เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 1034 บัตรเข้าประตู
หยางโปให้ข้อมูลแก่ถูฉี ถูฉีได้รับข้อมูล ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่หยางโป “ คุณไม่เหมือนลูกเศรษฐี ปกติลูกคนรวยไม่สามารถเอาข้อมูลดังกล่าวมาได้ ”
หยางโปยิ้ม “ ถ้างั้นคุณคิดว่าผมเป็นใคร ? ”
ถูฉีจ้องมองหน้าหยางโปเขม็ง หัวล้านมีเหงื่อไหลซึมออกมาเล็กน้อย “ คุณมีภูมิหลังและมีอิทธิพล น่าจะมีประสบการณ์และผ่านอะไรมาอย่างโชกโชน ทำไมคุณถึงต้องมาทำธุรกิจอย่างเราด้วย ? ”
หยางโปไม่ได้พูดอะไรมาก ทำอย่างกับเขาจะบอกความจริงทุกอย่างได้งั้นแหละ ?
ถูฉีเริ่มสงสัยหยางโปมากขึ้นเรื่อยๆ เขานั่งตรงข้ามหยางโป และดื่มชากับเขา แต่ปากก็ยังถามถึงที่มาของเขาไม่หยุด
หยางโปปากแข็งมาก ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ซักถามเลยด้วยซ้ำ
ไม่นาน ก็ได้รับโทรศัพท์จากกุ้ยหลงจิ่ว ” ทีมรายการตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้จะไปที่เมืองภาพยนตร์กัน คุณเตรียมตัวไว้เลย ! ”
หยางโปอดที่จะดีใจไม่ได้ “ อะไรจะเร็วขนาดนี้ ? ”
กุ้ยหรงจิ่วหัวเราะ “ คุณเร่งมาตลอดไม่ใช่หรือไง ? มีผมคอยจับตาดูอยู่ จะไม่เร็วกันได้ยังไง ?
คุณเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้ให้พร้อมเลย พวกเราจะไปดื่มกินกัน ! ”
“ เอาน่า คุณวางใจได้เลย ไวน์ชั้นดีและอาหารเลิศรสเตรียมพร้อมไว้แล้ว ! ” หยางโปกล่าว
หยางโปกำลังดีอกดีใจเตรียมเรื่องที่กุ้ยหลงจิ่วจะมาถึง จินหลันก็ขับรถมาหา และไปถามหยางโป“ คุณรู้หรือเปล่า ? รายการประเมินและพิสูจน์ยืนยันโบราณวัตถุจะมาที่ของเรา คนทำโบราณวัตถุปลอมอย่างพวกคุณจะต้องถูกเปิดโปงกันหมด ! ”
หยางโปเงยหน้าขึ้นมองจินหลัน สาวน้อยดูหน้าตาสะสวย น่าจะแต่งเนื้อแต่งตัวก่อนแล้วถึงได้มาที่นี่
หยางโปยิ้มให้ “ คุณทำงานอยู่ไม่ใช่เหรอ ? ทำไมถึงมาที่นี่ได้ ? ”
“ ฉันจะลาออกแล้ว ! ” จินหลันตอบ
หยางโปนิ่งอึ้งไปสักพัก “ ทำไมถึงได้ลาออก ? ”
“ คุณพูดถูก ฉันต้องพยายามทำงานด้วยลำแข้งของตัวเอง จะพึ่งพาแต่พ่อแม่ไม่ได้ ! ฉันชอบทำเค้กมาก อยากจะเปิดร้านเค้กสักร้าน ก็ไม่เคยได้ทำจริงๆสักที ฉันคิดว่าจะขายรถทิ้งและบวกกับเงินเก็บที่มีอยู่เล็กน้อย ไปเรียนก่อนสักครึ่งปี แล้วค่อยกลับบ้านมาเปิดร้านเค้ก ! ” จินหลันตอบ
หยางโปมองดูจินหลันด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะแปลกใจ มองจนจินหลินหน้าแดง เขาถึงได้ชูนิ้วโป้งให้ “ คุณทำถูกต้องแล้ว คุณเป็นคนที่มีความเด็ดขาดมาก ผู้ชายปกติทั่วไปยังสู้คุณไม่ได้เลย ! ”
จินหลันหัวเราะ “ คุณไม่ต้องมาล้อฉันเล่นเลย คุณต่างหากที่เป็นคนมีความสามารถที่แท้จริง
เก่งกว่าฉันมาก ”
หยางโปหัวเราะร่าออกมา แต่ไม่ได้อธิบายอะไร
จินหลันมาเร็วไปเร็ว อย่างกับลมพัด
ถูฉีหันไปมองหน้าหยางโป “ คุณนี่ก็จริงๆเลยนะ เพิ่งมาถึงได้ไม่กี่วัน ก็จีบลูกสาวเจ้าของแล้ว ฝีมือสูงส่งจริงๆ ! ”
“ คุณพูดบ้าอะไร ! ตอนที่ผมเพิ่งมา จินหลันได้ช่วยผมไว้มาก ถ้าไม่ใช่เพราะจินหลัน ผมคงหาที่ปักหลักไม่ได้ ! ” หยางโปกล่าว
ถูฉีฮึดฮัดไม่พอใจ “ ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวคนสวยของเจ้าของบอกคุณ คุณก็คงไม่มาหาผมหรอกใช่ไหม ? คุณคงไม่รู้เรื่องสัญญาเช่าที่ใกล้จะหมดอายุ ? ”
หยางโปหัวเราะชอบใจ “ ไม่ต้องโกรธ เวลาแค่สามเดือน ไวอย่างกับกระพริบตา ถ้าคุณคิดว่าผมขัดหูขัดตา สามเดือนหลังจากนี้ พวกเราก็ไม่พบหน้ากันอีกแล้ว ! ” ไอรีนโนเวล
ถูฉีหันมามองหยางโปโดยที่ไม่พูดอะไร
หยางโปก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเหมือนกัน
กุ้ยหลงจิ่วพร้อมพรรคพวกมาถึงอย่างที่พูด หยางโปได้จองโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในพื้นทีให้ และได้เชิญผู้เชี่ยวชาญและพิธีกรสองสามคนไปกินข้าวร่วมกัน
กุ้ยหลงจิ่วชี้ไปที่หยางโป และหันไปพูดกับพวกเขา “ ที่พวกเรามาเมืองภาพยนตร์ ทั้งหมดก็เป็นเพราะพ่อหนุ่มคนนี้ เดี๋ยวต้องมอมเหล้าเขาให้ได้ ทำให้เขาพูดออกมาตามตรง ลากพวกเรามาถึงที่นี่ มีเจตนาอะไรแอบแฝงอยู่กันแน่ ”
“ เอาสิ จะต้องทำให้เขาพูดออกมาตามตรงให้ได้ มาจีบสาวอยู่ที่นี่หรือเปล่า ? แล้วจะให้พวกเรามาเป็นไม้กันหมาให้ว่างั้น ! ” สวีอี้หมิงพูดพลางหัวเราะ
หยางโปไม่มีทางเลือกอื่น “ พวกคุณอย่าได้เดามั่วซั่วกันไปเรื่อยเปื่อยเชียวนะ ไม่มีเรื่องพวกนั้นจริงๆ ! ”
“ ถ้าไม่มีงั้นก็แสดงว่ามี ต่อให้แอบมี ก็มีไม่ใช่เหรอ ? ” หวู่กั่วเฉียงผู้เชี่ยวชาญด้านหยกกล่าว
หยางโปรีบปัดมือ “ พวกเรานั่งลงกันก่อน มันจะได้ง่ายเวลาที่ผมจะพูดเรื่องนี้อย่างละเอียดให้ฟัง
ที่เชิญทุกท่านมาในครั้งนี้ คืออยากให้ทุกท่านช่วยรักษาหน้าให้ผมจริงๆ แต่หลักๆแล้วก็เพื่อเรื่องธุรกิจ ”
ในระหว่างที่หยางโปพูดอยู่นั้นก็พลางยกกาน้ำชารินชาให้ทุกคนไปด้วย ถ่อมตัวเอามากๆ ยังไงซะครั้งนี้มันก็เป็นการขอร้องให้มาช่วยเป็นธุระให้
ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น หยางโปก็ได้เล่าเรื่องที่ชายชรามอบหมายธุรกิจให้เขามาทำที่นี่ร่วมทั้งปัญหาและอุปสรรคที่พบเจอให้ฟัง
กุ้ยหลงจิ่วยิ้มพลางพูด “ คุณปู่ของคุณนี้ก็ช่างที่จะฝึกฝนคุณซะจริงๆ นี่อยากให้คุณเติบโตขึ้นมาในสถานที่ห่างไกล พวกเรามากันแบบนี้ไม่ใช่ว่าฝ่าฝืนคำสั่งของท่านผู้เฒ่าหรอกหรือไง ? ”
หยางโปพูดพลางยิ้ม “ อาจารย์กุ้ย เรื่องนี้จะนับว่าฝ่าฝืนคำสั่งได้ไง ? ผมไม่สามารถหาคนมาช่วยได้เชียวเหรอ ? การสั่งทำโบราณวัตถุ ผมก็ทำเองไม่ได้ ผมคนเดียวจะมาทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงได้ไง ผมทำเพื่อฝึกฝนทักษะ งั้นไม่ต้องรอนานหลายสิบปีถึงจะเปิดกิจการได้หรือยังไง ? ”
กุ้ยหลงจิ่วยิ้มและกล่าวว่า “ คุณนี่มันปากคอเราะร้ายจริงๆ ผมพูดไม่พ้นคุณหรอก แต่ในเมื่อคุณมีความคิดนี้แล้ว ถ้างั้นกลับไปผมจะเหลือที่นั่งแขกในงานเลี้ยงไว้ให้ที่หนึ่ง ”
สวีอี้หมิงรีบพูดว่า ” อาจารย์กุ้ยทำแบบนี้ไม่ดี ที่นั่งสำหรับแขกนี้ต้องเอาตามที่ผมว่าสิ นี่คุณจะมาแย่งที่คนอื่นที่ผมจัดไว้แบบนี้ไม่ได้ ! ”
หยางโปรีบเอ่ยขึ้น “ ไมตรีจิตที่ทุกคนมีให้ ผมจะจดจำไว้ ! ”
สวีอี้หมิงปัดมือ “ ผมแค่พูดเล่น พวกคุณอย่าได้ถือสาเชียวนะ ”
ทุกคนต่างพากันหัวเราะ ข้าวมื้อนี้กินกันอย่างเอร็ดอร่อยมาก
เช้าวันที่สอง หยางโปกลับมาจากการฝึกฝนตั้งแต่เช้าตรู่และพบว่าที่ประตูโรงแรมมีป้ายประกาศติดไว้อยู่แผ่นหนึ่ง ด้านบนระบุไว้ว่า รายการประเมินและพิสูจน์ยืนหยันโบราณวัตถุกำลังจะมาถึงที่นี่ พรุ่งนี้จะทำการแจ้งกำหนดการของทางรายการประเมินและพิสูจน์ยืนยันให้ทราบ
เมื่อหยางโปเห็นสิ่งนี้ ก็รู้สึกดีใจมาก ยิ่งรายการนี้มีอิทธิพลมากเท่าไรก็ยิ่งดี
เมื่อเดินเข้าประตูมา หยางโปเห็นเจ้าของโรงแรมกำลังเหยียบโต๊ะและพยายามจะดันเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งลงมา หยางโปตกใจนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง “ เถ้าแก่ คุณกำลังทำอะไรอยู่ ? ”
เจ้าของโรงแรมหันหลับมามอง “ จะมีการมาประเมินและพิสูจน์ยืนยันโบราณวัตถุที่นี่ไง ? เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งองค์นี้ที่ปกป้องตระกูลเรามาหลายร้อยปีแล้ว ผมอยากรู้ว่ามันอยู่ในชั่วยุคไหนกันแน่ ผมจะเชิญให้มาตรวจสอบดูถึงที่ ”
หยางโปนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ “ แบบนี้จะดีจริงไหมนะ ? ”
เจ้าของโรงแรมเดิมก็ไม่ได้สนใจเขาเสียด้วยซ้ำ ตั้งหน้าตั้งตาย้ายของลงมาต่อ
แสงสว่างวาบผ่านตาหยางโปไป พอกวาดตาอมอง รูปปั้นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาหลายร้อยปีจริงๆ แต่ก็ไม่ได้มีค่าอะไรมาก ในเมื่อเถ้าแก่ไม่เต็มใจที่จะฟัง เขาจึงไม่พูดอะไรมาก
เมื่อกลับมาถึงที่ร้าน ถูฉีก็ถือบัตรใบหนึ่งอยู่ในมือแล้วพลิกดูไปดูมา เขาจ้องมองบัตรและพูดพึมพำกับตัวเองว่า ” รายการประเมินและพิสูจน์ยืนยันนี้ ทำไมจู่ๆ ถึงมาที่เมืองภาพยนตร์ของเรานะ ? ”
หยางโปหันไปเหลือบมอง “ เอ๊ะ เพิ่งจะมีข่าว คุณก็ได้บัตรมาแล้วงั้นเหรอ ? ”
ถูฉีภาคภูมิใจอย่างปกปิดไว้ไม่มิด “ แน่นอน มันก็แค่ตั๋วใบเดียวไม่ใช่หรือไง ? ทำมาหากินอยู่ที่นี่มานานก็หลายปี ถ้าแค่บัตรใบเดียวแล้วเอามาไม่ได้ ถ้างั้นก็ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว ! ”
พอพูดจบถูฉีก็หันไปเหลือบมองหยางโป ” ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ที่พี่ชายมีความสามารถไม่มากพอ เกรงว่าครั้งนี้จะพาคุณไปด้วยไม่ได้แล้ว ”
หยางโปยิ้มและโบกมือให้ “ ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมดูในร้านเอา เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่ดี ”