เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 591-592
ตอนที่ 591 ทบทวน(ตอนต้น)
….
ตอนนี้บริเวณใกล้ปากทางออกของถ้ำเหลือสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์ หนึ่งคือมนุษย์อีกหนึ่งคือสัตว์ประหลาดไม่ทราบที่มาที่ไป
ทั้งสองมิสามารถเอ่ยวาจาพูดคุยโต้ตอบกันได้โดยใช้ภาษาพื้นฐานของทั้งคู่ได้ ทั้งยังไม่สามารถทำความเข้าใจกับฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน
จุดประสงค์ที่พวกเขาทั้งสองมีต่อกันทั้งแตกต่างและเหมือนในคราเดียว สิ่งมีชีวิตเฉกเช่นแวมไพร์ที่มีสายพันธุ์อันเป็นปริศนา สัตว์มิใช่มนุษย์มิเชิง ความต้องการของมันแน่นอนต้องปลิดชีพมนุษย์ผู้ยืนอยู่ด้านหลังของมันนำร่างไร้วิญญาณ เนื้อสดๆ เลือดหลั่งรินเข้าไปในปากเติมเต็มกระเพาะที่หิวกระหายของมันเป็นแน่
ส่วนมนุษย์ปถุชนดั่งหลินหยาง ความต้องการของเขาก็ไม่ต่างจากมันสักเท่าใด เขาต้องการปลิดชีพมันให้มลายสูญไปจากโลกใบนี้เสีย ขจัดภัยร้ายที่เป็นภัยต่อชีวิตมวลมนุษย์ผู้ร่วมชะตากรรม
แกร๊ก~
มีเสียงเกิดขึ้นจากการกระทำของแวมไพร์ที่กำลังแงะเนื้อง้างกระดูกบิดข้อต่อของซี่โครงมนุษย์ซึ่งเป็นอดีตร่างเนื้อของชายขี้ขลาด บัดนี้ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นร่างกายได้อีกต่อไป มันเหลือเพียงเศษเสี้ยวชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายไม่เป็นชิ้นดี
ทั่วบริเวณมีเพียงเสียงการรับประทานอาหารของสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์ตนนี้ และเสียงร้องของค้างคาวปีกเหล็กที่อยู่ห่างไกลออกไปส่งมาบางเบา
หลินหยางยืนอยู่ด้านหลังของแวมไพร์ปีศาจพอดิบพอดี
แม้ทุกผู้คนจะเคลื่อนถอยออกไปจากจุดนี้จนสิ้นทุกชีวิต แต่ชายหนุ่มก็ยังมิมีทีท่าว่าจะเคลื่อนย้ายร่างตนตามพักพวกไปแต่อย่างใด
เขายังใช้มือขวาที่ยังอยู่ในสภาพปกติเพียงข้างเดียวของตน ตั้งท่าเตรียมต่อสู้อยู่เฉกเช่นเดิม
หัวคิ้วของเขาเดี๋ยวหย่อนย่นเดี๋ยวคลายออก ตอนนี้เขากำลังเคร่งเครียดใช้ความคิดจนหัวหมุน เมื่อไม่นานมานี้เขามีความคิดบางอย่างที่ต้องเป็นอันปัดทิ้งไปอย่างเสียดายเนื่องเพราะในยามนั้นมีประชากรอยู่ตรงจุดนี้เยอะมากเกินไป แต่ตอนนี้มันว่างโล่งไม่มีคนอื่นอยู่อีกต่อไปแล้ว
ฉะนั้นตอนนี้จึงเป็นโอกาศดีที่จะนำความตั้งใจเก่าก่อนกลับมาคิดทบทวนใหม่อีกครา สิ่งที่เขากำลังครุ่นคิดชั่งน้ำหนักอยู่นั้นก็คือการลอบโจมตีเจ้าแวมไพร์ปีศาจที่ลดการป้องกันจนเกิดช่องโหว่มากมายหลายทางตรงนี้นั่นแล
เขามิจำเป็นต้องเกรงว่าการกระทำของตนจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น มิจำเป็นต้องคิดเผื่อผู้ใดอีกต่อไป บัดนี้มีเพียงเขา และ มัน
เวลาอันสมควรที่เขาเฝ้ารอมาเนิ่นนาน คอยภาวนามิให้มันฟื้นตื่นจากภวังค์การทานอาหารจวบจนคนสุดท้ายก้าวผ่านร่างของเขาไป จึงถึงเวลาที่ประจวบเหมาะดั่งฟ้าประทานมาให้
ทว่าหลินหยางยังคงครุ่นคิดอยู่เช่นเดิม ผลลัพธ์จากการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นมิใช่เพียงความสำเร็จ แต่เขาจำต้องคิดถึงความล้มเหลวและความเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นตามมาเช่นกัน
ความเลวร้ายอันเป็นสิ่งที่ใครผู้ใดมิอยากประสบพบเจอ…ความตาย
ตอนที่ 592 ทบทวน(ตอนปลาย)
ความสำเร็จ…ความหมายของคำนี้สำหรับแผนการดังกล่าวมีเพียงประการเดียวนั่นหมายถึงการสิ้นใจของแวมไพร์ปีศาจ หากผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ไม่ว่าใครก็ต้องปิติยินดีแก่ชัยชนะในครั้งนี้อย่างถ้วมท้น
สำหรับความล้มเหลว…เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นดั่งที่คาดคิด ตัวเขาจำต้องเตรียมใจเอาไว้สำหรับผลลัพธ์ดังกล่าว
แน่นอนเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างเลวร้ายหากโชคดีเจ้าปีศาจตนนี้อาจตอบโต้ประมือมาบ้าง หากโชคร้ายคงหนีไม่พ้นความตาย
เมื่อถึงจุดนี้เขาย่อมไม่ยืนนิ่งเป็นกระสอบทรายมนุษย์ให้ปีศาจตรงหน้าทุบตีอย่างแน่นอน สิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเกิดความล้มเหลวจากการลอบสังหารในครั้งนี้ก็คือ…หนี!
อนึ่งสำหรับเรื่องทางหนีทีไล่นั้นเขามิใส่ใจมากนัก แน่นอนมันไม่มีเส้นทางอื่นให้ไปต่อ มีเพียงแต่เส้นทางด้านหลังซึ่งไปสิ้นสุดที่ปลายถ้ำเท่านั้น ฉะนั้นมีเพียงเหตุผลเดียวที่ตอนนี้ยังคงเป็นปัญหาอย่างใหญ่หลวงอยู่
หากเขาไม่สามารถสังหารมันได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เขาก็มิจำเป็นต้องคิดสืบต่อปักหลักปะทะกับมันอีกต่อไป เพราะการโจมตีเพียงครั้งเดียวดังกล่าวนั้นเป็นการลอบโจมตีที่เขาบรรจงแทงด้วยดาบสั้นเข้าไปยังจุดตายด้วยความรวดเร็วและรุนแรงสูงสุดที่ตนเองจะสามารถสร้างได้
หากการโจมตีสุดกำลังไม่เป็นผลก็ไม่จำเป็นยื้อเวลาประมือกับมันอีก เพราะการโจมตีต่อมาและถัดไปนั้นย่อมไม่มีครั้งไหนจะสามารถสร้างบาดแผลได้รุนแรงเท่าครานั้นอีกอย่างแน่นอน
ฉะนั้นทางเดียวที่เขาจะทำต่อหลังจากการลอบโจรตีผิดพลาดก็คือการหนี สำหรับในเรื่องนี้ตัวเขาเองก็มั่นใจในตัวเองอยู่ไม่น้อย เส้นทางที่ใช้สำหรับการหลบหนีครั้งนี้เป็นทางตรงดิ่งไม่เลี้ยวลดคดเคี้ยวมากนัก ด้วยสภาพพื้นที่เช่นนี้สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดก็คือความเร็ว
เขามั่นใจว่าความเร็วของตนทิ้งห่างมนุษย์ทุกคนภายในถ้ำไม่เห็นฝุ่น แต่ทว่ามันก็ยังน่ากังวลอยู่เช่นกัน….เพราะไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าตัวปีศาจโง่งมที่นั่งแทะกระดูกอยู่นี้ เขาไม่ทราบสถานะความเร็วของมันทั้งไม่ทราบว่าความเร็วสูงสุดของตนเองจะสามารถทิ้งห่างมันได้หรือไม่…
หากครุ่นคิดดูถึงผลได้ผลเสีย ดูเหมือนผลลัพธ์ดั่งเก่าก่อนก็ยังมีน้ำหนักมากกว่าอยู่ดี
แต่กระนั้นชายหนุ่มคล้ายตัดสินใจเลือกสิ่งที่ตนเองต้องการเอาไว้แต่ก่อนแล้ว
แกร๊ก~
มีเสียงเกิดขึ้นจากจุดที่หลินหยางยืนอยู่ เสียงดังกล่าวคล้ายคลึงกับยามที่แวมไพร์ปีศาจบิดหักกระดูกร่างไร้วิญญาณ ทว่าเสียงที่เกิดขึ้นมาจากตัวหลินหยางนี้หาได้ดังกึกก้องและน่ากลัวเช่นนั้นไม่ มันเป็นเสียงบางเบาเล็กๆ
ชายหนุ่มก้มศรีษะมองไปยังต้นเสียงที่ตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น สายตาของเขาตกกระทบกับมือขวาอันซีดเผือด มิผิดตอนนี้ตั้งแต่อุ้งมือของเขาจรดปลายนิ้วแต่ละข้อล้วนขาวซีดไร้โลหิตหล่อเลี้ยงน่าหวาดหวั่น เขาแทบไม่รับรู้ความรู้สึกจากมือข้างนี้เลย