เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 51 ความจริง
เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ – ตอนที่ 51 ความจริง
“เธออยู่ที่สถานีตำรวจ” เฉิงเจวี้ยนหยิบเสื้อโค้ทแล้วเดินออกประตูไปพร้อมกับก้มดูหมายเลขบนมือถือของเขา
เมื่อลู่จ้าวอิ่งได้ยินเรื่องนี้ก็หุบยิ้มและตกตะลึง เขางุนงง “สถานีตำรวจเหรอ”
ลู่จ้าวอิ่งรู้ได้โดยทันที่ว่าเธอที่เฉิงเจวี้ยนพูดถึงนั้นคือฉินหร่าน เข้าวางตะเกียบลงแล้วลุกขึ้น “ทำไมเธอถึงอยู่ที่นั่น”
เฉิงเจวี่ยนไม่รู้สถานการณ์ เขาจึงแค่ยื่นกุญแจรถให้ “ฉันขอให้เจียงหุยมา”
เฉิงมู่เดินตามพวกเขาไปเงียบๆ
เขารู้ว่าเจียงหุยเป็นใคร เขาเป็นอาของเจียงตงเยี่ย เขาได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้นายท่านเจียงส่งเจียงหุยไปอยู่ที่เมืองระดับสามที่ไหนสักที่
มันกลายเป็นที่อวิ๋นเฉิง
มันจำเป็นถึงขั้นต้องเรียกเขามาที่นี่เหรอ
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการทะเลาะกันของเป็นนักเรียนแล้วต้องให้เจียงหุยมาถึงนี่ มันดูจะเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนเกินไปหน่อย
***
ร้านอาหารที่อยู่ตรงกลาง
“นักเรียนของโรงเรียนอีจงตั้งมากมาย ทำไมไม่พาหร่านหร่านไปด้วยล่ะ” หลินฉียิ้ม “ผมได้ยินมาจากแม่ของเธอว่าเธอเป็นคนดังของโรงเรียน”
เพราะความหงุดหงิดถ้วยในมือของฉินอวี่จึงกระทบกับขอบโต๊ะ
“อวี่เอ๋อร์ แม่ของเธอบอกว่ามีเรื่องที่จะต้องทำ ทำไมถึงมาช้าจัง” หลินฉีได้ยินเสียงถ้วยเลยหันมามองแล้วถามขึ้นมา เขารออยู่พักใหญ่ก็ยังไม่เห็นหนิงฉิงกลับมา
ฉินอวี่ถือตะเกียบ หลบตาและกัดริมฝีปากของเธอ “แม่น่าจะอยู่ที่สถานีตำรวจ…”
“สถานีตำรวจเหรอ” หลินฉีตัวแข็งแล้วทิ้งเมนูโดยไม่รู้ตัว
หลินหว่านเงยหน้าขึ้น
“พี่สาวของหนูทะเลาะกับใครสักคนที่โรงเรียน ตอนนี้ตำรวจคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจ หนูกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา…” ฉินอวี่ถอนหายใจ
หลินฉียืนขึ้นและถอนหายใจ “ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวพ่อไปก่อน…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบแล้วลุกออกไป หลินจิ่นเซวียนที่เพิ่งเข้ามาก็ลุกแล้วเช็ดมือขอองเขาด้วยกระดาษทิชชู “ พ่อ พ่อกินข้าวกับคุณอาไปก่อน เดี๋ยวผมไปที่สถานีตำรวจเอง”
หลินจิ่นเซวียนเป็นที่คนที่น่านับถือในอวิ๋นเฉิง เส้นสายของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าพ่อของเขา หลินฉีลังเลนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้า “โอเค ลูกไปดูที มีอะไรก็โทรหาพ่อ”
ฉินอวี่มองหลังหลินจิ่นเซวียน เธอไม่เคยเห็นหลินจิ่นเซวียนใส่ใจขนาดนี้มาก่อน “พ่อคะ หนูเป็นห่วงแม่กับพี่สาว ให้หนูไปกับพี่ชายนะคะ”
“ระวังตัวด้วย” หลินฉีคิดสักพักแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
**
สถานีตำรวจ
ได้ยินที่ย่าสวี่พูด หนิงฉิงก็ตระหนก
ครั้งนี้ถ้าคนพวกนี้มีเอี่ยวด้วย เธอจะรับมือยังไง
เธอขอเจ้าหน้าที่พาเธอไปพบฉินหร่าน
“หลานชายของเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะฝีมือลูกสาวของคุณ ตอนที่มาถึงแขนของเขาอ่อนปวกเปียก ผลการประเมินการบาดเจ็บยังไม่ออกมา” เจ้าหน้าที่หลี่เหลือบมองหนิงฉิง “ถ้าสอบสวนเสร็จแล้ว เธออาจจะถูกจำคุกไม่ต่ำกว่าสองปี”
หนิงฉิงเปิดประตูอย่างไม่สบายใจ
ฉินหร่านวางมือลงบนโต๊ะแล้วใช้อีกข้างหนึ่งเท้าคาง เธอหลับตาอยู่
เมื่อเธอได้ยินเสียง เธอค่อยๆ ลืมตา เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ท่าทางของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นกระวนกระวาย “ทำไมแม่อยู่ที่นี่”
เธอไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์หนิงฉิง เธอแก้ปัญหานี้อย่างชาญฉลาดแล้ว
“ฉินหร่าน ทำไมแกไม่ตั้งใจเรียน ที่แกทำร้ายนั่นคือสวี่เซิ่น อาจารย์สวี่สอนแกมาอย่างดี ทำไมถึงได้ทำแบบนี้” หนิงฉิงกัดฟัน ถ้าเธอย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้นของโรงเรียน แม้แต่ฉินฮั่นชิวก็ไม่ต้องการเธอ เธอไม่ต้องการพาฉินหร่านกลับไปแบบนั้น “แกรู้ไหมว่าจะต้องติดคุกถ้าพวกเขาสอบสวนเรื่องนี้เสร็จ อนาคตทั้งหมดของแกจะจบสิ้นไม่มีชิ้นดี”
ฉินหร่านเอนหลังแล้วยิ้มอย่างไม่แยแส ดวงตายังแดงก่ำ เธอยังคงดูยิ้มเยาะและไม่สนใจอะไร “โอ้” เธอพูดสั้นๆ
หนิงฉิงหลับตา “ไปขอโทษคุณย่าสวี่กับอาจารย์สวี่ให้ถูกต้องซะ มันจะดีว่าถ้าพวกเขาจะไม่ติดใจเอาความ ถ้าไม่งั้นพวกเขา…”
หนิงฉิงเม้มปาก ถ้าเรื่องนี้จบลงเมื่อไหร่เธอจะส่งลูกสาวเธอไปเมืองนอก ขืนให้อยู่ที่อวิ๋นเฉิงต่อก็เหมือนหายนะที่รอเวลาเกิด
“หน้าตาของฉันในตระกูลหลินต้องย่อยยับเพราะแก ฉินหร่าน”
ด้านนอกประตู ตำรวจหลายคนไม่กล้ารับเรื่อง ย่าสวี่บอกว่าเธอต้องการติดต่อที่ทำงานท่านเสิ่น
เมื่อเรื่องมาถึงที่ทำงานท่านเสิ่น ตำรวจพลเรือนไม่กล้าจะไปยุ่ง
พวกเขารอทีละคนทีละคน
หนิงฉิงออกมาพร้อมกับฉินหร่านเพื่อขอโทษคุณย่าสวี่และวัยรุ่นพวกนั้น ห้องทำงานในสำนักงานไม่ก
หนิงฉิงลดความทะนงแล้วเอาใจคุณย่าสวี่
ตั้งแต่มาที่อวิ๋นเฉิงเมื่อนานมาแล้ว เธอระมัดระวังทุกอย่างที่เธอทำ และเธอไม่เคยลดเกียรติเธอมาก่อน
“พูดไปก็ไม่ช่วยอะไรแล้ว หลานของฉันยังอยู่ในโรงพยาบาล” ย่าสวี่มองอย่างเกรี้ยวกราดใส่ฉินหร่าน “เราจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
หนิงฉิงไม่รู้จะทำอย่างไร เธอต้องก้าวข้ามความทระนงของเธอแล้วโทรขอความช่วยเหลือจากหลินฉี
ก่อนจะโทรไป เธอรับสายจากหลินจิ่นเซวียน
ในตอนนี้หลายคนในสถานีตำรวจเลิกงานแล้ว
หลินจิ่นเซวียนมีรูปร่างผอมสูง ดูแข็งแกร่ง โดดเด่นท่ามกลางผู้คน ในแวบแรกดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา
เขามองไปรอบๆ เห็นฉินหร่านยืนอยู่ในฝูงชน เธอพิงผนังพร้อมกับเม้มริมฝีปากอย่างไม่แยแส
หลินจิ่นเซวียนหยุดจากนั้นก้าวไปหาพวกเขาอีกสองก้าวแล้วหยุดอยู่ข้างหนิงฉิง “คุณป้า เกิดอะไรขึ้นครับ”
หนิงฉิงอ้าปากค้างแต่เธอก็มั่นใจแล้ว เธอรู้ดีว่าลูกเลี้ยงของเธอมีความสามารถทำอะไรได้บ้าง
หลินจิ่นเซวียนถามอะไรบางอย่างกับตำรวจ
“พวกคนทั้งหมดคือครอบครัวของฉินหร่านเหรอ” คุณย่าสวี่จ้องไปยังหลินจิ่นเซวียน “ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไป หลานชายของฉันถูกเธอทำร้าย เขายังอยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่เลย เธอจะต้องเข้าคุก!”
“เราตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ทั้งหมดเป็นนักเรียน ผลกระทบต่อพวกเขาไม่ดีแน่…” หลินจิ่นเซวียนไม่รู้เหตุผลว่าแน่ชัดเพราะอะไรจึงนิ่งและสงบ
พ่อแม่หลายคนโกรธที่ลูกๆ ได้รับบาดเจ็บต่างก็รีบเร่งมา
พวกเขาเริ่มคุยกันหลังจากได้รู้ว่าลูกชายของพวกเขาได้รับบาดเจ็บ
เธอยังเด็กอยู่แท้ๆ แต่กลับโหดร้ายขนาดนี้ นี่คุณสั่งสอนเธอบ้างไหม พ่อแม่ที่ไหนจะกล้าให้เธออยู่ในโรงเรียน”
“เธอมันนางจิ้งจอก เธอจะเป็นคนดีได้ยังไง”
“เธอต้องชดใช้”
พวกเขาไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไป
ท่ามกลางความวุ่นวายฉินอวี่ดึงเสื้อของหลินจิ่นเซวียนจากด้านหลังแล้วยิ้มอย่างเด็กดี “เรียนคุณอากับคุณป้าทุกคนคะ หนูเชื่อว่าพี่สาวของหนูไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล พี่มีเหตุผลที่พูดไมได้ พี่ชายคะ แม่คะ ถ้าพวกเขาไม่อยากให้เรื่องจบง่ายๆ งั้นเราจะกระจายข่าวออกไป”
“ไม่ได้…” หนิงฉิงตอบกลับทันที
หนิงฉิงปวดหัวข้างเดียว เธอรู้ว่าฉินหร่านมีเรื่องตั้งกี่ครั้งแล้ว ครั้งนี้เธอรู้ว่าต้องเป็นฉินหร่านแน่ๆ ที่เป็นคนก่อเรื่องก่อน ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป เธอจะต้องติดคุกแน่ๆ
มีคนอยู่บนสถานีตำตรวจเป็นจำนวนมาก หลินจิ่นเซวียนเหลือบมองฉินหร่าน เธอก้มหน้าไม่พูดอะไรแก้ตัวเลยแม้แต่คำเดียว
เธอเฉยเมยจริงๆ หลินจิ่นเซวียนหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาแล้วโทรหาเฟิงฉือ
“ถ้าทำผิดแล้วเอ่ยปากขอโทษมันผิดหรือยังไง” หนิงฉิงคว้าตัวแล้วลากฉินหร่าน “นี่ยายไม่เคยสอนแกเลยเหรอ”
ฉินอวี่ยืนเม้มปากอยู่ด้านหลังหนิงฉิง
ห้องโถงสำนักงานอยู่ในความโกลาหล ย่าสวี่พยายามจะตบตีฉินหร่าน แต่ตำรวจห้ามเอาไว้ ท่ามกลางความโกลาหล เด็กสาวที่นั่งอยู่ตรงมุมลุกพรวดขึ้นมา
ฉินหร่านมองเห็นเธอ “พายหมิงเย่ว์! กลับไป!”
พานหมิงเย่ว์ไม่ได้มองมาที่เธอและพูดอย่างใจเย็นว่า “มันมีเหตุผลที่บอกไม่ได้จริงๆ ถ้าเธอจะเผยแพร่ข่าวออกไป ฉันก็จะทำด้วย ฉันอาจจะไปถามตำรวจเรื่องการทุบตีและทำร้ายผู้เด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ”
หลังจากที่เธอพูดจบ ทั้งผู้ปกครอง คุณย่าสวี่ หรือแม้แต่ตำรวจก็ต้องตกตะลึง
——