เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 555-556
บทที่ 555 จุดหมายปลายทางของหุ้น
ฉินหยูฝานไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้หญิงที่เธอพบในบางครั้งล่าสุด
อันที่จริง เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครบางคนพยายามขับรถชนเธออย่างโจ่งแจ้ง
เมื่อตอนที่เธอขับรถ บอดี้การ์ดของเธอถูกแยกออกไปจากเธอ
ส่วนอีกคนหนึ่งขับรถพุ่งชนเธอ จากนั้นพวกเขาก็พยายามเข้าจับกุมเธอ เมื่อเธอลงจากรถเพื่อจัดการกับอุบัติเหตุ
แต่ทว่า ผู้หญิงแปลกหน้าจากครั้งที่แล้วก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
ลูกน้องของผู้หญิงคนนั้นช่วยเธอได้ทันเวลา
ความคิดแรกของเธอคือผู้หญิงคนนี้ได้จัดฉากทุกอย่าง
แต่ทว่าฉินหยูฝานได้ไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดในภายหลัง
เมื่อดูจากภาพดังกล่าวแล้ว เธอก็ตระหนักว่าคนอื่นที่เข้ามาหาเรื่องเธอนั้น เป็นคนจากฉินกรุ๊ป
เป็นเพราะข้อตกลงระหว่างเธอกับโรงพยาบาลรั่วไห่เซินใช่หรือไม่
หรือเป็นเพราะเธอกำลังจะถือหุ้นร้อยละที่มีนัยสำคัญต่อฉินกรุ๊ปหรือไม่
“ทำไมเธอถึงช่วยฉัน” ฉินหยูฝานถาม เมื่อถึงจุดนี้ฉันหยุฝานเริ่มเชื่อเงี่ยนอี้เหิง
“อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ฉันหวังว่าเธอจะได้เป็นประธานคนต่อไปของฉินกรุ๊ป” เงี่ยนอี้เหิงตอบ เขาไม่ได้ตั้งใจจะซ่อนอะไรไว้
คำตอบของเจียนอี้เหิงนั้นค่อนข้างคาดไม่ถึง
เฉินหยุผ่านไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนแก่เขาในทันที แต่ยังไงก็ตามเธอเก็บข้อมูลการติดต่อกับเจียนอี้เหิงไว้
ในท้ายที่สุด ฉินหยูฝานก็ไม่ได้ซื้อหุ้นของฉินหงรุ่ยทั้งหมด
หุ้นเกินครึ่งหนึ่งได้ถูกซื้อไป แต่ยังไงก็ตาม ก็ยังมีส่วนที่เป็นนัยสำคัญเหลืออยู่
เจียนอีหลิงไม่ทราบว่าเหตุใดฉินหงจื้อจึงตัดสินใจทำแบบนี้
เจี้ยนอีหลิงเหลือบดูข้อความในโทรศัพท์ของเธอ [ดูเหมือนว่าพี่ชายของเธอ เจียนอี้เพิ่งจะสนใจหุ้นของฉินกรุ๊ป]
เมื่ออ่านข้อความนี้ เธอก็ตอบกลับอีกฝ่ายว่า [ถ้าเช่นนั้นก็ให้โอนหุ้นที่เหลือไปอยู่ใต้ชื่อเขา]
เจียนอี้เหิงตกตะลึงเมื่อได้รับแจ้งข่าว
อันที่จริง เขาเริ่มสงสัยในชีวิต
เขามองไปที่คนตรงหน้าที่อ้างว่าเป็นทนายความ จากนั้นเขาก็ทบทวนสถานการณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก
“เดี๋ยวก่อน คุณกำลังพูดว่าหุ้นเหล่านั้นจะถูกโอนมาให้ผมเหรอ? และคุณก็กำลังบอกผมว่าผมต้องเซ็นชื่อของผมเท่านั้น”
“ใช่” ทนายตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“สมองของคุณไม่ผิดปกติใช่ไหม? ทำไมคุณถึงทำแบบนี้? ทำไมหุ้นนินกรุ๊ปถึงถูกโอนมาให้ผม”
“ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับเหตุผลเบื้องหลังเรื่องนี้ คุณสามารถลองคิดดูว่าคนกลุ่มไหนที่ต้องการให้หุ้นเหล่านี้แก่คุณ”
ยังไงก็ตามนี่ไม่ใช่คำถามที่เงี่ยนอี้เหิงสงสัย แต่ที่เขาสงสัยก็คือว่าทำไม
มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำแบบนี้ได้ตั้งแต่แรก
เงี่ยนอี้เพิ่งเริ่มครุ่นคิด คนเดียวที่แวบเข้ามาในความคิดของเขาก็คือฉันหยุฝาน.
ในบรรดาคนที่เขารู้จัก มีเพียงฉินหยุฝานเท่านั้นที่ทำได้
ยังไงก็ตาม ทำไมฉันหยุฝานถึงโอนหุ้นนินกรุ๊ปเหล่านี้มาไว้ภายใต้ชื่อเขา
ไม่มีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้เลย
เป็นไปได้ไหมว่า… เธอคิดอะไรกับเขาหรือเปล่า?
หรือนี่ หรือนี่คือของขวัญหมั้น?
หรือว่านี่คือสินสอดทองหมั้น?
หวา ฉินหยุฝานกล้าได้กล้าเสียมาก
เจียนอี้เพิ่งเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องระหว่างฉินหยุฝานและจำยหวินเชิงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉินหยูฝานเป็นฝ่ายที่ริเริ่มไล่ตามจำยหวินเชิง
ที่จริงแล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างทีมที่ชื่อ [ไล่เมฆาคว้าชัยชนะ] เพื่อแสดงความรักที่มีต่อเขา
นี่คือแนวทางใหม่ของฉันหยุฝานในการไขว่คว้าหาความรักงั้นเหรอ?
ขณะที่เงี่ยนอี้เหิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็บอกตัวเองว่า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเกลียดชัง ตระกูลฉินเขาก็คงประทับใจกับการกระทำเธอ
เมื่อเจียนอี้เพิ่งกลับบ้านในตอนเย็น เขาก็คุยกับเจียนอีหลิงทันที
“อีหลิง ฉันคิดว่ามีคนแอบชอบฉันหละ”
“แอบชอบนายเหรอ”
“ใช่ เธออาจมีพี่สะใภ้เร็วๆนี้”
“ใคร?”
“เอ่อออ มีผู้หญิงที่มั่งคั่งคนหนึ่ง เธอโอนหุ้นจำนวนหนึ่งมาใต้ชื่อของฉัน”
และนี่ไม่ใช่หุ้นธรรมดา นี่เป็นการหุ้นของฉินกรุ๊ป
หุ้นเหล่านี้มีมูลค่ามหาศาล
เจียนอีหลิง “ ”
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
บทที่ 556 เธอรังแกน้องสาวฉัน
ในห้อง KTV ที่มีแสงสลัวๆ
เจี้ยนอี้เหิงนั่งอยู่บนโซฟา คราวนี้เขาสวมชุดลำลอง ใบหน้าเขาดูหล่อเหลาและดูไม่เป็นอันตราย
แต่ยังไงก็ตาม สีหน้าเขากลับดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
“นายน้อยอี้เหิง นี่คือคนที่เจรจาร่วมมือกับโม่ชื่ออขึ้น”
ชายวัยกลางคนถูกลากเข้าไปในห้อง KTV
ชายคนนั้นสูงปานกลางและมีหน้าท้องปองเล็กน้อย
เขาไม่ใช่เจ้าของบริษัทใดๆ กลับกันเขาเป็นเพียงแค่ผู้จัดการแผนกที่มีอำนาจบางอย่างอยู่ในมือ
“นายน้อยอี้เหิง เกี่ยวกับเรื่องนี้”
มีรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของเงี่ยนอี้เหิงขณะที่เขาพูดขึ้นว่า “อืม… ฉันจำได้เลือนลางว่า ฉันเคยบอกไปแล้วว่าจะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้มอบทรัพยากรใดๆแก่โม่ชื่ออน เห็นได้ชัดว่ามีคนปฏิเสธที่จะฟังฉัน”
“นายน้อยอี้เหิง ผมไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ”
ชายวัยกลางคนรีบพยายามป้องกันตัวเอง
ที่จริง ชายวัยกลางคนไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เขารู้เพียงว่าโม่ชื่ออริ้นกำลังกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องการใช้เธอทำเงิน
หลังจากที่ชายวัยกลางคนพูดจบ เขามองดูชายสองหน้าซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาอย่างกังวลใจ
ทันใดนั้นเจี้ยนอี้เหิงก็ลุกขึ้นเข้าไปหาชายวัยกลางคน ราวกับว่าเขาเป็นเสือชีตาห์ที่ออกจากกรง
“นายน้อยอี้เหิง” ชายวัยกลางคนร้องครางออกมาด้วยความตกใจ
“อืม แกทำลายแผนทั้งหมดของฉันในตอนนี้ แกจะชดเชยฉันยังไงดี”
“ผม.. ผมจะยกเลิกสัญญาที่มีกับโม่ชื่ออขึ้นทันที” ชายวัยกลางคนพูดตะกุกตะกัก
“นั่นยังไม่พอ” เงี่ยนอี้เหิงตอบอย่างเย็นชา
“นายน้อยอี้เหิง คุณอยากให้ผมทำอะไร? ผมจะทำตามที่คุณพูดทุกอย่าง” ชายวัยกลางคนตอบอย่างเร่งรีบ
เจียนอี้เหิงก้มหน้าแล้วมองชายตรงหน้าอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงอะไรบางอย่าง ริมฝีปากเขาหยักยิ้มเผยให้เห็นท่าทางเหมือนสุนัขจิ้งจอก
จากนั้นเขาก็บอกชายวัยกลางคนว่าเขาต้องการให้อีกฝ่ายทำอะไร
เมื่อได้ยินคำพูดของเงี่ยนอี้เหิง ชายวัยกลางคนก็เบิกตากว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ
“ยังไง แกเข้าใจไหม” เงี่ยนอี้เหิงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาและน่าขนลุก แต่ทว่าใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
สิ่งนี้น่ากลัวเป็นพิเศษสำหรับชายวัยกลางคน
“ครับ ครับ ผมเข้าใจ”
หลังจากอธิบายเรื่องนี้ให้ชายวัยกลางคนฟังแล้ว เงี่ยนอี้เหิงก็ให้คนส่งเขาออกไป
จากนั้นชายอีกคนหนึ่งก็เดินเข้ามาจากด้านนอก ดูเหมือนชายหนุ่มจะคุ้นเคยกับเจี้ยนอี้เหิงเป็นอย่างดี
“นายน้อยอี้เหิงนี่มันเรื่องอะไรกัน? สิ่งนี้จำเป็นจริงเหรอ? ผมเข้าใจว่าคุณมีปัญหากับ ตระกูลฉินแต่ว่าคุณทำไมถึงทำอย่างนี้กับนักแสดงที่ไม่มีใครรู้จัก เธอหลอกลวงคุณหรืออะไรทำนองนั้นเหรอ”
“เธอรังแกน้องสาวของฉัน เหตุผลนี้ไม่เพียงพอเหรอ?” เจี้ยนอี้เหิงถามขณะนั่งลงบนโซฟาอีก
ดวงตาและท่าทางเขานั้นเย็นชาและมั่นคง
“อาา พอแล้ว” ชายคนนั้นตอบ
เราไม่สามารถดูถูกพลังของการแก้แค้นได้จริงๆ
นายน้อยอี้เหิงไม่ยอมที่จะจบเรื่องโม่ชื่ออขึ้นไว้เพียงแค่นี้ แต่เขาต้องการเห็นเธอกระเสือกกระสนอยู่ที่ขอบของวงการบันเทิง
จากนั้น ชายหนุ่มคนนั้นก็พูดกับเจียนอี้เหิง “อย่างไรก็ตาม ผมตรวจสอบข้อมูลที่คุณต้องการแล้ว หุ้นถูกโอนออกมาภายใต้ชื่อโรงพยาบาลรั่วไห่เซิน”
“โรงพยาบาลรั่วไห่เซินเหรอ?”
อาา นั่นก็สมเหตุผลเช่นเดียวกัน
ฉินหงรุ่ยเพิ่งได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลรั่วไห่เซิน
แต่ทำไมโรงพยาบาลรั่วไห่เซินถึงโอนหุ้นให้เขา?
“นายน้อยอี้เหิง คุณได้ทำความดีอะไรทำนองนั้นไหม? สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ยังไง? นี่เป็นเงินจำนวนมหาศาลเลยนะ”
แม้ว่าหุ้นที่เงี่ยนอี้เพิ่งได้รับมาจะไม่ใช่ทั้งหมดของหุ้นของฉินหงรุ่ย แต่มูลค่าที่เป็นตัวเงินก็มีค่ามากมายมหาศาลที่จริงแล้ว คนทั่วไปไม่สามารถหาเงินได้มากขนาดนั้นตลอดชีวิต
และด้วยเหตุนี้ เจี้ยนอี้เหิงจึงสับสนมากเหลือเกินเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
ตอนขาด ไม่ครบ มีปัญหา หรือเรื่องสนุกเกินอยากจะหวีด แต่หาที่ระบายไม่ได้ ติดต่อได้ที่แฟนเพจนะครับ