เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 1007 ดาราผู้ช่ำชอง
หยางโปไม่ใส่ใจกับสายตาในงานที่มองมา ดาบไม้ท้อในมือถูกยกขึ้นสูง พลังไหลรวมลงมาที่ดาบ หยางโปรู้สึกว่าแขนของตัวเองหลอมรวมเป็นหนึ่งกับดาบไม้ท้อ ความรู้สึกนี้แปลกมาก เหมือนกับดาบหลอมรวมกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขาไปแล้ว !
ดาบไม้ฟันลงไปบนเสาไม้อย่างราบรื่น หยางโปสัมผัสได้ถึงความราบรื่นของดาบไม้ท้อที่ตัดผ่านเข้าไปในลายไม้อย่างชัดเจน !
เสียงดัง “ ฉัวะ ” ทุกคนในงานเบิกตาโต ทุกคนเห็นชัดว่าดาบไม้ท้อในมือของหยางโปตัดผ่านเข้าไปในเสาไม้ ดาบไม้ท้อที่แสนจะบางเบาและเปราะบาง กลับตัดเข้าไปในเนื้อไม้หวางฮวาหลีที่เป็นไม้เนื้อแข็งได้ การเทียบความแข็งแกร่งแบบนี้ทำให้ทุกคนตกใจกันมาก !
โจวซินจับจ้องไปในที่เกิดเหตุ ดูมือของหยางโปที่คลายดาบไม้ท้อ ดาบไม้ตัดผ่านบนเสาไม้และติดอยู่ตรงนั้น เขาไม่เพียงถอนหายใจเบาๆอย่างอดไม่ได้ “ ความแข็งแกร่งของหยางโปเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ! ”
เสวียนจงมองไปที่เกิดเหตุ ไม่รู้ว่าควรจะตอบโจวซินว่ายังไงดี เขาไม่สามารถบอกได้ว่าครั้งนี้กับครั้งที่แล้วต่างกันมากน้อยเพียงใด แต่มันก็ทำให้เขาประหลาดใจทุกครั้ง เพราะในสายตาของเขาแล้ว พลังที่มีอยู่อย่างน้อยนิดของเขา คิดจะทำได้ถึงระดับนี้ มันยากที่จะจินตนาการจริงๆ !
เสวียนจงชายตามองโจวซิน ” เพิ่มขึ้นเยอะมากไหม ? ”
โจวซินส่ายหัว “ ไม่มากเท่าไหร่ ”
เสวียนจงถอนหายใจเบาๆอย่างโล่งอก เขารู้สึกคลายกังวลกับคำตอบนี้ไปไม่น้อยทีเดียว เพิ่มขึ้นไม่มากนักนั้นมันก็มากโขทีเดียว
คิดไม่ถึงว่าโจวซินจะยังคงพูดต่อ “ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่สิ่งนี้ แต่เกี่ยวกับในช่วงระยะเวลาสั้นๆนี้ ที่หยางโปมีการพัฒนาขึ้นอีกครั้ง การพัฒนาแบบนี้ทำให้รู้สึกน่าหวาดกลัวจริงๆ คุณไม่ได้ก้าวหน้ามานานแค่ไหนแล้ว ? ”
เสวียนจงมีสีหน้าเรียบเฉยนิ่งงัน เจ็บปวดรวดร้าวใจ ทั้งหมดที่เขาศึกษาเรียนรู้ และคิดมาติดตาม
โจวซินก็เพื่ออยากได้ความก้าวหน้าและพัฒนาขั้นวรยุทธ์เพิ่มขึ้นโดยเร็วที่สุด แต่ถึงกระนั้น การที่เขาอยากก้าวหน้าขึ้น มันก็ยากเย็นแสนเข็ญ มันก็เป็นธรรมดาที่จะเข้าใจเหตุผลในคำพูดของ
โจวซิน !
“ เขาทำไมนะ ? เขาถือสิทธิ์อะไรถึงได้พัฒนาและก้าวหน้าไปได้เร็วขนาดนี้ ? ” เสวียนจงไม่ค่อยเข้าใจ เขาจ้องหน้าโจวซิน ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีกับหยางโป อย่างน้อยก็จะได้เลือกทางเดินไว้ให้ตัวเอง แต่ความหมกมุ่นที่ตัวเขาไม่สามารถพัฒนาพลังให้ก้าวหน้ามานานหลายปี มันเลยทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้
โจวซินถลึงตาใส่ เขาจ้องไปที่หยางโป ” ใช่สิ เขามีสิทธิ์อะไรถึงได้พัฒนาและก้าวหน้าไปได้เร็วนัก ? เขาต้องได้รับโอกาสและโชคชะตาโอกาสจากทะเลสาบซีหูเมื่อครั้งก่อนแน่นอน มันต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น เขาจะแซงหน้าผมไปได้ยังไง ? ”
ในงานเงียบกริบ หยางโปหันไปมองหน้ายามรักษาการ “ ตอนนี้พอได้หรือยัง ? ”
ยามรักษาการตัวสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร แต่ภายใต้ดาบไม้ของหยางโป เขาก็ก้มลงทันที
” คุณผู้ชายกรุณารอสักครู่ ผมจะไปเรียนเชิญสหายของคุณเข้ามาเดี๋ยวนี้ ! ”
พอพูดจบ ยามรักษาการดูเหมือนจะวิ่งเยาะออกไปจนสุดทาง สำหรับเขาแล้ว ความแข็งแกร่งแบบนี้มันเหนือความคาดหมายไว้จริงๆ หากหยางโปแจ้งว่ามีพละกำลังที่แข็งแกร่งแบบนี้เร็วกว่านี้
เขาก็คงจะไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่สักคำ
ไม่นานก็มีคนในที่เกิดเหตุมีปฏิกิริยาตอบกลับมา “ สวัสดีครับคุณผู้ชาย ผมหวังหวยตง คุณคือ ? ”
หยางโปเหลือบไปมองอีกฝ่าย อีกฝ่ายดูจะมีอายุประมาณสี่สิบกว่า ผมสั้น ดูท่าทางสง่างาม
เขาจึงพยักหน้าให้เล็กน้อย “ ผมหยางโป คุณมีธุระอะไรไหม ? ”
หวังหวยตงยิ้มและชี้ไปทางด้านหลัง “ คุณหยาง คุณก็เห็นแล้ว ในเมื่อคุณไม่แสดงฝีมือออกมา
แต่เลือกที่จะแสดงความแข็งแกร่งออกมาแทน ด้านหลังผมยังมีคนกลุ่มใหญ่ที่อยากจะมาพูดคุยกับคุณ แต่การกระทำนั้นมันเร็วไปหน่อยก็เท่านั้น ! ”.Aileen-novel.
หยางโปหันมองไปทางด้านหลังหวังหวยตง ก็พบว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากวิ่งกรูกันมาทางด้านนี้จริงๆ เขาเหลือบมองหวังหวยตง ” คุณแน่ใจได้ไงว่าคุณจะพูดกับผมรู้เรื่อง ? ”
หวังหวยตงหัวเราะ “ ผมคือหวังหวยตง ฉายาของผมคือ ไป่เสี่ยวเซิงผู้รอบรู้ในยุทธภพ ไม่ว่าคุณจะอยากรู้เรื่องอะไร ผมก็สามารถตอบคุณได้ นี่เป็นข้อได้เปรียบของผม ! ”
หยางโปมีอาการลังเล จากนั้นก็ชี้ไปที่โจวซิน ” แล้วเขาเป็นใคร ? ”
หวังหวยตงผงะไปครู่หนึ่ง “ เขาเป็นใครงั้นเหรอ ? ”
“ เขาชื่อโจวซิน ” หยางโปตอบ
หวังหวยตงตกตะลึงนิ่งงันไปทันที รู้สึกทำอะไรไม่ถูกกันไปเลยทีเดียว เขาคิดว่าหยางโปจะถามเกี่ยวกับเรื่องในงานแต่คิดไม่ถึงว่าหยางโปจะถามถึงคน จนกระทั่งมีคนกลุ่มใหญ่ในงานเข้ามารายล้อม เขาก็ยังพูดอะไรไม่ออกสักคำ
“ สวัสดีครับ คุณผู้ชาย นี่นามบัตรของผมครับ ! ”
มีคนจำนวนมากเกินไปในงานที่ต้องการผูกมิตรกับหยางโป จนหวังหวยตงรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมา “ พวกคุณทยอยเข้ามากันทีละคนสิ ตอนนี้ผมกำลังพูดคุยกับคุณหยางอยู่นะ ”
“ ในเมื่อคุณอยากจะมาพูดคุยด้วย คุณรู้ความเป็นมาของเขาไหม ? ” หยางโปถาม
หวังหวยตงเงียบลงอีกครั้ง จนถูกกลุ่มฝูงชนเบียดจนถอยไปอยู่ที่ด้านหลัง หยางโปก็เอื้อมมือไปรับนามบัตรมามากมาย สำหรับเขาแล้ว นามบัตรเหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก แต่ในเวลาแบบนี้ เขาก็คงไม่สามารถไปสร้างความโกรธเกลียดและปฏิเสธที่จะไม่รับนามบัตรได้
ไม่นานหลังจากฮัวชิงหยุนและเฉาหยวนเต๋อทั้งสองก็ถูกนำตัวเข้ามา ยามรักษาการที่ดูแลอยู่ด้านนอกแสดงท่าทางเคารพนอบน้อม ทำให้พวกเขาแปลกใจมาก แต่เมื่อมาถึงในงาน มันก็ยิ่งน่าแปลกใจที่หยางโปเป็นที่ต้องการตัวมาก !
ฮัวชิงหยุนยังไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ผู้คนทำเหมือนไล่ตามดารานักแสดง
อยากทำความรู้จักกับหยางโป เธออดไม่ได้ที่หันไปมองเฉาหยวนเต๋อ “ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ”
เฉาหยวนเต๋อค่อนข้างที่จะลังเล ” หยางโปเป็นสมาชิกของคณะกรรมการประเมินโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมแห่งชาติและมีความสามารถระดับการประเมินวัตถุทางวัฒนธรรมอยู่สูงมาก เมื่อตะกี้เขาต้องแสดงฝีมือแน่ๆ ทำให้ทุกคนตกตะลึง และทำให้ทุกคนรู้ถึงระดับความสามารถของเขา
ถึงได้ก่อให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นน่ะสิ ! ”
ฮัวชิงหยุนค่อนข้างที่จะมึนงง “ แต่แบบนี้มันก็บ้ากันเกินไปแล้วไหม ? มันดูเหมือนอยากจะเข้ามาทำความรู้จักซะที่ไหนกัน นี่มันไล่ตามดาราชัดๆ ! ”
“ ดาราผู้ช่ำชอง เป็นดาราเหมือนกัน หยางโปเปรียบเสมือนเป็นดาราผู้ช่ำชอง ! ” เฉาหยวนเต๋อเดา
หลังจากนั้นไม่นาน หยางโปถึงได้หลบออกมาจากวงล้อมได้ เมื่อเขาเห็นฮัวชิงหยุนทั้งสองคน
ก็โบกมือให้พวกเขา
ฮัวชิงหยุนทั้งสองคนจึงเดินเข้ามาหา ” นี่คุณไปทำอะไรมา ? ”
“ ก็คนมีเสน่ห์ไง ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มักจะมีแต่คนสนใจ ” หยางโปยิ้มพลางตอบ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอธิบายว่าเขาเพิ่งตัดเสาไม้มา
ฮัวชิงหยุนกลอกตาใส่ ” คุณมีเสน่ห์งั้นเหรอ คุณคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์มากไหม ? ”
เฉาหยวนเต๋อหันไปพูดกับหยางโป ” เจอของดีอะไรไหม ? ”
“ พวกเราลองไปดูกันเดี๋ยวก็รู้เองแหละ ! ” หยางโปพูด
ทั้งสามคนเดินไปที่แผงลอย โจวซินที่ยืนอยู่ข้างหลังฝูงชน เมื่อเห็นว่าในที่สุดหยางโปก็เดินมา
เขาก็มีอาการลังเลเล็กน้อยและหยุดหยางโปไว้ ” คุณไม่ได้พูดความจริง ! ”
“ ผมพูดโกหกอะไร ? ” หยางโปหันไปมองโจวซิน
โจวซินจ้องหน้าหยางโป “ เมื่อเทียบกับก่อนหน้าที่ ตอนที่อยู่หยูหาง คุณก้าวหน้าไปมาก
ถ้าตามปกติแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาไปได้รวดเร็วขนาดนี้ คุณต้องได้รับโอกาสและโชคชะตามาจากหยูหางแน่นอน ! ”
“ โอกาสและโชคชะตา ? ” หยางโปเหลือบไปมองโจวซิน ส่ายหน้าและพูดว่า “ คุณคิดว่าผมจะได้รับโอกาสและโชคชะตามาใช่ไหม ? เกรงว่าวันนั้นคุณไม่ได้ใส่ใจกับการฝึกฝน นับตั้งแต่การฝึกฝนวันนั้นมา ผมก็รู้สึกว่า ความเร็วในการฝึกฝนของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือว่านั่นคือโอกาสและโชคชะตา ? ”
ดวงตาของโจวซินเบิกกว้าง ถูกหยางโปหลอกเข้าให้อีกครั้งแล้ว “ จริงเหรอ ? ”