เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 527-528
บทที่ 527 การแสดงมายากลของเจี่ยนหยู่เจี๋ย
ชะตากรรมของเขาเปลี่ยนไป เขายังไม่ตายตอนอายุสิบเก้า
นอกจากนี้ เขายังสามารถทําตามความฝันเขาได้อีก เขากลายเป็นนักมายากลตัวจริง
ในตอนเย็น ขณะที่จ๋ายหวินเชิ่งเพิ่งกลับมาจากทํางาน เจี่ยนอีหลิงก็รีบวิ่งไปหาเขาและยัดตัวเข้าไปอยู่ในมือเขาทันที
“ไปด้วยกัน”
จ๋ายหวินเชิ่งหัวใจเต้นผิดจังหวะ เขาฝันไปงั้นเหรอ?
เด็กสาวตัวเล็กๆคนนี้คิดถือโอกาสนี้ชวนเขาออกไปข้างนอกงั้นเหรอ?
จ๋ายหวินเชิ่งไม่เคยคิดเลยว่าจะมีภาพแบบนี้เกิดขึ้น
จ๋ายหวินเชิ่งจ้องมองไปที่เจี่ยนอีหลิง ใบหน้าของเจี่ยนอีหลิงนั้นมีสีหน้ายิ้มแย้ม แม้ว่ารอยยิ้มจะไม่ได้ชัดเจนมากขนาดนั้น แต่จ๋ายหวินเชิ่งก็ยังคงจับได้ถึงความแตกต่างที่ละเอียดอ่อน
ดูเหมือนว่าเธอจะตั้งตารอคอยสิ่งนี้
“เธอชวนฉันไปเดทเหรอ” จ๋ายหวินเชิ่งถาม
“หือ” เจี่ยนอีหลิงกล่าวออกมา ขณะเดียวกันกับความสับสนก็ปรากฏขึ้นในดวงตาเธอ
“เธอให้ตัวฉันเพราะเธออยากดูการแสดงกับฉันใช่ไหม”
“อื้อ”
รอยยิ้มบนใบหน้าจ๋ายหวินเชิ่งเข้มขึ้นและแววตาของเขาก็ลุกเป็นไฟ “เธอรู้ไหมว่า ถ้าคนสองคนไปดูอะไรด้วยกันจะถือเป็นการเดตกัน”
เจี่ยนอีหลิงมองไปที่จ๋ายหวินเชิ่งชั่วขณะ จากนั้นเธอก็พูดว่า “แต่หยูซีก็จะไปด้วยเหมือนกันไม่ใช่เราสองคน”
หยูซี?
เจ้านั่นก็ไปด้วยเหรอ?
“เธอขอให้เขาไปเหรอ”
เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า “พี่ชายหยู่เจี๋ยเชิญเขา”
เมื่อได้ยินดังนี้ จ๋ายหวินเชิ่งก็พบเห็นว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขามองลงไปที่ตัวในมือ
จากนั้น เขาก็ตระหนักว่านี่เป็นตัวสําหรับงานแสดงมายากล
อา งั้นก็คงเป็นเจี้ยนหยู่เจี๋ยที่ให้ตั๋วแก่พวกเขา…
ดูเหมือนว่าเจี่ยนหยู่เจี๋ยจะให้ทั่วหยูซีด้วย
เมื่องรับรู้เรื่องนี้แล้ว สมองของจ๋ายหวินเชิ่งก็ตื่นกลับมาสู่ความเป็นจริง เขาคิดมากไปในเรื่องนี้ เธอไม่ได้ถือโอกาสชวนเขาออกไป
แม้ว่าจ๋ายหวินเชิ่งจะรู้ว่าตัวเองคิดเลยเถิด แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังอยู่เล็กน้อย
###
ในวันแสดงมายากล จ๋ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงได้มุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานด้วยกัน
เมื่อพวกเขาไปถึง พวกเขาก็เห็นหยูซีทันที หยูซีมาถึงก่อนพวกเขาแล้ว
อีกฝ่ายยังซื้อเครื่องดื่มให้จ๋ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงด้วย
จ๋ายหวินเชิ่งเหลือบมองหมายเลขที่นั่งบนตัวของเขา
จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่หมายเลขที่นั่งของหยูซี
หยูซีที่นั่งอยู่แถวที่ 1 ที่นั่งหมายเลข 7
อย่างไรก็ตาม ที่นั่งของจ๋ายหวินเชิ่งคือแถวที่ 1 ที่นั่งหมายเลข 6 ในทางกลับกัน ที่นั่งของเจี่ยนอีหลิงคือแถวที่ 1 ที่นั่งหมายเลข 8
“ลุกขึ้น” จ๋ายหวินเชิ่งพูดกับหยูซี
หยูซีหยุดชะงักก่อนที่จะมองไปที่จ๋ายหวินเชิ่งด้วยสีหน้าสับสน “หือ ทําไมเหรอ”
“ฉันบอกให้ลุกขึ้น”
ดังนั้นหยูซีจึงลุกขึ้นยืนด้วยความงุนงง
จากนั้นจ๋ายหวินเชิ่งก็นั่งลงบนที่นั่งของหยูซี
ต่อจากนั้น จ๋ายหวินเชิ่งก็มอบตั๋วให้หยูซี
หยูซีรับตั๋วจ๋ายหวินเชิ่งไปและนั่งลงในที่นั่งหมายเลข 6
หยูซีพึมพํากับตัวเองว่าจ๋ายหวินเชิ่งกําลังขโมยตําแหน่งของเขา จุดเดิมเขาอยู่ใกล้กับกลางเวที
ไม่นานการแสดงก็เริ่มขึ้น เจี่ยนหยู่เจี๊ยปรากฏตัวบนเวที
เขามีความมั่นใจและดึงดูดความสนใจ
สามปีผ่านไป เจี่ยนหยู่เจี๋ยสูญเสียรูปลักษณ์ของผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะในวัย 17 ปี
เขาเริ่มดูเป็นชายมากขึ้น ที่จริง เขาก็สูงขึ้นอีกเล็กน้อยเช่นเดียวกัน
การแสดงของเจี่ยนหยู่เจียในวันนี้ เป็นเรื่องของการตัดร่างมนุษย์ ทําให้ผู้คนปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า และกลอื่นๆอีกสองสามอย่างที่เขาได้ออกแบบด้วยตัวเอง
จากนั้น การแสดงก็ได้ดําเนินติดต่อตามกันไป
เสียงปรบมือดังสนั่นจากผู้ชมเป็นระยะๆ
เมื่อสิ้นสุดการแสดงทั้งหมด เจี่ยนหยู่เจี๊ยก็ได้กล่าวขอบคุณ
นอกจากขอบคุณผู้ชมที่มาอยู่ที่นั่นและขอบคุณอาจารย์ของเขาแล้ว เจี่ยนหยู่เจียก็ยังขอบคุณเป็นพิเศษกับเจี่ยนอีหลิง
“ผมอยากจะขอบคุณบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ คนผู้นนั้นคือน้องสาวของผม ถ้าไม่ใช่เพราะเธอผมก็คงไม่มีโอกาสได้เป็นนักมายากล นอกจากนี้ ผมก็อาจจะสูญเสียความหวังสําหรับอนาคตด้วยซ้ำไป เธอคือคนที่ให้แสงสว่างและความอบอุ่นแก่ผม เธอเป็นคนที่ทําให้ผมกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า สุดท้ายเธอก็ยังเป็นคนที่ให้การสนับสนุนแก่ผมอย่างมากในเส้นทางนี้”
ขณะที่เขาพูด เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็จ้องมองไปที่เจี่ยนอีหลิงซึ่งนั่งอยู่แถวแรก
สายตาของเขาอบอุ่นนุ่มนวล
บทที่ 528 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในสามปีที่ผ่านมา
หลังการแสดง เจี้ยนหยู่เจี๊ยก็ได้เชิญเจี่ยนอีหลิง จ๋ายหวินเชิ่ง และหยูซีไปหลังเวที
หยูชีวิ่งไปที่เจี่ยนหยู่เจียในทันที แล้วก็เอาแขนโอบไหล่เจี่ยนหยู่เจี๋ย จากนั้นเขาก็เริ่มสรรเสริญว่า “ว้าว ฉันไม่อยากเชื่อเลย จริงแล้วนายเก่งมาก นายถึงกลับกลายเป็นนักมายากลที่มีชื่อเสียงตอนอายุ 20 นายมีโอกาสที่เปิดออกมากมายในอนาคต”
เจี่ยนหยู่เจี๊ยยิ้มขณะที่พูดว่า “ทั้งหมดเป็นเพราะน้องสาวผม”
“เฮ้ นายพอจะหยุดยกยอน้องสาวนายมากไปกว่านี้ได้ไหม? นายได้พูดแบบนี้บนเวทีไปแล้วนายไม่จําเป็นต้องพูดถึงอีกต่อหน้าพวกเรา” หยูซีแสดงความคิดเห็น เขาอดไม่ได้ที่จะแขวะเจี้ยนหยู่เจี๋ย
“เอ้อ ฉันไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรกับการที่ฉันจะพูดแบบนี้สักกี่ครั้ง ก็นั่นเป็นเพราะน้องสาวของฉันจริงๆ”
เจี่ยนหยู่เจี๊ยเดินหนีจากหยูซีตรงไปที่เจี่ยนอีหลิง
เขาวางมือไว้ข้างหน้าเจี้ยนอีหลิง แสดงให้ดูว่ามือเขาว่างเปล่า
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มือเขาหมุนไปเล็กน้อย พวงกุญแจตุ๊กตาขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นจากอากาศ
ในอดีต ย้อนกลับไปยังบ้านเก่าตระกูลเจี้ยน เขาก็ได้แสดงมายากลให้เธอดูด้วย
สามปีผ่านพ้นไป พวกเขาทั้งสองคนล้วนโตแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เขายังคงเป็นคนที่แสดงมายากลให้เจี้ยนอีหลิงดู เขาอยากให้เธอมีความสุข
หยูซอดไม่ได้ที่จะแสดงความคิดเห็น “อา ถ้าฉันรู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น ฉันจะไม่มา พูดตรงๆ ฉันควรปล่อยให้เธอสองคนมาเจอกันเอง”
เจียนหยู่เจียยิ้มเมื่อได้ยินแบบนี้ “อืม นายก็ไม่ได้ขาดทุนอยู่แล้ว นายอาจไม่มีโอกาสนี้อีกในอนาคตก็ได้นะ”
เจียนหยู่เจียเปิดการแสดงที่เปยจิงก็เพราะเขาประสบความสําเร็จอยู่บ้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เขาต้องการใช้เวลาอยู่กับเจี่ยนอีหลิงก่อนวันเกิดสิบแปดปีของเธอ นอกจากนี้ เขาก็ต้องการมาร่วมฉลองวันเกิดกับเธอด้วย
โรงพยาบาลรั่วไห่เซินได้ยืนยันว่าพวกเขาจะดําเนินการผ่าตัดฉินหงรุ่ย จากนั้นการเตรียมการต่อจากนั้นก็ถูกกําหนดขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้ เฮลิคอปเตอร์สุดพิเศษของโรงพยาบาลรั่วไห่เซินก็ได้ลงจอดบนสนามหญ้าที่ว่างใกล้กับวิลล่าของฉินหงรุ่ย
ฉินหงรุ่ยกําลังนอนอยู่บนเตียงสําหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เขาถูกครอบครัวและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์รายล้อมตอนที่เขาถูกเป็นไปยังตําแหน่งที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอด
ฉินหยุฝานก็ปรากฏตัวด้วย เธอดีใจมากเมื่อเห็นเฮลิคอปเตอร์ของโรงพยาบาลรั่วไห่เซิน
“หยุฝาน ไม่ต้องกังวลนะ ลุงจะกลับมาอย่างปลอดภัย
ฉินหยูผ่านพยักหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าโรงพยาบาลรั่วไห่เซินอนุญาตให้มีสมาชิกในครอบครัวเพียงสองคนเท่านั้นที่ไปด้วยได้ เธอคงจะติดแจไปด้วยอย่างแน่นอน
ภรรยาของฉินหงรุ่ยก็บอกกับฉินหยูฝานว่า “ใช่ ไม่ต้องกังวลเรื่องลุงของเธอหรอกนะ ลูกพี่ลูกน้องเธอกับฉันจะคอยดูแลลุงเธอเอง รับรองไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น เรามีโทรศัพท์ดาวเทียมอยู่กับเรา ฉันจะโทรหาเธอเมื่อเราไปถึงที่นั่นแล้ว”
ฉินหยุฝานพยักหน้า เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลุงเธอจะกลับมาอย่างปลอดภัย เธอต้องการให้เขามีสุขภาพดี
ยังไงก็ตาม ฉันหยุฝานก็ยังคงกังวลอยู่บ้างในขณะนี้
เธอรู้สึกว่าพ่อของเธออาจเข้ามายุ่งในเรื่องนี้อีก
ฉินหยุฝานก็หวังว่าเธอจะคิดเรื่องนี้มากเกินไป
หลี่จั่วเจียยื่นหนังสือสัญญาให้ฉินหงรุ่ยลงนาม
สัญญาระบุว่าหลังจากการผ่าตัดสําเร็จแล้ว ทรัพย์สินหกสิบเปอร์เซ็นต์ภายใต้ชื่อฉินหงรุ่ยจะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลรั่วไห่เซิน
ฉินหงรุ่ยไม่ลังเลเลยสักนิด เขาหยิบปากกามาเซ็นชื่อ
แต่ทว่าในตอนนี้ ฉินหงจื้อก็ได้มาถึงพร้อมกับผู้คนจํานวนมาก
ในบรรดากลุ่มคนนั้น มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจํานวนมาก และกรรมการบริษัทอีกจํานวนหนึ่ง
พวกเขาพากันเข้ารุมล้อมฉินหงรุ่ย
พวกเขาทั้งหมดพากันพูดให้ฉินหงรุ่ยหยุดการลงนามในสัญญานี้
เหตุผลก็เหมือนกับที่ฉินหงจื้อพูดไว้ก่อนหน้านี้ เขาไม่ต้องการให้หุ้นฉินกรุ๊ปจํานวนมากตกไปอยู่ในมือของคนภายนอก ซึ่งจะทําให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทของพวกเขา
จากนั้นฉินหงจื้อก็ได้วางสัญญาใหม่ไว้ตรงหน้าหลี่จั่วเจีย