เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 200
大姐大 บทที่ 200 เปิดเผยวิดีโอต่อสาธารณะ 4
จะดีหรือเลว ก็ปล่อยให้คนพวกนี้พูดกันไป
ชูชาพูดอย่างเหยียดหยาม “อะไรกันเนี่ย พูดว่าเจี่ยนอีหลิงดีอย่างงั้นเหรอ เห็นชัดๆว่าพวกนั้นยังด่าเจี่ยนอีหลิงสาดเสียเทเสียก่อนหน้านี้ พวกลมเพลมพัด ฉ้นผิดหวังจริงๆ”
เดิมทีชูชาก็ไม่ค่อยพอใจกับเจี่ยนอีหลิง เธออยากดูเจี่ยนอีหลิงกลายเป็นเป้าหมายการดูหมิ่นเหยียดหยามของสาธารณชน
ตอนนี้เจี่ยนอีหลิงกลายเป็นขาวสะอาด ทุกคนเริ่มประสานความสัมพันธ์และยกย่องชมเชยเจี่ยนอีหลิง แน่นอนว่าเธอย่อมไม่มีความสุข
โม่ชืออวิ้นไม่ได้ให้ความสนใจกับคำพูดของชูชา เธอจ้องมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์อย่างตะลึงงัน
เมื่อเห็นเนื้อหาในวิดีโอนี้ โม่ชืออวิ้นยิ่งตกใจยิ่งกว่าทุกคน
โม่ชืออวิ้นครั้งหนึ่งเคยได้ยินแม่เธอพูดว่าเป็นเจี่ยนอีหลิงที่ผลักเจี่ยนหยุ่นน่าวตกลงจากบันได
สิ่งที่แม่ของเธอพูดนั้นไม่ควรจะผิดพลาด
แต่วิดีโอจากกล้องวงจรปิดนั้นเห็นชัดเจนอยู่ตรงหน้าของเธอ
นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน
แม่หรือว่าวิดีโอกล้องวงจรปิด สิ่งไหนที่ถูกสิ่งไหนที่ผิดกันแน่
เป็นไปไม่ได้ แม่เธอไม่เคยโกหกในเรื่องประเภทนี้ นั่นมันไม่ดีสำหรับเธอ แม่ไม่เคยทำอะไรประเภทนี้
“ชืออวิ้น มีอะไรผิดปกติไปเหรอ” ชูชาเห็นว่าโม่ชืออวิ้นไม่พูด เอาแต่มองจ้องหน้าจออย่างงงงัน เธอจึงถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร” เสียงของชูชาทำให้โม่ชืออวิ้นมีสติกลับคืนมา เธอระงับสีหน้าไม่ยอมปล่อยให้ความคิดที่อยู่ภายในใจของเธอนั้นเล็ดลอดออกมาให้ชูชาได้เห็น
ความสงสัยเหล่านั้น เธอไม่สามารถปล่อยให้ชูชารู้ได้
เมื่อถึงเวลาที่โรงเรียนเลิก โม่ชืออวิ้นก็อดไม่ได้ที่จะเก็บกระเป๋ารีบกลับบ้าน
เธอนั้นกระวนกระวายต้องการที่จะถามแม่เธออะไรบางอย่าง
หลังจากที่เห็นแม่ของเธอ โม่ชืออวิ้นก็ตรงเข้าไปอธิบายความสงสัยของตนเองออกมา
เมื่อเห็นวิดีโอในโทรศัพท์มือถือของโม่ชืออวิ้น ดวงตาของป้าโม่ก็ขยายกว้างขึ้น เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“นี่มัน… นี่มันเป็นไปได้อย่างไร”
“แม่ เกิดบ้าอะไรขึ้น”
หรือว่าแม่เธอนั้นโกหกจริงๆ
“แม่…”
ป้าโม่นั้นจมปลักอยู่ในความตื่นตระหนก จวบจนกระทั่งเธอเห็นใบหน้าของลูกสาว เธอจึงค่อยฟื้นคืนสติ
เธอไม่สามารถปล่อยให้ลูกสาวของเธอนั้นรู้เรื่องเหล่านี้ได้ เธอต้องทำให้มั่นใจว่าลูกสาวของเธอนั้นได้อยู่ในโลกที่สะอาดและไร้มลทิน
“แม่ไม่รู้ว่าวิดีโอนี้มาได้ยังไง แม่เห็นด้วยตาของแม่เองว่าเป็นคุณหนูที่ผลักคุณชายสามตกบันได”
ป้าโม่ยืนยันคำพูดเดิมของเธอ
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนคำพูด แต่เป็นเพราะว่าเธอไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้
โม่ชืออวิ้นพูดว่า “ถ้างั้นวิดีโอนี้ก็เป็นของปลอมเหรอ มีใครสักคนที่ปลอมมันเหรอ”
โม่ชืออวิ้นไม่รู้ในเทคโนโลยีการปลอมแปลงวิดีโอดีนัก แต่เธอรู้ว่าภาพถ่ายและวิดีโอสามารถใช้เทคนิคพิเศษได้ ดังนั้นย่อมต้องสามารถเปลี่ยนแปลงพวกมันได้ด้วย
ส่วนขอบเขตที่มันสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้แค่ไหนนั้น เธอก็ไม่รู้ชัดเจนนัก
“มันคงจะเป็นแบบนั้น…” ป้าโม่ตอบด้วยความรู้สึกผิด
หลังจากที่คิดเรื่องนี้ชั่วขณะ ป้าโม่ก็รีบพูดกับโม่ชืออวิ้นว่า “ชืออวิ้น อย่าไปคิดมากในเรื่องนี้ ในเมื่อวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่อยู่ข้างนอก ลูกก็ควรปล่อยให้มันเป็นไป คุณท่านกับนายหญิงใจดีกับพวกเรา ดังนั้นเราก็อย่าไปรื้อฟื้นเรื่องราวของพวกเขา ลูกก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ซะ ถ้ามีใครถาม ลูกก็บอกไปตามวิดีโอ”
“ก็ได้หนูเข้าใจแล้ว” โม่ชืออวิ้นเห็นด้วย
เรื่องนี้ไม่มีผลกับเธอ
ตรงกันข้ามเธอให้ความสนใจกับผลการแข่งขันเคมีมากกว่า
หลังจากที่พูดกับโม่ชืออวิ้นแล้ว ป้าโม่ก็รีบโทรศัพท์ไปหาเหอเยี่ยนและรีบบอกอีกฝ่ายเกี่ยวกับเรื่องฟอรั่มของโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว
“ทำไมคุณนายรองถึงทำอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าคุณพูดว่าได้จัดการกับวิดีโอแล้วเหรอ”
แน่นอนว่าเหอเยี่ยนย่อมรู้เรื่องวิดีโอนั้นถูกเผยแพร่ออกไปแล้ว
เจี่ยนอีหลิงนั้นเพียงสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องเธอกับใคร แต่ไม่ได้พูดว่าจะไม่เปิดเผยวิดีโอความจริงนี้
“ในเมื่อวิดีโอก็ได้หลุดออกไปแล้ว จะมากังวลเรื่องอะไรอีก”