เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - ตอนที่ 241
“ปึง ปึง ปึง!”
เสียงฝีเท้าที่พร้อมเพรียงของกองทัพพร้อมกับการเดินทัพที่เป็นระเบียบ เสียงนั้นดังก้องอยู่ระหว่างยอดเขาทั้งสองทำให้เกิดเสียงดังก้องไปที่แก้วหูของเจียงอี้ มันทำให้เขาลังเลมากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่ามันจะเป็นการยากที่จะฆ่าเซี่ยอู๋หุ่ย!
หากเขาไม่ฆ่าเซี่ยอู๋หุ่ย เขาจะมองคนพวกนั้นเดินทัพไปที่เมืองเซี่ยยวี่อย่างไร้ประโยชน์หรือ? ไม่ใช่ว่ามันหมายความว่าความพยายามของเขาเสียเปล่าหรือ?
“ลงมือ!”
ในขณะที่กองทัพเข้ามาใกล้ขึ้น ในท้ายที่สุดเจียงอี้ก็กัดฟันและตัดสินใจ เขาจะลองทำทุกอย่างที่ทำได้และถ้ามันทำอะไรไม่ได้จริงๆ เขาก็เพียงแค่ล่าถอย
“ไปกันเถอะ!”
เจียงอี้ย้อนกลับไปในอุโมงค์และเรียกเจ้าเหลืองใหญ่ให้ไปตามเส้นทางที่ขุดไว้แล้วอย่างรวดเร็ว พวกเขายังคงขุดลงไปเพื่อรักษาช่องว่างไว้ประมาณสามสิบกิโลเมตรก่อนที่พวกเขาจะไปตามเส้นทางสายหลักอย่างเงียบๆ
เมื่อพวกเขาอยู่ใต้เส้นทางหลักด้านบน เจียงอี้ไม่ได้ไปอย่างเร่งรีบ แต่ควบคุมเหลืองใหญ่ให้วิ่งไปรอบๆแบบสุ่มแทนและสร้างอุโมงค์เขาวงกตไว้ด้านล่าง ด้วยจำนวนผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากบนพื้นผิวดินด้านบน เจียงอี้จำเป็นต้องเตรียมเส้นทางเพื่อหลบหนี ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้
หลังจากขุดอุโมงค์หลายสิบแห่งในเวลาต่อมา เจียงอี้ประเมินว่ากองทัพครึ่งหนึ่งได้ล่วงไปแล้วและรถม้าอีกครึ่งหนึ่งควรจะผ่านไปแล้วด้วยใช่ไหม?
เขาไม่ทราบว่ารถม้าใดที่เซี่ยอู๋หุ่ยอยู่และทำได้เพียงพึ่งโชคของเขา ตามหลักแล้ว เซี่ยอู๋หุ่ยควรนั่งในรถม้าที่อยู่ตรงศูนย์กลางขบวนเพราะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด
“ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ!”
เจียงอี้ควบคุมเหลืองใหญ่พุ่งไปยังพื้นผิวดินด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด มือข้างหนึ่งของเขาจับเครื่องรางของสัตว์วิญญาณในขณะที่มืออีกข้างจับดาบมังกรเพลิงพร้อมที่จะเก็บเจ้าเหลืองใหญ่และปล่อยเพลิงโลกาทุกเมื่อ
“หืม?”
ก่อนที่เจียงอี้จะผุดขึ้นมาบนผิวดิน เขาอยู่ห่างจากพื้นผิวประมาณหกสิบเมตร ทันใดนั้นเจียงอี้ก็สังเกตเห็นว่ามีอุโมงค์ยักษ์ข้างหน้า และอัดแน่นไปด้วยทหาร!
“สร้างกำแพงมนุษย์ไว้ใต้ดิน? เซี่ยอู๋หุ่ย เจ้ากลัวตายขนาดนี้เลยหรือ?”
เจียงอี้แอบบ่นขณะที่เขากับเจ้าเหลืองใหญ่พุ่งออกมาจากใต้ดินทำให้กองทัพของอาณาจักรเสินหวู่ซึ่งกำลังแล่นผ่านอุโมงค์เกิดความหวาดกลัว เมื่อเจียงอี้โผล่ขึ้นไป ทหารกว่าสิบนายก็ถูกเขาของเจ้าเหลืองใหญ่พุ่งชน ทหารเหล่านี้ที่สัมผัสกับแสงสีเหลืองตรงเขาของเจ้าเหลืองใหญ่ เสื้อผ้าและเสื้อเกราะถูกฉีกเป็นชิ้นๆด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ชัดเจนในขณะที่ร่างกายของพวกเขาเปื้อนไปด้วยเลือด ในเวลาเพียงไม่นาน ทหารกว่าหนึ่งโหลถูกสังหารโดยแสงสีเหลืองของเจ้าเหลืองใหญ่
“มันคือเจียงอี้! ฆ่ามัน!”
เหล่ากองทัพตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าศัตรูที่สวมชุดปกปิดคือเจียงอี้ที่ขี่บนเจ้าเหลืองใหญ่จริงๆ ดวงตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่เจียงอี้พร้อมกับจิตสังหารทันทีและรีบวิ่งไปหาเจียงอี้โดยไม่หวั่นเกรง
“เจ้าเหลืองใหญ่ กลับลงไป!”
เจียงอี้เก็บเหลืองใหญ่ทันทีเพราะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวจากทั้งสองฝั่งยิงแก่นแท้พลังออกมา เขาไม่ทราบว่าการป้องกันของเหลืองใหญ่จะแข็งแกร่งพอที่จะต่อต้านการโจมตีเหล่านี้หรือไม่ เหลืองใหญ่เป็นเครื่องมือในการหลบหนีของเขาและคงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่ต้องการให้มันได้รับบาดเจ็บใดๆ
“เพลิงโลกา!”
เมื่อเหลืองใหญ่เข้าสู่เครื่องรางสัตว์วิญญาณ เจียงอี้ก็คำรามออกมาพร้อมเพลิงโลกาที่ก่อตัวเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่รอบตัวเขา รัศมีความร้อนลุกโชติช่วงและแผ่ไปทั่วอุโมงค์ยักษ์อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทหารจำนวนมากที่วิ่งมาจากด้านหน้าและด้านหลังถูกเผาทันที
“เซี่ยอู๋หุ่ย ดูซิว่าเจ้าจะมีโชคขนาดไหน!”
เจียงอี้เมินทหารที่อยู่ข้างหน้าและข้างหลังเขา ในขณะที่เขามองไปที่ผนังโคลนเหนือหัวของเขา ดาบมังกรเพลิงเรืองรองไปด้วยแสงสีแดงจนมองไม่เห็นและมังกรเพลิงสองตัวมาบรรจบกันอย่างรวดเร็ว
“บูม!”
ในขณะนั้น พื้นผิวดินภายใต้ศูนย์กลางของกองทัพที่กำลังเดินขบวนอยู่บนเส้นทางสายหลักก็ปะทุทำให้โคลนและหินแตกออกมา รถม้าและทหารนับร้อยถูกระเบิดโดยมังกรเพลิงสองตัวซึ่งมีกลิ่นอายที่สามารถทำลายสวรรค์และพิภพพร้อมกับเพลิงโลกาที่แผดเผาเงียบๆและปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
“อ๊ากกกก!”
ทหารส่วนใหญ่ถูกระเบิดขึ้นไปกลางอากาศโดยคลื่นพลังความร้อนที่ระเบิดออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อสัมผัสกับมังกรเพลิงด้านล่าง ร่างกายของพวกเขาจะกลายเป็นชิ้นๆในทันที หลายคนเกิดหลุมขนาดใหญ่ตามร่างกายของพวกเขาเมื่อเพลิงโลกาพุ่งออกมาจากด้านล่างทำให้พวกเขาปล่อยเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชออกมา
“ฮือฮา!”
เกิดความโกลาหลในกองทัพซึ่งมีทหารนับหมื่นนาย ทหารเหล่านั้นที่อยู่ใกล้กับจุดระเบิดพยายามที่จะล่าถอยออกไปนอกวงในขณะที่ทหารที่อยู่ด้านนอกพยายามที่จะบุกเข้าไปที่ศูนย์กลาง ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวหลายคนวิ่งเข้าไปนำตัวบุคคลสำคัญในขณะที่บางคนรีบออกไปจากสถานที่ที่เกิดระเบิดทำให้เกิดความโกลาหลขึ้น
แน่นอนว่าสถานที่ทั้งหมดอยู่ในความโกลาหล เป็นเพราะมีสองกองทัพ ในขณะที่ทหารจากอาณาจักรเสินหวู่นั้นมีความหวาดกลัวต่อเจียงอี้โดยสัญชาตญาณแต่ทว่ากองทัพของอาณาจักรต้าเซี่ยยังไม่เคยปะทะกับเจียงอี้ เมื่อพวกเขาเห็นการโจมตี พวกเขาก็เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทันที
“เจียงอี้! เจ้ามันเป็นเพียงเศษสวะไร้ค่า!”
เซี่ยอู๋หุ่ยที่นั่งอยู่ในรถม้าข้างหลังเหาะเหินหนีไป โชคดีที่เขาไม่ได้นั่งรถม้าคันนี้ มิเช่นนั้นเขาก็คงจะกลายเป็นศพไปแล้ว
ภายใต้การคุ้มครองของเว่ยกงกง เซี่ยอู๋หุ่ยก็โผล่ออกมาจากรถม้าและมองผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวหลายโหลและคำรามว่า “พวกเจ้าทุกคนลงไปใต้ดินเดี๋ยวนี้ ฆ่าเจียงอี้ด้วยทุกสิ่งที่พวกเจ้ามี!”
“พะยะค่ะ!”
คนรอบตัวเขาเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อย่างน้อยก็อยู่ขั้นที่ห้าของขอบเขตเสินโหยวและพวกเขาก็ได้รับกองหนุนจากตระกูลราชวงศ์ เขากำลังรอคอยกองกำลังจากเมืองเซี่ยเฟิง พวกเขาใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายโดยเฉพาะเพื่อไปเมืองเซี่ยยวี่ก่อนที่จะมาที่เมืองเซี่ยเฟิง ไท่สื่อเจินและคนของเขาเชื่อถือไม่ได้เกินไป ในขณะที่สมาชิกตระกูลราชวงค์เหล่านี้พยายามอย่างเต็มที่
“ฟึ่บ ฟึ่บ!”
คนเหล่านี้ดึงอาวุธออกมาจากฝักของพวกเขาซึ่งทุกคนมีความเย็นชาและกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัว พวกมันเป็นสิ่งประดิษฐ์ระดับสวรรค์ทั้งหมด พวกเขารีบลงไปในอุโมงค์และหายไปในอุงโมงค์ในเวลาไม่กี่วินาที
“เจียงอี้?”
มีแม่ทัพที่สวมชุดเกราะสีดำอยู่ข้างหน้าซึ่งขี่สัตว์ที่สูงใหญ่และแปลกประหลาด เขาขมวดคิ้วขณะโบกสะบัดง้าวทองคำในมือของเขาและตะโกนออกมาอย่างดุเดือด “องครักษ์เงาดำล่วงหน้าไปและอย่าปล่อยให้เจียงอี้รอดไปได้! เขากล้าฆ่าทหารของเราในอาณาจักรต้าเซี่ย! เขาไม่สนใจประชาชนของอาณาจักรเราเลย?”
“ฟึ่บ ฟั่บ!”
ทหารจำนวนมากรุดลงไปใต้ดินทันที ซึ่งบุคคลเหล่านั้นล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยว ในพริบตาเดียวพวกเขาก็หายลับไปและพุ่งเข้าไปในอุโมงค์ใต้ดิน
“เวรล่ะ!”
การใช้แก่นแท้พลังสีดำเพื่อเพิ่มความสามารถในการฟัง หลังจากเจียงอี้ยิงมังกรเพลิงออกมาสองตัว เขาก็ฟังเสียงบนพื้นผิวดินทันที เขาไม่ได้ยินเสียงอึกทึกหรือคำอุทานว่า ‘องค์รัชทายาท!‘ หรืออะไรทำนองนั้นเลย เซี่ยอู๋หุ่ยไม่ได้อยู่ในรถม้าคันนั้นและนั่นก็หมายความว่าการดำเนินการครั้งนี้ล้มเหลว
เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวนับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้ามาในอุโมงค์ เจียงอี้ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และฟันอุโมงค์ตรงหน้าเขาจากนั้นก็ฆ่าผู้คนที่อยู่ข้างหน้าด้วยมังกรเพลิงพร้อมเพลิงโลกาเพื่อยับยั้งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวที่ไล่ตามมา
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ปล่อยฝ่ามือระเบิดแก่นแท้ไปทางด้านหลังของเขาและสังหารกลุ่มคนเพื่อหยุดยั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวอีกกลุ่มหนึ่ง
“ได้เวลาไปแล้ว!”
เมื่อเจียงอี้ตัดสินใจแล้ว เขาก็ไม่ลังเลใดๆอีก ในขณะที่เขาตัดสินใจที่จะล่าถอย เขาก็ถอยโดยไม่หยุดเช่นกัน ร่างของเขาบินลงไปในอุโมงค์ที่เจ้าเหลืองใหญ่เจาะขึ้นมาและใช้ฝ่ามือระเบิดแก่นแท้ระเบิดไปที่กำแพงโคลน เพื่อทำให้เกิดการสั่นสะเทือนตามด้วยหินและโคลนจำนวนมากตกลงมา
“เหลืองใหญ่!”
เมื่อเขาลงมาถึงถ้ำใต้ดินด้านล่าง เจียงอี้เรียกเจ้าเหลืองใหญ่ออกมาและรีบหนีเข้าไปในอุโมงค์ใดอุโมงค์หนึ่ง ความเร็วของเหลืองใหญ่นั้นเร็วมาก พวกเขาใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็หายลับเข้าไปในอุโมงค์เส้นนั้นแล้ว
“ฟึ่บ ฟั่บ!”
มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวจำนวนนับไม่ถ้วนที่กวัดแกว่งศาสตราวุธระดับวิญญาณและระดับสวรรค์ซึ่งทำให้พวกเขาเคยขุดลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขามาถึงอุโมงค์ที่เจียงอี้เข้ามาพวกเขาก็ยืนโง่งมอยู่ตรงนั้น บริเวณด้านล่างนั้นเต็มไปด้วยอุโมงค์ราวกับเขาวงกตใต้ดินที่มีเส้นทางแยกออกไปทุกทิศทุกทางและตัดกันไปมา พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะไปอุโมงค์ไหน
“แยกกันค้นหา!”
เซี่ยอู๋หุ่ยและแม่ทัพซูตี๋กั๋วแห่งอาณาจักรต้าเซี่ยได้ยื่นคำสั่งตายลงมาแล้ว คนกลุ่มนี้จะยอมแพ้ง่ายๆได้อย่างไร? ดังนั้นพวกเขาจึงแบ่งออกเป็นกลุ่มๆและเริ่มค้นหาอย่างเต็มกำลังในอุโมงค์คนละทาง
เจ้าเหลืองใหญ่ของเจียงอี้ไม่ได้เร็วหรือช้า แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าบรรดานักสู้ขั้นที่เจ็ดและแปดของขอบเขตเสินโหยว ในขณะนี้อุโมงค์เหล่านี้ที่เจียงอี้ขุดนั้นมีผลอย่างมาก ไม่เช่นนั้นด้วยจำนวนคนเหล่านี้ ผลลัพธ์ก็น่าจะเป็นความพินาศ
มีสี่คนที่เข้ามาในอุโมงค์ที่เจียงอี้หลบหนีไปและทั้งสี่คนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เหนือกว่าขอบเขตเสินโหยวขั้นที่ห้า ขณะที่พวกเขาวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดพวกเขาก็รีบเข้ามาใกล้และได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหน้า
“เจียงอี้อยู่ข้างหน้า!”
ดวงตาทั้งสี่ของพวกเขาสว่างไสวขณะที่พวกเขาหมุนเวียนแก่นแท้พลังสำคัญและไล่ตามราวกับคนบ้าคลั่ง เซี่ยอู๋หุ่ยกล่าวว่า ใครก็ตามที่ฆ่าเจียงอี้ได้จะได้รับรางวัลอย่างงาม