เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 485-486
ตอนที่ 485 ผิดหวัง
กร๊วบ~
ฟึดด~
ตามมาเสียงการกัดแทะชิ้นส่วนของอาหารของสิ่งมีชีวิตปริศนาตนนั้น เสียงดังกล่าวมิทำให้ผิดหวัง ทั้งสามคนมีสีหน้ามืดมนลงอย่างเห็นได้ชัด
การที่มาได้ยินเสียงน่าขยะแขยงในระยะใกล้เช่นนี้เสริมสร้างความหวาดกลัวของพวกเขาทั้งสามเพิ่มพูนขึ้นในระดับสูง
หลินหยางยังมิเห็นตัวของมัน ดูเหมือนว่าความมืดมิดอันเป็นนิรันด์นี้จะไม่มีผลกับเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ผู้คนเรียกขานนามของมันว่าสัตว์ประหลาดนี้เลย
ไม่ว่าอาหารตนใดที่มันหมายปองจะหลบหลีกหนีตายไปมุมใด มันก็สามารถติดตามเข้าไปปลิดชีพส่งร่างเข้าปากได้อย่างไม่ยากเย็น
หากเขาต้องต่อสู้กับมันในสถานการณ์ที่เสียเปรียบเช่นนี้ โอกาศที่ตัวเขาจะชนะนั้นช่างริบหรี่เลือนลางยิ่งนัก
‘พี่หยาง พี่มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่’ ชายผู้มีระดับสี่กล่าวถาม หากมองไปยังสีหน้าของมันนั้นยังคงไม่แปรเปลี่ยนจากความหวาดกลัว
ทั้งร่างกายยังสั่นเป็นเจ้าเข้า มันกำลังชวนเขาสนทนาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวมันเองมิให้จดจ่อกับเสียงการทานอาหารของเจ้าปีศาจร้าย
‘ผมถูกนำตัวมาที่นี่ในช่วงสาย พวกนายล่ะ?’ หลินหยางขานตอบ
‘งั้นหรือ…พวกผมเป็นฝ่ายบุกเข้ามาเอง…’ มันลังเลชั่วครู่และกล่าวต่อ
ได้ความคร่าวว่าเป็นพวกมันที่เป็นฝ่ายบุกรุกเข้าหาศัตรูด้วยตนเองและพลาดพลั้งเสียท่าให้แก่ค้างคาวตัวเล็กตัวหนึ่ง
การต่อสู้ของพวกมันเสียเปรียบตั้งแต่แรกเริ่ม ช่วงท้ายของการปะทะเมื่อเห็นท่าไม่ดีพวกมันจึงมิปักหลักสู้ต่อเสาะหาหนหนทางหนี
แต่ทว่ากลับถูกเจ้าค้างคาวตัวเล็กบินไปดักทางออกเอาไว้ปิดกั้นทางออกที่มีเพียงหนึ่งเดียว
คนที่ยังเหลือรอดของพวกมันล้วนร่วมแรงบุกโจมตีหมายจะฝ่าด่านค้างคาวตัวนั้นไปเพื่อเอาชีวิตรอด
แต่กำลังรบของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันเกินไป มิต้องถามถึงเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้น ท้ายขบวนของพวกมันยังถูกกดดันไปด้วยฝูงค้างคาวนับพันตัว ผลลัพธ์ที่ถูกลิขิตเอาไว้แล้วจึงบังเกิด
ผู้คนล้มตายเป็นผักปลา เหลือคนอยู่เพียงหยิบมือเท่านั้น เมื่อพบเจอกับสถานการณ์อันสิ้นหวังดังนั้นมีบางคนหมดหวังทิ้งอาวุธและเครื่องป้องกันลงพื้นทรุดเข่ามิลุกขึ้นมาสู้อีก
พวกมันทั้งสองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ไม่ดิ้นรนยื้อชีวิตยอมศิโรราบแต่โดยดี
และพวกมันต้องแปลกใจ เมื่อเจ้าปีศาจตัวจิ๋วนั้นกลับเมินเฉยมิให้ความสนใจแก่ตัวมันอีกและโจมตีเข้าใส่ผู้ที่อยู่ข้างกายมันแทน
เมื่อเห็นเช่นนี้พวกมันส่วนใหญ่จึงปลดอาวุธออกจากมือแสดงท่าทียอมจำนนกันทั้งสิ้น ท้ายสุดแล้วคนกลุ่มสุดท้ายก็สามารถรอดชีวิตมาได้อย่างงุนงง
พวกเขาล้วนถูกกลุ่มค้างคาวฝูงใหญ่แบกหามพาบินส่งตรงมาส่วนลึกสุดของถ้ำนี่แล
ชายผู้มีระดับสี่บอกเล่ายาวยืดเกี่ยวกับสิ่งที่มันพบเจอและต้นเหตุที่ทำให้พวกมันมาอยู่ที่นี้
สีหน้าของมันยามมองไปยังหลินหยางนั้นแสดงความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน
เนื่องจากตัวมันหวังจะพึ่งพาหลินหยางให้เขานำพามันและคู่หูกลับออกไปภายนอกถ้ำโดยสวัสดิภาพ
แต่ทว่าจากที่หลินหยางพึ่งกล่าวไปเมื่อครู่นั้น นั่นแสดงว่าตัวหลินหยางเองก็พลาดท่าเพลี่ยงพล้ำถูกจับมาด้วยเช่นกัน
แล้วเช่นนี้มันจะต้องเอาชีวิตไปฝากไว้กับคนที่พึ่งเสียท่าอย่างงั้นหรือ ความคาดหวังของมันแทบจะพังทลายลงไปในพริบตาเลยทีเดียว
ตอนที่ 486 ท้าวความ(ตอนแรก)
เดิมทีตัวมันแม้จะไม่ทราบระดับของหลินหยาง แต่มันคิดว่าตัวหลินหยางที่เป็นถึงผู้นำเมืองที่มีประชากรเกือบสองร้อยคน
มีผู้ติดตามที่มีฝีมือฉกาจอย่างหลิวไห่และจิ่นเหอที่มันเคยปะทะด้วยมาแล้ว คอยติดตามรับใช้เช่นนี้ตัวผู้นำย่อมต้องมีฝีมือติดตัว มีทักษะที่โดดเด่นอยู่บ้าง
มิเช่นนั้นคงมิสามารถปกครองคนจำนวนมากเช่นนี้ได้และจำนวนสองร้อยชีวิตที่อาศัยอยู่ในเมืองหลินหยางนั้นก็ผ่านมากว่าหกเดือนแล้ว ตอนนี้เมืองของเขาย่อมต้องขยายใหญ่เพิ่มพูนขึ้นอีกไม่มากก็น้อย
แต่กลายเป็นว่าความหวังของการมีชีวิตรอดที่ริบหรี่ได้ถูกจุดขึ้นเมื่อพวกมันได้พบกับหลินหยางในสถานที่ที่มิคาดฝัน และความหวังก็พังทลายลงโดยคนเดียวกันนี้
‘แล้วคนที่เหลืออยู่ไหนล่ะ?’ หลินหยางเอ่ยปากอย่างสงสัย
ตอนนี้เขาเห็นเพียงแค่มันสองคนเท่านั้นยังมิพบเห็นคนอื่นที่มันกล่าวถึง
หากมีกำเสริมเพิ่มมากขึ้นย่อมต้องดีกว่าอยู่แล้ว แม้จะไม่สามารถเป็นกำลังรบให้ได้ แต่พวกมันก็พอจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจได้บ้างไม่มากก็น้อย
‘พวกเขา…’ ชายร่างท้วมก้มหน้าพึมพำ
ชายผู้มีระดับสี่ส่ายหน้าเป็นสัญญาณแทนคำตอบ
มิจำเป็นต้องฟังเพิ่มเติมก็เป็นอันรู้กัน พักพวกของมันตายหมดแล้วนั่นเอง ตอนนี้คงจะเหลือเพียงแค่มันสองคนนี้แล หลินหยางมิถามซักไซร้ทำร้ายจิตใจพวกมันต่อ
‘ทำไมพวกนายถึงมาบุกถ้ำค้างคาวล่ะ?’ หลินหยางกล่าว
มันน่าแปลกใจไม่น้อยที่ทหารผ่านศึกมีประสบการณ์สูงอย่างพวกมันจะผลีผลามบุกเข้าถ้ำค้างคาว
หากเป็นคนปกติที่มิรู้ประสีประสาคงมิผิดที่มันจะเข้าถ้ำลึกลับด้วยความอยากรู้อยากเห็น
แต่ชายชาติทหารที่สามารถอยู่รอดมาได้ถึงหกเดือนเช่นพวกมันกลับมิตรวจสอบศัตรูก่อนเลยหรือ?
‘คือเรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบนี้…’
ชายร่างท้วมมันเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นให้แก่หลินหยางฟังได้ใจความว่า
ในวันที่พวกมันได้ทำเรื่องโง่เขลาโดยการบุกโจมตีเมืองหลินหยางและพ่ายแพ้หมดรูปนั้น หลังจากที่หลินหยางปล่อยพวกมันทั้งหมดไปตามยถากรรมเผชิญโลกภายนอกไม่มีแม้กระทั่งที่คุ้มกะลาหัว
พวกมันทั้งหมดมิสามารถไปพึ่งพิงเมืองใกล้เคียงได้เลยเพราะมิว่าจะเดินก้าวเท้าย่างเข้าใกล้เมืองใด ล้วนถูกมองเป็นศัตรูหรือพวกวิตถารทุกครา
คงจะเป็นเรื่องแปลกเสียมากกว่าหากเมืองเหล่านั้นปล่อยให้เหล่าชายฉกรรจ์ที่แก้ผ้าล่อนจ้อนตบเท้าเข้าเมืองของพวกมัน..
การเดินทางของพวกมันนั้นเริ่มลำบากมากขึ้นเมื่อผ่านไปหนึ่งถึงสองวัน อาหารเริ่มขาดแคลนไม่พอเลี้ยงปากท้อง มีเพียงน้ำเปล่าที่พวกมันขอแบ่งจากเมืองที่ผ่านทางเท่านั้น
เนื่องจากแหล่งน้ำที่มีน้ำสะอาดอยู่นั้นมันไม่มีวันหมดสิ้น จึงมิใช่ปัญหาสำหรับน้ำเปล่าที่จะแบ่งปันให้ผู้อื่น
แต่สำหรับอาหารนั้นแตกต่างเนื่องจากจำนวนของอาหารจากแหล่งที่มานั้นมีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน
ไม่ว่าจะมั่งคั่งครอบครองแหล่งอาหารมากมายหลายแห่งเอาไว้ก็คงไม่มีใครใจดีพอที่จะแบ่งอาหารให้คนแปลกหน้าเป็นแน่