เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 107
บทที่ 107: เสื้อกันหนาวที่เซี่ยวหลิงทำ 1
เจี่ยนหยู่เจี๋ยโกรธมาก เขากำลังจะไปโต้เถียงกับเจี่ยนหยุ่นน่าว
แต่ทันทีที่เขาก้าวขาออกไป มือเล็กๆก็จับชายแขนเสื้อของเขาเอาไว้ เธอยึดชายเสื้อนั้นไว้แน่น
เจี่ยนหยู่เจี๋ยมองกลับไปยังเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนอีหลิงมองไปยังเจี่ยนหยู่เจี๋ยพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
ถ้าเจี่ยนหยู่เจี๋ยเข้าไปโต้เถียงกับเจี่ยนหยุ่นน่าว ทุกคนในตระกูลเจี่ยนจะต้องอับอาย หน้าตาของตระกูลเจี่ยนก็จะไม่เหลือ และหัวใจของทุกคนก็จะต้องเจ็บปวด
“แต่…”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยทนไม่ได้ เจี่ยนหยุ่นน่าวทำแบบนี้ด้วยจุดมุ่งหมายที่เห็นได้ชัดแจ้ง
“อย่าส่งเสียง” เจี่ยนอีหลิงกระซิบกับเจี่ยนหยู่เจี๋ยด้วยสีหน้ามั่นคง
เจี่ยนหยู่เจี๋ยขมวดคิ้ว ในใจของเขาดิ้นรนขัดแย้ง
สุดท้ายเมื่อเจี่ยนอีหลิงยืนกรานหนักแน่น เขาก็ต้องยอมแพ้
ทันใดนั้นเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็หันหน้าไปถามย่าเจี่ยน
“ย่า นี่คงต้องใช้เวลาเซี่ยวหลิงมากพอสมควรกับการถักเสื้อตัวนี้ให้ผม”
ย่าเจี่ยนชะงัก “หวังว่าเธอคงจะชอบ”
ย่าเจี่ยนไม่ได้ตอกย้ำว่าเจี่ยนอีหลิงใช้เวลาและความคิดไปมากน้อยเท่าไหร่
เธอไม่รู้ว่าทำไมเจี่ยนหยุ่นเฉิงจึงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ดังนั้นเธอจึงมองไปยังเจี่ยนหยุ่นเฉิงและรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ
ในตอนนั้น เจี่ยนหยุ่นน่าวรู้สึกประหลาดใจและมองไปยังเจี่ยนหยุ่นเฉิง
“พี่พูดถึงอะไรกัน เสื้อตัวที่พี่สวมนั้นซืออวิ้นเป็นคนให้ เธอถักมันด้วยตัวเธอเอง”
เมื่อย่าเจี่ยนได้ยินเช่นนั้นเธอก็ขมวดคิ้ว “เสื้อตัวนี้เซี่ยวหลิงเป็นคนถักด้วยตัวเอง ย่าเห็นมันกับตา มันจะถูกถักด้วยคนอื่นได้อย่างไร”
“เป็นไปไม่ได้ ผมอยู่ที่นั่นเมื่อตอนที่ซืออวิ้นให้ของขวัญของเธอกับพี่ใหญ่ ผมเห็นมันด้วยตาผมเอง” เจี่ยนหยุ่นน่าวกล่าวด้วยความมั่นใจ
จากนั้นเขาก็หันไปถามเจี่ยนชูฉิงและเวินน่วน “พ่อ แม่ พ่อกับแม่ก็อยู่ที่ตรงนั้นเหมือนกัน พ่อแม่ควรสามารถบอกย่าได้ว่าเสื้อกันหนาวนี้มาจากซืออวิ้น”
เมื่อเผชิญกับคำถามของเจี่ยนหยุ่นน่าว พ่อแม่สกุลเจี่ยนก็ขมวดคิ้วแนบแน่น
เจี่ยนชูฉิงอธิบายด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เซี่ยวน่าว พวกเรายืนยันกันแล้วว่าเสื้อตัวนั้นถูกส่งมาจากเซี่ยวหลิง”
เจี่ยนชูฉิงคิ้วขมวดมุ่น สีหน้าหนักใจ
ก่อนที่จะมาที่นี่วันนี้ เจี่ยนชูฉิงได้ปรึกษากับเจี่ยนหยุ่นเฉิงว่าจะบอกเจี่ยนหยุ่นน่าวเรื่องของขวัญนี้อย่างไรดี
ไม่ว่าผลสรุปจากการสืบสวนเรื่องของเซี่ยวหลิงจะเป็นอย่างไร เด็กหญิงที่ชื่อโม่ซืออวิ้นจริงๆแล้วพูดโกหก
ในฐานะที่เป็นพ่อแม่และพี่ชาย เป็นหน้าที่ที่จะต้องให้เจี่ยนหยุ่นน่าวรู้ว่าเพื่อนที่เชื่อถือได้ของเขานั้นหลอกลวงเขา
เจี่ยนหยุ่นน่าวไม่เชื่อ เขาถามพวกเขาต่อว่า “พ่อกับแม่ปล่อยให้ผมอยู่กับเธออย่างสันติไม่ได้หรือ ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลใดๆอีก พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องใส่ร้ายโม่ชืออวิ้นอีกแล้ว”
เสียงของเจี่ยนหยุ่นน่าวเกรี้ยวกราด เต็มไปด้วยความโกรธ
เสียงของเขาทำให้เจี่ยนชูฉิงและเจี่ยนหยุ่นเฉิงทั้งประหลาดใจและไม่สบายใจ เวินน่วนมีน้ำตาคลอเบ้า เมื่อไหร่กันที่ลูกชายของเธอถึงคิดสงสัยพ่อแม่ของตนเองแบบนี้ หัวใจของเธอเหมือนถูกคมมีดกรีดเฉือน
“ไอ้เด็กเหลือขอ”
ปู่เจี่ยนตบโต๊ะอย่างรุนแรงพร้อมกับตะโกนลั่น ทำให้ทุกคนตื่นตระหนก
กระทั่งเหอเยี่ยน ซึ่งกำลังดูทุกคนเล่นละคร ถึงกับหัวใจเต้นผิดจังหวะ
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในบ้านตระกูลเจี่ยนมาเป็นเวลาหลายปี ความกลัวที่เหอเยี่ยนมีต่อปู่เจี่ยนนั้นไม่เคยจางหาย และท่าทางกราดเกรี้ยวของปู่เจี่ยนนั้นก็น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
เจี่ยนหยุ่นน่าวถึงกับตกตะลึง มองไปที่ปู่ของตนเองด้วยความสับสน
ปู่เจี่ยนถามเจี่ยนหยุ่นน่าวว่า “เธอไม่เชื่อใจน้องสาวของตัวเอง ไม่เป็นไร เพราะว่าน้องสาวเธอนั้นอารมณ์ร้ายจริง และน้องสาวเธอก็มักจะอารมณ์เสีย แต่ตอนนี้เธอถึงกับไม่เชื่อสิ่งที่พี่ชายเธอ รวมไปถึงพ่อแม่ อีกทั้งย่าของเธอพูดเลยเหรอ ในสายตาของเธอ พวกเราผู้อาวุโสและคนในครอบครัวของเธอ เชื่อถือไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ”
เสียงของปู่เจี่ยนนั้นเข้มแข็งและทรงอำนาจ ทำให้ผู้คนถึงกับสยิวกายเมื่อสายตาของเขาจ้องมองลงไป
“ไม่.. ผม..” เจี่ยนหยุ่นน่าวกลัวปู่เจี่ยนอย่างแท้จริง