เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 281-282
大姐大 บทที่ 281 ภาพถ่ายพร้อมลายเซ็นราคาเท่าไหร่
“เจี่ยนอีหลิง บอกพวกเราเกี่ยวกับหนุ่มหล่อทั้งสี่ของจูปีเตอร์หน่อยสิ ถ้าพวกเราได้รูปพร้อมลายเซ็น พวกเรายินดีจ่ายให้”
“ใช่ เจี่ยนอีหลิง พวกเราชอบสมาชิกทั้งสี่ของจูปีเตอร์มาก ฉันชอบเซี่ยหมินหยู่มาก เขาหล่อมาก”
“ฉันชอบเล่อเหยา เขาเป็นซูเปอร์แมน”
“…”
พวกเขาถามเจี่ยนอีหลิงเกี่ยวกับจูปีเตอร์ไม่มีหยุดหย่อน
เมื่อตอนที่เจี่ยนอีหลิงเป็นคนผิด ผลักเจี่ยนหยุ่นน่าวตกบันไดก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่ปฏิเสธว่าพวกเขาได้เดินอ้อมเจี่ยนอีหลิง ไม่ต่องพูดถึงที่นั่งของเธอ
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหรือตอบคำถามของคนเหล่านี้ เธอแค่จดจ่อกับการดูข้อความภาษาอังกฤษบนแท็บเล็ตของเธอ นี่เป็นบทความวิจัยที่ยอดเยี่ยมที่เผยแพร่โดยคนอื่นๆ
นักเรียนหญิงไม่ได้สนใจปฏิกิริยาไม่แยแสของเจี่ยนอีหลิง พวกเธอยังยืนกรานที่จะถาม
“พวกเธอกำลังทำอะไร” หลิวเหวินเดินไปขับไล่ผู้คนออกไป “อย่ามาเบียดกัน มันน่ากลัว”
อ่านตอนล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com
หลิวเหวินไม่สนใจเรื่องการไล่ล่าดารา แต่พวกเธอส่งเสียงดังเกินไปซึ่งส่งผลกระทบต่อเจี่ยนอีหลิงและนักเรียนคนอื่นๆ
เมื่อพี่สาวเหวินพูด เสียงของนักเรียนหญิงก็เงียบลง แต่พวกเธอก็ยังพูดกับเจี่ยนอีหลิงอย่างไม่เต็มใจนัก “เจี่ยนอีหลิง ถ้าเธอได้รูปถ่ายเมื่อไหร่ก็อย่าลืมบอกพวกเราด้วยนะ แน่นอนว่าถ้าเธอยินดีที่จะบอกพวกเราเกี่ยวกับเรื่องเธอได้ถ่ายทำ MV กับจูปีเตอร์ด้วยจะดียิ่งขึ้นไปอีก”
หลังจากพูดจบทุกคนก็แยกย้ายกันไปอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากผู้คนจากไป เจี่ยนอีหลิงก็หันหน้าไปถามหูเจียวเจียวว่า “เธอต้องการรูปถ่ายที่มีลายเซ็นไหม”
ถ้าหูเจียวเจียวต้องการเจี่ยนอีหลิงก็ยังสามารถลองขอจากเจี่ยนหยู่หมินได้
“จริงเหรอ” ดวงตาของหูเจียวเจียวสดใสขึ้น และเธอก็ครุ่นคิดอยู่สองวินาที “ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากได้ของพี่สาวเอินนมากกว่า”
แม้ว่าพี่สาวเอินจะไม่ได้เป็นดารา แต่เธอก็มีสถานะที่สูงกว่าดาราในความคิดของหูเจียวเจียว.
“อื้อ”
เจี่ยนอีหลิงตกลง
จากนั้นเจี่ยนอีหลิงก็ส่งข้อความถึงเจี่ยนหยู่หมิน [รูปพร้อมลายเซ็นของนายราคาเท่าไหร่]
เจี่ยนหยู่หมินตะลึงเมื่อเห็นข้อความ เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี [8.88 ต่อแผ่น ไม่หลอกลวงใครไม่ว่าเด็กหรือแก่]
[แล้วราคาสำหรับทั้งสี่คน]
[ ใช่แล้ว ราคาเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ เฉพาะของฉัน อาจแพงกว่าอีกสิบเซ็นต์ก็ได้]
ดูเหมือนว่าตำแหน่งเขาจะสูงกว่าอีกสามคนเล็กน้อย
เจี่ยนหยู่หมินได้รับอั่งเปาจากเจี่ยนอีหลิงหนึ่งวินาทีหลังจากตอบกลับข้อความ
หลังจากที่เปิด เขาก็พบ 35.62 สาม 8.88 กับอีกหนึ่ง 8.98
[ดี ฉันจะเอาไปให้เธอเมื่อตอนที่ฉันกลับบ้านตอนกลางคืน]
หลังจากตอบกลับข้อความแล้ว เจี่ยนหยู่หมินก็ไปหาน้องชายแสนดีทั้งสามของเขา เพื่อเอารูปที่มีลายเซ็นของพวกเขา
สมาชิกในกลุ่มได้รู้ว่าเจี่ยนอีหลิงขอมา และพวกเขาก็ให้รูปถ่ายที่มีลายเซ็นของตัวเองด้วยความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
ก็เหมือนกับเจี่ยนหยู่หมิน พวกเขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเจี่ยนอีหลิงจะเอารูปถ่ายที่มีลายเซ็นของทั้งสี่คน มาแลกเป็นรูปถ่ายของหลัวซิ่วเอิน
หลังจากได้รับคำตอบยืนยันจากเจี่ยนหยู่หมินแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็ได้ส่งข้อความไปที่หลัวซิ่วเอิน
[ภาพถ่ายที่มีลายเซ็นของจูปีเตอร์สี่รูป แลกรูปที่มีลายเซ็นของพี่สาวหนึ่งรูป ]
หลัวซิ่วเอินนิ่งค้างไปสักพัก ก่อนจะส่งข้อความกลับไปที่เจี่ยนอีหลิง
[เสี่ยวอีหลิง เธอต้องการรูปที่มีลายเซ็นของพี่สาวคนนี้ไปทำไม]
[เจียวเจียวอยากได้] เจี่ยนอีหลิงไม่ได้ปกปิดไว้
[ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เพื่อนร่วมโต๊ะที่ขี้อายของเธอเหรอ ถ้าเธอต้องการรูปที่มีลายเซ็นของพี่สาว บอกมาได้เลย พี่จะให้อย่างแน่นอน ฮ่าๆๆๆ… แต่เนื่องจากเธอได้รูปที่มีลายเซ็นของจูปีเตอร์มาแล้ว ก็อย่าให้เสียของ เอามาให้พี่สาวคราวหน้านะ]
บทที่ 282 ความคิดของโม่ชืออวิ้น
โม่ชืออวิ้นกลับไปที่บ้านปัจจุบันเธอ
นี่คือสถานที่ ที่นายหญิงเฉียนจัดให้เธอและแม่เธออยู่
เธอไม่ต้องการอาศัยอยู่ในบ้านของนายหญิงเฉียนเปล่าๆ ดังนั้นเธอจึงสัญญากับนายหญิงเฉียนว่าเธอจะให้ค่าเช่าเมื่อเธอได้ค่าโฆษณา
ป้าโม่เห็นโม่ชืออวิ้นกลับมาจึงรีบเข้ามาช่วยรับกระเป๋านักเรียน “เร็วเข้า นายหญิงกำลังรอลูกอยู่ในห้องนั่งเล่น”
โม่ชืออวิ้นรีบเดินไปที่ห้องนั่งเล่น และก็เห็นนายหญิงเฉียนที่อ่อนโยนและใจดี
นายหญิงเฉียนอายุสามสิบปีในปีนี้ ด้วยอารมณ์อันอ่อนโยนที่ปรุงแต่งบนใบหน้าเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้
สำหรับโม่ชืออวิ้นแล้วนี่คือพี่สาวที่ใจดีมาก
ในอ้อมแขนของนายหญิงมีเด็กชายตัวเล็กๆที่เพิ่งอายุได้สองขวบ เขาปีนขึ้นลงบนโซฟาอย่างมีชีวิตชีวา
“ชืออวิ้นกลับมาแล้วเหรอ”
“นายหญิงทำไมคุณไม่แจ้งฉันล่วงหน้า คุณต้องรอนานแล้ว” โม่ชืออวิ้นรู้สึกอายเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร ฉันมาเร็วไปหน่อย ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอคงไม่ได้กลับมาเร็วนักจากโรงเรียน” นายหญิงเฉียนยิ้มเล็กน้อย “ฉันมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อที่จะบอกกับเธอว่า ผลการตอบรับการโฆษณาครั้งล่าสุดของเธอดีมาก ฉันได้สนับสนุนเธอในวงการละคร ไม่ได้มีฉากมากนัก เธอไม่ต้องใช้เวลามากเกินไป เงินก็ดีมาก”
คราวนี้ไม่ใช่โฆษณาแต่เป็นละคร
แม้ว่าจะเป็นเว็บละครต้นทุนต่ำ แต่ในยุคนี้ละครในเว็บเป็นที่แพร่หลาย แม้กระทั่งโปรดักชั่นต้นทุนต่ำก็ยังอาจกลายเป็นที่นิยมได้
โม่ชืออวิ้นไม่ได้เห็นด้วยหรือปฏิเสธทันที
เธอลังเลอยู่ ตอนนี้เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่สาม และจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในเดือนมิถุนายนปีหน้า หากเธอใช้เวลาอย่างอื่นมากเกินไป การเรียนเธออาจได้รับผลกระทบ
“เธอกังวลว่ามันจะส่งผลกระทบต่อการเรียนของเธอเหรอ” นายหญิงเฉียนเห็นความลำบากใจของโม่ชืออวิ้น
“อื้อ” โม่ชืออวิ้นไม่ได้ปิดบังอะไร “หนูดีใจมากที่นายหญิงสามารถแนะนำงานดีๆแบบนี้ให้หนู แต่หนูก็ยังกังวลอยู่บ้าง”
“ไม่เป็นไร เธอไม่จำเป็นต้องรู้สึกอาย ถ้าเธอคิดว่าอาจทำให้การเรียนล่าช้าเธอก็สามารถปฏิเสธได้ ไม่มีปัญหาอะไร”
นายหญิงเฉียนเข้าใจดีอยู่ว่า ถนนในวงการบันเทิงสายนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
ตอนนี้เธอมีบทบาทหนึ่งหรือสองบทบาทสำหรับโม่ชืออวิ้น เนื่องจากเงินเดือนค่อนข้างสูงในบรรดางานที่เธอสามารถทำได้เมื่อตอนที่เธอยังมีอายุเท่านี้
ส่วนโม่ชืออวิ้นจะสามารถสร้างชื่อในวงการบันเทิงได้หรือไม่นั้น แม้แต่นายหญิงเฉียนก็ไม่สามารถรับประกันได้
หากว่าล้มเหลวในการเข้าสู่แวดวงศิลปะการแสดง และต้องเสียเวลาการเรียน นั่นก็คงจะเป็นการจบแบบไม่สวย
“ถ้าอย่างนั้นเธอลองคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดี ถ้าคิดออกแล้วให้บอกฉัน ฉันสามารถรอได้จนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้” นายหญิงเฉียนบอกโม่ชืออวิ้น
“ค่ะ ขอบคุณนายหญิง”
โม่ชืออวิ้นขอบคุณอีกครั้ง
นายหญิงเฉียนและเด็กๆอยู่ที่บ้านปัจจุบันของแม่และลูกสาวตระกูลโม่อีกสักพักหนึ่ง คุยกับโม่ชืออวิ้นต่ออีกสักพัก แล้วก็ค่อยจากไป
คืนนั้นโม่ชืออวิ้นเปิดเว็บบอร์ดโรงเรียนอีกครั้ง
เมื่อเห็นโพสต์ยอดนิยม ความคิดเห็นได้เพิ่มไปถึง 999+ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความอิจฉาต่อเจี่ยนอีหลิง
รสชาติอันขมขื่นปรากฏขึ้นในใจของโม่ชืออวิ้น
เธอไม่อิจฉาที่เจี่ยนอีหลิงเกิดมาเพียบพร้อมและไม่อิจฉาที่เจี่ยนอีหลิงเติบโตมาภายใต้การเอาอกเอาใจของคนที่บ้าน
เธอรู้สึกเสมอว่าแม้จะมีเพียงเธอและแม่ ตราบใดที่พวกเธอทำงานหนักมากพอพวกเธอก็สามารถมีชีวิตที่มีความสุขและมั่งคั่งได้เช่นเดียวกัน
แต่เหตุการณ์ต่อมาทำให้เธอตระหนักครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ความพยายามของเธอนั้นเปราะบางมากจริงๆ
เธอรับรู้อยู่ในใจ
ไม่ว่าเธอจะพยายามอย่างหนักแค่ไหน ตราบใดที่ผู้หญิงร่ำรวยพวกนี้ลงไม้ลงมือ ทุกอย่างก็จะสลายกลายเป็นขี้เถ้า
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้วโม่ชืออวิ้นก็ได้ส่งข้อความถึงนายหญิงเฉียน บอกอีกฝ่ายว่าเธอต้องการรับบทนี้