เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 169
เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก – ตอนที่ 169: ตีแล้วค่อยคุยกัน
ตอนที่ 169: ตีแล้วค่อยคุยกัน
โดย
Ink Stone_Romance
หลังคุยกันเรียบร้อย เฉินเยี่ยนลากหลัวเหมยพาเธอไปล้างหน้าล้างตา ให้เธอพักอยู่ที่นี่ ตอนนี้ให้หลัวเหมยกลับไปไม่ได้ เวลานี้ถ้าให้หลัวเหมยกลับไปเผชิญหน้ากับพ่อแม่เธอคนเดียว กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไร ให้เธอพักอยู่บ้านเฉินคืนหนึ่ง วันรุ่งขึ้นมีคนบ้านเฉินช่วยเธอออกหน้าแทนไปคุยกับบ้านหลัวด้วยกัน
ฝั่งเฉินกุ้ยกลับโดนส่งไปบ้านหลัว เรื่องที่หลัวเหมยอยู่ที่นี่ต้องบอกให้บ้านหลัวรู้ อย่าให้พวกเขาคิดว่าหลัวเหมยมาอยู่บ้านเฉินที่นี่แล้วดูถูกหลัวเหมย
ตอนแรกเฉินจงบอกว่าจะไปเป็นเพื่อนเขา แต่เฉินกุ้ยไม่ให้ นี่เป็นเรื่องของเขา เขาไปเองได้
บ้านเฉินอยู่ที่นี่พักผ่อนแล้ว แต่คิดว่าน่าจะนอนไม่หลับกัน
กลางดึกเฉินเยี่ยนได้ยินเสียงคนตบประตูบ้านอยู่ข้างนอก
เฉินเยี่ยนลุกขึ้นนั่ง นวดศีรษะ หาววอด เวลานี้ใครกันนะ? อยู่ๆ เธอก็คิดถึงหลัวเหมยขึ้นมาได้ หรือว่าจะเป็นคนบ้านหลัวมา?
เฉินเยี่ยนลงจากเตียง ตอนกลางคืนหลัวเหมยนอนกับหวางจวน ไม่ได้นอนกับเธอ ไม่รู้ว่าทำไมเธอคิดว่าหลัวเหมยรู้สึกกลัวเธอ
ด้านนอกเฉินจงออกไปเปิดประตูแล้ว เฉินเยี่ยนได้ยินเสียงโวยวายอยู่ที่ประตูใหญ่ เป็นคนบ้านหลัวมาจริงๆ ด้วย
จุดไฟในโถงบ้าน คนบ้านเฉินให้คนบ้านหลัวเข้ามาในโถงบ้าน
เฉินเยี่ยนไม่สนใจคนบ้านหลัวที่กำลังร้องโวยวายอยู่ เธอมองเฉินกุ้ย ใบหน้าเฉินกุ้ยมีรอยแผล เสื้อผ้าก็โดนดึงจนขาด นี่โดนตีมา?
“หยุดโวยวายได้แล้ว!”
จู่ๆ เฉินเยี่ยนก็ร้องเสียงดังขึ้นมา ไม่สนใจพ่อแม่เฉินที่เรียกให้นั่ง พ่อแม่หลัวและพี่ชายคนโตของหลัวเหมยที่กำลังด่าอยู่ต่างหยุดและมองไปที่เฉินเยี่ยน
“พวกคุณตีพี่ฉันหรือ?”
เฉินเยี่ยนถามคนบ้านหลัว
“เขามันหน้าด้านหลอกลวงลูกสาวฉัน ลูกสาวฉันบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่มาโดนเขาทำลาย ไม่ควรด่าหรือไง? ลูกสาวเรามีคู่จะแต่งงานแล้ว เขายังทำเรื่องแบบนี้อีก ไม่ตีเขาจะให้ตีใคร พวกบ้านเฉินนี่หน้าไม่อายจริงๆ พวกคุณไม่มีปัญญาแต่งงานกับลูกสาวเราก็เลยทำเรื่องแบบนี้ ใคราชอบพวกคุณคนบ้านเฉิน จะต้องซวยไปแปดชั่วโครตแน่”
แม่หลัวมองเฉินเยี่ยนอย่างดูถูก
เฉินเยี่ยนอยากจะเข้าไปตบหน้าแม่หลัวสักสองฉาด ท่าทางโอหังของเธอมาโวยวายในบ้าน ไม่ตบเธอจะตบใคร
แต่แขนเฉินเยี่ยนโดนเฉินจงดึงไว้ เขาส่ายหน้าให้เฉินเยี่ยน ไม่ว่าจะยังไงแม่หลัวก็เป็นแม่ของหลัวเหมย
แต่ความอดทนของเฉินกุ้ยและเฉินเยี่ยนไม่ทำให้คนบ้านหลัวมีเหตุผลขึ้นเลย ไม่ว่าเฉินจงและหวางนิวจะอธิบายยังไง คนบ้านหลัวก็ตัดสินไปแล้วว่าบ้านเฉินทำร้ายลูกสาวของพวกเขา ด่าบ้านเฉินตั้งแต่ข้างในยันข้างนอก
“คุณพูดให้ชัดหน่อย เป็นพวกคุณที่จะขายลูกสาว บีบบังคับให้ลูกสาวออกไป พวกเราบ้านเฉินล่อลวงเธอยังไง? ตาคู่ไหนของพวกคุณที่เห็นพวกเราทำร้ายเธอหรือ? พี่ชายฉันใจดีมาส่งข่าวให้พวกคุณ พวกคุณยังตีเขาอีก ตอนนี้มาด่าคนอื่น อยากจะลงมือใช่ไหม? งั้นได้เลย ก็มาตีกันก่อนแล้วค่อยว่ากัน ในเมื่อพวกคุณไม่มีเหตุผล ก็มาวัดกันว่าหมัดใครแข็งกว่ากันแล้วกัน ชอบลงมือไม่ใช่เหรอ ได้ พ่อ พี่ แม่ จวนเอ๋อร์ มา พวกเราก็ไม่ยอมให้ใครรังแกเหมือนกัน ลุยเข้าไปเลย”
เฉินเยี่ยนรู้ว่าคนแบบนี้ ถ้าไปคุยเหตุผลกับเธอ เธอจะคิดว่าเราอ่อนแอ จะยิ่งรังแกเป็นสองเท่า ถ้าลงมือ ได้ ฉันจะตอบโต้ ตีเสร็จ ทำให้พวกเขากลัว ก็จะฟังเราพูดแล้ว
เฉินจง เฉินกุ้ย หวางนิว หวางจวนได้ยินคำพูดของเฉินเยี่ยนก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร คนที่มีปฏิกิริยาคนแรกคือเฉินหู่ เขาก็โดนปลุกขึ้นมาเพราะเสียงโวยวาย ไม่พูดอะไรหยิบม้านั่งขึ้นมา เขาทุ่มใส่แม่หลัว พี่สาวเรียกให้ตีคนแล้ว เขาจะพูดอะไรอีก ตีก่อนแล้วค่อยว่ากัน ส่วนทำไมถึงทุ่มใส่แม่หลัว เพราะเขารู้สึกว่าแม่หลัวด่าคนได้หยาบคายมาก
แม่หลัวคิดไม่ถึงว่าจะมีคนลงมือจริง แล้วยังโดนเฉินหู่ทุ่มม้านั่งใส่อีก เธอร้องขึ้นมา ยังไม่ทันได้พูดอะไร ฝั่งเฉินหู่พูดขึ้นมาอีก “ไม่ถูก ม้านั่งนี่ไม่ถูก พ่อ แม่ พี่ชาย พี่สาวรอผมก่อน ผมจะไปเอามีดหั่นผักกับไม้นวดแป้งมา พี่ชายเราจะต้องไม่โดนตีฟรี ตีพวกเขาให้ยอมก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เฉินหู่พูดจบก็ไม่รอให้ทุกคนทันตอบโต้ก็วิ่งออกไป คนบ้านหลัวอยากจะจับก็ไม่ทัน
คนบ้านหลัวมองหน้ากันไปมา ต่างทำอะไรไม่ถูก พวกเขาคิดว่าพวกเขามาด้วยท่าทีที่โหดดุ บ้านเฉินจะเสียศูนย์ ต้องหงอไม่กล้ามีปากเสียง จ่ายค่าชดใช้เป็นการขอโทษ พวกเขาก็จะได้โวยวายเสียงดังได้ ไม่สนว่าผลจะเป็นอย่างไร พวกเขาเป็นฝ่ายชนะอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เรื่องไม่ได้เป็นแบบนี้
“พวกเธอ พวกเธอล่อลวงลูกสาวฉัน พวกเธอยังจะตีคนอีก โอ้ย แม่เจ้า ในโลกนี้ยังมีคนไม่มีเหตุผลแบบนี้ที่ไหนอีก ฉันว่าพวกเธอมันเดนตาย ยังไม่รีบลงมืออีก”
แม่หลัวเท้าเอวด่าไปแล้วให้สามีกับลูกชายลงมือ
พ่อหลัวกับพี่ชายหลัวเหมยต่างมองด้วยความโกรธ แต่เฉินจงยืนอยู่ตรงนั้น เฉินกุ้ยก็เหมือนจะยืดเอวขึ้นมา พวกเขาดูลังเล ถ้าจะตีกันจริง พวกเขาไม่น่าจะรอด
หลัวเหมยก็ออกมาแล้ว เห็นแม่เธอเดินก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่พอก้าวไปหนึ่งก้าวเธอก็กัดริมฝีปากยืนอยู่ตรงนั้น เธอเดินไปข้างหน้าไม่ได้
“แกมันจิตใจไม่ดี ดูที่แกทำเรื่องน่าอายแบบนี้ แกจะเอาชีวิตฉันหรือไง พวกฉันหาคนดีอย่างบ้านจางให้ คนดีแกไม่ต้องการ แกหนีออกมาหาคนพาล แกมันหน้าไม่อาย พวกฉันขายขี้หน้านะ พูดออกไปพวกฉันจะทำตัวยังไง! สวรรค์หนอ ลูกสาวเห็นแม่ตัวเองโดนตีจนตายยังไม่ร้องสักคำ ทำไมชีวิตฉันมันถึงได้ทุกข์ขนาดนี้
แม่หลัวก็เห็นลูกสาวแล้ว เลยเริ่มต่อว่าตำหนิ เธอรู้จักลูกสาวตัวเองดี เธอทำแบบนี้ลูกสาวจะต้องใจอ่อนแน่
หลัวเหมยกัดริมฝีปากแน่น เธอมองไปยังเฉินกุ้ย เฉินเยี่ยน เธอหนุนหลังตัวเอง ฝืนขาที่จะก้าวออกไป เธอเดินไปไม่ได้ ถ้าเดินเข้าไปเธอจบกัน หลัวเหมยหันหน้ามาอีกฝั่ง
แม่หลัวเหมยคิดไม่ถึงว่าลูกสาวจะเป็นแบบนี้ พี่ชายหลัวเหมยโกรธจนจะเข้าไปคว้าหลัวเหมยมา เฉินกุ้ยบังเธอไว้ ตอนนี้เฉินหู่วิ่งเข้ามา
“ได้แล้ว ผมเอาเครื่องมือมาแล้ว”
เฉินหู่หอบเอาของเข้ามา
เฉินเยี่ยนเห็น เครื่องมือดี เฉินหู่มือหนึ่งหยิบมีดหั่นผัก อีกมือหยิบมีดกำพร้ามา แล้วรักแร้สองข้างข้างหนึ่งหนีบไม้นวดแป้งมาด้วย อีกข้างหนีบไม้จุดไฟมาด้วย นี่เอาของในครัวที่ใช้ได้มาหมดเลย
น้องชายคนนี้นี่เอาเรื่องพอตัวเลย เฉินเยี่ยนแอบถอนหายใจ ชื่อนี้พ่อแม่ตั้งให้ไม่ผิดเลย
“ให้”
เฉินหู่เริ่มแจกอาวุธให้ทุกคน
เฉินเยี่ยนเอาไม้นวดแป้งไป เฉินจงรับมีดกำพร้าไป เฉินกุ้ยรับมีดหั่นผัก ในมือเฉินหู่ถือไม้จุดไฟ มือหวางนิวไม่มีอะไร เลยร้องขึ้นมา “แล้วฉันมีอะไรล่ะ!”
“ไม่งั้นเอาไม้จุดไฟให้แม่ เดี๋ยวผมไปหาเพิ่ม”
เฉินหู่เอาไม้จุดไฟให้หวางนิว จากนั้นก็วิ่งออกไปอีก
เฉินเยี่ยนเคาะไม้นวดแป้งในมือ เสียงไม้นวดแป้งกระทบกับพื้นทำให้คนบ้านหลัวตัวสั่น ดูเหมือนคนบ้านเฉินจะไม่ได้พูดเล่น พวกเขาจะเอาถึงชีวิตเลยหรือ ในมือพวกเขามีอุปกรณ์กันหมด ฝั่งตัวเองจะตกที่นั่งลำบาก
“พูดมา จะตีก่อนค่อยคุยกันใช่ไหม?”
เฉินเยี่ยนถามคนบ้านหลัวตรงๆ ตอนนี้ไม่ขู่พวกเขา พวกเขาก็ไม่ยอมคุยกันดีๆ
“นั่น พวกเราก็ไม่ได้บอกว่าจะทะเลาะเสียหน่อย ที่ตีพี่ชายเธอเพราะพวกเราร้อนใจ ก็เพราะเหมยเอ๋อร์หายไปไม่ใช่หรือ พวกเราคิดว่าเธอโดนพวกเธอล่อลวง ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่ งั้น งั้นคุยกันดีๆ พวกเราคุยกันดีๆ”
คำพูดแม่หลัวอ่อนลง ท่าทีก็อ่อนลงด้วย
พ่อหลัวกับพี่ชายก็พยักหน้า โดยเฉพาะพี่ชายหลัว เขาเป็นคนตีเฉินกุ้ย เขากลัวเฉินกุ้ยฟันเขาด้วยมีดหั่นผักจริงๆ
————–