เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 561-562
บทที่ 561 ยูนิเวอร์ซิตี้ทาเลนต์คอนเทสต์ 1
ใช่ชิงเยว่รู้สึกผิดหวังอย่างมากกับเหตุการณ์นี้
แต่ยังไงก็ตาม เธอไม่ต้องการขอความช่วยเหลือจากเจียนอีหลิงและเป็นนวนอีก
เธอไม่เคยชอบตระกูลเจียนเลยมาตั้งแต่แรก การขอร้องพวกเธอเพียงครั้งเดียวก็น่าอายเกินพอแล้ว เธอไม่สามารถข้ามสิ่งกีดขวางในใจของเธอเพื่อถามอีกฝ่ายได้อีกครั้ง
ยิ่งไปกว่านี้ เธอก็ยังทะเลาะกับเจี้ยนอีหลิงและเวินน่วนอีกเมื่อครั้งสุดท้ายที่ผ่านมา
ดังนั้นใช่ชิงเยว่จึงตัดสินใจไปเยี่ยมอาจารย์เหลียงเอง เธอวางแผนที่จะขอความช่วยเหลือจากเขาโดยตรง
โดยปกติอาจารย์เหลียงจะไม่ต้อนรับใครเลยหากพวกเขาไม่ได้นัดหมายกับเขาไว้ล่วงหน้า แต่ยังไงก็ตาม ในเมื่อไช่ชิงเยวระบุว่าเธอเป็นป้าของเงี่ยนอีหลิง อาจารย์เหลียงจึงตัดสินใจพบกับเธอ
แต่ทว่าเมื่ออาจารย์เหลียงได้ยินเหตุผลที่เธอมาเยี่ยม เขาก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่า ไม่
นอกจากนี้เหลียงโซ่วยังพูดด้วยความมั่นใจว่า เธอต้องมาที่นี่โดยที่เจี้ยนอีหลิงไม่รู้เรื่อง
หลังจากนั้นเหลียงโซ่วก็ขอให้ใช่ชิงเยว่ออกไป
ไช่ชิงเยวรู้สึกโกรธและอับอายยามเมื่อเธอจากไป
แต่ยังไงก็ตาม ในท้ายที่สุดเรื่องก็ได้รับการคลี่คลาย
เวินเฉิงขอให้เพื่อนทางธุรกิจคนหนึ่งมาช่วยจัดการเรื่องนี้ แต่ยังไงก็ตาม การทำแบบนี้ทำให้เขาต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก
มหาวิทยาลัยในเปยจิงมีงานทาเลนต์คอนเทสต์ระหว่างมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหลายแห่งในเปยจึงได้เข้าร่วมงานทาเลนต์คอนเทสต์ครั้งนี้
นี่หมายความว่านักศึกษาที่เข้าร่วมในงานทาเลนต์คอนเทสต์นี้ไม่เพียงแต่ได้แสดงตัวเท่านั้นแต่ยังเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีรางวัลทุนการศึกษาสำหรับผู้ชนะการประกวดอีกด้วย
สามรายการที่มีคะแนนสูงสุดจะได้รับเงินเป็นจำนวนมาก นอกจากเงินแล้ว พวกเขายังจะได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยอีกด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีการคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดสำหรับจัดเป็นนิทรรศการอีกด้วย
มหาวิทยาลัยของเวินรั่วก็เข้าร่วมงานทาเลนต์คอนเทสต์เช่นเดียวกัน
ตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อใดก็ตามที่มีการแข่งขันความสามารถที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ครูจะนึกถึงเวินรั่วทันที ครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น
เป็นรั่วให้ความสำคัญกับงานทาเลนต์คอนเทสต์นี้เป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน เธอใช้เวลาทั้งคืนในการวางแผนสเก็ตช์ภาพวาดล้างหมึก แล้วเธอก็วาดภาพนั้นขึ้นมา
เมื่อไข่ชิงเยว่เห็นผลงานของลูกสาว เธอก็พอใจมากเหลือเกิน
ดูเหมือนว่าลูกสาวเธอจะกลับมาเพื่อคว้าตำแหน่งที่หนึ่งในงานทาเลนต์คอนเทสต์อีกครั้ง
ที่ปรึกษาของเจียนอีหลิงได้ลงชื่อเจียนอีหลิงเพื่อเข้าร่วมงานทาเลนต์คอนเทสต์เช่นเดียวกัน
เหตุผลก็คือเพราะที่ปรึกษาทุกคนจะต้องลงทะเบียนให้กับนักศึกษาคนหนึ่ง
ที่ปรึกษาคนปัจจุบันของเงี่ยนอีหลิงมีนักศึกษาเพียงคนเดียว
ดังนั้น ที่ปรึกษาของเงี่ยนอีหลิงจึงลงทะเบียนให้กับเธอ ในเมื่อเธอมีนักศึกษาเพียงคนเดียวอยู่แล้ว เธอจะลงทะเบียนใครได้อีก?
นี่เป็นเรื่องของเงี่ยนอีหลิงแล้วไม่ว่าเธอจะส่งมอบชิ้นงานหรือไม่ก็ตาม ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ คุณภาพของงานไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด
แต่ทว่าเป็นที่น่าประหลาดใจที่เจี้ยนอีหลิงยังคงส่งงานออกมาชิ้นหนึ่ง
เธอใช้ดินปั้นน้ำตาลสร้างสาวงามยุคก่อนราชวงศ์ถัง
ฝีมือของงานทำให้ความงามดูสดใสเหมือนจริง ทุกรายละเอียดของตา จมูก และปาก ถูกถ่ายทอดออกมา
ส่วนที่น่าทึ่งที่สุดก็คือผมและเสื้อผ้าบนร่างสาวสวย
ผมดูเรียบเหมือนไหม
นอกจากนี้ เสื้อผ้าก็ดูลื่นไหลและสง่างาม
ราวกับว่าสาวงามนั้นยังคงมีชีวิตอยู่และเต้นรำอยู่ต่อหน้าพวกเขา
ที่ปรึกษาของเธอตะลึงเมื่อเห็นฝีมือของเจี้ยนอีหลิง
“คุณพระช่วย ฉันเพียงแค่กรอกชื่อเธอเพราะฉันไม่มีนักศึกษาคนอื่น แต่ว่าตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะช่วยให้มหาวิทยาลัยของเราได้รับรางวัล”
ที่ปรึกษาคนปัจจุบันของเงี่ยนอีหลิงเป็นผู้หญิง เธออยู่ในวัยสี่สิบต้นๆและรู้สึกสบายๆไปกับทุกสิ่ง
เธอตกตะลึงเมื่อเห็นผลงานของนักศึกษา ที่จริง ดูเหมือนเธอกำลังฉุดนักศึกษาไว้ด้วยการวิจัยเชิงวิชาการอยู่ใช่หรือไม่? ดูเหมือนเจี้ยนอีหลิงสามารถเป็นศิลปินได้อย่างง่ายดาย
จากผลงานทั้งหมดที่ส่งมา ภาพวาดของเวินรั่วและศิลปะน้ำตาลของเงี่ยนอีหลิงเป็นผลงานที่ทำให้กรรมการตกตะลึงมากที่สุด
ภาพวาดล้างหมึกของเวินรั่วระบายด้วยความหนาที่และประเภทของลายเส้นที่ต่างกันออกไป นอกจากนี้ แนวคิดและการสร้างภาพวาดก็น่าทึ่งมาก
ผู้ตัดสินยอมรับทักษะของเวินรั่ว
เธอเป็นจิตรกรล้างหมึกมืออาชีพได้อย่างแน่นอน
แต่ทว่า สาวงามศิลปะน้ำตาลนั้นก็ดึงดูดสายตาของทุกคน
ท่าทางแบบนั้น คิ้วนั่น และดวงตานั่น พวกมันเหมือนจริงมาก
บทที่ 562 ยูนิเวอร์ซิตี้ทาเลนต์คอนเทสต์ 2
เนื่องจากนี่เป็นเพียงรอบเบื้องต้น ผู้ตัดสินจึงไม่จำเป็นต้องตัดสินผู้ชนะ เมื่อถึงรอบสุดท้ายของงานทาเลนต์คอนเทสต์ จะมีการให้ผู้เข้าแข่งขันสร้างผลงานศิลปะขึ้นมาในทันที จากนั้นตัวแทนนักศึกษาและครูจะลงคะแนนเพื่อกำหนดอันดับในขั้นสุดท้าย
ดังนั้น งานสองชิ้นนี้จึงได้รับการคัดเลือกจากผู้ตัดสินอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากรายชื่อถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้ว เวินรั่วก็ไม่แปลกใจที่เห็นชื่อเธออยู่ในรายการ
แต่ว่าทำไมชื่อของเจียนอีหลิงจึงติดอยู่ในรายการด้วย
ในความทรงจำของเธอ ลูกพี่ลูกน้องเธอคนนี้โง่เขลาและไร้ความสามารถ เธอไม่มีทักษะพิเศษอะไรเลย สิ่งเดียวที่เธอทำก็คือกิน ยิ่งไปกว่านั้น เธอถูกเอาอกเอาใจแบบไม่ลืมหูลืมตาจากบรรดา
ดังนั้นเป็นรั่วจึงคุยกับแม่ของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนเย็น
“อีหลิงได้รับเซลล์ศิลปะตั้งแต่เมื่อไหร่”
“หนูไม่รู้”
“อืม เธอจะต้องสร้างงานศิลปะขึ้นมาในทันทีในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ แม่ไม่คิดว่าเธอจะลงทะเบียนด้วยงานที่ไม่ใช่ของตัวเอง อืม… ดูเหมือนว่าเธอจะสืบทอดเซลล์ศิลปะบางส่วนจากตระกูลเกินไป ว่าแต่ลูกรู้ไหมว่าเธอส่งอะไรมา”
“หนูก็ไม่รู้เรื่องนั้นเหมือนกัน”
เว็บไซต์เพียงเผยแพร่รายชื่อเท่านั้น ไม่ได้ระบุผลงานที่ส่งเข้าประกวดในแต่ละครั้ง
“อืม.. หนูก็อยากรู้เหมือนกัน หนูสงสัยว่าเธอมีความสามารถอะไร”
“อืม ลูกก็จะไปวันนั้นอยู่แล้ว ลูกก็จะได้เห็นอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ นั่นก็จริง”
เมื่อย่าเงี่ยนได้ยินว่าเจียนอีหลิงเข้าร่วมงานทาเลนต์คอนเทสต์ เธอก็สั่งให้ลูกสะใภ้ทั้งสองคนของเธอไปสนับสนุนเจี้ยนอีหลิงทันที
อันดับตอนสุดท้ายไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือการได้เข้าร่วม
แต่ยังไงก็ตาม เงี่ยนอีหลิงไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นเป็นนวนและเนี่ยจวิน
พวกเธอถึงกับทำป้ายเชียร์เธอมาด้วย..
สถานที่จัดทาเลนต์คอนเทสต์อยู่ภายในห้องบรรยายของมหาวิทยาลัยเปยจิง ความจุของห้องบรรยายนี้คือ 1,000 คน
ผู้ปกครองหลายคนปรากฏตัวขึ้น แต่ยังไงก็ตามมีคนไม่มากที่ทำป้ายเชียร์ ทำให้เนี่ยจวินโดดเด่นขึ้นมาจากฝูงชน
เมื่อไช่ชิงเยว่เห็นเวินน่วน เธอก็เหลือบมองเนี่ยจวินที่ยืนอยู่ข้างตัว เห็นอีกฝ่ายรักษาระยะห่างจากเนี่ยจวินโดยไม่รู้ตัว
เนี่ยจวินมาจากครอบครัวที่มีฐานะดี แต่ทว่าพฤติกรรมของเธอค่อนข้างรุนแรงและเอาแน่เอานอนไม่ได้
ในทางกลับกัน เนี่ยจวินไม่สนใจพฤติกรรมของตนเองเลย เธอรักหลานสาวนี่นา จะผิดตรงไหนกับการให้การสนับสนุนหลานสาวเธอหละ?
เมื่อใช่ชิงเยว่สบตากับเวินน่วน ทั้งสองคนก็เบือนหน้าหนีออกไปเกือบจะพร้อมกัน
สถานการณ์ยังคงรู้สึกอึดอัดจากครั้งที่แล้ว
กฎของการแข่งขันค่อนข้างง่าย นั่นคือให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนขึ้นเวทีทีละคนเพื่อแสดงความสามารถของตนเอง
เจ้าหน้าที่กำหนดเวลาไว้ครึ่งชั่วโมง ข้อจำกัดนี้ค่อนข้างไม่เป็นมิตรกับงานบางงานที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะเสร็จ
แต่ยังไงก็ตาม เพื่อให้การแข่งขันดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เรื่องนี้ก็ต้องเกิดขึ้น
ท่ามกลางฝูงชน มีเพียงสองแถวแรกเท่านั้นที่สงวนไว้สำหรับผู้ปกครองและสมาชิกในครอบครัวของผู้เข้าแข่งขัน ตัวแทนนักศึกษาและอาจารย์จากแต่ละมหาวิทยาลัยที่เหลือรวมกันเข้าเป็นกลุ่ม แต่ละคนมีคะแนนเสียงอยู่ในมือ
คนแรกบนเวทีแสดงการประดิษฐ์อักษร เขาเขียนเพียงไม่กี่บรรทัดต่อหน้าฝูงชน
การประดิษฐ์ตัวอักษรนั้นสวยงาม และแต่ละเส้นสายก็แข็งแกร่งและมีพลัง
แต่ทว่าก็ยังมีบางอย่างขาดหายไป
อักษรประดิษฐ์ดูเหมือนจะไร้เดียงสาอยู่บ้าง
แต่ยังไงก็ตามในแง่ของความสามารถสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย นี่ก็ถือได้ว่าไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียว
แต่ยังไงก็ตาม ใช่ชิงเยว่ก็มองการประดิษฐ์ตัวอักษรอย่างดูถูก เทียบไม่ได้กับงานของลูกสาวเธอ
การแสดงรอบที่สองเป็นผลงานพิณจีน
การแสดงนี้เดิมถูกบันทึกและส่งไปยังผู้ตัดสิน
แต่ว่าผลของการแสดงสดนั้นดีกว่ามาก
เวินรั่วได้ขึ้นไปเป็นอันดับที่ 5
เธอวาดภาพล้างหมึกทันที
เทคนิคของเวินรั่วนั้นซับซ้อนและการจับแปรงของเธอนั้นแข็งแกร่ง
เธอวาดสองสามเส้นร่างภูเขาและแม่น้ำ หลังจากนั้นก็วาดเพิ่มอีกสองสามเส้น เท่านั้นเธอก็ได้สร้างสรรค์อารมณ์ทางศิลปะให้กับผลงานเธอแล้ว