เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 299-300
大姐大 บทที่ 299 ค้นหาอาจารย์ให้พี่ชายหยู่เจี๋ย 1
เจี่ยนอีหลิงตอบว่า [ฉันมีความเห็นเหมือนพี่ชายหยู่เจี๋ย]
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็รู้สึกพอใจมากกว่าที่หยูซีเคยรู้สึกก่อนหน้านั้น [ดูสิ น้องสาวของฉันก็ไม่พอใจกับชื่อนี้เหมือนกัน สองต่อสอง เสมอกัน]
หยูซีพิมพ์ว่า [อืม นายคิดชื่อทีมใหม่ก็แล้วกัน ถ้าชื่อที่นายคิดดีกว่าของฉัน ฉันก็จะตกลงที่จะเปลี่ยนชื่อใหม่]
ดังนั้นเจี่ยนหยู่เจี๋ยจึงเริ่มคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องนี้
ยังไงก็ตามจ๋ายหวินเชิ่งเรียกร้องมาโดยไม่รั้งรอ [อย่าเสียเวลา การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว มาเล่นเกมกันก่อน]
การแข่งขันออนไลน์จัดขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น หากว่าพลาดไม่ได้เล่นในเวลา ทีมนั้นก็จะไม่สามารถเล่นในทัวร์นาเมนต์ได้อีกต่อไป
ดังนั้นเจี่ยนหยู่เจี๋ยจึงจำเป็นต้องยอมความก่อนในขณะนี้ และพวกเขาทั้งสี่คนก็เข้าสู่เกม
หลังจากผ่านไปสองสามเกม [จอมอหังการ] ก็ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขันของพวกเขา
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง การแข่งขันส่วนแรกก็สิ้นสุดลง
[จอมอหังการ] เป็นอันดับที่แปดในการแข่งขันโดยรวมทั้งหมด
ชื่อของทีมอื่นๆส่วนใหญ่ที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้นๆล้วนมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ทีมเหล่านั้นมีแนวโน้มมากว่าจะมาจากประเทศอื่น
ดังนั้นชื่อ [จอมอหังการ] จึงโดดเด่นไม่น้อย
ความคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อถูกระงับชั่วคราว
อ่านตอนล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com
หลังจากจบเกมแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็ออกจากเกมเพื่อจัดการเรื่องอื่นๆ หลังจากจัดการกับงานประจำวันบางอย่างแล้ว เธอก็เปิดรายการสิ่งที่ต้องทำ
นี่คือรายการที่เธอสร้างขึ้นเพื่อตัวเอง เมื่อเธอได้เข้ามาในโลกนี้
สองรายการที่ด้านบนสุดของรายการได้ถูกขีดฆ่าไปแล้ว ผ่าตัดมือของเจี่ยนหยุ่นน่าว และค้นหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ
งานสองสามอย่างถัดไปที่อยู่ในรายการ คือการเติมเต็มความปรารถนาของเจี่ยนอีหลิงคนเดิม ป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในนิยายต้นฉบับอีก ป้องกันการตายของย่าเจี่ยน ตามที่เล่าไว้ในนิยายต้นฉบับ
แล้วเธอก็ต้องหาเงินด้วย
มีเวลาอีกสามปี อีกสามปีจนกระทั่งเธออายุสิบแปด หลังจากเธออายุสิบแปดแล้ว เธอจะย้ายออกจากบ้าน นี่เป็นแผนเดิมของเธอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆนี้จิตใจของเจี่ยนอีหลิงได้หวั่นไหวกับแผนการที่เธอทำไว้ สาเหตุนี้นั้นเป็นเพราะย่าเจี่ยนและคนอื่นๆ ทั้งเมื่อเร็วๆนี้เธอก็มีความฝันแปลกๆ
###
คุณนายเฉียนส่งข้อความถึงเจี่ยนอีหลิง พูดให้ถูกต้องก็คือเธอไม่ได้ส่งข้อความถึงเจี่ยนอีหลิง คนที่เธอส่งข้อความถึงคือเจ้าของกล้วยไม้พิเศษ
คุณนายเฉียนรู้ว่าพ่อตาของเธอชอบกล้วยไม้มาก ในความเป็นจริง ความชื่นชอบนั้นเกือบจะถึงจุดที่กลายเป็นหลงไหล
ครั้งที่แล้วพ่อตาเธอได้ไปงานแสดงกล้วยไม้ เขาได้เล็งกล้วยไม้นั้นไว้ แต่หลังจากนั้น เขาก็มารู้ว่าเจ้าของกล้วยไม้คือปู่เจี่ยน และไม่มีเจตนาที่จะขายมัน
พ่อตาเธอก็รู้ด้วยว่าปู่เจี่ยนนั้นชื่นชอบกล้วยไม้เช่นเดียวกัน เขาจะไม่มีวันแยกจากกล้วยไม้ที่เขาหวงแหน
เมื่อเร็วๆนี้พ่อตาของเธอพูดถึงกล้วยไม้ต้นนั้นอยู่ตลอดเวลา นายท่านและคุณนายเฉียนเห็นด้วยตาและได้จำมันไว้ในใจ
จากนั้นเธอและสามีก็ได้ค้นพบกล้วยไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับกล้วยไม้ที่จัดแสดงในนิทรรศการกล้วยไม้
แม้ว่ามันจะไม่ใช่กล้วยไม้ชนิดเดียวกันตราบใดที่มันยังคล้ายกัน พ่อตาเธอก็ต้องชอบมันแน่ๆ
ตามคำอธิบายบนแท่น กล้วยไม้นี้นอกจากจะมีลักษณะคล้ายกับกล้วยไม้ที่จัดแสดงในวันนั้น มันยังมีเพียงหนึ่งเดียวอีกด้วย
สิ่งนี้ทำให้คุณนายเฉียนตื่นเต้นมาก
ดังนั้นเธอและสามีจึงตั้งใจจะซื้อกล้วยไม้นี้เป็นของขวัญให้พ่อตาเธอ ไม่สำคัญว่าจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
[คุณฝู ฉันชอบกล้วยไม้ของคุณมาก ฉันสงสัยว่าคุณยินดีขายในราคาเท่าไร]
ชื่อที่เจี่ยนอีหลิงทิ้งไว้บนแพลตฟอร์มคือคุณฝู
[ไม่ขาย อ่านหมายเหตุในคำอธิบาย]
เจี่ยนอีหลิงได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในคำอธิบายว่า เธอไม่เต็มใจที่จะขายกล้วยไม้เพื่อเงิน ยังไงก็ตามเธอจะแลกเปลี่ยนกับการนัดพบกับนักมายากลที่มีชื่อเสียง
ข้อกำหนดนี้ค่อนข้างแปลก แม้ว่ากล้วยไม้จะดึงดูดความสนใจของผู้ที่ชื่นชอบกล้วยไม้จำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครซื้อด้วยเหตุผลนี้
คนรักกล้วยไม้ส่วนใหญ่ร่ำรวยมาก ยังไงก็ตาม การพบปะกับนักมายากลที่มีชื่อเสียงและมีชื่อเสียงระดับโลกเป็นความต้องการที่หลายคนไม่สามารถทำให้ได้
[คุณฝูคุณช่วยพิจารณาข้อกำหนดนั้นใหม่ได้ไหม เราสามารถเสนอราคาที่สูงมากสำหรับกล้วยไม้]
บทที่ 300 ค้นหาอาจารย์ให้พี่ชายหยู่เจี๋ย 2
คุณนายเฉียนยินดีจ่ายเงินหลายล้านดอลลาร์สำหรับกล้วยไม้นี้
ในทางกลับกันการพบปะกับนักมายากลนั้น ตามหลักการไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
การพบปะนั้นไม่ได้มีความหมายมากนัก มันไม่ได้หมายความว่าคุณจะกลายเป็นศิษย์ของพวกเขาได้ พูดตรงไปตรงมามันเป็นแค่ค่าโอกาสสองสามล้านดอลลาร์เพื่อที่จะได้พบปะกับนักมายากล
เมื่อผู้คนประมูลเพื่อทานอาหารกลางวันกับบุคคลสำคัญ อย่างน้อยก็รับรองว่าได้ทานอาหารกับบุคคลนั้น
แต่ยังไงก็ตามไม่มีการรับประกันใดๆ ที่แนบมากับการแลกเปลี่ยนนี้
[การมีเงินไม่จำเป็นต้องช่วยให้ฉันได้พบกับนักมายากลระดับโลก]
สิ่งที่เจี่ยนอีหลิงต้องการคือการได้พบปะ
คนที่สามารถช่วยเธอให้สามารถแนะนำตัวและได้พบปะ
แม้ว่าโอกาสที่จะได้พบกับคนที่เหมาะสมเงื่อนไขนั้นมีน้อย แต่เจี่ยนอีหลิงก็ไม่ได้รังเกียจสิ่งนี้ เธอไม่รีบร้อนในการแลกเปลี่ยนกล้วยไม้อยู่แล้ว
เธอยังใช้ช่องทางอื่นเพื่อค้นหานักมายากลที่เหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์ของเจี่ยนหยู่เจี๋ยด้วย
คุณนายเฉียนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบว่า [หากเป็นเช่นนี้คุณฝูโปรดรอสักครู่ ให้เวลาฉันสักนิด ฉันจะติดต่อใครสักคนเพื่อช่วยฉันตามคำขอของคุณ กรุณาอย่าแลกเปลี่ยนกล้วยไม้กับคนอื่น]
[กล้วยไม้จะมอบให้กับใครก็ตามที่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ก่อน]
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้สัญญาว่าจะสำรองกล้วยไม้ไว้ให้คุณนายเฉียน
คุณนายเฉียนค่อนข้างผิดหวังที่เห็นคำตอบนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้ กล้วยไม้ไม่ใช่ของเธอ อีกฝ่ายสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ
[โอเค ฉันจะติดต่อคนอื่นตอนนี้เลย]
พ่อของคุณนายเฉียนเป็นประธานบริษัทบันเทิง นั่นหมายความว่าคุณนายเฉียนมีทรัพยากรและช่องทางมากมายในวงการบันเทิง
แม้ว่าวงการมายากลไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิง แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์กันอยู่บ้าง
คุณนายเฉียนติดต่อพ่อของตนเอง และด้วยความประหลาดใจ เธอพบว่าเขามีวิธีติดต่อกับนักมายากลชั้นนำคนหนึ่งของประเทศ
หลังจากได้รับการยืนยันอย่างรวดเร็วว่านักมายากลนั้นเต็มใจที่จะให้การสนับสนุน คุณนายเฉียนก็รีบติดต่อผู้ขายกล้วยไม้พร้อมกับแจ้งข่าว
[คุณฝู ฉันติดต่อนักมายากลให้คุณได้แล้ว นั่นก็คือมาดามซูชี คุณคิดว่าเธอเหมาะสมไหม]
เจี่ยนอีหลิงรู้จักคนนี้เรียบร้อยแล้ว ตอนที่เธอเริ่มค้นหานักมายากลที่เหมาะสมในตอนแรก เธอก็ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับนักมายากลชั้นนำทั้งหมดในประเทศ เธอได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลผู้นี้ด้วยเช่นกัน
ซูชีนั้น เธออยู่ในวัยสี่สิบต้นๆ เธอถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ในวงการนักมายากล
สถานะและความสามารถในวงการของเธอนั้นได้รับการยอมรับจากทุกคน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอไม่เคยรับศิษย์
กล่าวอีกนัยหนึ่ง บุคคลนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในความคิดของเจี่ยนอีหลิง
น่าทึ่งมากที่คุณนายเฉียนติดต่อเธอได้
[เหมาะสม เมื่อเธอมาถึงเมืองเหิงหยวน โปรดติดต่อกับฉัน ฉันจะนำกล้วยไม้ไปยังที่พบปะ]
[ตกลงตามนั้น]
คุณนายเฉียนมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอรู้สึกโล่งใจอย่างมากมายที่สามารถตกลงกันได้
บังเอิญซูชีได้ไปร่วมงานในเมืองใกล้เมืองเหิงหยวน
ดังนั้นเธอจึงมาถึงเมืองเหิงหยวนในเช้าวันรุ่งขึ้น
ภายใต้การจัดเตรียมของคุณนายเฉียน ทุกคนจะพบปะกันในห้องส่วนตัวที่ร้านอาหาร
คุณนายเฉียนและมาดามซูชีมาถึงด้วยกัน ในขณะที่เจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยู่เจี๋ยก็มาถึงด้วยกัน
เจี่ยนหยู่เจี๋ยไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเจี่ยนอีหลิงจึงขอให้เขาออกมา แต่ยังไงก็ตาม เนื่องจากเป็นน้องสาวเขาที่ขอให้เขาออกมา จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่มา
“อี้หลิง น้องอยากกินที่ร้านนี้เหรอ”
เจี่ยนอีหลิงไม่ตอบเจี่ยนหยู่เจี๋ยทันที แต่เธอพาเขาไปที่ห้องส่วนตัวที่เธอตกลงไว้กับคุณนายเฉียน
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในห้องเจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ตัวแข็งทื่อในทันที
ในฐานะผู้ที่ชื่นชอบมายากล ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้จักซูชี
ก่อนหน้านี้เขาสามารถมองเห็นเธอผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ตอนนี้เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขา
ซูชีเธออยู่ในวัยสี่สิบต้นๆ เธอมีใบหน้าที่สวยและมีสัญญาณแห่งวัยที่ร่วงโรย เมื่อเทียบกับคนหนุ่มสาวแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่และฉลาดกว่า
“น้องสาวอีหลิงโปรดหยิกฉัน ฉันฝันไปหรือเปล่า” เจี่ยนหยู่เจี๋ยพูดกับเจี่ยนอีหลิงที่อยู่ข้างๆเขา
“ฉันจะไม่หยิกนาย มันจะเจ็บ”