เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 551-552
ตอนที่ 551 อารมณ์ร้าย(ตอนปลาย)
ยามที่ได้รับความหวังอันริบหรี่ว่าสามารถกลับออกไปจากถ้ำได้ไม่ต้องติดแหง๊กอยู่ในสถานที่อันเปล่าเปลี่ยวในส่วนลึกสุดของถ้ำ ไม่ต้องตกตายลงไปด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิตของแวมไพร์ปีศาจ ทิ้งร่างไร้โครงกระดูกไม่มีแม้แต่ดินกลบหน้า พวกมันที่ถูกจับไปอาศัยรับฟังแต่เสียงโหยหวนหดหู่มีหรือจะมีสติครบถ้วนสมบูรณ์?
ยิ่งใครอยู่นานมากวันคืนเท่าใดยิ่งเข้าใกล้ความบ้าคลั่งมากเท่านั้น ยิ่งมายิ่งหงุดหงิด หากมีคนที่เสียสติเป็นบ้าไปก็คงไม่น่าแปลกใจนัก พวกมันแทบไม่อยากอยู่ต่อในถ้ำแห่งนี้แม้จะเป็นทางเดินก็ตาม
ปากถ้ำที่อยู่เบื้องหน้าพวกมันห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งส่วนสามของระยะทางภายในถ้ำ เพียงเอื้อมมือก็จะได้กลับออกไปสู่โลกภายนอกใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขดั่งที่เคยเป็น
ผู้คนส่วนใหญ่ของกลุ่มจึงเบียดกันเพื่อแทรกตัวเข้าไปแถวหน้าหวังว่าตนเองจะสามารถเป็นชนกลุ่มแรกที่กลับออกไป
สำหรับชายฉกรรจ์ที่พอจะมั่นใจในฝีมือการต่อสู้ของตนเองบ้าง ล้วนกระจุกตัวอยู่ส่วนหน้าและกลางของกลุ่มกันทั้งสิ้น
ส่วนปลายแถวนั้นล้วนเป็นอิสตรีร่างกายผ่ายผอมบอบบางและเหล่าชายผู้ขี้ขลาดดั่งเต๋อหลงเป็นต้น ซึ่งหากพวกมันไม่เกาะติดกลุ่มหลักที่ประกอบไปด้วยชายฉกรรจ์นักสู้ทั้งหลายเอาไว้ ก็เกรงว่าจะมีภัยอันตรายหากแยกห่างกันมากเกินไป
เพราะคงไม่มีใครในกลุ่มนี้คิดจะจับอาวุธขึ้นสู้ปกป้องผู้อื่นนอกจากตัวมันเองเป็นแน่ หรือแม้กระทั่งวิ่งหนีหางจุกตูดเพื่อเอาตัวรอด..
“ฮึ่ม!” มันส่งสายตาค้อนพร้อมกับหางคิ้วชูชันใส่หลินหยางอย่างอารมณ์ หลังจากเห็นดวงตาแวววับน่าเอ็นดูของหลินหยางมันจึงหดแขนกลับเอี้ยวตัวหลบให้อย่างลำคาญ
“แฮะๆ” หลินหยางทำได้เพียงหัวเราะแห้งพลางพงกหัวหงึกหงักขอโทษขอโพยมันอย่างน่าสงสาร
มิรอช้าหลินหยางเอียงตัวแทรกเข้าระหว่างกลางทันทีแต่ทว่าลำตัวเขาก็ยังไม่ผ่านพ้นช่องว่างที่น้อยนิดนั้นไปได้ สาเหตุก็มาจากชายทางด้านซ้ายที่เบียดเขาอยู่และตอนนี้เขาก็ต้องทำเฉกเช่นที่กระทำกับชายฉกรรจ์ด้านขวาเพื่อให้ตนเองสามารถรอดผ่านไปได้…
ผู้คนที่อารมณ์เดือดพล่านทั้งหลายหากเติมเชื้อไฟไปเสียหน่อยพวกมันคงไม่ลังเลที่จะเบิดความอดกลั้นและทุบตีผู้คนข้างกายเป็นแน่ ฉะนั้นตอนนี้หลินหยางจำต้องใช้น้ำเย็นบรรเทา กล่าววาจานุ่มนวลผ่อนปรน
ชายหนุ่มกระทำการแหวกเส้นทางมวลหมู่มนุษย์มุดตัวแทรกผ่านไปทีละแถว ทีละแถวอย่างเชื่องช้า เสียงโหวกเหวกโวยวายยิ่งมายิ่งเข้าใกล้ ตอนนี้เขาสมควรใกล้ไม่ไกลห่างจากหัวแถวมากเท่าใดแล้ว อีกไม่ถึงสิบเมตรเท่านั้น
แครก~
“ขอโทษครับ ขอทางหน่อย” หลินหยางเอื้อมมือสะกิดชายคนหนึ่งทางด้านขวาพลางกล่าวคำขออย่างนุ่มนวล
“หึ่ย!” ชายผู้นั้นเหลือบมองหลินหยางด้วยหางตาพร้อมกับอารมณ์ความรู้สึกลำคาญจึงเบี่ยงตัวเล็กน้อยเปิดช่องว่าง พลางสบถในลำคอฟังมิได้ศัพท์คล้ายกับต่อว่าหลินหยาง
ตอนที่ 552 รวมพลัง
ชายหนุ่มทำได้เพียงยิ้มเจื่อนเนื่องจากตัวเขาสร้างความลำบากให้แก่ผู้อื่นมาตลอดทางจึงก้มหน้ายอมรับคำบ่นกร่นด่าด้วยสีหน้ารู้สึกผิด เพื่อมิเป็นการเสียเวลารีบแทรกตัวเข้าที่วางอย่างรวดเร็ว
เป็นดั่งสภาพเสมือนไม่ผิดเพี้ยนเมื่อตัวเขาอีกครึ่งซีกติดอยู่กับที่เพราะที่ว่างจากเส้นทางที่เปิดออกมันแคบจนเกินไป หากจะรบกวนชายทางด้านขวาที่พึ่งสบถด่าเขาราวกับท่องมนณ์ดำก็กระไรอยู่ ฉะนั้นตัวเขาจึงมุ่งเป้าหมายไปอีกทางตรงข้ามนั่นคือชายคนนึงทางด้านซ้ายที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง
“ขอทางหน่อยครับ” หลินหยางกล่าวบางเบา
“…” ไร้เสียงตอบรับกลับมาจากบุลคลดังกล่าว
“ขอโทษครับ ขอทางหน่อย” ชายหนุ่มเพิ่มเสียงดังขึ้นเล็กน้อยเพราะคิดว่าอีกฝ่ายมิได้ยินวาจาของตน
“…” ยังคงเงียบเชียบไม่มีการตอบกลับและเคลื่อนไหวร่างกายจากมันผู้นั้น ราวกับว่าเสียงของหลินหยางที่บอกกล่าวและร่างกายที่กำลังเบียดอัดกับมันอยู่จนจะเป็นปลากระป๋องนี้ เป็นเพียงสายลมพัดผ่านไม่ระคายผิวหนังและโสทประสาทการรับฟังของมัน
“คุณครับ!”
“…”
“ทำอะไรวะ” ชายทางด้านทางขวาผู้พึ่งเบี่ยงหลบให้แก่หลินหยางส่งเสียงบ่นอย่างลำคาญ ทั้งที่มันหลีกทางเขย่งตัวจนบี้แบนไปอีกฝั่งหลินหยางก็ยังไม่ข้ามผ่านมันไปสักที สภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้คือชายทั้งสามคนกำลังประกบติดกันจนไม่รู้สึกเจ็บปวดตามเนื้อตัว
“ข-ขอโทษครับ” หลินหยางหันศรีษะกลับมาพลางกล่าวขอโทษอย่างร้อนรน เสร็จสรรพหมุนคอกลับไปมองชายยังด้านซ้ายด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ตอนนี้เขาเองก็เริ่มจะเดือดขึ้นบ้างแล้ว
“นี่คุณ!!” เสียงของหลินหยางที่เอ่ยเรียกมันดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับตัวเขาที่พยายามเก็บข่มอารมณ์ไว้เต็มที่ ตอนนี้จากเสียงเพรียกเรียกแผ่วเบาขยับขยายดังขึ้นจนเป็นเสียงตะโกนไปแล้ว ชายผู้ยืนประกบติดเขาทางด้านซ้ายยังไม่ไหวติงยืนนิ่งตัวตรงหน้าแข็งอยู่ มันไม่แม้แต่จะหันคอมามองเขาด้วยซ้ำ
เขาป่าวตะโกนเสียงดังพร้อมกับกระดุกกระดิกตัวจนเบียดดันเพื่อให้ตนเองพลุบไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ ชายทางด้านขวาของเขายิ่งมายิ่งอารมณ์ร้ายตัวมันบ่นกร่นด่าจนเหลืออด ค่อยๆพัฒนาเป็นใช้มือทั้งสองข้างของมันจับเสื้อของหลินหยางทางด้านหลังออกแรงดึงเพื่อช่วยเขาผ่านจุดนี้ไปได้ จะได้มิต้องทนทุกข์เบียดกันอีกต่อไป
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถขยับผ่านไปได้เลยแม้แต่จุดเดียว ตอนนี้แม้จะดึงตัวกลับมาด้านหลังก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เขาพบว่าชายทางด้านซ้ายนั้นไม่เพียงไม่หลบ มันยังค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าหาเขาทีละนิด โน้มตัวมาทางพวกเขาทั้งสองคน
มันผู้นี้เปรียบดั่งหินผาก้อนใหญ่ที่มีน้ำหนักกว่าหนึ่งตัน ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามออกแรงมากเท่าใดก็ไม่ทำให้มันเซถลาเสียหลักไปเลยแม้แต่น้อย
ทั้งหลินหยางและชายฉกรรจ์บัดนี้ร่วมแรงร่วมใจยื้อยุดฉุดกระชากร่างของตนเพื่อออกจากจุดนี้ทั้งไม่สนว่าจะไปเบื้องหน้า หรือเบื้องหลังก็ตาม