เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่399ไพ่เทพในยุคนั้น
ตอนที่ 399 ไพ่เทพ ในยุคนั้น
ฮอตเสิร์ชแปลกๆ นี่มันอะไรกัน?
แถมยังเบียดรายการวาไรตี้แรกของเหยียนซีลงมาได้?
เหยียนซีครองตลาดวงการบันเทิงและยังเป็นนักร้องที่ทำตัวลึกลับมากในวงการบันเทิง ซุปเปอร์สตาร์ที่ไม่เคยเข้าร่วมรายการวาไรตี้มาก่อน จู่ๆ กลับเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้กะทันหัน การระเบิดที่ร้อนแรงแบบนี้สามารถจินตนาการได้ว่ามันจะได้รับความนิยมขนาดไหน
แม้รายการจะจบไปแล้วสองชั่วโมง นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าฮอตเสิร์ชหัวข้ออื่นจะมาเบียดลงได้ง่ายๆ
ผู้จัดการเลื่อนๆ ดู เงยหน้าขึ้น “ใครเป็นคนซื้อฮอตเสิร์ช?”
เขาคลิกเข้าไปที่หัวข้อฮอตเสิร์ชอันสุดท้ายเป็นอย่างแรก สิ่งที่เขาพบคือการแข่งขันรอบฤดูหนาวเมื่อสี่ปีที่แล้ว ผู้จัดการเลื่อนดูก็พบว่ายังมีลิงก์กระทู้อยู่ข้างล่าง
พอเปิดดูก็เป็นการพูดถึงไพ่เทพ
“ไพ่เทพ?” ผู้จัดการดูคร่าวๆ ในเวลาเดียวกันก็ถามพนักงานข้างๆ “ฮอตเสิร์ชนี่…มันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา?”
ผู้จัดการก็ชอบเล่นเกม เขายังเก็บเกมซีพียูเล็กๆ ไว้ในคอมพิวเตอร์ถาวร ส่วนเกมดังๆ ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างเกมท่องยุทธภพ เขาก็เคยเล่นมาก่อน
ไม่อย่างนั้น ตอนนั้นเขาคงไม่ถามเรื่องคอมพิวเตอร์กับฉินหร่าน
เขาหรี่ตากวาดตาดู เปิดดูโพสต์ที่มีความคิดเห็นมากที่สุดและเมื่อได้เห็นความคิดเห็นที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งก็ถึงกับช็อก ——
(แฟนๆ หน้าใหม่มารวมตัวกันหน่อย มาดูกันว่าจะมีสักกี่คนที่ไม่รู้ว่าคนที่สร้างไพ่เทพไม่ใช่เป็นทีมแต่เป็นคนคนหนึ่ง ! !)
ไพ่เทพสามใบของทีมOSTสร้างโดยทีมทีมหนึ่งไม่ใช่เหรอ?
อย่างที่ทราบกันดีว่าไพ่เทพของประเทศอื่นล้วนสร้างขึ้นโดยทีมเฉพาะเพื่อเป็นไพ่ไม้ตายของทีมอีสปอร์ต คนที่สร้างไพ่เทพขึ้นมาไม่เพียงแค่ต้องมีความสามารถในการดัดแปลงตัวละครทางประวัติศาสตร์หรือเทพปกรณัมเท่านั้น แต่ยังต้องมีทักษะความชำนาญด้านลิงก์มาโครเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวและสร้างรูปไพ่ที่หน้าเกมด้วย…
แต่ละขั้นตอนมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบทักษะตัวละครและการเชื่อมโยง ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะสามารถทำได้ แต่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์อีกด้วย
ทีมอีสปอร์ตในประเทศส่วนใหญ่ล้วนเป็นทีมระดับรากหญ้า ไม่มีเจ้าของคนไหนยอมทุ่มเงินจำนวนมากเพียงเพื่อสร้างไพ่เทพไม่กี่ใบ——
นอกเสียจากว่ามีความศรัทธาและหลงใหลในเกมนี้จริงๆ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหยางเฟยถึงนำไพ่เทพสามใบลงแข่งการแข่งขันรอบฤดูหนาวระดับนานาชาติและโด่งดังในวงการอีสปอร์ตภายในชั่วข้ามคืน
การแข่งขันครั้งนั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนเห็นไพ่ของลูกทีมOSTตายกันหมดทั้งทีมยกเว้นหยางเฟย เพื่อนร่วมทีม โค้ช แฟนคลับ และผู้ชมทั้งหมดต่างก็ยอมแพ้
ตอนที่เขาใช้ไพ่หนี่วาชุบชีวิตอี้จี้หมิง ทุกคนในสนามต่างก็กรีดร้องกันหมด
สู้กับคู่ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย
เป็นครั้งแรกที่การแข่งขันระดับประเทศชนะการแข่งขันระดับนานาชาติ
เป็นครั้งแรกที่มีไพ่เทพเป็นของตัวเอง
เป็นครั้งแรกที่ได้ถ้วยรางวัลมา
ทีมระดับประเทศยังไม่ตาย
แฟนคลับทุกคนต่างหวนรำลึกถึงการต่อสู้ด้วยอารมณ์ที่พูดอะไรไม่ออก เมื่อมองย้อนกลับไปที่การแข่งขันรอบฤดูหนาวเมื่อสี่ปีที่แล้วในขณะนี้ แฟนคลับทุกคนและเหล่านักเล่นเกมท่องยุทธภพคิดออกมาได้เพียงประโยคเดียว——
S4 การแข่งขันรอบฤดูหนาว หยางเฟย ไพ่เทพ
อย่างน้อยๆ คนที่คลิกเข้าฮอตเสิร์ชนี้ได้ล้วนเป็นเหล่านักเล่นเกมท่องยุทธภพ พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจความตื่นเต้นของบรรดาแฟนคลับรุ่นเก่าเมื่อสี่ปีที่แล้ว แต่พวกเขารู้ดีว่า:
นั่นคือยุคของ OST
ไพ่เทพสร้างยุคนั้นขึ้นมา
ทุกคนต่างคิดว่าคนที่เปิดศักราชใหม่ให้ทีมชาติอีสปอร์ตคือทีมของอวิ๋นกวงกรุ๊ป เพิ่งจะมารู้วันนี้ว่าที่แท้แล้วกลับเป็นสมาชิกของทีมOSTรุ่นแรกนั่นเอง!
ผู้จัดการอ่านข่าวการกลับมาของผู้เล่นเก่าๆ เหล่านั้น รูม่านตาหดโดยไม่รู้ตัว ปลายนิ้วที่เปิดลิงก์กระทู้บนบอร์ดเวยป๋อสั่นระริก——(แฟนคลับรุ่นแรกของทีมOSTยังจำสมาชิกทีมรุ่นแรกได้ไหม?)
เขาไล่ดูทีละคนอยู่เป็นเวลานาน
คนสูงวัยคนหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะเลือดเดือดพล่าน
ไม่แปลกใจเลยที่สามารถเบียดหัวข้อฮอตเสิร์ชของเหยียนซีลงได้
ทุกวันจะมีคนออนไลน์ในเกมท่องยุทธภพกันมากกว่าสิบล้านคนทั่วประเทศ ตอนนี้หัวข้อที่ขึ้นฮอตเสิร์ชยังเป็นหยางเฟยและผู้สร้างไพ่เทพที่มีความนิยมในตัว ดังนั้นการที่จะแซงหน้าเหยียนซีจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ตอนนี้ผู้จัดการกำลังสงสัยว่าผู้สร้างไพ่เทพคนนั้นคือใคร จู่ๆ ก็พลันนึกถึงฮอตเสิร์ชสองหัวข้อก่อนหน้านี้ขึ้นมา
เขาคลิกกลับ แล้วคลิกดูอีกครั้ง
เขาตามฮอตเสิร์ชคลิกเข้าไปในเวยป๋อของqrโดยตรง
ติดตามอยู่แค่คนเดียว
มีผู้ติดตามสิบล้านคน
0โพสต์
นี่ก็คือผู้สร้างไพ่เทพ?
ผู้จัดการช็อก ไม่มีอะไรในเวยป๋อ ชาวเน็ตก็ยังหากันได้?
เขาดูเวยป๋ออยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกแปลกๆ กับตัวอักษร “qr” สองตัวนี้ ดูคุ้นๆ
“เจอเวยป๋อนั่นแล้ว” ผู้จัดการยื่นโทรศัพท์คืนพนักงานสตูดิโอ เขาอดทอดถอนใจไม่ได้ “คืนนี้พวกนักเล่นเกมท่องยุทธภพต้องระเบิดแน่ๆ คงจะได้เห็นผู้เล่นเก่าๆ กลับมาออนไลน์อีกครั้ง”
พนักงานสตูดิโอไม่ได้รับโทรศัพท์มา
ผู้จัดการหรี่ตา “เอาไปสิ ฉันก็มีโทรศัพท์”
ตอนนี้เขาตื่นเต้นเล็กน้อย เตรียมจะกลับไปล็อกอินไอดีเก่าของตัวเองเพื่อดูวิดีโอการแข่งขันรอบฤดูหนาวเมื่อสี่ปีก่อน
“ไม่ใช่ครับ” พนักงานสตูดิโอส่ายหน้า เขามองผู้จัดการและพูดนิ่งๆ “ผมไม่ได้ให้คุณดูฮอตเสิร์ช ผมจะให้คุณอ่านเนื้อหาความคิดเห็นและข้อความส่วนตัวในเวยป๋อของสตูดิโอต่างหากล่ะ”
**
ในเวลาเดียวกัน
เขตที่พักอวิ๋นจิ่น
ฉินซิวเฉินไปส่งฉินหลิงกลับ
ในห้องโถง พ่อบ้านฉินกับฉินฮั่นชิวที่เพิ่งดูรายการจบยังไม่ได้ปิดทีวี แต่นั่งคุยกันที่โต๊ะกาแฟ สองคนนี้เป็นตาแก่จริงๆ รู้จักเกมท่องยุทธภพแต่กลับไม่เข้าใจจักรพรรดิยี่สิบดวง
เนื่องจากไม่มีคนหนุ่มสาวอยู่ ตาแก่ทั้งสองจึงปิดซับกระสุนไปแล้วเพราะไม่ชินกับการมีซับกระสุน
“หร่านหร่านเหมือนจะ…พิมพ์เร็วมาก” ดวงตาขุ่นมัวของพ่อบ้านฉินหรี่ลงเล็กน้อยพลางนึกถึงตอนที่ฉินหร่านเล่นด่านแรก เธอหยิบกระดาษโค้ดบนผนังป้อนโค้ดลงไป
แต่รายการวาไรตี้ไม่ได้ถ่ายโค้ดว่าเป็นอะไร พ่อบ้านฉินจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
ฉินฮั่นชิวเอียงหน้า ดวงตาของเขายังคงเหมือนเดิม “หร่านหร่านชอบเล่นเกมด้วยนะ ตอนเล่นเกมจะเร็วกว่าปกติ”
“ผมก็รู้จักเด็กหนุ่มที่ชื่อเหยียนซีคนนั้น” พ่อบ้านฉินพยักหน้า ตอนที่เธอเล่นเกมมันก็เร็วมากจริงๆ เขาดื่มชาไปหนึ่งอึกก็คุยกับฉินฮั่นชิวต่อ “เขาเป็นนักร้องที่ดังมากในโลกออนไลน์ ก้าวหน้าพอๆ กับคุณชายหก”
ช่วงนี้พ่อบ้านฉินไม่ค่อยเข้มงวดกับฉินฮั่นชิวเหมือนแต่ก่อนเพราะฉินหร่านกับฉินหลิง
ฉินฮั่นชิวหยิบเมล็ดแตงขึ้นมา นิ้วเขายาวมากแต่หยาบกร้านไปหน่อย เขาคุยกับพ่อบ้านฉินถึงเรื่องราวในตอนนั้น “ตอนแรกก็มีแมวมองจะพาผมไปถ่ายหนัง…”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ ฉินหลิงกับฉินซิวเฉินก็เปิดประตูเข้ามา
พ่อบ้านฉินลุกขึ้นทันทีเพื่อช่วยฉินหลิงเก็บผ้าพันคอก่อนจะมองไปทางฉินซิวเฉิน
ฉินซิวเฉินลูบหัวฉินหลิงแล้วหัวเราะเบาๆ “กลับไปอาบน้ำนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เรียนเนื้อหาใหม่กับคุณอาไห่ต่อ”
ฉินหลิง “อืม” จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “พรุ่งนี้พี่สาวจะมา”
“หร่านหร่าน?” ฉินฮั่นชิววางเมล็ดแตงลงทันที แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “เมื่อไหร่? จะอยู่ทานข้าวที่นี่ไหม?”
“แค่เอาของมาให้ผม คุยกันไม่กี่คำก็กลับแล้ว ไม่กินข้าว” ฉินหลิงตอบ
สายตาฉินฮั่นชิวดูหม่นหมองเมื่อได้ยินถึงตรงนี้ จากนั้นก็ตอบ “อ้อ” แล้วกลับไปนั่งโซฟาต่อ
ฉินหลิงถือโทรศัพท์กลับไปอาบน้ำนอนที่ห้อง
ฉินซิวเฉินทักทายฉินฮั่นชิวเสร็จก็ลงไปข้างล่างกับพ่อบ้านฉิน
พ่อบ้านฉินเดินอย่างเชื่องช้า ใบหน้ามีริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด เขายื่นมือกดลิฟต์แล้วเงยหน้าขึ้น “คุณชายคุยกับคุณชายน้อยหรือยังครับ?”
ฉินซิวเฉินหน้าเป็นปกติ สวมผ้าปิดจมูก “อือ”
เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่าฉินหลิงไม่ได้แย้งอะไร
พ่อบ้านฉินยิ้มเล็กน้อย ลิฟต์เปิดออก เขาเดินตามฉินซิวเฉินเข้าไปข้างใน ดวงตาเข้มลงเล็กน้อย “คุณชายสี่ตระกูลฉินสงสัยแล้ว ผมกลัวว่าจะปิดได้อีกไม่นาน”
ช่วงนี้อาไห่เข้าๆ ออกๆ เขตที่พักอวิ๋นจิ่นอยู่บ่อยครั้ง การที่คุณชายสี่ตระกูลฉินสงสัยจึงเป็นเรื่องปกติ
พอคุณชายสี่ตระกูลฉินรู้เข้า…
จะต้องพุ่งเป้ามาที่ฉินหลิงอย่างแน่นอน
ฉินซิวเฉินไม่ได้จอดรถไว้ที่ชั้นใต้ดิน แต่จอดไว้ที่ริมถนนของเขตที่พัก เดินออกจากชั้นหนึ่ง
ลิฟต์เพิ่งจะลงมาได้ไม่นาน โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น
เป็นผู้จัดการ
ผู้จัดการกับคนของสตูดิโอทำงานล่วงเวลาในช่วงดึก ฉินซิวเฉินรู้ข้อนี้ดี มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?
ฉินซิวเฉินกดรับสาย ถือโทรศัพท์แนบหู
เสียงของผู้จัดการฟังดูนิ่งเล็กน้อย “ซุปตาร์ฉิน นายอ่านความคิดเห็นและข้อความส่วนตัวในเวยป๋อหรือยัง?”
ฉินซิวเฉินเปิดประตูฝั่งคนขับ เปิดลำโพง นั่งลงแล้ววางโทรศัพท์ไว้หน้ารถ “ยัง”
อีกด้านเงียบไปครู่หนึ่ง “นายอ่านดูก่อน อีกหนึ่งนาทีฉันจะโทรไป”
ผู้จัดการวางสาย
น่าจะเป็นเรื่องสำคัญอะไรบางอย่าง ไม่อย่างนั้นผู้จัดการก็คงไม่ให้เขาเข้าไปดูเวยป๋อในเวลาแบบนี้
ฉินซิวเฉินถอดกุญแจ ปิดไฟ มือที่จับพวงมาลัยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดดูเวยป๋ออย่างส่งๆ เขาเปิดโหมดห้ามรบกวนไว้ แต่พอเข้าไปที่หน้าแรกเวยป๋อก็ยังชะงักไปครู่หนึ่ง แสงเรืองรองของโทรศัพท์พาดบนใบหน้าที่สุขุมเยือกเย็น
กดเปิดความคิดเห็น
เป็นความคิดเห็นใหม่แทบจะทั้งหมด——
(ซุปตาร์ฉินกับเทพหยางอยู่ในโหมดเงียบ แค่จะถามคุณเท่านั้นเองว่าแอค@qrนี้เป็นของหลานสาวคุณจริงๆ ไหม! )