เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 614
ตอนที่ 614 หลบ
ซึ่งการโจมตีทั้งสองแบบนี้คือความเป็นไปได้ที่สุดที่หลินหยางคาติคิดสําหรับภาพรวมสรีระร่างกายของก้อนเนื้อแวมไพร์ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแบบใดระหว่างหนึ่งในสองก็นับว่าง่ายดาย ยิ่งที่หลบเลี่ยง ฉะนั้นตอนนี้เจ้าแวมไพร์ปีศาจด้านหลังหลินหยางแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับการต่อสู้
กลับกันค้างคาวตัวกระจ้อยตรงหน้าที่มีขนาดร่างกายเล็กกว่าหลายร้อยเท่า กลับน่าหวาดกลัวทิ้งห่างผู้นําของมันอย่างไม่เห็นฝุ่น
พับ~
ค้างคาวตัวจิ๋วตีลมอีกครั้งมันไม่รอคอยให้ฝ่ายตรงข้ามได้ตั้งตัวติดพุ่งตรงเข้าใส่อย่างรวดเร็วโดยมีเป้าหมายที่ร่างกายส่วนบนของคู่ต่อสู้
ปฏิกิริยาตอบสนองของชายหนุ่มเองก็มิได้เชื่องช้าเช่นกัน เขาย่อตัวโค้งลําตัวลงต่ําเป็นมุมฉาก ดั่งคราวก่อนหน้าหมายหลบการโจมตีของศัตรู
ทว่าก่อนจะถึงตัวชายหนุ่มค้างคาวตัวจิ๋วกลับเปลี่ยนวิธีการบินอย่างฉับพลัน มันพุ่งทิ้งลงแนวต่ำตามศรีษะของหลินหยางที่กําลังเคลื่อนลงเป็นมุมฉาก
หากมองจากมุมสูงจะพบว่ายามที่ศรีษะของหลินหยางเคลื่อนลงนั้นประจวบเหมาะกับปีกของค้าวคาวตัวจ้อยที่เบียงองศาให้ได้มุมเดียวกันกับชายหนุ่มเช่นกันมันไม่ต่างจากกระสุนปืนที่ล็อคเป้าหมายเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยไม่ว่าศรีษะของหลินหยางจะขยับออกไปทางซ้ายหรือขวา เพียงเล็กน้อยก็ตามแต่เส้นทางการบินของค้างคาวตัวจ้อยคนนี้ก็เบี่ยงตามไม่ผิดเพี้ยน การเคลื่อนไหวของเขาราวกับถูกอ่านออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
ชายหนุ่มตกใจกับการเปลี่ยนแนวโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เขาย่อมไม่อยู่เฉยปล่อย ให้ตนตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน หากถูกค้างคาวตัวเล็กคนนี้โจมตีเพียงครั้งเดียว แม้จะมีโล่เหล็กก็ยังไม่สามารถต้านการโจมตีของมันได้ ไม่ต้องกล่าวถึงศรีษะของเขาก็คงไม่ต่างจากถูกแตงโตที่ถูกค้อนยักษ์ทุบเต็มแรงและแตกเป็นเสี่ยงๆ
ในเวลาเพียงเสี้ยววิหลินหยางตัดสินใจผ่อนแรงที่ขาสองข้างปล่อยร่างกายไปตามแรงโน้มถ่วง ทําให้ร่างของเขาที่ย่อตัวอยู่เป็นทุนเดิมทรุดแผละลงกับพื้นนอนคว่ำหน้า
แต่เมื่อเขายกศรีษะขึ้นมองยังพบค้างคาวตัวจิ๋วอยู่ในครรลองสายตาเช่นเดิม แถมมันยิ่งมีขนาดตัวใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ มิใช่เพราะมันขยับขยายร่างกาย แต่มันกําลังเข้าใกล้เขามากขึ้นต่างหาก ตอนนี้ระยะห่างระหว่างส่วนที่ใกล้กับศัตรูที่สุดอย่างศรีษะของเขาห่างกับร่างของค้างคาวตัวจิ๋วไม่ถึงหนึ่งศอกซึ่งนับว่ากระชั้นชิดอย่างยิ่ง มันเป็นไปได้ยากที่จะสามารถป้องกันการโจมตีได้ในระยะดังกล่าวและถึงแม้อยากปัดป้องสักเพียงใดแต่สิ่งอํานวยความสะดวกสําหรับการป้องกันกลับไม่มีติดตัวของเขาเลยสักชิ้น สําหรับการโจมตีตอบโต้นั้นหรือไม่มีอยู่ในความคิดของเขาเลย ด้วยอาวุธที่ชำรุดอย่างดาบสั้นเพียงครึ่งดาบก็นับว่าเสียเปรียบแล้ว มิต้องกล่าวถึงสภาพปัจจุบันที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นแน่นอนเขาย่อมไม่สามารถโจมตีศัตรูได้ ในขณะที่ร่างกายอยู่ในสภาพนี้
หลินหยางระดมความคิดเป็นพัลวันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาตรงหน้า เพียงเสี้ยววินาที่เขาคิดวิธีตอบโต้ค้างคาวตัวจิ๋วมากกว่าสามถึงสี่วิธีการ แต่ทุกวิธีเหล่านั้นล้วนมีความสําเร็จต่ำความเสี่ยงสูงทั้งสิ้น
สายตาเขายังคงจับจ้องมองร่างค้างคาวตัวจิ๋วที่คืบเข้าใกล้มาทุกกระเบียดนิ้วราวกับภาพช้า เขาปัดความคิดการโต้ตอบโจมตีทั้งหมดทิ้งไม่เหลือ ตอนนี้เขาจักต้องออกจากสถานการณ์ตรงหน้าเสียก่อนค่อยหาวิธีโจมตีกลับไม่เสียหาย
พรืด~
ชายหนุ่มกัดฟันกรามแน่นจนเกิดเสียงการเสียดสี เข่าทั้งสองข้างของเขาถูกย่อขึ้นมาชิดลําตัวหลังจากเข้าที่เข้าทางเป็นที่เรียบร้อยเขาส่งแรงผลักดันถีบขึ้นส่งร่างตนไถลไปกับพื้นถ้ำมุ่งตรงไปข้างหน้า
ค้างคาวตัวจิ๋วเดิมที่เป้าหมายที่มันเพิ่งเอาไว้คือศรีษะฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าชายหนุ่มจะลดศรีษะต่ำลงในระดับใดหักหลบซ้ายหรือเอี้ยวไปทางขวา มันก็สามารถเปลี่ยนทางการบินเพื่อมุ่งตรงส่งร่างโจมตีใส่เป้าหมายได้อย่างแม่นยําไม่ผิดเพี้ยน เมื่อชายหนุ่มหมอบคลานคว่ำหน้าอยู่กับพื้น เจ้าค้างคาวตัวจิ๋วยิ่งรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อมันยิ่งในจากที่สูงลงที่ต่ําส่งผลให้ระยะห่างระหว่างมัน และเป้าหมายถูกลดลงอย่างกระชั้นชิด และเมื่อหลินหยางไถลไปกับพื้นทําให้เป้าหมายที่ถูกเล็งเอาไว้อย่างศรีษะเปลี่ยนจุดอย่างฉับพลันกลายเป็นว่าศรีษะของหลินหยางพุ่งผ่านใต้ร่างของมันไปเสียแล้ว
แม้ค้างคาวตัวจ้อยจะสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างอิสระเสรีแต่อย่างใดมันก็ยังมีข้อจํากัดทางร่างกายของตนอยู่เช่นกัน มันไม่สามารถบินม้วนตีลังกากลางอากาศหรือเปลี่ยนวิธีการบินอย่างฉับพลันในมุมฉาก
ตอนนี้จุดที่มันสามารถโจมตีชายหนุ่มได้มีเพียงช่วงต้นขายาวไปถึงปลายเท้าของชายหนุ่ม เป้าหมายใหญ่อย่างศรีษะและจุดตายต่างๆบนร่างของหลิ่นหยางซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่บริเวณลําตัวของเขาไม่อยู่ในวิถีโจมตีของมันแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นค้างคาวตัวจิ๋วเองก็มิได้ตั้งโจมตีมาต่อมันเบียงเงยตัวโค้งขึ้นบนอากาศผ่านร่างหลินหยางไปเนื่องด้วยความเสี่ยงเองที่มันจะรับนั้นไม่คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้มานั่นเอง
หากมันโจมตีหลินหยางต่อโดยเปลี่ยนเป้าหมายเป็นส่วนขาของชายหนุ่มซึ่งแน่นอนมันมีโอกาสสูงที่จะโจมตีถูกจุดที่เล็งไว้ได้เพราะชายหนุ่มในตอนนั้นไม่สามารถถีบตัวได้สองครั้งติดในช่วงเวลาอันสั้นได้อย่างแน่นอน
ทว่าแม้จะโจมตีไปบาดแผลที่ขายหนุ่มได้รับก็ยังมิใช่ว่าหนักหนาหงไกลกับความตายอย่างยิ่ง หากมันโชคดีการโจมตีนั้นอาจสร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้แก่ชายหนุ่มแต่ย่อมไม่ถึงกับชีวิต
กลับกันแม้โอกาศสําเร็จจะสูงและโอกาศสําหรับความผิดพลาดก็ยังคงมีอยู่เช่นกัน แม้ฝ่ายตรงข้ามจะไม่สามารถถีบตัวไถลไปกับพื้นได้อีกเป็นครั้งที่สองแต่ทว่าส่วนขานั้นยังสามารถขยับซ้ายขวาได้อยู่จึงนับว่าส่วนนี้ยังสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีได้ หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยจะกลายเป็นตัวมันเสียเองที่สิ้นชีวิต เพราะพื้นข้างใต้ของชายหนุ่มนั้นก็คือพื้นหินถ้ําแม้จะถูกเคลือบด้วยแผ่นโลหิตหนึ่งขั้นก็ยังมีความแข็งมากพอที่จะบดร่างของมันที่พุ่งโหม่งด้วยความเร็วสูง
ควับ~
หลินหยางเร่งรีบใช้ดันพื้นพลิกหงายร่างกายใช้สายตาควานหาตัวคู่ต่อสู้เพื่อมิให้มันได้ โจมตีตนจากมุมอับสายตาที่เสียเปรียบ เขางอเข่าพยุงตัวลุกขึ้นโดยที่สายตายังจับจ้องไม่ปล่อยวาง ทั้งเสื้อผ้าและผิวกายของเขาบัดนี้ถูกย้อมไปด้วยคราบสีดําและแดงเป็นบางจุดจากการไถลไปมา บนพื้นถ้ําที่ถูกย้อมไปด้วยสิ่งของเน่าเสียจากร่างกายมนุษย์และซากค้างคาวปีกเหล็กผสมปนเป
“คูคู๊~” แวมไพร์ปีศาจส่งเสียงร้องพลางสบัดร่างกายเสียงดังโครมคราม ใบหน้าของมันแสดงออกถึงความเดือดดาลอย่างเห็นได้ชัด ดวงตากลมโตจ้องเขมึงไปตรงหน้าทว่าสิ่งที่มันจ้องมองอยู่นั้นหาใช่หลินหยางผู้เป็นศัตรูตัวฉกาจไม่ กลับเป็นร่างของค้างคาวตัวจิ๋วลูกสมุนตัวน้อยที่ถูกสาย ตาแห่งความโกรธจ้องเขม็งไม่วางตา เมื่อฟังจากน้ําเสียงของมันแล้วคล้ายกับกําลังด่าทอค้างคาวตัวจ้อยด้วยความโมโหระบายความอัดอั้น
เมื่อเผชิญกับความโกรธของผู้เป็นนาย ดูเหมือนค้างคาวตัวจิ๋วตนนี้หาได้มีความสนใจอันใดไม่ มันไม่สะทกสะท้านหรือแสดงปฏิกิริยาตอบสนองใดๆเลยแม้แต่น้อยกระทั่งปีกของมันยังกระคือเป็นจังหวะเดิมไม่เร่งเล้าหรือข้าลง
หลินหยางทรงตัวอย่างเหนื่อยหอบตอนนี้ร่างกายของเขาได้รับภาระหนักหนาสาหัสเอาการเลยทีเดียว เขาใช้เรี่ยวแรงไปมากโขกับการต่อสู้ที่ยืดเยื้อกับศัตรูโดยไม่มีเวลาให้พักผ่อนหย่อนใจ กล้ามเนื้อแต่ละจุดตั้งและอ่อนล้าริมฝีปากแห้งผากจากการขาดน้ําโดยที่ร่างกายเองก็ระบายความร้อนออกเป็นเหงื่อไหลชโลมไม่หยุด นับว่าภาระทางกายอยู่ในขั้นวิกฤตเลยทีเดียว
ครืน~
แวมไพร์ปีศาจละสายตาจากค้างคาวตัวจิ๋ว มันเคลื่อนขยับตัวเล็กน้อยพร้อมกันนั้นดวงตากลมคู่โตของมันจับจ้องมาที่ชายหนุ่มอีกครั้ง ประจวบเหมาะกับค้างคาวตัวจิ๋วที่เมื่อครู่หลังสิ้น การโจมตียังคงตีปีกทรงตัวกลางอากาศ เมื่อสายตาของเจ้าแวมไพร์กระทบกับร่างหลินหยางเจ้า ค้างคาวตนตัวน้อยเองก็มีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นกัน มันกระพือปีกรุนแรงหนึ่งคราพุ่งฝ่าอากาศโดยมีหลินหยางเป็นเป้าหมาย “ซึ่ม” หลินหยางเค้นเสียง เจ้าสัตว์ประหลาดตรงหน้ามันเริ่มรุกต่อเนื่องไม่ปล่อยให้เขาได้พักหายใจหายคอทั้งที่พึ่งจะสิ้นการโจมตีไปหยกๆ