เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 81-82
ตอนที่ 81 เมืองลึกลับ
หลินหยางแม้เขาจะปลิดชีวิตสไลม์ไปร่วมสิบตัวระดับของเขาก็มิได้เพิ่มสูงขึ้นแต่อย่างใด
หลินหยางกำลังเดินดูรอบๆซากเหล่าสไลม์เขาอยากเก็บร่างกายของพวกมันไว้เสียจริง ร่างกายที่มีพลังในการกัดกร่อนสูงไม่ต่างกับยาพิษร้ายแรงแต่ก็เป็นปัญหาในการจัดเก็บเช่นกันเพราะแม้แต่เหล็กยังละลายคงไม่มีอะไรสามารถบรรจุพวกมันได้
ในเมืองของเขายังมีพิษชนิดนึงอยู่นั่นคือเลือดกบพิษพวกเขาเก็บรักษาโดยถลกหนังของกบพิษและใส่เลือดมันไว้ภายใน แต่สำหรับเจ้าสไลม์ที่ร่างกายเหมือนวุ้นนี้พอมันเสียชีวิตลงร่างกายก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆผืนดินรอบๆที่โดนเศษชิ้นส่วนของมันตกกระทบถึงกับใหม้เกรียม
แต่เขาก็ยังอยากได้เพิ่มอยู่ดีเพราะมันไม่สามารถผลิดอกออกผลได้มันคือสิ่งที่หากใช้ไปแล้วก็หมดไป
หลังจากรวบรอบสิ่งของที่ได้จากพวกมันเขาได้เหรียญเงินทั้งหมดร้อยห้าสิบเหรียญ โดยเขาแบ่งให้คนแคระไปเพียงห้าสิบเหรียญเท่านั้น ส่วนที่เหลือแบ่งให้คนของเขาอย่างเท่าเทียมเพราะการต่อสู้ครานี้พวกเขาฆ่าชีวิตสไลม์ไปได้กว่าสี่สิบตัวเรียกได้ว่าแทบจะทั้งหมดฝูงของมันเลยทีเดียว แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่พบหนังสือทักษะใดๆหล่นออกมาจากตัวพวกมันเลย
“ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยเหลือพวกเรา” คนแคระลู่คงกล่าวเมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง
“ไม่เป็นไร ท่านพอจะซ่อมพวกนี้ได้ไหม” หลินหยางกล่าว
“ได้แน่นอน” ลู่คงกล่าว โดยพวกเขาซ่อมให้โดยมิหวังสิ่งตอบแทนนั่นคือสุราของโปรด เนื่องจากอาวุธที่เสียเป็นเพราะช่วยพวกเขากำจัดสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อเมืองพวกเขา
ณ เมืองคนแคระ
หลินหยางสังเกตุบางอย่าง เมื่อตอนที่พวกเขาต่อสู้กับเหล่าสไลม์ บริเวณรอบๆมีคนที่คอยสอดแนมพวกเขาอยู่น่าจะมีไม่ต่ำกว่าห้าเมือง เพราะพวกมันซุ่มอยู่กันคนละทิศ คนเหล่านี้คงจะเป็นเมืองที่พึ่งมาใหม่และอยู่ใกล้ๆเป็นแน่
หลังจากพูดคุยกับเหล่าคนแคระไม่นานหลินหยางก็ขอตัวกลับ ตอนนี้ก็ช่วงเย็นมาแล้วถึงกำหนดเวลาที่ต้องกลับเมืองของทีมสำรวจ หากพวกเขากลับไปช้าคนอื่นคงเป็นห่วง เนื่องจากคราก่อนพวกเขาไม่กลับเมืองถึงสองวัน
———————————————————————-
ณ สถานที่แห่งหนึ่งไม่ไกลจากเมืองคนแคระ
“พวกมันกลับไปแล้ว” ชายคนหนึ่งกล่าว
“ส่งคนตามพวกมันไปดูว่าเมืองมันอยู่จุดไหน” เสียงผู้หญิงกล่าวขึ้น
“ครับ!” เมื่อได้รับมอบหมายคนกลุ่มนี้เร่งรีบติดตามไปทันที
พวกเขาคือหนึ่งในผู้ที่เฝ้ามองการต่อสู้ของหลินหยางกับเหล่าสไลม์นั่นเอง
——————————————————————————-
ณ เมืองหลินหยาง
หลินหยางกำลังยืนมองทีมก่อสร้างที่ทำงานกันอย่างขมักเขม่น
ตอนนี้กำแพงเมืองใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว มองจากสายตาไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์คงเสร็จสิ้น เนื่องจากทีมก่อสร้างที่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาตอนนี้มีเกือบห้าสิบคน การทำงานจึงรวดเร็วอย่างมากนับว่าเป็นผลดีจริงๆ
“พี่หยาง ตอนที่พี่ออกไปสำรวจมีเอลฟ์มาหา แต่คลาดกับพี่พวกมันเลยบอกว่าจะมาหาพรุ้งนี้” เทียนหนิงเจี้ยนกล่าวแก่หลินหยาง
“ขอบคุณ” หลินหยางถามกล่าวพลางอดสงสัยมิได้
เทียนหนิงเจี้ยนรายงานเรื่องราวต่างๆตามปกติ เมื่อหลินหยางอยู่ในเมืองเทียนหนิงเจี้ยนจะคอยติดตามเขาตลอดคล้ายกับเป็นเลขาส่วนตัวก็มิปาน
วันรุ่งขึ้น
หลินหยางวันนี้เขามิได้ออกไปกับทีมสำรวจเนื่องจากรอคอยการมาของเอลฟ์ เขาฝึกยิงธนูอยู่มิปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปอย่างสิ้นเปลือง
“ท่านหลินหยาง!” เสียงตะโกนเสียงดังเรียกร้องชื่อของเขา
เมื่อเห็นผู้มาหลินหยางก็ขมวดคิ้วเพราะปกติจะเป็นลี่จูที่มาหาเขา แต่ตอนนี้กลับเป็นเอลฟ์เด็กตัวน้อย
“มีอะไร” หลินหยางกล่าวถาม
“หมู่บ้านเอลฟ์ถูกล้อมไว้หมดแล้ว!!” เอลฟ์ตนนั้นกล่าวด้วยใบหน้าซีดเซียวมิทราบมันวิ่งมาจนถึงที่นี่หรือไม่
ตอนที่ 82 รู้ตัว
“อะไรนะ” หลินหยางตกใจ เมืองเอลฟ์ตอนนี้มีกำลังคนกว่าร้อยคนแถมระดับพวกเขามิต่ำทราม การที่จะมีเมืองอื่นมาล้อมเมืองพวกเขาไว้เช่นนี้ หากเป็นเมืองเดียวคงไม่สามารถทำได้
“ส่งคนออกไปตามทีมสำรวจกลับมา ทีมจู่โจมไปกับผม” หลินหยางสั่งการทันที
“ครับ!” หลินหยางรีบเร่งไปเมืองเอลฟ์ทันที
เมื่อเขาได้ฟังเรื่องราวจากเอลฟ์ตัวน้อยเขาพอจะทราบเรื่องราวขึ้นมาบ้าง
นั่นคือเมื่อวานนี้มีมนุษย์กลุ่มนึงราวสิบคนมาที่เมืองของเขา ต้องการให้พวกเขาสวามิภักตกอยู่ภายใต้การปกครองของมัน
โดยพวกมันอ้างตนว่าพวกมันมาถึงที่แห่งนี้ได้กว่าหนึ่งปีแล้ว เมื่อทราบเช่นนั้นเอลฟ์ก็ได้ส่งคนมาที่เมืองของเขาเมื่อวานแต่มิได้พบกับหลินหยางจึงกลับไปเพราะยังมิมีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไร เพียงแต่ตอนเช้ามืดของวันนี้พวกมนุษย์กลับพากำลังพลกว่าร้อยคนเพื่อมาล้อมรอบหมู่บ้านเอลฟ์เพื่อกดดันพวกเขา แต่ยังมิได้เกิดการปะทะกัน
หลินหยางเขาพาคนติดตามมาด้วยยี่สิบเจ็ดคน โดยเป็นทีมจู่โจมที่มีสมาชิกทีมเป็นมนุษย์หมาป่าทั้งสามทีม ที่เขาเลือกทีมนี้มาเพราะทีมนี้ทั้งหมดมีความโดดเด่นเรื่องความเร็ว เขาต้องการไปให้ถึงหมู่บ้านเอลฟ์ให้ไวที่สุด
———————————————————————————
ณ หมู่บ้านเอลฟ์
“พวกเราจะทำยังไงกันดีลี่จู” หัวหน้าหมู่บ้านเอลฟ์กล่าวถาม เพราะตอนนี้บทบาทสำคัญในการตัดสินใจอยู่ที่ลี่จู เขาคือเอลฟ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้
“พวกเรารอท่านหลินหยางมาก่อนดีไหม” เอลฟ์ตนนึงกล่าว
“หากรอท่านหลินหยางคงไม่ทันการณ์” เอลฟ์อีกตนกล่าว
ตอนนี้ลี่จูคิดหัวแทบหมุน เขามิทราบวิธีจัดการกับปัญหาตรงหน้า หากพวกมันบุกเข้ามาพวกเขาก็ต้องปกป้องหมู่บ้านไว้สุดชีวิต แต่พวกมันมิได้บุกเข้ามาทันที มันยื่นข้อเสนอต่อรอง
“เห้ยพวกแกตัดสินใจได้ยัง” มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากนอกหมู่บ้าน
“ข้าจองเอลฟ์ตัวนั้นน่ะ ฮ่าๆ” ชายคนนึงกล่าวพลางหัวเราะ
“งั้นข้าจองคนนั้น” ด้านนอกหมู่บ้านเอลฟ์ตอนนี้มีเสียงหัวเราะเสียงดัง ราวกับพวกมันทราบผลการเจรจาครั้งนี้แล้ว
เวลาผ่านไปเรื่อยๆพวกมันก็ยังมิจู่โจม เพียงพูดคุยหว่านล้อมให้เหล่าเอลฟ์ยอมรับข้อเสนอเสีย
——————————————————————————–
เวลาผ่านไป
ตอนนี้หลินหยางและพวกใกล้ถึงหมู่บ้านเอลฟ์แล้ว จากการเดินทางเมื่อเอลฟ์ตัวน้อยยังมิได้ยินเสียงเตือนของการลดจำนวนประชากรของเมือง แสดงว่าพวกเขายังมิได้สู้รบกัน เมื่อทราบเขาก็โล่งใจอยู่
เมื่อมาถึงหมู่บ้านเอลฟ์หลินหยางมองจากระยะไกล เห็นคนกว่าร้อยคนยืนล้อมหมู่บ้านเอลฟ์ที่มีขนาดหนึ่งสนามฟุตบอลอยู่ทุกทิศทาง
หากมีเพียงแค่นั้นหลินหยางคงมิต้องกังวล แต่พวกมันกลับมีอาวุธอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ มันคล้ายกับรถยิงธนูของเขาเพียงแต่มันมิได้ใช้สายเพื่อเหนี่ยวรั้ง มันใช้แรงเหวี่ยงแทนโดยสิ่งที่อยู่ในหลุมเหวี่ยงนั้นคือก้อนหิน
“นี่มันเครื่องตีเมือง!” หลินหยางอุทาน
พวกมันเหล่านี้มีรถยิงหินกว่าสามคัน หากมันโจมตีเข้าใส่เมืองของเขามิทราบต้องเสียหายเท่าใด
เนื่องจากปกติสิ่งมีชีวิตที่มีภัยต่อเมืองของเขามีเพียงสัตว์ประหลาดเท่านั้น เขาจึงสร้างเพียงรถยิงธนูเพื่อโค่นพวกมันจนลืมไปเสียสนิทว่าเมืองอื่นๆก็สามารถทำให้เมืองของเขาล่มสลายได้เช่นกัน
“เห้ยแกเป็นใคร” อยู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมา พวกพุ่งเป้ามาที่หลินหยางและพวก
เห็นดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างกับพวกมันไกลโข และอาศัยสายตาของเขาจะกว้างไกลกว่าเดิมด้วยทักษะตาเหยี่ยวแอบมองอยู่ห่างๆ
เขาไม่คิดว่าพวกมันจะรู้ตัว