เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 83
大姐大 บทที่ 83: ปกป้องอีหลิง 8
เฉิงอี้เห็นเจี่ยนอีหลิงกับหูเจียวเจียวกำลังดูหลัวซิ่วเอินกระทืบคนอยู่ ก็กลัวว่าจะมีผลกระทบกับพวกเธอ
“สู้กันไม่มีอะไรดีให้ดูหรอก พวกเราไม่ต้องดูแล้วกลับบ้านกันเถอะ”
ภาพโหดร้ายเช่นนั้นไม่เหมาะกับเด็กหญิงน่ารักสดใสแบบเจี่ยนอีหลิง
แทนที่จะหันหน้าหนีและไปจากที่นั่นตามคำพูดของเฉิงอี้ เจี่ยนอีหลิงกลับเดินตรงเข้าไปหาหลัวซิ่วเอิน
เมื่อรู้สึกว่ามีคนเข้าไปหา หลัวซิ่วเอินก็หยุดการกระทำ
ตอนที่เธอต่อยตีกับผู้คน เธอก็จะโหดร้ายรุนแรง แต่เธอก็จะไม่ปล่อยให้ถึงขั้นบ้าคลั่ง
เมื่อหลัวซิ่วเอินเห็นเจี่ยนอีหลิงเข้ามาหา เธอก็จำอีกฝ่ายได้ว่าเป็นเจี่ยนอีหลิงจากเพียงแค่มองแวบเดียว
เธอเห็นภาพถ่ายจากข้อมูลความคืบหน้าใหม่ๆของสถาบัน
เจี่ยนอีหลิงเดินตรงไปยังอันธพาลทั้งสี่คนแล้วยกเท้าขึ้น
แล้วก็กระทืบลงไปบนหน้าของชายคนที่มาสารภาพรัก
แม้ว่าความรุนแรงของเท้านี้อาจจะสู้หมัดของหลัวซิ่วเอินไม่ได้อยู่บ้าง
แต่ก็จะเห็นได้ว่าเจี่ยนอีหลิงได้ทุ่มเทแรงลงไปกับการกระทำนี้
เท้าที่กระทืบลงไปบนใบหน้าของชายคนนั้นได้บิดไปมา เช็ดใบหน้าชายคนนั้นจนเป็นสีแดง ฝากรอยฝุ่นผงจากรองเท้าเอาไว้
หูเจียวเจียวอดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ เพื่อนร่วมห้องเจี่ยนอีหลิงช่างกล้าหาญ….
เมื่อเธอเหยียบไปบนคนผู้นี้ เจี่ยนอีหลิงมีสีหน้าจริงจัง ริมฝีปากเล็กๆของเธอเม้มเป็นเส้นตรง ดวงตาของเธอมุ่งมั่น
ภาพนี้ตกอยู่ภายใต้สายตาของหลัวซิ่วเอินที่อยู่ถัดออกไป ทั้งโหดร้ายและน่ารักไร้เดียงสา
ทั้งโหดร้ายและน่ารักไร้เดียงสาจริงๆด้วย
หลัวซิ่วเอินเข้ามายิ้มและทักทายเจี่ยนอีหลิง “เธอต้องเป็นน้องสาวอีหลิงใช่ไหม ฉันเห็นภาพเธอบนระบบเมื่อเช้านี้ ดูจากภาพเธอน่ารักอ่อนโยน แต่ฉันไม่คิดว่าตัวจริงของเธอจะน่ารักยิ่งไปกว่านั้น”
หลัวซิ่วเอินมองดูใบหน้าเล็กๆของเจี่ยนอีหลิง รู้สึกอยากจะยื่นมือออกไปหยิกแก้มของอีกฝ่าย
มีแต่พวกคนแก่ๆในสถาบันวิจัย แม้กระทั่งคนอายุน้อยอย่างเช่นเฉิงอี้ยังถือว่าหาได้ยาก
ยากไปกว่านั้นที่จะมีผู้หญิงมาร่วมทำงานกับพวกเขา หลัวซิ่วเอินถือว่าเป็นตัวอย่างที่หาได้ยาก
ถึงแม้ว่าทารกใหญ่คนนี้จะมีร่างกายนุ่มนิ่มแบบบาง แต่สมองของเธอนั้นดีกว่าคนสิบคนรวมกัน
“ใช่” เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า
หลังจากที่หยุดไปอีกชั่วขณะ เธอก็กล่าวกับหลัวซิ่วเอินว่า “ขอบคุณ”
เสียงตามธรรมชาติของเธอนั้นทั้งนุ่มนวลและหวานซึ้ง
ขอบคุณที่มาที่นี่เพื่อเธอในวันนี้ ขอบคุณที่สั่งสอนคนพวกนี้แทนเธอ
“ไม่เป็นไร ทำไมต้องพิธีรีตองกับพี่สาวคนนี้ เธอมาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วตอนนี้ เพียงแค่หาพี่สาวถ้าเธอต้องการอะไร พี่สาวจะปกป้องเธอเอง” หลัวซิ่วเอินตบอกตัวเองสัญญากับเจี่ยนอีหลิง
“ได้” เจี่ยนอีหลิงพยักหน้าอีกครั้ง
เจี่ยนอีหลิงไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับหลัวซิ่วเอินอีกต่อไป แต่ก็ไม่ปฏิเสธน้ำใจของอีกฝ่าย
ในระหว่างที่กำลังพูดกันอยู่นั้น เท้าของเจี่ยนอีหลิงก็ยังคงเหยียบไปบนหน้าของชายคนนั้นและก็ยังไม่ได้ยกออกไป
เจ้าเลวที่นอนอยู่บนพื้นอ้าปากและกินฝุ่นที่ตกจากพื้นรองเท้าของเจี่ยนอีหลิงด้วยสีหน้าเจ็บปวด
หยูซีซึ่งมองผ่านการถ่ายทอดสดในอพาร์ตเมนต์ของจี้หมิง อ้าปากหวอ จากนั้นก็พูดกับตัวเองในใจว่า กระต่ายกัดถ้าหากมันตื่นกลัว
เสียงหัวเราะเบาๆดังมาเข้าหูหยูซี
หยูซีมองไปยังจ๋ายหวินเชิ่งซึ่งกำลังยิ้มอยู่ข้างตัวด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ขณะที่หยูซีรู้สึกงุนงง จ๋ายหยินเชิ่งก็ได้ลุกขึ้นยืนในทันทีจากนั้นก็เดินออกไปนอกห้อง
กลุ่มของบอดี้การ์ดที่อยู่ในห้องรีบติดตามออกไปเหลือทิ้งไว้เพียงสองคนคอยดูแลจี้หมิงกระโดดเชือก
จี้จุ่นฟงก็รีบติดตามเขาไปเช่นเดียวกัน เขาได้แต่พยายามอธิบายและขอโทษต่อจ๋ายหวินเชิ่ง “นายท่านเชิ่ง เจ้าลูกหมานั่นชอบดื้อ ผมจะสั่งสอนเขาให้ดีในภายหลัง ส่วนครั้งนี้ได้โปรดอย่าจดจำเรื่องนี้และปล่อยพวกเราไป”
จ๋ายหวินเชิ่งไม่สนใจจี้จุ่นฟงแม้แต่น้อย
จี้จุ่นฟงต้องการที่จะพูดคำพูดอีกสองสามคำ แต่บอดี้การ์สองคนได้เข้ามาขวางเขาไว้และป้องกันเขาไม่ให้เข้าไปใกล้กับจ๋ายหวินเชิ่ง