนที่ 482 ทางออก
มิทราบพวกมันโง่หรือบ้ากันแน่
หากดูจากคำกล่าวของมันแล้วต้องการต่อรองให้เขาช่วยเหลือพาพวกมันทั้งสองกลับออกไปด้วยโดยแลกกับการที่พวกมันทั้งสองนำพาเขาไปหาทางออกนั่นเอง
แต่ชายผู้มีระดับสี่คนนี้มันพึ่งเป็นฝ่ายบอกเขาไปหยกๆว่าหากเดินตามทางนี้ไปจะเจอทางออกมิใช่หรือ
แล้วเหตุใดเขาจึงต้องพาพวกมันติดตามไปด้วยเล่าในเมื่อลำพังเขาคนเดียวก็สามารถกลับออกไปได้ ตอนนี้เขาไม่เห็นถึงประโยชน์ใดเลยที่จะอยู่สนทนากับพวกมันทั้งสองต่อไป…
‘แล้วทำไมพวกนายถึงไม่ออกล่ะ’ หลินหยางกล่าวถามด้วยความสงสัย หากพวกมันรู้ทางออกอยู่เหตุใดจึงมิออกไปเสีย กลับกันพวกมันกลับมานั่งอยู่รอคอยความตายเสียอย่างนั้น
‘อาศัยเพียงพวกผมทั้งสองคงออกไปไม่ได้หรอก แต่หากเป็นพี่หยางก็ไม่แน่’ ชายผู้มีระดับสี่รีบกล่าว
‘ทำไมล่ะ?’ หลินหยางสอบถาม
‘ตรงทางออกมันมีสิ่งมีชีวิตบางอย่างเฝ้าอยู่ มิต้องถามถึงการต่อสู้เพียงแค่เห็นตัวของมันพวกเราทั้งคู่ก็กลัวจนตัวสั่นแล้ว’ ชายร่างท้วมกล่าว
ใบหน้าของมันมืดหม่นลงเมื่อได้ยามกล่าวถึงสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าทางออกนี้
หลังจากได้ฟังจึงครุ่นคิด
สำหรับมันทั้งสองที่มีระดับสามและสี่นั้นคงต้องผ่านเหตุการณ์ในชีวิตผ่านการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดมาบ้างพอสมควรจึงทำให้ระดับของพวกมันเพิ่มพูนขึ้น
ถึงพวกมันจะไม่มีทักษะใดๆไว้ในครอบครองแต่ประสบการณ์ต่อสู้มาทดแทนส่วนที่ขาดหาย และพวกมันทั้งคู่ย่อมสามารถจัดการกับค้างคาวระดับสี่และหกได้อย่างไม่ยากเย็น
และสิ่งที่ทำให้พวกมันหวาดหวั่นเกรงกลัวเพียงแค่พบเห็นได้คงมิใช่สัตว์ประหลาดดาดๆธรรมดาเป็นแน่ ค้างคาวปกติคงเทียบไม่ติดกับสิ่งที่มันหวาดกลัว
หลินหยางมองไปยังทั้งสองที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้ สีหน้าของพวกมันทั้งสองแสดงออกถึงความใสซื่อเปิดเผยไร้ลูกไม้
หลินหยางยังมิได้ให้ความไว้ใจพวกมันทั้งสองคนมากนัก ถึงจะไม่มีมันทั้งสองตัวเขาก็สามารถหาทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ด้วยตนเองอย่างไม่อยากเย็น
เพราะเขาเองก็เคยเข้ามายังที่แห่งนี้มาแล้วครานึง ทั้งคำกล่าวของพวกมันยังเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่าหากเดินตามทางนี้ไปเรื่อยๆก็จะพบเจอกับทางออกอย่างแน่นอนมิต้องสงสัย
‘อืมห์’ หลินหยางมองสำรวจชายทั้งสอง สภาพร่างกายของพวกมันนั้นนับว่าดีพร้อมแตกต่างจากผู้คนที่เขาเคยพบพานผ่านมาในสถานที่แห่งนี้ ทั่วร่างมีเพียงร่องรอยขีดข่วนเล็กน้อยไร้บาดแผลใหญ่ฉกรรจ์
ทั้งสีหน้าท่าทางมิเหมือนคนอิดโรยไร้กำลัง บางทีพวกมันอาจจะมีอาหารพกติดตัวไว้ทานในยามหิว หรือไม่ก็พวกมันทั้งสองพึ่งจะถูกจับตัวมาในช่วงเวลาไล่เรี่ยกันกับเขานั่นเอง
ยิ่งมีคนเยอะมากเท่าใดความสำเร็จยิ่งเพิ่มสูงขึ้นมากเท่านั้น รวมถึงระดับของพวกมันยังพอไปวัดไปวาได้มิได้น่าเกียจ สำหรับตอนนี้เขาคงหาได้ดีที่สุดแค่พวกมันสองคนนี่แล