เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 151
เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก – ตอนที่ 151: ใครมา
ตอนที่ 151: ใครมา
โดย
Ink Stone_Romance
หวางนิวดูเฉินเวยเสร็จก็เข้ามาในครัว พอเข้ามาก็บ่น “เด็กคนนี้นี่ บอกว่าปวดท้องหนักมา ลุกไม่ขึ้น แม่เห็นสีหน้าก็ยังดีอยู่ ดูไม่เหมือนปวดมากมายเท่าไร ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้นัก ไม่ยอมทำกับข้าว ทั้งพ่อ พี่ชายเขาเหนื่อยมาทั้งเช้า ท้องว่างหมดแล้ว แค่อยากจะกลับมากินข้าวพักผ่อน ตอนบ่ายยังต้องทำงานอีก นี่ไม่มีอะไรเลย พ่อเขาไม่พูด แต่ในใจต้องไปเป็นสุขแน่ เสี่ยวเวยยิ่งทียิ่งใช้ไม่ได้แล้ว พูดก็ไม่ฟัง ลูกว่า เธอเหมือนใคร ไปหัดนิสัยเสียแบบนี้มาจากใคร”
ใครก็ไม่เหมือน เธอนิสัยอย่างนี้อยู่แล้ว แล้วที่เธอเป็นแบบนี้เพราะเสียนิสัย ลองตีดูหลายที ดูว่าเธอยังจะขี้เกียจอยู่ไหม
แต่เฉินเยี่ยนก็รู้ นิสัยเฉินเวยเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ตีไปก็ไม่ได้ผล สอนไปก็ไม่ได้ดี ถึงแม้ปากเธอจะบอกว่าจะทำตัวดีขึ้น แต่ในเฉินเวยไม่มีทางเปลี่ยน
“คุณป้าพักผ่อนเถอะค่ะ ฝั่งนี้มีหนูกับพี่เยี่ยนจื่ออยู่”
หวางจวนช่วยเฉินเยี่ยนทำอาหาร ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเหนื่อยเหมือนกัน แต่หวางนิวทำงานมากกว่าพวกเธอ เหนื่อยมากกว่า
“ไม่เป็นไร ฉันช่วยจะได้เร็วขึ้น ให้พ่อกับพี่ชายได้รีบกินรีบนอนกลางวัน พวกเธอสองคนก็นอนงีบหนึ่ง ตอนบ่ายถ้าเหนื่อยมากก็ไม่ต้องไป พวกเราทำกันได้”
หวางนิวส่ายหน้า เธอเหนื่อยมาก แต่เธอชินกว่าพวกเฉินเยี่ยน
พวกเฉินเยี่ยนทำอาหารกลางวันเสร็จเร็วมาก ตอนที่กินเฉินจงมองเฉินเวยอยู่หลายครั้ง มือเฉินเวยที่ถือชามสั่นเล็กน้อย เธอกลัวเฉินจงจะว่าเธอ เธอคิดไว้แล้ว ถ้าเฉินจงว่าเธอ เธอจะร้องไห้ แกล้งทำเป็นน่าสงสารเธอพอทำได้ แต่สุดท้ายเฉินจงไม่ได้พูดอะไร แต่ความกดดันที่มองไม่เห็นทำเอาเฉินเวยอึดอัด เธอรู้ พ่อคนนี้ยิ่งไม่ชอบเธอแล้ว
ตอนที่เก็บของเสร็จกลับเข้าห้องมือเฉินเยี่ยนที่ปลดล็อคประตูชะงักไป บนประตูมีรอย วงกบประตูไม้มีรอยสีขาว เหมือนโดนฟัน
จนเข้ามาในห้อง ไปป์ห่อบุหรี่ยังอยู่ เงินไม่หาย ในห้องไม่ได้ถูกรื้อ ดูเหมือนไม่มีใครเข้ามา เฉินเยี่ยนยิ้มเย็นชา วันนี้เฉินเวยน่าจะทุบกุญแจ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ทุบให้เปิดออก เธอคิดอยากจะขโมยไปป์ห่อบุหรี่ล่ะสิ ทำไมไม่ทำต่อนะ?
อันที่จริงเฉินเยี่ยนไม่สนใจเลยว่าเฉินเวยจะขโมยไปป์ห่อบุหรี่ไป ธุรกิจบุหรี่นี้เฉินเยี่ยนคิดเรื่องขยับขยายธุรกิจเอาไว้แล้ว เธอคิดไว้แล้วว่าช่วงนี้ให้พ่อทำไปป์ห่อบุหรี่มาหลายอัน ถึงเวลาจะให้บ้านลุง ครอบครัวที่สนิทกัน ให้พวกเขาพันบุหรี่เหมือนกัน หลังได้มาตรฐานแล้ว เธอจะรวมกันส่งไปที่จุดรับบุหรี่ ถึงตอนนั้นก็ขยายจุดรับบุหรี่อีกหลายที่ก็ได้แล้ว คำนวณดูแล้ว ไม่เพียงแต่ญาติพี่น้องจะได้เงิน เธอก็ได้เงินเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนเรื่องไปป์ห่อบุหรี่ที่แพร่ออกไป คนอื่นจะผลิตตาม เธอไม่ได้สนใจเลย คนอื่นห่อบุหรี่ก็เอาไปขายได้ ขายของเหมือนกัน ถ้าพวกเขายอม ก็ทำไป เธอไม่ได้คิดจะครอบครองคนเดียว เธอต้องการแค่เงินลงทุนสร้างตัว
ถ้าอีกหน่อยสามารถทำได้ เธอคิดว่าตัวเองจะยื่นขอแบรนด์สินค้า ผลิตบุหรี่ ยังไงเธอก็ไม่สามารถจะให้ซินห้าวมาช่วยเธอเก็บไปป์บุหรี่ได้คลอด ไม่ช้าเร็วก็ต้องใช้หมด อีกอย่าง ไปป์บุหรี่ที่เก็บมาได้ รสชาติแต่ละอันแตกต่างกัน เธอต้องทำยาเส้นของตัวเอง
ส่วนสูตรยาเส้น เธอมีคอมพิวเตอร์ เสียสละเลือดทิพย์หยดหนึ่งก็ได้มาแล้ว
ดังนั้นเฉินเยี่ยนไม่กลัวว่าไปป์ห่อบุหรี่จะหายไป ถ้าวันนี้เฉินเวยขโมยไปป์ห่อบุหรี่ไปจริงๆ เธอก็จะทำให้เฉินเวยได้รู้ถึงผลตอบแทน ถึงแม้ว่าจะไม่ไล่เฉินเวยออกจากบ้านเฉิน เฉินเวยก็จะสูญสิ้นความไว้ใจจากพ่อแม่ ขอแค่เฉินจงและหวางนิวเกลียดเฉินเวย ไม่รู้สึกรู้สาแล้ว เธอจะต่อสู้กับเฉินเวย ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว
น่าเสียดายเฉินเวยไม่ได้ทำต่อ อาศัยแค่รอยก็บอกไม่ได้ชัดเจน เฉินเยี่ยนจึงต้องวางมือ
หลับกลางวันแล้ว ตอนบ่ายพวกเฉินเยี่ยนก็ไปที่ไร่ต่อ ยุ่งกันแบบนี้สองวัน กว่าจะเก็บเกี่ยวพืชผลหมด
ข้าวโพดกองอยู่ในลานบ้าน ถั่วเหลืองวางแผ่ไว้บนถนน เฉินจงและเฉินกุ้ยกำลังดันหินบดถั่ว สลับกันกับงาก็ตากไว้ที่ลานบ้าน ถั่วลิสงก็กองไว้ด้วยกัน
นอกจากข้าวโพดแล้ว จำนวนถั่วลิสง ถั่วเหลือง และงาไม่มาก
ถั่วลิสงเอาไปเคี่ยวน้ำมัน ถั่วเหลือสามารถกินได้ งาก็บดจนเป็นน้ำมันงา นี่เป็นของราคาแพง ปกติแล้วบ้านเฉินเสียดายที่จะกิน เลยเอาไปขายที่ตลาดหรือเอาไปแลกกับของใช้จำเป็นที่สหกรณ์ ปีนี้ไม่ต้องแล้ว เฉินเยี่ยนคิดจะเก็บไว้ น้ำมันงาเอาไปทำกับข้าวหอมมาก บ้านตัวเองปลูกยิ่งสะอาด เธอเสียดายที่จะเอาไปขาย
รอจนจัดข้าวโพดเรียบร้อยหรือแขวนไว้ในบ้านหมดแล้ว หรือตากในลานบ้าน ตากให้แห้งนี้ต้องปอกออกมา ส่วนหนึ่งเป็นการยื่นมอบรัฐบาล
หลังบดถั่วเหลือ ต้องเลือกถั่วที่สะอาดใส่ลงถุง ถั่วแท่งก็วางกองไว้ นี่เป็นฟืนจุดไฟที่ดีที่สุด ติดไฟดีมาก
ส่วนถั่วลิสง เฉินเยี่ยนเริ่มต้มถั่วห้าสีมากิน ที่เหลือปอกเสร็จแล้ว ผึ่งให้แห้งแล้วใส่ถุงไว้ ถั่วลิสงแห้งก็เอามาใช้จุดไฟได้
รอจนเก็บกวาดทำความสะอาดลานบ้านเสร็จแล้ว บ้านเฉินถึงค่อยได้ถอยหายใจ ฤดูเก็บเกี่ยวจบแล้ว ส่งธัญพืชแล้ว ต้นข้าวโพดที่ตัดอยู่ที่พื้นโดนลากจนหมดเกลี้ยงไปกองอยู่นอกลานบ้านเอาไปทำฟืน ในไร่ของหมู่บ้าน นอกจากฟางข้าวสาลีพวกนี้แล้ว ก็เอามาเป็นฟืนให้เกษตรกรหมด เป็นสิ่งสำคัญของทุกบ้าน
รอจนไถที่นาปลูกข้าวสาลีแล้ว ก็ถึงเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่
แต่เฉินเยี่ยนไม่ต้องจัดการเรื่องพวกนี้ เธอยุ่งเรื่องย้ายบ้าน
ธัญพืชนอกจากนำส่งแล้ว แบ่งนับตามจำนวนคนทั้งสองฝั่งพอแล้ว เฉินจงและหวางนิวพูดแล้ว ก่อนเฉินกุ้ยยังไม่แต่งงาน สามารถไปกินข้าวที่บ้านนั้นได้ตลอด แต่งงานแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยลากธัญพืชมา
เฉินกุ้ยก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาคิดว่าแบบนี้สมเหตุสมผลมาก ยังไงแบ่งแค่ให้เขาพอกินก็ได้แล้ว
ธัญพืช หม้อจานชามกระทะย้ายไปหมด เหลือแค่เตียงและพวกผ้าห่มที่ไม่ได้เอาไป เฉินจงรีบหาคนมาช่วยทำสองเตียง แบบนี้จะได้แยกกันนอนได้แล้ว
พรุ่งนี้ต้องย้ายไปแล้ว เฉินเยี่ยนดีใจมาก ตั้งแต่บ่ายเธอยุ่งอยู่ในครัว ตอนทำอาหารปากยังฮัมเพลงเบาๆ เธอมาที่นี่ได้หนึ่งปีพอดี การเปลี่ยนแปลงปีนี้ถือว่าไม่เล็กเลย ย้ายบ้านใหม่ เธอก็ไม่ต้องสนใจเฉินเวยแล้ว รออีกหน่อย ซินห้าวก็จะมาสู่ขอ ดีจริงๆ เธอดีใจเหลือเกิน
เฉินเยี่ยนกำลังฝันหวานอยู่ ได้ยินคนพูดในลานบ้าน เหมือนมีคนมา เธอไม่ได้สนใจ ผัดผักใส่ลงจาน นี่ถือเป็นสองมื้อสุดท้ายของที่นี่แล้ว พรุ่งนี้กินข้าวเช้าเสร็จ พวกเขาก็จะบ้ายไปใช้ชีวิตที่ดีอย่างเป็นทางการ วันนี้เธอดีใจ เลยจะทำอาหารมากขึ้นสองอย่างเพื่อฉลอง
“เธอมาได้ยังไง? ใครให้เธอมา? มีเรื่องอะไร?”
เสียงหวางนิวดังขึ้นมา
ใครมา? ฟังจากเสียงแม่แล้วดูเหมือนจะไม่ต้อนรับคนที่มาเท่าไร หรือว่าเป็นอวี๋เหวยหมิน? เป็นไปไม่ได้ วันนี้เฉินเวยไม่อยู่บ้านทั้งวัน และไม่รู้ว่าไปหาใคร อวี๋เหวยหมินน่าจะไม่มาที่บ้าน
“ผม ผมมาเอง และก็ไม่มีอะไร แค่มาเยี่ยม คุณป้าสบายดีนะครับ?”
เสียงผู้ชายดังขึ้นมา เสียงไม่ดัง ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูลังเล และฟังดูเคอะเขิน
——————–