เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 97
大姐大 บทที่ 97: รวมตัวกันที่บ้านเก่า 2
เจี่ยนหยุ่นน่าวเงยหน้ามองและก็เห็นเสื้อกันหนาวของเจี่ยนหยู่เจี๋ย
ด้วยความรู้สึกคุ้นตา เขาจึงหันหน้าไปมองพี่ชายคนโตอีกครั้ง
เขาพบว่าเสื้อกันหนาวที่ชายทั้งสองคนนี้สวมเป็นสไตล์เดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่สี
ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาทั้งสองคนจะมีเสื้อสไตล์เดียวกัน แต่เสืื้อกันหนาวของพี่ชายคนโตบนร่างของพี่ชายคนโตนั้นถักมือด้วยซืออวิ้น เป็นเหตุผลยืนยันว่าเจี่ยนหยู่เจี๋ยไม่ควรที่จะมีเสื้อกันหนาวแบบนั้น
เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็มองไปยังเจี่ยนหยุ่นน่าวกับมือของเขาเช่นเดียวกัน และก็ไม่ได้เริ่มต้นทักทายอีกฝ่าย
เพราะว่าเขาได้ยินจากจี้หมิงก่อนหน้านั้นว่าเจี่ยนหยุ่นน่าวได้กล่าวหาว่าเป็นเพราะน้องสาวอี้หลิงที่ผลักเขาลงจากบันไดและทำให้มือของเขาบาดเจ็บ
ถ้าจี้หมิงไม่ได้โกหก ก็ต้องเป็นเจี่ยนหยุ่นน่าวโกหก
ดังนั้นเจี่ยนหยู่เจี๋ยตอนนี้จึงมีความเชื่อที่ขัดแย้งกับเจี่ยนหยุ่นน่าว
เจี่ยนหยู่เจี๋ยเองยังสังเกตเห็นว่าเสื้อกันหนาวของเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็มีสไตล์เดียวกับของเขา
นั่นไม่ต้องสงสัยเลยว่าก็เป็นสิ่งที่น้องสาวอี้หลิงให้เช่นเดียวกัน
ของที่เขาได้รับนั้นไม่ได้มีเพียงชิ้นเดียว ทำให้เขารู้สึกอิจฉาเล็กน้อย…
แน่นอนว่ามันเป็นเพียงความอิจฉาเล็กน้อย และมันก็ไม่สามารถที่จะปกปิดความรู้สึกดีใจที่ได้รับของขวัญจากน้องสาวอี้หลิงได้
คนหกคนเข้าสู่บ้านเก่าในเวลาเดียวกัน
เมื่อเห็นคนมากมายเข้ามาในบ้านในทีเดียว ย่าเจี่ยนก็หัวเราะและหยอกว่า
“นี่เป็นวันอะไรกัน ลมอะไรพัดมากันนี่ ถึงกับพัดพวกเธอมาทั้งหมด”
เหอเยี่ยนก้าวนำมาเป็นคนแรก ด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า “ดูเหมือนว่าวันนี้หนูคิดเหมือนกับพี่ชายใหญ่กับพี่สะไภ้ พวกเราล้วนต้องการมาอยู่เป็นเพื่อนพ่อแม่ในวันนี้”
“เป็นเรื่องดีที่เธอมีความคิดแบบนั้น” ย่าเจี่ยนพูดด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่พูดแบบนั้นแล้ว สายตาของย่าเจี่ยนก็ตกไปที่คู่ของเจี่ยนชูฉิงกับเวินน่วน
สีหน้าของคนทั้งสองนั้นเห็นได้ชัดเจนว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูเหมือนกับว่าพวกเขาต่างพากันลังเลที่จะพูด
เวินน่วนอดที่จะมองไปรอบๆห้องไม่ได้
ย่าเจี่ยนไม่ได้บอกความจริงเพียงขอให้คนรับใช้ที่บ้านให้มาต้อนรับผู้คนพาไปนั่งดื่มชา
ไม่ว่ายังไงย่าเจี่ยนก็ไม่มีของอะไรต้อนรับพวกเขา เธอจึงไม่สามารถทำอะไรได้นอกไปจากปล่อยให้คนรุ่นหลังนั่งดื่มชาและพูดคุยเกี่ยวกับดอกไม้
ย่าเจี่ยนจงใจไม่พูดถึงเจี่ยนอีหลิงว่าไปอยู่ที่ไหน อีกทั้งเจี่ยนชูฉิงและเวินน่วนก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่นั่งดื่มชาอยู่กับย่าเจี่ยน
คนหกคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้มะฮอกกานีสไตล์จีน แต่ละคนล้วนต่างจิตต่างใจต่างสีหน้า
เจี่ยนหยุ่นน่าวนั่งก้มหน้าตลอดเวลา เล่นโทรศัพท์มือถือของตนเองด้วยมือข้างที่ไม่บาดเจ็บ ไม่พูดกับใครแม้แต่คนเดียว
มีเพียงเหอเยี่ยนที่มีรอยยิ้มเข้มข้นในสายตาเธอ และซุกซ่อนรอยยิ้มที่มุมปากเอาไว้ เธอไม่โง่ที่จะเผยตัวออกมาอย่างชัดแจ้ง
“ย่า น้องสาวอีหลิงไปไหน” เจี่ยนหยู่เจี๋ยไม่ได้คิดอะไรมาก ดังนั้นเขาจึงถามย่าเจี่ยนตรงๆเพราะว่าต้องการเห็นเจี่ยนอีหลิง
เมื่อได้ยิน เวินน่วนก็เงยหน้าของเธอขึ้นในทันใด
เจี่ยนหยู่เจี๋ยถามสิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะถาม
ร่างของเจี่ยนหยุ่นน่าวแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด
แต่เขาก็ทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้สนใจในเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จะออกมาเขาได้สัญญากับพี่ชายคนโตว่าอย่างน้อยเขาจะไม่ทำอารมณ์เสียต่อหน้าปู่ย่า
“เธออยู่ข้างนอก” ย่าเจี่ยนตอบอย่างไม่เร่งรีบ ด้วยสีหน้าสบายๆ
จากนั้นเธอก็หยิบถ้วยชาในมือขึ้นมาลิ้มชิมรสอย่างช้าๆ
ท่าทางผ่อนคลายของเธอนั้นตัดกันกับท่าทางของคู่เจี่ยนชูฉิงกับเวินน่วนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“เธอไปไหน” เจี่ยนหยู่เจี๋ยถามอีกครั้ง
“เธอไปเล่นกับเพื่อน”
ย่าเจี่ยนกล่าวเหมือนกับการบีบยาสีฟันที่บีบให้ออกมาทีละน้อย ด้วยการตอบคำถามเพียงเล็กน้อย เธอไม่ยอมที่จะพูดมันออกมาทั้งหมดในทีเดียว
“เพื่อนคนไหน” เจี่ยนหยู่เจี๋ยถามอย่างรวดเร็ว “น้องสาวอีหลิงมีเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เป็นเพื่อนหญิงหรือเพื่อนชาย เป็นเพื่อนจากโรงเรียนเธอหรือเปล่า”
ความระแวดระวังของเจี่ยนหยู่เจี๋ยเพิ่มขึ้นมาในทันใด
เจี่ยนหยุ่นเฉิงที่นั่งอยู่ข้างเขาก็พลอยขมวดคิ้วไปด้วย ดวงตาของเขามีประกายของความไม่พอใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับเจี่ยนหยู่เจี๋ย