เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 680
ตอนที่ 680 อุกกาบาต
ฝุ่นบังตาถูกพัดหายจางลง ปรากฏร่างของสิ่งมีชีวิตใหญ่โตมโหฬารที่ร่างกายเกือบครึ่งจมอยู่ในพื้นดินจากแรงกระแทกยามล่วงปะทะกับพื้น
ครืนน
สิ่งมีชีวิตตัวยักษ์ขยับตัวเล็กน้อย แค่เพียงเล็กน้อยขนาดตัวของมันยังส่งผลกระทบต่อผืนดินสั่นไหวบางเบาในบริเวณอันใกล้ บ่งบอกถึงน้ําหนักตัวที่มากมายมหาศาล
จากมุมมองสายตาของหน่วยสอดแนมทั้งสิบ เจ้าสิ่งมีชีวิตปริศนาตัวนี้มีร่างกายสีน้ําตาลดํา ไม่มีแขนหรือขาไม่มีอวัยวะส่วนใดยื่นนูนออกมาจากลําตัวเลย ไม่มีตา หู จมูก มีเพียงลําตัวเท่านั้น ร่างกายกลมเป็นลอนคลื่นมองเช่นนี้แล้วมันคล้ายคลึงกับหนอนยักษ์?
ฮววว
หนอนตัวยักษ์ส่งเสียงทุ้มต่ําแสดงถึงความเจ็บปวดที่ได้รับจากการโจมตีของหัวหน้าหน่วยสอดแนมที่ฝังมีดสั้นทั้งเล่มบนร่างของมันจนมิด ตัวมันพยายามใช้ร่างส่วนหนึ่งซึ่งดูแล้วคงจะเป็นส่วนหัวของมันถูไถกับบริเวณกลางลําตัวที่มีด้ามดาบปักอยู่ คล้ายกับจะใช้ตัวดันให้สิ่งแปลกปลอมที่ปักอยู่บนร่างหลุดออกไป
“ห-หัวหน้า นี่มันตัวอะไร” หนึ่งในสมาชิกกล่าวถามด้วยสีหน้าแตกตื่น
มองไปยังผู้นําหน่วยของมันบัดนี้อ้าปากค้าง มันยังตกตะลึงสิ่งมีชีวิตตรงหน้า ขนาดตัวของสัตว์ประหลาดตัวยักษ์นี้มันน่าหวาดหวั่นยิ่ง แม้ร่างกายกว่าครึ่งของหนอนยักษ์ตนนี้จะจมอยู่ใต้ดิน แต่พวกมันทั้งสิบยังต้องแหงนมองร่างกายส่วนที่เหลือที่โผล่พ้นขึ้นมาจากการแสดงออกของมันแทนคําตอบได้อย่างดี ว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้เป็นครั้งแรกที่มันเคยพบเช่นกัน
แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันมั่นใจอย่างยิ่ง ว่าหนอนยักษ์ที่มันไม่เคยเห็นนี้คือเผ่าอสูรคู่อริอย่างแน่นอน!!
หนึ่งที่มันมัน
แอน!!
“หือ!?” จู่ๆผู้นําหน่วยสอดแนมปรับเปลี่ยนสีหน้าฉับพลันเมื่อมันมองดูสิ่งมีชีวิตคล้ายหนอนตัวนี้ เจ้าหนอนยักษ์นี้ไม่มีอวัยวะใดที่จะช่วยให้มันบินได้เหมือนปีกที่ติดอยู่ด้านหลังคนของเผ่าปีศาจ? แล้วเช่นนั้นเหตุใดมันจึงสามารถเดินทางข้ามผ่านท้องฟ้ากว้างใหญ่มาจากสถานที่อันไกลโพ้นจนมองเห็นเป็นเพียงเม็ดถั่ว? หรือมันจะมีทักษะพิเศษที่ทําให้ตนเองสามารถลอยบนอากาศได้?
แต่เมื่อดูจากขนากร่างกายที่พอจะกําหนดน้ําหนักตัวโดยรวมย่อมไม่ต่ํากว่าสี่ถึงห้าพันกิโลกรัมอย่างแน่นอน แล้วทักษะเทพเจ้าใดกันที่ทําให้สิ่งมีชีวิตคล้ายหนอนที่มีน้ําหนักกว่าห้าตันตนนี้ สามารถลอยอยู่บนอากาศได้? มันเป็นไปได้ยากยิ่ง
เมื่อดูจากภาพเหตุการณ์ตรงหน้าแล้ว มันก็ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ เพราะเจ้าหนอนยักษ์ตนนี้มันยังตะเกียกตะกายเป็นบ้าเป็นหลังพยายามขึ้นจากหลุมที่ร่างของมันจมอยู่กว่าครึ่งด้วยความพยายามสุดชีวิตของมัน ตัวมันเคลื่อนขยับขึ้นลงอย่างรุนแรงแต่ไม่ว่าจะทําเยี่ยงไรร่างกายครึ่งนึงที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินก็มิสามารถดีดพ้นขึ้นมาด้านบนได้เลย หากมันมีทักษะวิชาที่ทําให้ตนบินบนอากาศได้จริง มันก็คงไม่ใช่เรื่องยากสําหรับมันที่จะออกจากหลุมที่พันธนาการร่างของมัน แต่ดูรูปการณ์แล้วหากไม่มีใครไปช่วยเหลือฉุดมันขึ้นมาเจ้าหนอนยักษ์ตนนี้อาจจะต้องติดอยู่ในหลุมจนตายเลยกระมัง
ผู้นําหน่วยสอดแนมมองหนอนยักษ์สลับกับท้องฟ้าด้วยความสับสน
ขณะที่ตกอยู่ในภวังค์ความคิด ตอนนั้นเองมีเสียงดังหวีดหวิวก้องไปทั่วผืนฟ้าดึงดูดสายตาของหน่วยสอดแนมทั้งสิบให้มองไปยังต้นตอของเสียงโดยอัตโนมัติ เพียงพริบตาต่อมาดวงตาของพวกมันเบิกกว้างแทบถลน เมื่อมองเห็นจุดด่างพร้อยบดบังแสงจันทราประดับอยู่ทั่วท้องนภา
มันเป็นเฉกเช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่อสุรกายหนอนยักษ์เบื้องหน้าของพวกมันโผบินอยู่บนท้องฟ้าก่อนจะส่งร่างของตนกระแทกกับพื้นดินราวกับอุกกาบาต ส่งผลให้ผืนดินสั่นไหวราวกับจะถล่มสิ้น แรงสั่นสะเทือนกระจายเป็นวงกว้างกว่าหลายกิโลเมตรโดยรอบและนั่นเป็นเพียงการพุ่งชนพื้นของหนอนยักษ์เพียงตัวเดียว
แต่ตอนนี้ในสายตาของพวกมันทั้งสิบมองเห็นจุดสีดําเล็กๆหลายสิบ หรืออาจจะมากถึงหนึ่งร้อยจุดอยู่บนท้องฟ้า!!
หากทั้งหมดนั้นตกกระแทกพื้นอย่างพร้อมเพรียงกันปาอสูรกําแพงธรรมชาติที่ขวางกั้น ระหว่างเผ่าอสูรและเผ่าปีศาจจักต้องราบเป็นหน้ากองด้วยพลังทําลายล้าง สถานการณ์เช่นนั้นคงเรียกเป็นอื่นมิได้นอกจาก…หายนะ!!
กรรษ
หน่วยสอดแนมตื่นตัวทันทีเมื่อได้ยินเสียงขู่คํารามของหมาป่าสามหัวศัตรูตนเดิมของพวกมันที่บัดนี้เข้ามาใกล้เคียงไม่ถึงสองเมตร เรียกได้ว่ากระชั้นชิดอย่างยิ่ง
เหล่าสมาชิกหน่วยทําตัวไม่ถูกเมื่อพบกับสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก สู้มิได้แถมไม่มีหนทางหนี สมาชิกครึ่งหนึ่งหันไปทางหนอนยักษ์ ส่วนอีกครึ่งหันไปทางหมาป่าขนเงินและพรรคพวกที่วางกําลังล้อมกรอบปิดหนทาง แต่สายตาของพวกมันยังปรายตามองจุดดําบนท้องฟ้านับร้อยจุดที่ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นทีละน้อยเป็นระยะเช่นกัน
” หัวหน้า พวกเราจะทํายังไงกันดี” สมาชิกรายหนึ่งกล่าวถามหาทางรอดจากสถานการณ์ปัจจุบัน
“รอกําลังเสริม” ผู้นําหน่วยตอบกลับ นั่นคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ สถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่มีสัตว์อสูรปรากฏตัวพร้อมกันมากกว่าสองตนขึ้นไป
สําหรับหมาป่าขนเงินสามหัวตนเดียวมิได้น่าหวาดกลัวอันใดนักเนื่องจากมันยังเป็นอสุรวัยเยาว์อายุและพลังฝึกปรือยังต่ําทรามไร้ประสบการณ์การต่อสู้ ฉะนั้นหน่วยสอดแนมที่มีสมาชิกสิบรายนี้ยังพอมีหวังที่จะรับมือกับมันได้ แม้พวกมันทั้งสิบจะไม่ชนะแต่ก็ไม่แพ้เช่นกัน
“แต่ท่านหัวหน้า อสูรพวกนี้มันจะปล่อยให้เราอยู่ถึงตอนนั้นหรือ…” สมาชิกหน่วยกล่าวด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ เมื่อดูจากจํานวนสัตว์อสูรนับสิบที่แฝงตัวในเงามืดล้อมหน้าอยู่นี้ เกรงว่าพวกมันคงไม่มีเวลาเหลือพอจะรอคอยกําลังเสริม
“ไม่ต้องห่วง พวกมันยังไม่โจมตีเข้ามาในเวลาอันใกล้นี้หรอก” ผู้นําหน่วยกล่าวด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ
“พวกเจ้าสังเกตุตอนที่หนอนยักษ์จะพุ่งเข้ามาชนเราหรือไม่? ตอนนั้นเจ้าหมาป่าสามหัวมันแอบหนีออกไปไกล แสดงว่ามันก็กลัวจะถูกหนอนยักษ์พุ่งชนเหมือนกัน แล้วดูบนท้องฟ้าตอนนี้สิ สัตว์อสูรพวกนี้ย่อมไม่กล้าเข้ามาใกล้เราอย่างแน่นอน ฉะนั้นเราจะใช้ช่วงเวลาชุลมุนหาช่องโหว่แอบหลบถ่วงเวลารอกําลังเสริมมาช่วยเหลือ หรือหากได้โอกาศเราจะหาช่องโหว่แอบหลบหนีออกไป!” ผู้นําหน่วยสอดแนมวิเคาะห์สถานการณ์อย่างสุขุม
“แบบนี้นี่เอง” สมาชิกหน่วยผงกหัวเมื่อฟังเหตุผลที่หัวหน้าของตนอธิบาย พวกมันลอบสังเกตุปฏิกิริยาของหมาปาขนเงินไปในตัว บางคราพวกมันก็เห็นว่าหนึ่งในสามศรีษะของหมาปาขนเงินชะโงกมองท้องฟ้าเป็นครั้งคราวเช่นกัน
เจ้าหมาป่าเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้มันอยู่ห่างจากหน่วยสอดแนมราวหนึ่งเมตรเศษ ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่อันตรายอย่างยิ่ง ไม่ว่าฝ่ายใดหากเริ่มเปิดฉากโจมตีอย่างฉับพลันสามารถเข้าประชิดตัวฝั่งตรงข้ามได้อย่างไม่ทันตั้งตัวเลยทีเดียว
“หึหึ” หน่วยสอดแนมเค่นเสียงหัวเราะ ริมฝีปากยิ้มยกประดับใบหน้า จากการคาดเดาความน่าจะเป็นของผู้นําหน่วยกอรปกับท่าทางของคู่ต่อสู้แล้วมันมีความน่าจะเป็นสูงยิ่งว่าสิ่งที่หัวหน้าของพวกมันวิเคาะห์นั้นถูกต้อง พวกมันมั่นใจอย่างยิ่งว่าศัตรูของตนย่อมไม่ผลีผลามบุกเข้ามาในเวลาหน้าสิวหน้าขวานนี้อย่างแน่นอน อย่างน้อยก็จนกว่าอุกกาบาตหนอนยักษ์ลูกสุดท้ายจะพุ่งชนพื้นดินนั่นแล
ทว่า…ความมั่นใจของพวกมันก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดีเมื่อจู่ๆหมาป่าขนเงินสามหัวย่อตัวต่ํา ถ่ายน้ําหนักไปที่ขาหลังทั้งสองข้างของมันคล้ายกับกําลังจะพุ่งโจมตี!!
คริด
มันใช้เวลาเตรียมตัวไม่ถึงหนึ่งวิก่อนจะบังเกิดเสียงขาทั้งสองข้างเสียดสีกับพื้นดิน ดีดตัวกระโจนไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่สูงพอๆกับมีดสั้นที่ถูกปาด้วยหัวหน้าหน่วยสอดแนม!
หมาปาขนเงินกระโจนตัวเข้าสู่กลางวงล้อม ด้วยเวลาอันกระชั้นชิดทําให้หน่วยสอดแนมมิมีเวลาเตรียมรับมือกับการโจมตีดังกล่าวพวกมันเบี่ยงตัวหลบการโจมตีออกเป็นซ้ายขวา เว้นช่องว่างตรงกลางที่เป็นเป้าหมายของหมาป่าอสูรโดยอัตโนมัติ