เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 103
大姐大 บทที่ 103: บาร์บีคิวที่ลานบ้าน 2
“อื้อ” เจี่ยนอีหลิงตกลง จากนั้นเธอก็หันตัวไปยังเตาบาร์บีคิวและเริ่มต้นย่าง
เจี่ยนหยู่เจี๋ยและหยูซียืนอยู่ถัดจากเจี่ยนอีหลิงทางด้านซ้ายและขวา นี่เป็นผลจากการปรึกษาหารือกันระหว่างคนทั้งสองเมื่อพวกเขาอยู่ด้านใน
เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด พวกเขาจึงติดตามเจี่ยนอีหลิงในวันนี้
“ต้องการกินอะไรก่อน” เจี่ยนอีหลิงเงยหน้าขึ้นมาถามเจี่ยนหยู่เจี๋ย
“ขอเป็นหอยเชลล์ก่อน” เขาเป็นคนแกะฝาหอยด้วยตนเอง จากนั้นเจี่ยนอีหลิงจึงใส่กระเทียมสับละเอียดและทำการปรุงรส
เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า
จากนั้นเธอก็หันไปหาหยูซีและถามว่า “ต้องการกินอะไร”
หยูซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ขอเป็นเนื้อแกะเสียบไม้สิบไม้”
เพระว่าเจี่ยนอีหลิงเพิ่งหั่นเนื้อแกะ เธอจึงเริ่มใช้ไม้เสียบมันเข้าด้วยกัน
จากนั้นเจี่ยนอีหลิงก็เริ่มย่าง หอยเชลล์วุ้นเส้น เนื้อแกะเสียบไม้ กุ้งย่าง และข้าวโพดย่าง ในเวลาเดียวกัน
กุ้งย่างสำหรับย่าเจี่ยน
ข้าวโพดย่างสำหรับปู่เจี่ยน
ในการย่างของต่างๆในเวลาเดียวกัน ลักษณะท่าทางของเจี่ยนอีหลิงนั้นดูเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ
จ๋ายหวินเชิ่งซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ห่างออกไปไม่ถึงสองเมตรดูเหมือนไม่พอใจ
“นายท่านเชิ่งล่ะ”
ทำไมเธอจึงไม่ถามเขา
เธอถามทั้งเจี่ยนหยู่เจี๋ยกับหยูซี แต่กลับพลาดจ๋ายหวินเชิ่ง
ใช่แล้ว หยูซีมองไปที่เจี่ยนอีหลิงอย่างสงสัย ซึ่งเธอดูเหมือนจะกำลังยุ่งอยู่ตรงหน้าเตาบาร์บีคิว
แม้ว่านายท่านเชิ่งไม่ได้ช่วยในครัวเมื่อกี้นี้ อย่างน้อยเขาก็ช่วยตอนที่ไปจ่ายตลาดซื้ออาหารวันนี้
เขาช่วยเจี่ยนอีหลิงด้วยตนเอง ไม่ได้ให้บอดี้การ์ดทำ
“นายกินผัก
เจี่ยนอีหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคง
“ทำไม” จ๋ายหวินเชิ่งยืนขึ้นในทันทีและเดินไปที่ด้านข้างของเจี่ยนอีหลิง
หยูซีถึงกับผงะกับการกระทำของจ๋ายหวินเชิ่ง
โอ กระต่ายน้อยเหมือนจะสร้างความไม่พอใจให้กับนายท่านเชิ่ง
หยูซีดูจะเป็นกังวลเล็กน้อยกับเจี่ยนอีหลิง
สัญญาณเตือนภัยในใจของเจี่ยนหยู่เจี๋ยดังขึ้น และเขาก็จ้องมองไปยังจ๋ายหวินเชิ่งอย่างระแวดระวัง
เขาดูเหมือนว่าพร้อมจะสู้สุดชีวิต ถ้าอีกฝ่ายกล้าก้าวเข้ามาอีกก้าว
หยูซีกำลังจะพูดจาหว่านล้อมคนทั้งสองไม่ให้บานปลาย แต่ก็ได้ยินเสียงแว่วหวาน สงบเรียบ และแจ่มชัดของเจี่ยนอีหลิงออกมาก่อน
“หลีกเลี่ยงไขมัน คอเลสเตอรอล หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงโปรตีนที่มีแคโลรี่สูง หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดร้อน”
ขณะที่เธอพูด เจี่ยนอีหลิงก็หันหน้าไปยังจ๋ายหวินเชิ่ง สีหน้าของเธอจริงจัง และไม่มีความหวาดกลัว
หัวใจของจ๋ายหวินเชิ่งไม่ดีเท่าไหร่ ไม่ว่าเขาจะใช้ชีวิตอย่างปกติธรรมดาเท่าไหร่ก็ตาม ไม่ว่าเขาจะมีจิตใจที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม เขาไม่สามารถที่จะซ่อนเร้นความจริงที่ว่าเขามีร่างกายบอบบางเพียงไหน
หยูซีรีบพูดขึ้นว่า “น้องสาวอีหลิง น้องไม่รู้ว่านายท่านเชิ่งไม่ชอบกินมังสวิรัติ มันค่อนข้างจะขม”
ตระกูลจ๋ายมักจะปวดหัวอยู่ตลอด
พวกเขาต้องการให้จ๋ายหวินเชิ่งกินอาหารเบาๆ แต่ด้วยอารมณ์ของจ๋ายหวินเชิ่งทำให้เขาไม่รับฟังเลยแม้แต่น้อย
ตระกูลจ๋ายกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อตัวเขาถ้ากินอาหารที่มีโปรตีนสูงมีคอเลสเตอรอลสูงมากเกินไป แต่อารมณ์ของเขานั้นก็ยิ่งอันตรายไปกว่านั้น
หลังจากคิดหน้าคิดหลังแล้ว พวกเขาก็ได้แต่เพียงเลือกที่จะประนีประนอมพยายามที่จะลดอาหารที่มีโปรตีนและไขมันสูงในอาหารประจำวันของเขาเท่านั้น
เจี่ยนอีหลิงกล่าวกับจ๋ายหวินเชิ่งว่า “ฉันจะทำเห็ดย่างให้นาย ตกลงไหม ฉันจะย่างมันให้อร่อย”
เห็ดหายากบางอย่างมีรสชาติดีเหมือนกับเนื้อ และอร่อยยิ่งกว่าอาหารทะเล
เจี่ยนอีหลิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังจ๋ายหวินเชิ่งด้วยดวงตาที่ใสกระจ่างเหมือนกระจก และขอความเห็นของเขา
ถ้าไม่เลวร้ายเกินไปนักก็ไม่อยากให้เขาติดรสชาติของอาหาร
และก็ยังมีการเตรียมอาหารพิเศษสำหรับเขาด้วย
ตอนที่เธอออกไปซื้ออาหารเมื่อเช้านี้ เจี่ยนอีหลิงได้ถามหาสถานที่ซึ่งเธอสามารถซื้อเห็ดหายากได้ทุกชนิดเป็นพิเศษ
ในตอนนั้นหยูซีกับจ๋ายหวินเชิ่งคิดว่าเจี่ยนอีหลิงต้องการกินเห็ด
“ตกลง” จ๋ายหวินเชิ่งยอมตกลง
จากนั้นเขาก็นั่งลงอย่างมีความสุข มุมปากของเขายกขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้