เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 135
大姐大 บทที่ 135: พบวิดีโอกล้องวงจรปิด
ย่าเจี่ยนถอนหายใจอย่างเงียบๆ ไม่คาดคิดว่าหลังจากผ่านไปนานหลายปี หยู่หมินยังคงไม่ชอบเซี่ยวหลิงเหมือนเดิม
ย่าเจี่ยนยังคงจดจำฝังใจ เมื่อตอนที่พวกเขายังเล็ก เจี่ยนหยู่หมินกับเจี่ยนอีหลิงจัดอยู่ในประเภท “ชะตาไม่ต้องกัน”
เธอไม่รู้ว่าทำไม เจี่ยนอีหลิงต้องร้องไห้เสมอถ้ามีเจี่ยนหยู่หมินอยู่ด้วย
เจี่ยนหยู่หมินจึงมักจะหลีกเลี่ยงเจี่ยนอีหลิงเสมอด้วยกลัวเธอร้องไห้
พวกเขาทั้งสองคนนั้นไม่เคยมีข้อขัดแย้ง แต่ก็มักจะเกิดข้อผิดพลาด และย่าเจี่ยนก็ไม่สามารถคิดหาเหตุผลอื่นได้นอกไปจาก “ชะตาไม่ต้องกัน”
ไม่คาดคิดว่าตอนนี้เมื่อทั้งคู่โตขึ้น เมื่อพวกเขาได้พบกันอีกครั้ง พวกเขาก็ยังเข้ากันไม่ได้
หยู่หมินก็เหลือเกิน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบน้องสาว เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้เธออับอายกับสิ่งที่เธอได้ทำเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก ตอนนี้หลานรักเป็นเด็กโตแล้ว ดังนั้นเธอก็ต้องการหน้าตาเหมือนกัน
หลังจากที่ถูกย่าเจี่ยนตำหนิ เจี่ยนหยู่หมิงก็ไม่เข้าใจว่าตนเองนั้นผิดตรงไหน
เขาเพียงต้องการพูดอะไรกับน้องสาวของตัวเองบ้างเท่านั้น…
###
เหอเยี่ยนไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรกับอินเตอร์เน็ตที่บ้าน อยู่ดีๆมันก็ใช้ไม่ได้
ดังนั้นเธอจึงเรียกช่างซ่อมบำรุง
ช่างซ่อมบำรุงมาถึงอย่างรวดเร็ว และมาทีเดียวพร้อมกันสามคน
ช่างซ่อมบำรุงตรวจสอบทั้งภายนอกและภายในบ้านของเธออย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นสายภายนอกหรืออุปกรณ์ภายในบ้าน พวกเขาล้วนตรวจสอบโดยไม่พลาดแม้แต่เพียงจุดเดียว
การซ่อมบำรุงนั้นดำเนินไปเป็นเวลากว่าชั่วโมงกว่าจะเสร็จ
เหอเยี่ยนไม่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ เมื่อสุดท้ายการซ่อมบำรุงได้เสร็จเรียบร้อย เธอก็ไม่ได้พูดอะไร และเมื่อจ่ายเงินค่าซ่อมบำรุงแล้ว เธอก็ปล่อยพวกเขาไป
เพียงแค่ช่างซ่อมบำรุงออกไปพ้นจากบ้านเหอเยี่ยน พวกเขาก็เข้าไปที่รถช่าง
จากนั้นเขาก็ส่งข้อความไปให้คนที่ชื่อ “Dr.FS”
[พบวิดีโอแล้ว พวกเราได้ก๊อปปี้ออกมาแล้ว ตอนนี้กำลังส่งไปให้คุณ]
การที่อินเตอร์เนตบ้านเหอเยี่ยนล้มเหลวในวันนี้นั้นเป็นเจตนาของพวกเขา เริ่มจากการที่พวกเขาหาสายเคเบิ้ลบ้านเหอเยี่ยน จากนั้นก็ทำการรบกวนสัญญาณ
จากนั้นพวกเขาก็ปล่อยให้เหอเยี่ยนเรียกใช้บริการซ่อมบำรุง หลังจากที่ดักจับสัญญาณโทรศัพท์แล้ว พวกเขาก็มาที่ประตูบ้านในฐานะซ่างซ่อมบำรุง
ภายใต้หน้ากากของการค้นหาปัญหาอินเตอร์เนต พวกเขาได้ค้นหาตำแหน่งที่เหอเยี่ยนได้ซุกซ่อนเมมโมรี่การ์ดเอาไว้
พวกเขานำเอาอุปกรณ์ตรวจจับระดับมืออาชีพมาด้วย
ในบรรดาคนทั้งสามคนที่มาที่นั่น หนึ่งในนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิาเตอร์ หนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา และอีกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปลดล็อก
ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลดล็อกนั้นมีไว้ในกรณีที่เหอเยี่ยนได้เก็บล็อกของไว้
หลังจากที่หาของได้แล้ว พวกเขาก็ไม่ได้เอามันไปโดยตรง เพราะนั่นจะทำให้เหอเยี่ยนค้นพบได้อย่างง่ายดาย พวกเขาเลือกใช้วิธีการก๊อปปี้ และปล่อยให้ต้นฉบับนั้นวางอยู่ในที่เดิม
เจี่ยนอีหลิงกำลังจัดการสิ่งต่างในห้องทำงานของเธอเอง เมื่อเธอได้รับข่าวเธอก็กดดูมันในทันที และก็พบว่ามีวิดีโออยู่ในนั้นด้วย
ในวิดีโอเป็นเจี่ยนหยุ่นน่าวกับเจี่อนอีหลิง
พวกเขาทะเลาะกันบนบันได แม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงพวกเขา แต่ก็สามารถคาดเดาได้จากสีหน้าท่าทางและการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้
และพวกเขาก็มีการดึงกันไปดึงกันมาหลายครั้ง
พวกเขายืนอยู่ใกล้ชิดกัน และมีการกระทบกระทั่งกันตลอดเวลา
ในช่วงเวลาวิกฤต เจี่ยนหยุ่นน่าวก้าวพลาดไปบนอากาศจากความโกรธจนหน้ามืด และหงายหลังตกบันได
ในเวลานั้น เจี่ยนอีหลิงได้ยื่นแขนของเธอออก
การกระทำของเธอนั้นเห็นได้ชัดว่าพยายามที่จะดึงเจี่ยนหยุ่นน่าว
ถ้าไม่มีคลิปมาก่อนหน้านี้ และมีเพียงแต่ภาพนิ่งค้างในจังหวะนี้ เพียงดูจากแขนที่ยื่นออกของเจี่ยนอีหลิง ผู้คนย่อมสามารถเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาได้จริงๆว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นผลักเจี่ยนหยุ่นน่าว
แต่วิดีโอตลอดม้วนนั้นพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์
ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงไม่ได้ผลักเจี่ยนหยุ่นน่าว เธอยังพยายามที่จะช่วยยุดเจี่ยนหยุ่นน่าวไว้อีกด้วยซ้ำ แต่อุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนกระทั่งเจี่ยนอีหลิงไม่สามารถที่จะตามทันได้
_______________
เจี่ยนหยู่หมินเป็นคนตรงขวานผ่าซาก อันที่จริงแล้วเขาชอบเจี่ยนอีหลิงมาโดยตลอด แต่เพราะว่าการแสดงออกของเขานั้นทำได้ไม่ดี จึงถูกเข้าใจผิดว่าเข้ากับเจี่ยนอีหลิงไม่ได้