เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 521-522
ตอนที่ 521 โล่มนุษย์(ตอนกลาง)
‘ฮ่าๆ’ หลินหยางส่งเสียงหัวเราะบางเบาราวกับคนบ้า หากมองไปยังคนรอบกายเขาแล้วพวกมันล้วนแต่ยกมือข้างหนึ่งขึ้นบีบจมูกของตนจนบี้แบนเพราะมิสามารถทนรับกลิ่นคาวเน่าเหม็นคล้ายกับของเน่าเสียนี้ได้
อนึ่งกองเลือดที่ทับถมกันจนหนากว่าสองถึงสามนิ้วจากพื้นถ้ำนี้ มิทราบพวกมันต้องใช้เลือดมากมายเท่าใดถึงจะสามารถห่อหุ้มกันขึ้นมาเป็นชั้นๆจนหนาเพียงนี้
ยิ่งกว่านั้นเวลาที่ใช้สำหรับการทับถมกันนี้มิสามารถรู้ได้ว่าใช้เวลาไปกี่วันคืนแล้วจึงจะทำให้เลือดจากร่างกายของสิ่งมีชีวิตมีมากเกินพอที่จะถมจนกลายเป็นทางเดินก็มิปาน
ฉะนั้นจึงมิแปลกที่เลือดที่มีเศษเนื้อเจือปนอยู่จะเกิดการเน่าเสียตามกันไป เมื่อมากขึ้นนานเข้ากลิ่นของมันยิ่งเหม็นจนเกินทน
แรกเริ่มในยามที่แข็งตัวกลิ่นของมันก็มิได้เหม็นฉุนมากมายอันใดนักแต่เมื่อหลินหยางขุดเจาะมันขึ้นมาด้วยทักษะหลอมไฟละลายเลือดที่แข็งตัวให้กลายเป็นแอ่งเลือดสีแดงดำ
กลิ่นเน่าเสียที่สั่งสมมาของเลือดเหลวนี้จึงปะทุเตะจมูกพวกเขาจนแทบทนหายใจมิไหว
‘…’ หลินหยางหยุดความปิติอย่างรวดเร็ว คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันเป็นปมราวกับว่าประสาทรับกลิ่นพึ่งตื่นตัว
ตอนนี้เขาเองก็เริ่มเหม็นกลิ่นแผ่นเลือดที่มือของเขาแล้ว
ถึงอย่างนั้นก็เถิดไหนๆตัวเขาเองก็เป็นผู้ทำให้กลิ่นนี้ฟุ้งซ่านในอากาศ
ตอนนี้ก็ได้แผงเลือดทรงสี่เหลี่ยมมาไว้ในมือแล้ว เขาจึงเริ่มงานต่อไปทันที
ข้างกายเขามีโครงกระดูกของมนุษย์ที่ถูกแยกแขนขาสะโพกและช่วงคอออกไปด้วยตัวเขาจนสิ้นแล้ว จึงเหลือเพียงซี่โครงช่วงลำตัวเท่านั้น
เขาพลิกตัวลุกขึ้น นำแผ่นเลือดที่พึ่งได้มาวางทาบทับลงบนซี่โครงกระดูกนั้นพร้อมกับใช้ดาบสั้นของตนตัดมุมที่เกินเลยจากแผ่นเลือดที่ใหญ่เกินไปออกจนพอเหมาะพอเจาะกับโครงกระดูกเข้ากันอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย
เมื่อถึงตอนนี้้เขาใช้ฝ่ามือข้างซ้ายวางทาบลงบนแผ่นเลือดพร้อมกับออกแรงกดเบาๆ ส่วนมือด้านขวาของตนสอดเข้าไปในซี่โครงใต้กระดูกวางมือทาบติดกับแผ่นเลือดจากด้านใต้พร้อมกับใช้ทักษะหลอมไฟโดยใช้พลังน้อยที่สุด
ส่งผลให้มือของเขามีความอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย มิร้อนจนเกินไป เขาค่อยๆเพิ่มความร้อนของฝ่ามือที่นาบอยู่ด้านใต้ขึ้นทีละนิด พร้อมกับมือข้างซ้ายที่ออกแรงกดเพิ่มขึ้น
แผ่นเลือดหนาราวสองนิ้วรูปร่างสี่เหลี่ยมที่ครอบคลุมโครงกระดูกอยู่ค่อยๆยุบตัวลงอย่างช้าๆ ความเหนอะของเลือดที่แห้งกรังจากการถูกหลอมละลายด้วยความร้อนมีสภาพคล้ายกับดินเหนียวอุ้มน้ำ ค่อยๆกลืนกินกระดูกที่ไปละท่อนทีละท่อน
กลับกันมือซ้ายของเขาก็ออกแรงยกซี่โครงมนุษย์ซึ่งเป็นแกนหลักค่อยๆนูนสูงแทรกแผ่นเลือดขึ้นมาเป็นรอยตามกระดูกซี่โครงแต่ละซี่ พวกมันทั้งสองกำลังหลอมรวมเข้าหากันเป็นปึกแผ่นอันเดียวกัน
ทำต่อเนื่องไปอีกมินานจึงค่อยก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างสร้างเป็นผลงานชิ้นเอกจากฝีมือของหลินหยางที่ได้ลงมือรังสรรค์สร้างสิ่งของชิ้นของแรกของตนเองขึ้นมาได้สำเร็จ
ตอนที่ 522 โล่มนุษย์(ตอนปลาย)
หลินหยางจ้องมองซี่โครงมนุษย์สีเลือดในมือพร้อมกับยกมันขึ้นหมุนวนในอากาศ
เขาหมุนซี่โครงเลือดแผงนี้กลับหลังพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งจับมั่นเข้าไปตรงกระดูกสันหลังที่ยังมีความสมบูรณ์ดีมิบุบสลาย พร้อมกับออกแรงผลักดันไปข้างหน้า พลางดึงกลับหลังด้วยความเร็ว
ต่อด้วยการถือมันด้วยมือข้างซ้ายพร้อมกับกำมือข้างขวามั่นใช้กำปั้นทุบลงไปบนกระดูกซี่โครงในมือด้วยความแรงครึ่งหนึ่งที่ตนมี หลังจากเสร็จสิ้นการทดลองไปชั่วครู่พบว่ากระดูกซี่โครงมนุษย์ในมือของเขายังคงมีสภาพเดิมมิได้แตกหักสักชิ้น
‘หึหึ’ หลินหยางส่งเสียงหัวร่อในลำคอ
สายตาของเขามองไปยังโครงกระดูกในมือดวงตาวาววับราวกับได้ของเล่นใหม่ มุมปากยกขึ้นอย่างปิติยินดีชมเชยผลงานที่ทำด้วยแรงกายแรงใจของตน ท่ามกลางสายตาหวาดกลัวขยะแขยงต่อสิ่งที่อยู่ในมือของเขาจากสายตานับห้าสิบคู่
ตอนนี้ซี่โครงอันดาดๆธรรมดาในอดีตได้ถูกดัดแปลงนำเอาแผ่นเลือดคล้ายกระเบื้องแผ่นหนามาห่อหุ้มมันเอาไว้
หากมองจากมุมตรงข้ามซึ่งคือด้านหน้าของหลินหยาง จะพบว่าซี่โครงที่อยู่ในมือของหลินหยางนั้นมันมีสภาพคล้ายคลึงกับโล่รูปทรงแปลกประหลาดที่มีขนาด
และนั่นเองก็คือสิ่งที่หลินหยางต้องการสร้างมาโดยตลอด ซี่โครงมนุษย์ที่ถูกประกบด้วยเลือดแผ่นหนาชิ้นนี้ก็คือโล่นั่นเอง มันคือโล่มนุษย์!
ทุกส่วนที่ใช้สำหรับผลิตมันขึ้นมานั้นล้วนแล้วแต่มาจากร่างกายเลือดเนื้อเชื้อไขของมนุษย์ทุกชิ้น ตั้งแต่ซี่โครงยันเลือดหยดสุดท้าย หรือแม้กระทั่งเศษเนื้อหนังของผู้เป็นของร่างที่ติดอยู่ตามซอกไขกระดูก…
โครงกระดูกที่อดีตเคยมีเนื้อหนังชีวิตและจิตวิญญาณนี้ หากพวกมันมาเห็นว่าร่างของตนหลังล่วงลับต้องมาพบกับจุดจบอันน่าสยดสยองที่หลินหยางกระทำกับพวกมันอย่างทารุณ บางทีมันอาจจะอยากฟื้นขึ้นมาจากความตายสิงร่างโครงกระดูกและวิ่งหนีไปให้ไกล…
ดั่งสายตาของกลุ่มคนกว่าห้าสิบชีวิตที่มองหลินหยางด้วยอารมณ์อันหลากหลายผสมปนเป
ยามที่พวกมันมองไปยังโครงกระดูกในมือของเขานั้นล้วนแล้วแต่อดนึกสงสารเจ้าของผู้เคยใช้งานร่างกายนี้มาก่อนมิได้ พร้อมกับความรู้สึกว่าพวกมันนั้นโชคดีแค่ไหนที่มิถูกคร่าตายด้วยปีศาจที่คอยจับมันรับประทานเป็นอาหารว่างและเคาะห์ซ้ำกรรมซัดถูกหลินหยางใช้ร่างไร้วิญญาณมาทำเป็นอาวุธที่สารรูปดูไม่ได้นี่อีก…
เพราะโล่มนุษย์ในมือหลินหยางไร้ความสมดุลโดยสิ้นเชิง ด้วยขนาดความกว้างเท่ากับตัวมนุษย์ และมีความยาวเพียงหนึ่งฟุตเท่านั้น…
หากนำมาใช้จริงแล้วมันสามารถป้องกันการโจมตีได้เพียงแค่ช่วงลำตัวเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นเอง
หากเทียบกับโล่เหล็กทรงกลมซึ่งได้รับมาจากห้องปริศนาหลังจากผ่านประตูสวรรค์แล้ว โล่มนุษย์ของหลินหยางมิสามารถเทียบเคียงได้แม้แต่เงาของโล่โลหะ
มันทั้งไร้คุณภาพ ทั้งมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาทำร้ายผู้ใช้งานมันอีก แถมภาพลักษณ์ยังน่าเกลียดน่ากลัวไร้ศิลปะความคิดสร้างสรรค์