เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 92
大姐大 บทที่ 92: เสื้อกันหนาวสำหรับหยู่เจี๋ย
เช้าวันถัดมา เมื่อเจี่ยนอีหลิงตื่นขึ้นเธอก็ให้ถุงกระดาษในมือกับย่าเจี่ยน
“ให้หยู่เจี๋ย” เจี่ยนอีหลิงยังคงไม่คุ้นกับการเรียกใครสักคนเป็นพี่
เธอถักเสื้อกันหนาวไหมพรมสำหรับเจี่ยนหยู่เจี๋ย แต่เจี่ยนอีหลิงไม่รู้ว่าตัวเธอเองจะว่างเมื่อไหร่ ดังนั้นเธอจึงต้องการที่จะให้ย่าเจี่ยนช่วยส่งต่อไปให้เจี่ยนหยู่เจี๋ย
ย่าเจี่ยนมองเข้าไปในถุงกระดาษ เสื้อกันหนาวสีเทา
สไตล์เดียวกับที่เธอให้เจี่ยนหยุ่นเฉิงในครั้งที่แล้ว เสื้อกันหนาวคอเต่า สไตล์ไม่ได้ซับซ้อนแต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดมาก
เจี่ยนอีหลิงใช้เวลาถักสองวัน และย่าเจี่ยนก็เห็นเจี่ยนอีหลิงถักเสื้อกันหนาวระหว่างทางไปกลับโรงเรียน
ย่าเจี่ยนจงใจพูดเล่น “หยุ่นเฉิงได้เสื้อกันหนาววันเกิด ตอนนี้หยู่เจี๋ยก็ได้ตัวหนึ่งเหมือนกัน ย่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงตาหญิงชราคนนี้ เฮ้อ เสื้อกันหนาวที่หลานรักถักต้องอุ่นมากแน่ๆ”
จากนั้นปู่เจี่ยนก็แกล้งเย้าแหย่ย่าเจี่ยน “อาหารเช้าก็เห็นชัดว่าไม่เปรี้ยว ทำไมฉันถึงได้กลิ่นเปรี้ยว”
ย่าเจี่ยนมองอย่างโกรธๆไปยังปู่เจี่ยน “ฉันมันเปรี้ยว* แกตั้งหน้าตั้งตากินไป”
ผู้แปล : เปรี้ยวในภาษาจีนมีความหมายแฝงว่า หึงหวง อิจฉา
ปู่เจี่ยนหัวเราะหันมากล่าวกับเจี่ยนอีหลิงว่า “ถักเสื้อกันหนาวลำบาก หลานเหนื่อยมาพอแล้วกับการเรียน ปู่ไม่ต้องการให้หลานถักเสื้อกันหนาวให้ และหลานก็ไม่ต้องถักอะไรให้ย่า ปล่อยให้เธอเปรี้ยวไป ปู่ชินแล้ว”
เจี่ยนอีหลิงตอบด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “หนูไม่เหนื่อย”
การถักเสื้อกันหนาวนั้นไม่ได้ทำให้เจี่ยนอีหลิงเหนื่อย เพราะว่าเธอไม่ต้องใช้สมองมากนัก
ย่าเจี่ยนรีบพูดขึ้นว่า “หมายความว่าอย่างไรที่หลานไม่เหนื่อย ดูตัวหลานสิไม่เหมือนกับสบายดีเลย ปู่พูดถูก อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อย คืนนี้เข้านอนเร็วหน่อย ไม่ต้องทำการบ้านแล้ว ถ้าหลานยังทำไม่เสร็จหากไปโรงเรียนวันพรุ่งนี้แล้วอาจารย์ถามก็ให้อาจารย์มาคุยกับย่า ย่าจะไปโรงเรียนแล้วถามว่าดีแล้วหรือที่ให้การบ้านนักเรียนมากเกินไป ครูที่ไม่มีความสามารถในการอธิบายให้นักเรียนในห้องฟังมักจะทำแบบนี้ ทำการบ้านให้เยอะไว้”
“หนูสบายดี” เจี่ยนอีหลิงอธิบาย
“ก็ได้ ตามใจหลานก็แล้วกัน” ย่าเจี่ยนพูดพร้อมกับยิ้ม
หลังจากที่ย่าเจี่ยนส่งเจี่ยนอีหลิงแล้ว เธอก็ขอให้คนขับรถขับไปยังบ้านของเหอเยี่ยน
เธอกำลังจะเอาเสื้อกันหนาวที่หลานรักถักด้วยตัวเองไปให้กับหยู่เจี๋ย
ระหว่างทาง หญิงชราก็ถามคนขับรถว่า “มีปากกากับกระดาษในรถหรือเปล่า”
“ครับ มีอยู่ในช่องเก็บของ”
“ช่วยจอดข้างทางตรงที่พอจอดได้ แล้วส่งกระดาษกับปากกามาหน่อย”
คนขับรถทำตามที่หญิงชราพูด
หญิงชรารับกระดาษและปากกามาเขียนข้อความลงไป
“ย่า ไม่บอกคุณนายสองโดยตรงเหรอครับ” คนขับรถสับสน
“นายไม่เข้าใจหรอก เหอเยี่ยนเป็นคนคิดมาก ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของหยู่เจี๋ยกับหลานรักอาจจะทำให้เธอคิดมาก ไม่มีประโยชน์ที่จะบอกเธอ”
ย่าเจี่ยนรู้สึกว่านี่เป็นแค่เรื่องระหว่างพี่น้อง เป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดา แต่สำหรับความคิดของเหอเจี่ยนแล้ว บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่ต้องมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
“ถ้าเช่นนั้นก็ส่งข้อความไปหานายน้อยหยู่เจี๋ย เขาก็จะได้รู้และก็จะไม่ได้ทำผิดพลาด”
“ถ้านายส่งข้อความไปล่วงหน้า นั่นไม่เป็นการทำให้สูญเสียความประหลาดใจเหรอ ฉันเขียนข้อความแล้วซ่อนไว้ในเสื้อของเขา เขาก็จะได้เข้าใจตอนที่เขาเห็น นายต้องรู้ว่านี่เป็นเสื้อกันหนาวที่น้องสาวของเขาถักให้เขา ดังนั้นเขาจะต้องมีความสุขมากแน่”
หญิงชราเขียนได้เรียบร้อยแล้วหนึ่งย่อหน้า
ย่าเจี่ยนนั้นมาจากครอบครัวที่มีการศึกษาดังนั้นลายมือเธอจึงสวย
คนขับรถเห็นย่าเจี่ยนเขียนบนกระดาษว่า นี่เป็นเสื้อกันหนาวที่เซี่ยวหลิงถักให้เธอจากการอยู่ดึกมาสองสามคืนนี้ ลมหนาวย่างเข้ามาแล้วเธอต้องดูแลตัวเองให้ดี