เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 697 ภารกิจลุล่วง
ตอนที่ 697 ภารกิจลุล่วง
ถ้าอย่างนั้นผู้ใช้วิชาพฤกษาเพียงคนเดียวสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของสัตว์อสูรด้วยวิชาที่พวกท่านใช้ได้ไหม? ผู้นําหน่วยสอดแนมกล่าวถามด้วยความสนใจ
มิเชิงซะทีเดียว แม้หนึ่งคนจะมิสามารถพันธนาการเจ้าอสูรร้ายได้อยู่หมัด แต่ก็ยังสามารถปั่นป่วนให้ศัตรูเสียจังหวะการเคลื่อนไหวและหยุดมันได้ชั่วครู่ กิ่งไม้ตอบกลับ
เข้าใจล่ะ ผู้นําหน่วยสอดแนมคิดในใจ มันเริ่มทราบถึงแผนการหลบหนีที่ผสานการทํางานของทหารเกราะเหลืองและทหารเกราะเขียวผู้ใช้วิชาพฤกษาขึ้นบ้างแล้ว การที่ทหารเกราะเหลืองให้พวกมันถอยหนีมาโดยการใช้ปีกที่ตนมิถนัดในการเคลื่อนที่นั้นแท้จริงแล้วก็เพื่อสอดคล้องกับวิชาของผู้ควบคุมพฤกษาเหล่านี้นั้นเอง
ด้วยระดับความสูงของพวกมันที่อยู่เหนือพื้นดินกว่าสองถึงสามเมตร เป็นการยากยิ่งสําหรับอสูรภาคพื้นดินที่จะโจมตี แต่ก็ใช่ว่าปลอดภัยถึงสิบส่วน เพราะอสูรเหล่านั้นบางสายพันธุ์ยังสามารถกระโดดบางตัวปืนปายต้นไม้เพื่อให้เข้าถึงระยะโจมตีของตน เมื่อถึงตอนนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของผู้ใช้วิชาพฤกษาที่จะก่อกวนขัดจังหวะหยุดการกระทําของพวกมัน ทําให้อสูรเหล่านี้เข้าใกล้เหยื่อของมันยากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ท่านกิ่งไม้ ผู้นําหน่วยลาดตระเวนกล่าว
ท่านกิ่งไม้? กิ่งไม้ทวนทําที่มันใช้เรียกตน
ข้าสงสัย ทําไมพวกท่านถึงไม่ฆ่าอสูรพวกนี้ไปเลยล่ะ? มันกล่าวต่อ
ผู้นําหน่วยสอดแนมมีปฏิกิริยาร่วมรอคอยคําตอบ คําถามของมันน่าสนใจไม่น้อย วิชา ควบคุมพฤกษาที่มีอานุภาพสูงมากพอจะสามารถจับกุมอสูรหนึ่งตนแม้จะใช้กําลังพลถึงห้าคนก็ตาม แต่มันก็นับว่าศักยภาพสูงล้ํากว่าหน่วยสอดแนมและหน่วยลาดตระเวนจากเมืองหลวงปีศาจที่มีสัดส่วนในการต่อกรกับเผ่าอสูรอยู่ที่หนึ่งต่อร้อย
แต่กระนั้นเหตุใดพวกมันถึงใช้วิธีการจับกุมแทนที่จะคร่าปลิดชีวิตของศัตรูในคราวเดียวเพื่อลดจํานวนคู่ต่อสู้มิให้เป็นภาระของบุคลากรผู้ใช้วิชาพฤกษาจองจําที่ต้องแบ่งจํานวนคนส่วนหนึ่ง เพื่อใช้ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของศัตรู? ซึ่งหากคิดตามความเป็นจริงแล้วการฆ่าย่อมง่ายกว่าการจับกุมเป็นไหนๆ
นักสู้ปีศาจจากเมืองเซียนลุยล้วนถือกําเนิดมาด้วยเมล็ดพันธุ์แห่งพฤกษาที่นั่งอยู่ในร่างกายของพวกเราทุกคน เมล็ดพันธุ์นี้จะเติบโตตามร่างกายของผู้ถือครองมันอยู่และสามารถดึงเอาพลังของมันออกมาใช้งานได้ แต่ทว่ามันก็มีข้อจํากัดในการใช้อยู่ สําหรับการควบคุมพฤกษาในระยะไกลนั้นพวกเรามิได้ใช้เมล็ดพันธุ์พฤกษาในร่างของตนเองโดยตรง แต่ใช้การควบคุมวิถีภายนอก โดยเข้าครอบงําต้นไม้ใบหญ้าแต่ละต้น ซึ่งพลังการโจมตีความผันแปรล้วนขึ้นอยู่กับต้นไม้ที่สิงสู่
ที่พวกเจ้าเห็นอสูรเหล่านี้ถูกจองจําพฤกษาพันธนาการการเคลื่อนไหวของมันได้นั้น ก็เป็นเพราะพลังของต้นไม้ในปาอสูรแห่งนี้นั่นแหละ สําหรับนักรบทั่วไปอย่างพวกข้าแล้วก็สามารถทําได้เพียงเท่านี้
ส่วนวิชาโจมตีนั้นสําหรับชาวพฤกษาแล้วมีข้อจํากัดในการใช้งานอยู่ นั่นก็คือจําเป็นต้องร่างกายของตนเป็นแกนกลางเพื่อดึงพลังของเมล็ดพันธุ์พฤกษาออกมาโจมตีคู่ต่อสู้ ซึ่งเท่ากับว่าระยะการโจมตีนั้นต้องอยู่บริเวณเดียวกับร่างต้นของพวกข้านั่นเอง
แต่ก็มีข้อยกเว้นสําหรับผู้มากความสามารถที่ฝึกปรือจนชํานาญในระดับสูง
อย่างนี้นี่เอง สองผู้นําหน่วยผงกหัว พวกมันทราบเพียงข้อมูลคร่าวๆของเมืองพันธมิตร หนึ่งในเผ่าปีศาจอย่างเมืองเซียนลุ่ย แต่สําหรับข้อมูลเจาะลึกถึงความสามารถแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันได้รับรู้
หืม? พวกท่านฆ่ามันไม่ได้ แต่พวกข้าทําได้มิใช่หรือ? ผู้นําหน่วยลาดตระเวนกล่าว
จริงด้วย พวกเราฆ่าเจ้าอสูรพวกนี้ได้นี่
ข้าเห็นด้วย
งั้นจะรออะไรกันล่ะ ลุย!! เหล่าสมาชิกทั้งสองหน่วยกล่าวด้วยน้ําเสียงที่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น
พวกมันลดระดับความสูงลงมาอยู่บนภาคพื้นดินควงอาวุธตระเตรียมตัวอย่างเพรียบพร้อมสําหรับการรุมสังหารอสูรร้ายที่ไร้ทางต่อกรคิด
ขณะที่นักรบปีศาจทั้งยี่สิบนายเตรียมตัวสําหรับการจู่โจมรุมสังหารอสูรร้ายที่ไร้ทางต่อกร ทันใดนั้นเองข้อเท้าของพวกมันทั้งยี่สิบนายถูกรากไม้ขนาดเล็กขึ้นพัวพันมัดหลวมๆติดกับพื้นดินหยุด การกระทําโดยผู้ใช้วิชาควบคุมพฤกษา
ท่านทําอะไร ผู้นําหน่วยสอดแนมขมวดคิ้วกล่าวด้วยสีหน้าไม่พึงพอใจนักที่ถูกขัดจังหวะที่มันจะกลายเป็นผู้ล่าแทนผู้ถูกล่า
รากไม้ที่มัดข้อเท้าของพวกมันคลายออกและเลื้อยไปเกาะกลุ่มรวมกันเบื้องหน้าของนักรบทั้งยี่สิบพร้อมกับประดิษฐ์ประโยค
นี่มิใช่หน้าที่ของพวกเจ้า!!
สิ่งที่พวกเจ้าต้องทําคือการกลับออกไปจากปาอสูรโดยไวที่สุด กลุ่มของพวกเจ้าทั้งสองสําหรับตอนนี้นับว่าช้ากว่าเวลาที่คาดการณ์มากแล้ว อย่าให้การทําเรื่องไร้สาระของพวกเจ้าทําให้ภาระหน้าที่ของพวกข้าเพิ่มขึ้นมาอีกเลย นี่คือสิ่งที่มันสื่อ
แต่ว่า… เหล่าสมาชิกหน่วยกล่าวเสียงละห้อย
มองไปตามรายทางตอนนี้พวกมันมองเห็นสัตว์อสูรที่ถูกจับมัดติดอยู่กับต้นไม้ใหญ่ไม่ต่ํากว่าสิบตัว นี่ยังไม่รวมถึงทางข้างหน้าที่อยู่นอกเหนือการมองเห็นอีก หากจํานวนของพวกมันมีใกล้เคียงกับบริเวณนี้ไปสุดทางจนถึงทางออกปาอสูร คาดว่าจํานวนคร่าวๆคงมีมากกว่าหนึ่งร้อยตัวเป็นอย่างต่ํา
หนึ่งร้อยตัว หนึ่งร้อยตัวนี้มิใช่จํานวยน้อยๆเลยสําหรับเผ่าอสูรที่มีอัตราส่วนเมื่อเทียบกับเผ่าปีศาจ หากสามารถปลิดชีวิตอสูรในจํานวนนี้ได้นับว่าเป็นผลประโยชน์สูงสุดต่อเผ่าปีศาจที่พวกมันเชิดชูอย่างยิ่ง และมิต้องกล่าวถึงเกียรติยศความภาคภูมิที่จะตามมาหลังการกระทําของพวกมัน นักรบปีศาจยี่สิบนายผู้สังหารสัตว์อสูรนับร้อย
เพิ่มระดับความสูงและมุ่งหน้าตามข้ามา ผู้ใช้วิชาพฤกษาบังคับรากไม้มุดกลับหายเข้าไปในดินยังที่ที่มันควรอยู่ดังเดิม เปลี่ยนวิธีการสื่อสารมาใช้แบบฉบับเก่าโดยใช้กิ่งไม้ที่งอกออกมาจากลําต้นที่มีความอิสระมากกว่ามันแปรเปลี่ยนลูกศรขนาดใหญ่ชี้ตรงไปยังเส้นทางข้างหน้า
ผู้นําหน่วยสอดแนมและหน่วยลาดตระเวนทําตามประสงค์อย่างไม่บ่ายเบี่ยงกระพือปีกเก็บอาวุธขึ้นไปเหนือพื้นดินสองถึงสามเมตรดังเดิม เหล่าสมาชิกแม้จะผิดหวังอยู่บ้างแต่พวกมันก็ไม่มีทางเลือกอื่นติดตามผู้นําของตนไปติดๆ
ทั้งสองหน่วยรวมเป็นหนึ่ง นักรบทั้งยี่สิบเคลื่อนที่ตามกิ่งไม้ผู้นําทางไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพราะสองข้างทางที่พวกมันใช้เดินทางนั้นล้วนถูกขนาบข้างด้วยสัตว์อสูรมากหน้าหลายตาต่างสายพันธุ์ถูกจับมัดกําลังดินรนบ้างก็แสดงความดุร้ายส่งเสียงขู่ ในจํานวนเหล่านี้มีหลายตัวที่พวกมันเคยเห็นเพียงแค่ภาพเหมือนที่ถูกวาดด้วยน้ํามือของผู้ที่เคยพบเห็นในตําราเท่านั้น เรียกได้ว่า ในครั้งนี้พวกมันได้เห็นสัตว์อสูรตัวเป็นๆสายพันธุ์ใหม่ที่มิเคยพบตัวแล้วตัวเล่า
เส้นทางที่โรยไปด้วยขวากหนามบัดนี้ถูกทําความสะอาดโดยกําลังพลจากเมืองเซียนลุยกรุยทางมุ่งตรงสู่ทางออกอย่างราบรื่นไร้สิ่งกีดขวาง เพียงไม่กี่นาทีพวกมันก็มาถึงเขตชายแดนของป่าอสูร ตรงจุดนี้จํานวนของสัตว์อสูรที่รอาจเข้ามาในระยะการควบคุมของผู้ใช้วิชาพฤกษาเริ่มร่อยหลอลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ยังมีให้เห็นบ้างประปรายที่ถูกมัดตรงต้นไม้ตามรายทาง
นักรบปีศาจที่รับฟังเสียงสัตว์อสูรคร่ําครวญจนหนาหูจึงเริ่มรู้ตัวว่าด้านหลังของพวกมันมีเสียงแว่วรําไรจากหน่วยย่อยผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่นที่ตามติดมาไม่ทิ้งระยะมากนัก
มองไปยังบนท้องฟ้ากองทัพเกราะเหลืองผู้ใช้พลังแห่งวายุเริ่มตั้งขบวนรับมือกับอสูรสัตว์ปีกเป็นส่วนใหญ่ แสดงว่ากลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเริ่มลดน้อยลงจนพวกมันมีกําลังพลที่ว่างงานเพิ่มมากขึ้นแล้วนั่นเอง ซึ่งในบทสรุปนั้นไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเพราะหน่วยย่อยทั้งหลายได้ถูกช่วยเหลือจนเกือบหมดหรือเป็นเพราะหน่วยย่อยเหล่านั้นเหลืออยู่รอการช่วยเหลือแล้ว
ดูท่าแผนการช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งกว่าที่คาดเอาไว้ หากเป็นไปแบบนี้คาดว่าก่อนจะถึงรุ่งเช้าภารกิจครั้งนี้คงสําเร็จรูร่วงไปด้วยดี
เอาล่ะ หน้าที่ของข้าก็หมดเพียงเท่านี้ บริโดยรอบเป็นเขตปลอดอสูรพวกเจ้าแค่เดินไปตามเส้นทางก็จะกลับออกไปได้อย่างปลอดภัย และแล้วก็มาถึงบทสรุปสุดท้ายของความชุลมุนวุ่ยวายในป่าอสูร กิ่งไม้ผู้นําทางพวกมันมาจนตลอดรอดฝั่งได้อําลาและจากไปหายเข้าไปในต้นไม้ใกล้เคียง