เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 529-530
ตอนที่ 531 บุก!
หลินหยางมองไปยังกลุ่มคนด้านหลังพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
ขบวนทัพมีคนมากกว่าห้าสิบคนแต่สำหรับจุดที่ตนอยู่มองกลับไปด้านหลังเห็นเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น
พวกมันคนอื่นๆถูกความมืดบดบังมิสามารถมองเห็นได้
ที่น่าผิดหวังก็คือระยะการมองเห็นของเขาสามารถมองได้เพียงแค่หนึ่งเมตรเท่านั้น นี่คือระยะสูงสุดที่สามารถเห็นทุกสิ่งรอบตัวในความมืดมิด ถึงแม้มันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อยก็ตามแต่มันก็ไม่สามารถเทียบได้กับช่วงเวลาที่สภาพร่างกายอันปกติของเขาที่มองเห็นได้ในระยะสองเมตรจากความช่วยเหลือด้วยทักษะตาเหยี่ยว
ระยะการมองเห็นปัจจุบันจึงไม่ต่างจากคนปกติสักเท่าใด ถึงจะเป็นเช่นนี้แต่ภารกิจของเขาต้องดำเนินการต่อไป
ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกคนจะเตรียมพร้อมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงจะมีบางคนที่ร่างกายสั่นเทาเพราะความตื่นเต้นหรือหวาดกลัวไม่แน่ชัดก็เถิด
‘พร้อมแล้วใช่ไหม’ หลินหยางกล่าวถามย้ำเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง
พวกมันมามองมายังหลินหยางแทนคำตอบ ตอนนี้พวกมันยิ่งกว่าพร้อมเสียอีกแทบจะอดใจรอการกลับออกไปใช้ชีวิตที่ปกติสุขอีกครั้งมิไหว
“บุก!!” หลินหยางมิเก็บงำเสียงอีกต่อไป เขาตะโกนลั่นพร้อมกับลุกขึ้นวิ่งอย่างรวดเร็ว
ตามมาด้วยชายผู้มีระดับสี่และชายร่างท้วมแยกขบวนทิ้งระยะห่างออกจากหลินหยาง
ชายผู้มีระดับสี่เบี่ยงตัวมาทางด้านขวาโดยมีคนกว่าครึ่งของคนทั้งหมดติดตามแถวของมัน
ส่วนชายร่างท้วมนั้นยังอยู่จุดเดิมติดกับผนังถ้ำโดยมีคนอีกครึ่งที่ตามแถวของมันเช่นกัน โดยระยะห่างของสองแถวห่างกันราวหนึ่งเมตรและมีหลินหยางเป็นผู้นำทัพยืนอยู่ระหว่างกลางด้านหน้าของพวกมัน
เสียงฝีเท้าจากคนกว่าครึ่งร้อยดังกระหึ่มสะท้อนไปมาจากพื้นที่ที่เกือบปิดตาย ไม่ทราบเสียงใครเป็นเสียงใครผสมปนเปไม่รับรู้
เริ่มจากคนท้ายสุดของแถวซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตรีหญิงสาวที่เข้าร่วมกับกลุ่มหลินหยางในครั้งนี้ ด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนล้าละเป็นสตรีเพศหลินหยางจึงให้พวกเธออยู่ด้านหลังสุดของกลุ่ม
ตอนนี้ราวกับว่าความหิวโหยและร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ดีไม่มีค่าอะไรให้กล่าวถึงหากเทียบกับภารกิจเอาตัวรอดในครั้งนี้ พวกเธอวิ่งตามคนข้างหน้าของตนสุดฝีเท้าเข้าร่วมประจัญบานโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว
อาจเป็นเพราะพวกเธออยู่หลังสุดซึ่งห่างจากภัยอันตรายหรือต้องการมีส่วนร่วมในภารกิจครั้งนี้ก็มิทราบแน่
หลินหยางใช้โล่มนุษย์ในมือซ้ายปิดบังลำตัววิ่งตรงดิ่งไปยังเส้นทางตรงหน้า
ฟังจากเสียงฝีเท้าที่ดังอึกทึกจากการสะท้อนของเสียงไปมาของผู้ที่ติดตามเขามาจากด้านหลังช่างให้ความรู้สึกฮึกเหิม ราวกับตัวเขาเป็นแม่ทัพผู้มีอำนาจนำกองทัพขนาดใหญ่เข้าร่วมการต่อสู้ในมหาสงครามชิงแผ่นดินในภาพยนต์หลายเรื่องที่เคยผ่านตามาก็มิปาน
แคว๊ก~
ก่อนที่จะคืบหน้าไปมากกว่านี้จู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากข้างหน้าของเขา ระยะห่างจากต้นตอของเสียงและตัวเขานั้นห่างกันมิถึงสามเมตร!
ตอนที่ 532 ไม่พบ
หลินหยางตกใจชั่วครู่ได้ยินเพียงเสียงที่ส่งออกมาเท่านั้น เขามองมิเห็นเจ้าของเสียงดังกล่าวเนื่องจากระยะห่างเกินไป
มิรอช้าเขาเบี่ยงตัวฉากออกมาด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่าที่เจ้าค้างคาวตัวจิ๋วส่งเสียงร้องที่ไม่ได้ยินมาเนิ่นนานนี้อันเนื่องมาจากตัวมันเองทราบถึงผู้บุกรุกที่กำลังเข้าใกล้ตัวมันนั่นเอง
ตัวเขาจึงเคลื่อนย้ายออกจากจุดเดิมเพื่อมิให้ตนเองตกเป็นเป้านิ่งและชี้จุดโจมตีให้มัน
มิแปลกเพราะเสียงการเคลื่อนไหวของคนทั้งห้าสิบดังเกินไปจริงๆแต่นั่นมิใช่ปัญหาเพราะตอนนี้พวกเขามิจำเป็นต้องเก็บงำคอยกระซิบพูดคุยกันอีกต่อไป อีกเพียงไม่กี่อึดใจพวกเขาก็จะได้ปะทะกับศัตรูดั่งที่หวังไว้แล้ว
“นายนำคนไปด้านซ้าย!” หลินหยางตะโกนลั่นบ่งบอกความต้องการของตนให้แก่ชายผู้มีระดับสี่ซึ่งมันเป็นผู้นำแถวจากด้านซ้ายอยู่นั่นเอง
“บุก!! ใครเจอตัวมันให้ตะโกนบอกตำแหน่งด้วย” หลินหยางลั่นวาจาพลางวิ่งเบี่ยงซ้ายไปเบื้องหน้า
ตอนนี้หากมองจากมุมสูงจะพบว่าหลินหยางอยู่ตรงส่วนกลางของถ้ำอย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง
กลุ่มคนที่ประกบอยู่ทางด้านขวาแนบชิดผนังถ้ำอยู่นั้นคือคนทั้งยี่สิบห้าคนนำโดยชายร่างท้วม
ส่วนด้ายซ้ายที่พวกเขามิเคยย่ำกรายไปมาก่อน ตอนนี้มีคนจำนวนเท่ากันประกบติดอยู่กับกำแพงทางด้านซ้ายซึ่งนำโดยชายผู้มีระดับสี่
เรียกได้ว่าตอนนี้พวกเขากำลังล้อมกรอบทางออกถ้ำจากทั้งสามทิศทาง พร้อมกับเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเข้าใกล้เจ้าค้างคาวตัวจิ๋วมากขึ้นเรื่อยๆ
หลินหยางที่ยืนอยู่คนเดียวไม่มีกำลังเสริมจากด้านหลัง ก้าวเท้ายาวตรงดิ่งไปด้านหน้าอย่างระมัดระวัง
เขามิได้ลดการป้องกันอย่างโล่มนุษย์ลงเลยแม้เพียงนิด
หากเทียบกับกลุ่มทั้งซ้ายขวาของเขาแล้ว ชายหนุ่มนับว่าเคลื่อนที่ไปด้านหน้าไวกว่าพวกมันอยู่ครึ่งก้าว
อาจเป็นเพราะตนอยู่ตรงกึ่งกลางจึงลดช่วงระยะห่างระหว่างตนและเป้าหมายหรือบางทีกลุ่มคนด้านซ้ายและขวาเคลื่อนที่ช้าไปก็มิทราบแน่
สาม สอง หนึ่งเมตร
ตอนนี้หลินหยางเข้าทางออกห่างอีกเพียงหนึ่งเมตรเศษเท่านั้น เขาเริ่มเห็นเพดานและผนังถ้ำที่ล้อมรอบซ้ายขวาและด้านบนแล้ว
แต่ทว่า…เขายังไม่เห็นตัวค้างคาวตัวจิ๋วศัตรูที่ต้องเผชิญ!
ทั้งค้างคาวตัวจิ๋วที่เฝ้าปกปักษ์รักษาทางออกเอาไว้ก็มิได้ส่งเสียงบ่งบอกตำแหน่งของมันขึ้นมาอีกเลยจากการแหกปากร้องของมันครานั้น
“รายงานสถานการณ์ด้วย” หลินหยางตะโกนสนทนากับสมาชิกกลุ่มของตน
“ยังไม่พบเลยครับ!!” ชายผู้มีระดับสี่และชายร่างท้วมตอบกลับแทบจะพร้อมกัน พวกมันทั้งสองบัดนี้แนบติดกับผนังถ้ำทั้งซ้ายขวาแทบจะใช้หลังแนบไปกับกำแพงเลยก็ว่าได้
พวกมันที่เคยเห็นความร้ายกาจของศัตรูมาแล้วหนึ่งคราและสูญเสียสมาชิกเมืองของตนไปไม่เหลือหลอ จึงหวาดกลัวฝังใจก็มิแปลก
หลินหยางหยุดชะงักชั่วครู่ เขาเห็นกลุ่มของชายผู้มีระดับสี่และชายร่างท้วมรางๆ
แสดงว่าตอนนี้พวกเขาทั้งหมดห่างกันเพียงเมตรเศษเท่านั้นพร้อมกันนั้นประตูสู่ทางออกไปจากนรกขุมนี้ก็อยู่เพียงเบื้องหน้าของตน
ทั้งยามผู้เฝ้าประตูนรกนั้นก็มิได้ทำหน้าที่ของตนอย่างที่ควรเป็น…นี่มิใช่โอกาศหรอกหรือ?