เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 83-84
ตอนที่ 83 ฉือเฉียว
“นั่นมันพวกเมืองที่อยู่ทางใต้สามสิบกิโลครับลูกพี่” ชายคนหนึ่งกล่าวด้วยความอ่อนน้อม กับคนพี่ดูแล้วเหมือนจะเป็นหัวหน้า
หลินหยางตกใจเมื่อทราบว่าพวกมันรู้ตัว เขาคิดจะใช้แผนการเดิมคราที่ใช้กับเจี้ยวจ้าน นั่นคือเมื่อพวกมันจู่โจมเหล่าเอลฟ์เขาก็จะโจมตีตลบหลัง หากพวกมันมิทราบว่าพวกเขาร่วมมือกันอยู่นี่คือแผนการที่ได้ผลดีที่สุด
เขาใช้ทักษะตาเหยี่ยวมองชายที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้า
ชื่อ ฉือเฉียว เผ่า มนุษย์ อาชีพ ผู้เริ่มต้น
ระดับ 5
สถานะ
พลัง 1.4
ป้องกัน 1
ความเร็ว 1
วิญญาณ 1
ทักษะ ระวังภัย ระดับ 2 8/10
ทักษะติดตัว กายาเหล็ก ระดับ 1 9/10
คำอธิบาย : ไม่มี
‘หืม ระดับ 5 แต่ทักษะมัน..’ หลินหยางคิดพลางนึกได้จึงใช้ทักษะตาเหยี่ยวตรวจคนอื่นๆ
ผู้คนของมันล้วนมีระดับแปดมีส่วนน้อยที่มีระดับเก้า แต่ที่น่าแปลกใจคือคนอื่นๆไม่มีทักษะใดๆเลยแม้แต่คนเดียว
เขาจึงได้ข้อสรุป เจ้าฉือเฉียวนี้คงบังคับให้คนอื่นส่งทักษะที่พวกเขาได้รับให้แก่มันเพียงผู้เดียว มันจึงมีระดับทักษะที่สูงเช่นนั้นเพราะมันมีเพียงระดับห้า แต่ค่าทักษะของมันกับเกินระดับของมันไปมากโข
พวกมันรู้แม้กระทั่งที่ตั้งเมืองของเขา แสดงว่าพวกมันคงเตรียมตัวมาไม่น้อย ในเมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็มิจำเป็นต้องซ่อนตัวอีกจึงเดินเข้าไปหามัน
“พวกคุณต้องการอะไร” หลินหยางกล่าวถาม
“ต้องการอะไร? ฮ่าๆต้องการให้พวกเอลฟ์ปลอดภัย” ฉือเฉียวตอบกลับ
“ปลอดภัย?” หลินหยางถามอย่างงุนงง
“ใช่แล้ว หากพวกมันเข้าร่วมกับเมืองของพี่พวกมันย่อมปลอดภัย” ฉือเฉียวกล่าวพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
‘นี่มันตรรกะบ้าอะไร’ หลินหยางคิด
“เจ้าหนูพวกแกไม่ต้องรีบ เดวเสร็จจากเมืองนี้พวกแกก็คือรายต่อไป” มันกล่าวย้ำ
หลินหยางขมวดคิ้วเมื่อทราบจุดประสงค์ของมัน พวกมันคงไม่ให้เหล่าเอลฟ์เข้าร่วมเมืองของมันเฉยๆแน่ ดูจากแววตาที่หื่นกระหายน้ำลายย้อยของมัน ผู้ชายคงตกเป็นทาสส่วนสตรีคงไม่ต่างกับนางบำเรอ
พวกมันไม่น่าไว้ใจยิ่งนัก ตอนนี้เขาอยู่ไม่ห่างจากพวกมันมาก หากต้องต่อสู้ย่อมไม่ไหวเป็นแน่เพราะเขานำคนมาเพียงยี่สิบเจ็ดคนเท่านั้น หากมันเปลี่ยนเป้าหมายจากหมู่บ้านเอลฟ์เป็นพวกเขาแทนต้องแย่แน่
“หากพวกเราไม่ต้องการเข้าร่วมเมืองของคุณจะเกิดอะไร?” หลินหยางกล่าวถามยื้อเวลา เขาได้ให้คนไปตามทีมสำรวจกลับมา และให้พวกเขาตามมาสมทบ
“ตาย!” ฉือเฉียวตอบกลับเพียงคำเดียวเท่านั้น แต่ช่างเป็นคำพูดที่โหดร้ายไม่ปล่อยให้พวกเขาเลือกเส้นทางอื่น
“หากเราสู้กันไปกองกำลังของทั้งสองฝ่ายย่อมต้องมีผู้สูญเสีย แต่ผมมีข้อเสนอที่ดีกว่านั้น คิดว่าคุณคงจะสนใจมากกว่า” หลินหยางกล่าว
“ข้อเสนออะไร” ดูเหมือนฉือเฉียวจะสนใจอยู่เช่นกัน เป็นอย่างที่หลินหยางกล่าวหากพวกเขายอมหักไม่ยอมงอ ก็มีแต่ต้องสู้รบกันเท่านั้น หากเป็นแบบนั้นพวกเขาจะไม่ได้สิ่งที่ต้องการและอาจยังต้องเสียคนไปเปล่าๆเสียด้วย
“อาหาร” หลินหยางกล่าว
“มากแค่ไหน” ฉือเฉียวถาม
“มากพอสำหรับร้อยคนในหนึ่งเดือน” หลินหยางยิ้มเมื่อเห็นว่าข้อเสนอของเขาได้รับความสนใจ
แม้เขาจะมีกองหนุนมาสมทบแต่ระดับพวกเขาแตกต่างกันเกินไปย่อมมิมีเปรียบในชัยชนะ ถึงแม้จำนวนคนจะเยอะกว่าแต่เขาก็ไม่อยากสูญเสียแม้แต่คนเดียว
“ข้อแลกเปลี่ยนของแกล่ะ” ฉือเฉียวถามกลับ มันทราบดีว่าไม่มีของฟรีในโลก
“พันธมิตร” หลินหยางกล่าวพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์มิทราบเขาคิดสิ่งใดอยู่
ตอนที่ 84 สุรา
ฉือเฉียวเมื่อได้ยินเช่นนั้นมันยิ้มแก้มปริ เพราะมันมิต้องสูญเสียสิ่งใดเลยแต่ได้อาหารมาฟรีๆ แม้พวกมันจะมิขัดสนแต่ยิ่งมีมากก็ย่อมดีกว่ามันจึงมิปฏิเสธ
“ตกลง” มันตอบกลับ
หลินหยางเมื่อได้รับคำตอบก็ยิ้มขึ้นเช่นกัน
“พวกคุณอยู่ที่นี้มาหนึ่งปีแล้วหรอ” หลินหยางกล่าวถามออกไป
“ใช่ พวกเราอยู่มาหนึ่งปีแล้วเพราะฉะนั้นพวกแกอย่าคิดตุกติก พรุ้งนี้ให้คนส่งของตามที่ตกลงกันไว้ไปที่เมืองของเรา” ฉือเฉียวกล่าวพลางเดินทางกลับไป ดูท่าพวกที่ล้อมหมู่บ้านเอลฟ์จะมิใช่คนทั้งหมดของมัน มันทิ้งคนไว้กว่าห้าสิบคนเพื่อคุมพื้นที่ไว้
หลินหยางยิ้มแห้ง เขาคิดจะสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับโลกนี้จากมัน แต่มันกลับมิเปิดโอกาศให้เขาได้เปิดปากก็กลับไปเสียแล้ว
‘ดูท่ามันจะมีสมองอยู่’ หลินหยางคิด เขาคงต้องเอาอาหารให้พวกมันอย่างที่ตกลงเพื่อให้พวกมันถอนกำลังไปจนหมด
เมื่อความกดดันหมดไปเขาจึงเดินเข้าไปภายในเมืองเอลฟ์
“ท่านหลินหยางท่านทำยังไงถึงไล่พวกมันไปได้” ลี่จูกล่าวอย่างตื่นเต้นเพราะพวกเขามองอยู่ภายในหมู่บ้านจึงมิได้ยินที่พวกเขาตกลงกัน เหล่าเอลฟ์เมื่อเห็นหลินหยางประจัญหน้ากับฉือเฉียวพวกเขาคิดว่าคงเกิดการสู้รบกันเป็นแน่จึงเตรียมตัวสนับสนุนหลินหยางอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งฉือเฉียวจากไป พวกเขาจึงโล่งอก
“ไม่มีอะไรหรอก” หลินหยางยิ้ม
“ลี่จูผมต้องการสุรายี่สิบถังภายในวันพรุ้งนี้พวกคุณพอจะมีไหม” หลินหยางกล่าว
“พวกเรายังมีอยู่ ว่าแต่ท่านหลินหยางจะเอาไปทำไมมากมายขนาดนั้นหรือ” ลี่จูกล่าวถามด้วยความสับสน ปกติพวกเขาก็แวะเวียนเอาสุราไปให้เมืองของหลินหยางตลอด แต่พวกเขาก็มิได้ดื่มกินกันอย่างสิ้นเปลืองนัก ครานี้หลินหยางต้องการสุราถึงยี่สิบถังซึ่งมากกว่าปกติที่พวกเขาดื่มกันในหนึ่งเดือนเสียอีก
“อีกไม่นานพวกคุณจะรู้เอง” หลินหยางกล่าวพลางยิ้มอย่างชั่วร้าย หากใครมาเห็นหน้าเขาตอนนี้คงคิดว่าเขาเป็นคนเลวทรามเป็นแน่
ณ เมืองหลินหยาง
ตอนนี้ทีมระยะใกล้กำลังนั่งอยู่ในเพิงพักล้อมถังสุรากว่ายี่สิบถังโดยมีเศษผ้าปิดจมูก เหล่าเอลฟ์ส่งสุรามาทันทีที่หลินหยางกลับเมืองพวกเขาทำงานอย่างรวดเร็วนับว่าเป็นเรื่องดี
“ระวังล่ะ อย่าให้หกแม้แต่หยดเดียว” หลินหยางกล่าวใบหน้าจริงจัง
“ครับ!” ทีมระยะใกล้ตอบกลับรวดเร็ว
หลินหยางกำลังเทน้ำบางอย่างลงไปในถังสุราของเอลฟ์ ทีมระยะใกล้ทำตามมิผิดเพี้ยน
พวกเขาทำงานกันอย่างระมัดระวังยิ่งนัก เม็ดเหงื่อผุดอยู่บนใบหน้าของทุกคนราวกับกำลังทำเรื่องเสี่ยงชีวิต
โดยเขาเว้นไว้หนึ่งถังที่มิได้เสริมเติมแต่งอะไรลงไป
ตอนเช้า
หลินหยางยืนอยู่หน้าเกวียนไม้ขนาดใหญ่จำนวนห้าคัน สามคันบรรทุกถังไม้ยี่สิบถังส่วนอีกสองคันบรรทุกเนื้อกระรอกตากแห้ง เขากำลังเตรียมตัวเดินทางไปยังเมืองของฉือเฉียว จำนวนคนที่เขาพาไปด้วยนี้มากกว่าห้าสิบคนโดยมีทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมทั้งหมด ราวกับพวกเขาจะไปออกรบ
ด้านหลังของพวกเขาห้อยเนื้อกระรอกตากแห้งไว้ทุกคน เนื่องจากเกวียนที่ใช้บรรทุกไม่พอกับจำนวน
พวกเขาต้องไปพบกับคนของฉือเฉียวที่ล้อมหมู่บ้านเอลฟ์เสียก่อน พวกมันจึงจะนำทางไปเมืองของมัน
“ออกเดินทางได้” หลินหยางให้สัญญาณใบหน้าเขายิ้มรื่น
เมื่อสิ้นเสียงหลินหยางคาราวานขนสิ้นค้าออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเอลฟ์ทันที