เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - ตอนที่ 237
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หุบเขาทลายวิญญาณนั้นมีความสำคัญนัก ท้ายที่สุดมันก็เป็นกองทัพคุ้มกันเจ้าสาวที่เซี่ยอู๋หุ่ยจะนำขบวนไปสู่ขอซูรั่วเสวี่ย มันถือเป็นตัวแทนของอาณาจักรเสินหวู่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวตนของคนทรยศ!
เขาเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสำนักจิตอสูรในปัจจุบัน คว้าอันดับหนึ่งในสงครามราชอาณาจักร มียศเป็นถึงแม่ทัพเขี้ยวมังกรแห่งอาณาจักรเสินหวู่และเป็นบุตรนอกสมรสของเจียงเปี๋ยหลีผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบนักสู้ของทวีปนี้
สถานะใดสถานะหนึ่งก็เพียงพอที่จะสร้างความอึกทึกได้แล้ว ในสายตาของประชาชนของอาณาจักรเสินหวู่ เจียงอี้เป็นดาวโดดเด่นซึ่งเปรียบเสมือนเจียงเปี๋ยหลีคนที่สองและเป็นหนึ่งในความหวังสำหรับอนาคตของอาณาจักรเสินหวู่
และแน่นอนว่าเพราะเขาเป็นบุตรนอกสมรสของเจียงเปี๋ยหลี เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ถูกคนของตระกูลต่างๆที่อยู่ภายในกองทัพคุ้มกันเจ้าสาวส่งเรื่องกลับไปรายงานโดยใช้ช่องทางลับ จากนั้นมันก็แพร่กระจายไปทั่วราชอาณาจักรเสินหวู่ด้วยความรวดเร็วที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในไม่ช้า มันจะแพร่สะพัดไปทั่วผืนพิภพ
แน่นอนว่า…ที่เหตุการณ์นี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมันเป็นผลมาจากการยั่วยุอย่างลับๆของเซี่ยอู๋หุ่ย หากเขาจะสั่งให้ปิดผนึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันจะใช้อีกเวลาหลายเดือนกว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้
ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือระหว่างซูรั่วเสวี่ยและเจียงอี้ทำให้เซี่ยอู๋หุ่ยไม่พอใจเจียงอี้ ไม่มีใครอยากให้ตัวเองเห็นภรรยามีสัมพันธ์ชู้สาวกับชายอื่น ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงงานเลี้ยงครั้งก่อน เจียงอี้ได้ฆ่าคนในตระกูลจ่างซุนห้าคนไปต่อหน้าเขาซึ่งถือเป็นการตบหน้าเขาอยู่แล้ว ตอนนี้เขาถึงกับบ้าดีเดือดและสังหารกองทัพขององค์รัชทายาทผู้นี้อีก
เซี่ยอู๋หุ่ยจึงทำทุกวิถีทางที่จะแก้เผ็ดเจียงอี้ เพื่อตั้งข้อครหาขึ้นและตัดกำลังเสริมทั้งหมดของเขา มิฉะนั้นเจียงเปี๋ยหลีอาจแทรกแซงเรื่องนี้เพื่อปกป้องเจียงอี้และเซี่ยถิงเวยจะต้องไต่ตรองเพื่อเห็นแก่หน้าเจียงเปี๋ยหลี
ณ ตอนนี้ เมื่อเหตุการณ์นี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีป มันไม่เพียงแต่จะทำให้เขาอับอาย แต่มันถือเป็นความอัปยศอดสูสำหรับอาณาจักรเสินหวู่! เจียงอี้ทำการก่อกบฏซึ่งเป็นความผิดที่ไม่สามารถให้อภัยได้ โดยที่แม้แต่ตัวเจียงเปี๋ยหลีเองก็ไม่สามารถเข้ามาก้าวก่ายได้และต้องตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับเจียงอี้ หากปราศจากเจียงเปี๋ยหลีแล้ว เจียงอี้ก็เหมือนหมาป่าผู้โดดเดี่ยวในความคิดของเซี่ยอู๋หุ่ย การใช้กำลังทั้งหมดของราชอาณาจักรนั้นยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าคนคนเดียวหรือ?
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเซี่ยอู๋หุ่ย!
เมื่อข่าวนี้ไปถึงอาณาจักรเสินหวู่มันทำให้ทั่วทั้งราชอาณาจักรสั่นคลอน และเซี่ยถิงเวยโกรธแค้นนัก เหล่าขุนนางและแม่ทัพกว่าร้อยคนโกรธมากจนต้องกล่าวโทษเขาทั้งในคำพูดและการเขียนรายงาน เฉียนกุ้ย จ้านอีหมิงและคนอื่นๆไม่กล้าขอความเมตตาให้แก่เจียงอี้ เพราะครั้งนี้เจียงอี้นั้นทำเกินไปเนื่องจากฆ่าทหารของค่ายเสินหวู่ไปหลายพันนาย
ในตอนแรกเซี่ยถิงเวยต้องการส่งคนไปถามความคิดเห็นของเจียงเปี๋ยหลี แต่เจียงเปี๋ยหลีกลับเป็นผู้ที่ปรากฏตัวและเข้ามาเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมของเจียงอี้ด้วยตัวเอง
“การกระทำของเจียงอี้นั้นขัดต่อกฎหมายทั้งหมดและไม่อาจให้อภัยได้ ข้าได้ส่งข้อความถึงคนของข้าเพื่อขับไล่เจียงอี้ออกจากตระกูลเจียง เด็กคนนี้ไม่มีความผูกพันกับตระกูลเจียงอีกต่อไป องค์ราชาโปรดแถลงราชโองการเพื่อตัดสินความผิดของเขาได้หรือไม่พะยะค่ะ?”
เสียงของเจียงเปี๋ยหลีนั้นหนักแน่นและไม่ทิ้งร่องรอยความรู้สึกอะไรเลย เซี่ยถิงเวยจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็วและประกาศคำสั่งไปทั่วพิภพว่าเจียงอี้ได้ก่ออาชญากรรมตั้งตนเป็นกบฎและเป็นที่ต้องการของทั้งราชอาณาจักร หากประชาชนในอาณาจักรเสินหวู่เห็นเขา พวกเขาสามารถฆ่าชายผู้นั้นได้เลย
จ้านอู๋ซวงที่อยู่ในเมืองหลวงและรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินข่าวนี้ เขากลับมารู้สึกตัวก็ผ่านไปครึ่งวันแล้ว เขายกนิ้วและถอนหายใจอย่างเงียบๆ “ใช้ชีวิตในฐานะบุคคลที่โดดเด่นและเสียชีวิตในฐานะวีรบุรุษ นี่คือคำอธิบายที่ถูกต้องสำหรับตัวเจ้า เจียงอี้! หลังจากทำสิ่งที่บ้าคลั่ง เจ้าจะทิ้งชื่อของเจ้าไว้ในหน้าประวัติศาสตร์หรือจะถูกประทับตราบาปในฐานะผู้ทรยศไปตลอดชีวิต ข้าสงสัยจังว่าเมื่อไหร่เราจะมีโอกาสได้ร่วมสังสรรค์เฮฮากันอีก เฮ่อ… “
เฉียนว่านก้วนยังคงอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งนั้น คอยดูแลทั้งโรงเตี๊ยมพร้อมกับตระกูลเฉียน แต่เมื่อข่าวออกมา โรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็ไม่จำเป็นต้องปกป้องอีกต่อไป ขณะนี้เฉียนว่านก้วนนั่งอยู่ที่ชั้นบนสุดของโรงเตี๊ยมและไล่ทุกคนออกไปเพราะเขาอยากที่จะดื่มไวน์คนเดียว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยินดี เขาดื่มไปยิ้มไปและหัวเราะเสียงดัง “ลูกพี่! เจ้าทำได้ดีมาก! ข้าคงภูมิใจหากเจ้าได้สมุนไพรสยบวิญญาณ หากเจ้าได้มันมา คงจะดีไม่น้อย ใครก็ได้ เตรียมการณ์ให้นายน้อยผู้นี้ออกเดินทางไปยังสำนักจิตอสูร“
…
“ใครก็ได้ ส่งคนไปยังอาณาจักรต้าเซี่ยทันทีและตามหาเจียงอี้ บอกเขาว่าจักรวรรดิมังกรเวหายินดีต้อนรับเขาเข้าร่วมเสมอ!”
ณ ห้องโถงพระราชวังที่โอ่อ่าซึ่งตั้งอยู่ในพระราชวังของเมืองเทียนชิง แววตาขององค์หญิงหลิงเสวี่ยที่สวมชุดสีชมพูกำลังส่องประกายขณะที่นางสั่งคำสั่งลงไปทันทีที่ทราบข่าวนี้
คนทรยศที่กระทำความผิดฐานกบฏต้องการความช่วยเหลือจากเมืองอื่นมากที่สุดและมันเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการรับคนเหล่านั้นเข้ามา
“มีบางอย่างแปลกๆ หาข้อมูลทั้งหมดของเจียงอี้มาให้ข้า“
หลังจากตกผลึกความคิดบางอย่าง องค์หญิงหลิงเสวี่ยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมบุตรนอกสมรสของเจียงเปี๋ยหลีถึงทรยศต่อสาธารณชนซึ่งๆหน้า? มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีแรงจูงใจอะไร
เหล่าขันทีได้นำม้วนกระดาษหลายสิบม้วนซึ่งองค์หญิงหลิงเสวี่ยกำลังนั่งอ่านรายละเอียดภายในนั้น หนึ่งชั่วโมงต่อมา นางยืนขึ้นอย่างร่าเริงและตะโกนออกมา “ใครก็ได้ จงไปนำแผ่นจารึกวิหคอมตะและพระราชโองการมาให้ข้า จากนั้นจงไปที่อาณาจักรต้าเซี่ยเพื่อตามหาเจียงอี้ และประทานตำแหน่งทูตตรวจการให้เขา! บอกเขาว่าตำแหน่งนี้ถูกแต่งตั้งโดยข้า แต่เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อจักรวรรดิมังกรเวหา“
ตำแหน่งทูตตรวจการนั้นเป็นตำแหน่งที่ถูกตั้งขึ้นมาเองและไม่มีอำนาจใดๆ แต่เป็นบทบาทที่ถูกจัดฉากให้ดูเหมือนว่าสำคัญ ซึ่งหมายความว่าเขาจะเดินทางไปไหนมาไหนเหมือนเป็นตัวแทนของอาณาจักร หากในอดีตเมื่อตอนที่จักรวรรดิมังกรเวหาควบคุมทั้งทวีป สถานะนี้เป็นของราชทูตของจักรพรรดิซึ่งสามารถเป็นตัวแทนของจักรพรรดิในการจัดการกิจการของเขา ซึ่งแน่นอนว่าในปัจจุบันตำแหน่งนี้ไม่ได้มีอำนาจใดๆเลย
สำหรับองค์หญิงหลิงเสวี่ยที่ให้ตำแหน่งเจียงอี้เช่นนี้ก็เป็นเพียงฉากหน้าซึ่งไม่ได้ให้การสนับสนุนใดๆกับเขาและเป็นเพียงแค่ชื่อ เขาสามารถสร้างความวุ่นวาย พลิกทุกสิ่งทุกอย่าง ในขณะที่จักรวรรดิจะนั่งเฉยๆและเพลิดเพลินไปกับผลพลอยได้ ถ้าอาณาจักรทั้งหกมาสอบสวน มันจะไม่เกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลจักรพรรดิเพราะว่า … ตำแหน่งนี้ได้ถูกมอบโดยองค์หญิงหลิงเสวี่ยและไม่ใช่องค์จักรพรรดิที่ออกพระราชโองการ
…
ณ เกาะดาวตก, โถงดาวตก!
นี่คือโถงลึกลับที่ลอยอยู่บนนภาบนเกาะดาวตก และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับจอมยุทธนับไม่ถ้วนในทวีป ปรากฏร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งอยู่ในโถงแห่งนี้ นางเป็นหญิงสาวที่สวยสดงดงามที่มีตัวตนที่ไม่มีใครเทียบเทียม
“บุตรชายของแม่นางเพียวเพียวช่างเหมือนนางจริงๆ ในสมัยนั้น แม่นางเพียวเพียวเกือบจะก่อความโกลาหลไปทั่วทั้งทวีป และดูสถานการณ์ของบุตรชายของนางในตอนนี้สิ … เขาก็ยังจะไม่ยอมให้ทั่วทั้ทวีปนี้สงบสุขเช่นกัน!”
สุ่ยโย่วหลานยืนอยู่คนเดียวด้านนอกหน้าต่างห้องโถงของพระราชวังและมองไปที่ท้องฟ้าสีครามซึ่งเข้ากับสีกับมหาสมุทร มีรอยยิ้มบนขอบปากของนาง นางหันกลับไปมองสุ่ยเชียนโหรวนั่งหน้ามุ่ยอยู่บนเสื่อสวดมนต์ จากนั้นนางก็ยิ้มให้ “เชียนโหรว เจ้าไม่ควรขุ่นเคืองเจียงอี้อีกต่อไป เจ้าจะต้องพ่ายแพ้หากเจ้ายังคงต่อสู้ต่อไปเช่นนี้ แม่นางเพียวเพียวนั้นโหดเหี้ยมมากกว่าข้าเสียอีก บุตรชายของนางก็โหดเหี้ยมกว่าเจ้าเช่นกัน เจ้าจะไม่สามารถเอาชนะเจียงอี้ได้ในช่วงชีวิตนี้ “
“ฮึ่ม!”
สุ่ยเชียนโหรวไม่อยากรับฟัง นางมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าดุร้ายก่อนที่นางจะหันไปพูดกับสุ่ยโย่วหลาน “ท่านแม่ เชียนโหรวกำลังจะเข้าสู่การบำเพ็ญ ลูกไม่เชื่อว่ากายวิญญาณสวรรค์ของลูกจะไม่สามารถเทียบร่างกายของคนธรรมดาได้หรอก! หลังจากที่ลูกบำเพ็ญห้าปี ลูกจะสามารถไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตเสินโหยวได้ ในเวลานั้นเชียนโหรวจะเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง ฮึ! “
ดวงตาของสุ่ยโย่วหลานมีรอยยิ้มเล็กน้อยขณะที่นางโบกมือ “เช่นนั้นก็ไปเถอะ หากว่าเจ้าสามารถฝ่าไปสู่จุดสูงสุดของขอบเขตเสินโหยวได้ ข้าจะมอบหงส์อัคนีให้เจ้า!”
“ว้าว ขอบคุณมากท่านแม่! ธิดาของท่านจะรีบไปเดี๋ยวนี้“
ดวงตาของสุ่ยเชียนโหรยวสว่างขึ้นทันที หงส์อัคนีนี้ไม่เหมือนกับวิหคเพลิงอมตะเนื่องจากเป็นสัตว์อสูรระดับสี่ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกัง เมื่อหงส์อัคนีนี้ปล่อยตัวตนออกมา แม้แต่เจียงอี้ก็จะถูกตรึงไว้ใช่ไหม? มันจะไม่เป็นการช่วยให้เจียงอี้ไม่สามารถต่อต้านการที่จะถูกนางสังหารได้หรอกหรือ?
สุ่ยเชียนโหรวเดินเข้าไปในห้องโถงด้านข้างและปิดประตูทันที หลังจากที่นางเข้าไป ใบหน้าเล็กกระทัดรัดที่สวยงามนี้มีความมุ่งมั่นในขณะที่นางกัดฟันของนางและประกาศบางสิ่งบางอย่างก่อนที่นางจะเริ่มบำเพ็ญ
“เจียงอี้ รอข้าออกมาก่อนเถอะ ในห้าปีนี้ เจ้าจะตายไม่ได้ … “