เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 91
大姐大 บทที่ 91: เล่นเกมกับนายท่านเชิ่ง 4
เห็นชัดๆว่าเป็นเด็กหญิงน่ารัก ทำไมถึงเล่นเกมประเภทนี้เก่ง ฝีมือและความแม่นยำของเธอทำให้ชายคนนี้ที่สูงกว่า 180 เซนติเมตรต้องอาย
เธอเล็งเป้าได้อย่างแม่นยำ รู้จักเลือกตำแหน่งที่แปลกใหม่ สามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า
สองชั่วโมงให้หลัง หยูซีก็มีระดับเพิ่มขึ้นจากแพลตินัมไปเป็นเพชรตั้งแต่ตอนแรก ในขณะที่เจี่ยนอีหลิงนั้นเพิ่มระดับจากบรอนซ์ไปเป็นแพลตินัมโดยตรง
เพราะว่าในแต่ละรอบนั้นจะมีการตัดสินเพิ่มระดับมากมายหลายแบบตามความสามารถของแต่ละบุคคล
เจี่ยนอีหลิงมีคะแนนสูงมากในแต่ละรอบ ดังนั้นอัตราการเพิ่มคะแนนเกมจึงรวดเร็วกว่าหยูซี
ในกรณีนี้ หากเล่นเพิ่มอีกไม่กี่เกม ระดับเกมของเจี่ยนอีหลิงอาจจะแซงหน้าหยูซีได้
ก่อนที่จะออกจากเกม เจี่ยนอีหลิงได้มองไปที่ตารางอันดับเกม
ไม่น่าแปลกใจที่จะเห็น ZYS บนกระดาน
อันดับแรก
“กลับบ้าน” เจี่ยนอีหลิงหันไปมองหยูซี และกล่าวสองคำด้วยเสียงหวาน
หยูซีก็มองไปที่เจี่ยนอีหลิงเช่นกัน และก็เห็นดวงตาที่เป็นประกายสดใส ใบหน้าขาวผ่องอ่อนโยน ไม่ว่าเขาจะมองไปที่เธอด้วยมุมมองไหนก็ตาม เขาก็เห็นแต่เด็กหญิงที่อ่อนแอทำอะไรไม่เป็น…
หยูซียังคงไม่สามารถที่จะซ้อนทับภาพของเจี่ยนอีหลิงตรงหน้าเข้ากับเพื่อนร่วมทีม J10 ก่อนหน้านี้ได้
“นายจะงงทำอะไร” จ๋ายหวินเชิ่งกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉยอยู่ข้างตัวเธอ
หลังจากที่ได้ยินเสียงของจ๋ายหวินเชิ่ง หยูซีก็มีปฏิกริยาตอบรับรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เกม
“ได้ในทันทีเลย”
หยูซีส่งเจี่ยนอีหลิงกลับบ้านตระกูลเจี่ยนที่อยู่ถัดไปอย่างปลอดภัย มอบเธอคืนให้กับย่าเจี่ยน
ย่าเจี่ยนยิ้มและถามหยูซีว่า “เป็นอย่างไรบ้าง สนุกไหม เธอช่วยให้หลานสาวตัวเล็กของฉันชนะหรือเปล่า”
หยูซียิ้มอย่างกระดาก “ครับ พวกเราชนะ…”
เพียงแค่ที่เขาชนะก็เพราะเจี่ยนอีหลิง เป็นเพราะเจี่ยนอีหลิงที่พาเขาไปสู่ชัยชนะ
“งั้นก็ดีแล้ว” ย่าเจี่ยนก้มหน้าไปถามเจี่ยนอีหลิงอีกครั้ง “หลานสนุกไหมในคืนนี้”
“อื้อ” เจี่ยนอีหลิงยอมรับอย่างอ่อนหวาน
“ถ้าเป็นอย่างงั้นต่อไปหลานก็ไปเล่นที่บ้านถัดไปกับพี่หยูซีบ่อยๆ ให้เขาพาหลานไปเล่นเกมสนุกอีก หรือไม่ก็ไปเที่ยวข้างนอกก็ได้”
ย่าเจี่ยนรู้ว่าไม่ว่าเธอจะให้การดูแลหลานสาวของเธอดีแค่ไหนก็ตาม มันก็ยังไม่เพียงพอ
เด็กๆยังคงต้องการที่จะอยู่ร่วมกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน
แม้ว่าอาจารย์สอนพิเศษฉินชวนจะดูไม่เลวนัก แต่เธอก็ไม่รู้จักพื้นเพของอีกฝ่าย
หยูซีนั้นต่างออกไป เพราะว่าเขาเป็นเด็กที่ไว้ใจได้มากกว่า
ที่เป็นข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือเขาค่อนข้างจะมีอายุมากกว่าเจี่ยนอีหลิง
ดังนั้นย่าเจี่ยนจึงถามความเห็นของหยูซี “หยูซี ถ้าเธออยู่บ้านช่วงนี้ เธอพอจะพาหลานสาวของฉันออกไปเล่นบ่อยๆได้ไหม ฉันคนชราไม่มีแรงเหมือนคนหนุ่มสาว ฉันไม่สามารถที่จะพาหลานรักของฉันไปยังสถานที่พวกสวนสนุกได้”
หญิงชรามีสุขภาพดี แต่เธอไม่สามารถที่จะติดสอยห้อยตามไปในกิจกรรมที่คนหนุ่มสาวชอบทำได้
เธอไม่สามารถปล่อยให้หลานสาวนั่งดื่มน้ำชา ดูดอกไม้ และดูข่าวเป็นเพื่อนเธอตลอดทั้งวันได้
“ผมว่างครับ ผมยังไม่ได้ทำอะไรมากในระยะนี้”
แน่นอนว่าหยูซีมีเวลาที่จะมาพาเจี่ยนอีหลิงไปเล่น เจี่ยนอีหลิงสามารถที่จะช่วยยกระดับเขาพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
มีเจี่ยนอีหลิงกับนายท่านเชิ่งช่วย ระดับผู้เชี่ยวชาญก็เหมือนกับอยู่ในกำมือ
หยูซียังกล่าวขึ้นอีกว่า “ถ้าน้องอีหลิงไม่รังเกียจ ผมก็สามารถมาพาเธอไปเล่นได้บ่อยๆ”
เธอคงไม่รังเกียจว่าเขาเล่นเกมไม่เก่ง
หลังจากที่พูดไปแล้ว ทั้งย่าเจี่ยนและหยูซีก็หันไปมองดูเจี่ยนอีหลิงทั้งคู่
เจี่ยนอีหลิงชะงักแล้วกล่าวว่า “ฉันไม่รังเกียจ”
จริงแล้วเจี่ยนอีหลิงไม่ได้รังเกียจหยูซี
“ถ้าเช่นนั้นก็เป็นอันตกลงตามนี้” ย่าเจี่ยนตัดสินใจพูดขึ้น นับจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป หลานรักก็จะลดเวลาในการเรียนลง แม้ว่าหลานจะไม่สามารถที่จะเล่นเกมได้ทุกวัน หลานก็สามารถที่จะไปที่นั่นสัปดาห์ละสองสามวัน เล่นเกมครั้งละหนึ่งถึงสองชั่วโมง รวมกับทำงานและพักผ่อน สุดสัปดาห์ถ้าหยูซีมีเวลา หลานก็ไปสวนสนุกหรือทำกิจกรรมอื่นๆ”
————————————————————-
เจี่ยนหยู่เจี๋ย – อา อา อา ทำไมย่าส่งแกะเข้าปากเสือ อา บ้าไปแล้ว