เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 537-538
บทที่ 537 ไม่น่ารักเท่าหลานสาวของฉัน
เนี่ยจวินเริ่มดุเจี่ยนอี้เหิง “แกไม่ได้แม้จะบอกฉันว่าจะมาที่เปยจิง อันที่จริง แกไม่บอกพวกเราแม้แต่คําเดียวด้วยซ้ํา หนังแกคันใช่ไหม? ฉันจะตบแกให้หายคันเมื่อตอนเรากลับถึงบ้าน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยนอี้เหิงก็โต้กลับ “เอ่อ พี่ชายก็ไปไม่พูดอะไรเลยซักคําคราวที่แล้วทําไมแม่ไม่ดีเขาบ้าง”
“ทําไมแกถึงถามแบบนั้น? นั่นยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? ถ้าฉันตบแก แกก็จะเป็นคนที่เจ็บ ในทางกลับกัน ถ้าฉันตีเขา มือของฉันจะเจ็บแทน”
เจี่ยนอี้เหิงได้แต่แตะจมูกของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
อาา ยังงั้นก็ได้ รังแกเขาง่ายกว่านี่นา
แม่รังแกเขาเพราะเขาไม่เก่งเหมือนพี่ชาย
หลังจากโต้เถียงกับลูกชายเธอแล้ว เนี่ยจวินก็หันไปพูดกับเจี่ยนอีหลิง
“อีหลิง- หลานใจร้ายมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา หลานไม่แม้จะกลับบ้านในช่วงตรุษจีนเลย อาา ฉันไม่มีโอกาสได้พบเธอเลย… ฉันไม่มีโอกาสได้แตะใบหน้าน้อยๆที่น่ารักของเธอเลย”
“แต่ไม่ว่ายังไง เธอก็น่าทึ่งมาก เธอข้ามชั้นเรียนแล้วไปเรียนแพทย์ อีกทั้งเธอก็มีที่ปรึกษาที่ดีอีกด้วย เธอคือความภาคภูมิใจของตระกูลเจี่ยนเรา เธอดีกว่าลูกชายที่น่าผิดหวังของฉันมาก”
แต่ยังไงก็ตาม ลูกชายที่น่า ‘ผิดหวัง” ของเนี่ยจวินก็ประสบความสําเร็จเช่นเดียวกัน คนพี่ชนะการแข่งขันเทควันโดหลายรายการ เขามีถ้วยรางวัลและใบรับรองเพียงพอที่จะเติมเต็มผนังทั้งหมด
ในทางกลับกัน คนน้องดูเหมือนว่าวันๆเขาใช้เวลาไปเปล่าๆ แต่ยังไงก็ตามเขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทและองค์กรขึ้นด้วยตัวเขาเอง
ยังไงก็ตามนั่นไม่สําคัญ ทั้งคู่ไม่น่ารักเท่าหลานสาวเธอ
เมื่อเนี่ยจวินอยู่ในห้อง บรรยากาศของวอร์ดก็ดูมีชีวิตชีวา
ย่าเจี่ยนเริ่มยิ้มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
จากนั้นเนี่ยจวินก็สังเกตเห็นว่าเจี่ยนหยุ่นน่าวยืนอยู่ตรงมุมหนึ่ง เขาไม่ได้พูดอะไรสักคํา อันที่จริง เจี่ยนหยุ่นน่าวดูเหมือนข้างในนั้นตายไปแล้ว
“หยุ่นน่าว? มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า? ทําไมเธอดูเหนื่อยจัง รู้สึกสบายดีไหม?”
“ผม.. ผมสบายดี” เจี่ยนหยุ่นน่าวตอบ
แต่ทว่า เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง
เขาไม่กล้ามองเนี่ยจวินและเจี่ยนอีหลิง
เขาไม่รู้ว่าเขาจะเผชิญกับพวกเธอทั้งคู่ยังไง
“เธอแน่ใจไหม? เราอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่แล้ว ให้หมอตรวจดูเลยก็ได้”
“ผมสบายดี” เจี่ยนหยุ่นน่าวพูดซ้ํา จากนั้นเขาก็รีบลุกขึ้น “ผมต้องกลับไปโรงเรียน ผมเพิ่งจําได้ว่าผมต้องดูแลอะไรบางอย่าง”
หลังจากที่เจี่ยนหยุ่นน่าวออกจากห้องไปแล้ว เนี่ยจวินก็ถามว่า “เขาเป็นอะไรไป? เด็กคนนั้นกําลังมีความรักอะไรทํานองนั้นเหรอ? เขามีปัญหาวัยรุ่นหรือเปล่า? ทําไมเขาถึงทําตัวแปลกๆ”
เมื่อยามค่ําคืน จํายหวินเชิงและเจี่ยนอีหลิงต่างก็ทํางานอยู่ในห้องทํางาน ทันใดนั้น เจี่ยนอี้เหิงก็โทรหาเจี่ยนอีหลิง เขาขอให้เจี่ยนอีหลิงมาเยี่ยมเขา
เจี่ยนอี้เพิ่งมีถ้อยคําที่คลุมเครือและสับสนในการโทรศัพท์ ฟังดูราวกับว่าเขาเมา
และด้วยเหตุนี้ เจี่ยนอีหลิงจึงเข้าไปตรวจดูเขา
เจี่ยนอีหลิงใช้ลายนิ้วมือเธอบนแม่กุญแจลายนิ้วมือ จากนั้นเธอก็เปิดประตูเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของเจี่ยนอี้เพิ่ง
หลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว เธอก็เห็นคนเมาเจี่ยนอี้เหิง
เจี่ยนอี้เหิงกําลังกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น โทรศัพท์เขาอยู่ใกล้มือ
มีขวดไวน์เปล่าและไวน์อีกครึ่งแก้วอยู่บนโต๊ะกาแฟ
แม้ว่าเขาจะยังลืมตา แต่ดวงตาของเจี่ยนอี้เหิงก็พร่ามัว
เขาเมาจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ เจี่ยนอีหลิงจึงตัดสินใจช่วยเจี่ยนอี้เหิงทําความสะอาด
“อีหลิง ฉันดีใจจริงๆที่ย่าเจี่ยนไม่เป็นไร” เจี่ยนอี้เหงกล่าว
จากนั้นเขาก็เริ่มบ่นเพ้อ “อีหลิง ได้โปรดเป็นเด็กดี โปรดอยู่กับฉัน ตราบใดที่เธออยู่กับฉัน ฉันจะเป็นพี่สาวให้เธอ ฉันจะเป็นพี่สาวคนสวยของเธอ ฉันแค่อยากให้เธอมีชีวิต…”
เมื่อเขาเมา การกระทําของเจี่ยนอี้เหิงค่อนข้างน่ารักอยู่บ้าง
แต่ทว่า เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย เจี่ยนอีหลิงก็ชะงัก
บทที่ 538 ชาติก่อนหน้าของตระกูลเจี่ยน
จากนั้นเจี่ยนอี้เหิงก็เริ่มรู้สึกเศร้าอีกครั้ง ดูเหมือนว่าอารมณ์ของคนเมาจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน
หัวเดียวกระเทียมลีบ ส่งข้าวส่งน้ําผู้แปลหน่อยนะครับ
“อาา ฉันกังวลจริงๆว่าย่าเจี่ยนจะตาย…. ครั้งที่แล้วย่าเจี่ยนก็ทิ้งเราไว้แบบนี้… Dr.FS เป็นผู้ช่วยชีวิตของเรา ฉันรักเขาแทบตาย เขาเปลี่ยนชะตากรรมของตระกูลเราถึงสองครั้ง”
ในช่วงเวลากลางวัน เจี่ยนอี้เหิงไม่ได้แสดงอารมณ์เหล่านี้
ยามกลางวัน เขาได้ยิ้มทั้งวัน จนดูเหมือนกับว่าเขาจะเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์และกลิ้งกลอก
แต่ยังไงก็ตาม หัวใจเขานั้นอ่อนไหวและเปราะบางมาก
อันที่จริง ตระกูลเขาเป็นจุดอ่อนที่เปราะบางที่สุดของเขา
โรคหลอดเลือดของย่าเจี่ยนนั้นทําให้เขากลัวมาก
เจี่ยนอี้เหิงเมามาก ระหว่างที่พูดน้ําตาเขาก็เริ่มไหล
ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้น ตระกูลเจี่ยนถูกทําลายไปแล้ว บางคนเสียชีวิต ในขณะที่บางคนกลายเป็นคนบ้า
ตามความเป็นจริง สมาชิกส่วนใหญ่ของตระกูลเจี่ยนมีจุดจบที่เลวร้าย
นานมาแล้วก่อนการตายของน้องสาว ย่าเจี่ยนได้ทะเลาะกันหลายครั้งกับคนตระกูลเจี่ยนที่เหลือ ในที่สุด เธอก็ต้องทุกข์ทรมานจากโรคหลอดเลือดสมองและเสียชีวิต
เจี่ยน
จากนั้น เมื่อเจี่ยนหยู่เจี้ยอายุสิบเก้าปี เขาฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึก ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้น ไม่มีใครรู้ว่า ทําไมเขาถึงตัดสินใจจบชีวิตลง ในสายตาของพวกเขา เขาเป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดีและมีความสุขมาโดยตลอด
ในอีกด้านหนึ่ง เจี่ยนหยุ่นโม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากการทดลอง แม้ว่าการสอบสวนครั้งสุดท้ายจะถือว่าเหตุการณ์นี้เป็นอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่มีใครในตระกูลเจี่ยนสามารถยอมรับผลดังกล่าวได้
หลังจากที่เจี่ยนอีหลิงเสียชีวิต เหอเยี่ยนได้ส่งวิดีโอที่เธอซ่อนไว้ให้กับเจี่ยนหยุ่นน่าว
เมื่อดูวิดีโอนั้น เจี่ยนหยุ่นน่าวก็กลายเป็นบ้า เขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าจุดเริ่มต้นชีวิตที่มืดมนและน่าสังเวชของเขานั้นเป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด เขาไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าเขาทําผิดต่อน้องสาว และที่สําคัญ เขารับไม่ได้กับความจริงที่ว่า เขาทําให้น้องสาวต้องรับผิดมาหลายปี
เจี่ยนชูฉิงและเป็นนวนก็หมดสภาพเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป และสูญเสียความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ พวกเขาใช้ชีวิตเหมือนศพเดินได้
หลังจากเหตุการณ์เหล่านั้น เจี่ยนหยู่โปก็ใช้มีดแทงเหอเยี่ยน แต่สุดท้าย เหอเยี่ยนก็ไม่ตาย แต่เจี่ยนหยู่โปถูกส่งตัวเข้าคุกฐานทําร้ายแม่โดยเจตนา
เจี่ยนหยู่หมินตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า และเจี่ยนชูหงก็หมดสภาพลงอย่างสมบูรณ์
ครอบครัวเจี่ยนอี้เหิงก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความโชคร้ายนั้นเช่นเดียวกัน
ในท้ายที่สุด ตระกูลเจี่ยนก็ไม่เหลืออะไรเลย
หลังจากที่เจี่ยนอี้เพิ่งเห็นหลุมฝังศพของเจี่ยนอีหลิง เขาได้ไปถามจํายหวินเชิง เขาถาม อีกฝ่ายถึงคําพูดที่กําลังจะตายของน้องสาว
จํายหวินเชิงไม่ได้ปิดบังความจริงแต่อย่างใด กลับกัน เขาพูดถ้อยคําที่เจี่ยนอีหลิงพูดกับเขาซ้ํา อีกครั้ง
จํายหวินเชิงบอกเขาว่า เธอต้องการให้ขี้เถ้าของเธอกระจายไปในทะเล เธอไม่ต้องการหลุม
ศพ
แต่ยังไงก็ตาม จํายหวินเฉิ่งไม่ได้รักษาสัญญา เขาซื้อที่ดินผืนหนึ่งให้เจี่ยนอีหลิงและตั้งหลุมศพให้เธอ
แม้ว่าเขาจะมีหลุมฝังศพไว้ให้เธอ แต่ผู้คนที่จะมาสักการะไม่มีแล้ว
ตระกูลเจี่ยนหายไปแล้ว
ดังนั้นเมื่อเจี่ยนอี้เหิงเห็นทุกคนในวอร์ด เขาก็จึงมีความสุขเหลือเกิน ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ เจี่ยนอี้เพิ่งมีความสุขมากจนตัดสินใจดื่ม
แต่ทว่า ฝันร้ายไม่รู้จบของเขากลับมาหลังจากที่เขาเมา
เจี่ยนอี้เหิงดึงแขนเสื้อเจี่ยนอีหลิงก่อนที่จะถามว่า “อีหลิงเป็นเด็กดีนะ ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไป ดูสิ พี่สาวของเธอสวยใช่มั้ยล่ะ?”
เจี่ยนอีหลิงหยุดชะงักอีกครั้ง
เธอจ้องไปที่เจี่ยนอี้เหิงอีกพักใหญ่
ในภวังค์ เธอก็พลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ในทางกลับกัน เจี่ยนอี้เพิ่งรู้สึกว่าศีรษะของเขาหนักมาก อาการง่วงนอนเริ่มมาเยือนเขา
แต่งยังไงก็ตาม ขณะที่เขาหลับใหล เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนอยู่ข้างๆเขา
เมื่อเขาตื่นขึ้น เขาก็เห็นใบหน้าที่ละเมียดละไมของเจี่ยนอีหลิง
“อีหลิง…”
“ดื่มน้ําซุป”
เจี่ยนอีหลิงยื่นชามซุปให้เขา ซุปมีไว้เพื่อสลายผลกตามหลังของแอลกอฮอล์
หลังจากดื่มซุปแล้ว เจี่ยนอี้เหิงก็ค่อยๆฟื้นคืนสติ