เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - ตอนที่ 245
หยิ่งผยอง …โง่เขลา!
นี่คือความประทับใจที่เจียงอี้มอบให้แก่ทุกคนด้านล่าง หากมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังที่อยู่บนท้องฟ้า ผู้คนด้านล่างจะรู้สึกถูกอำนาจครอบงำ หวาดกลัวและสิ้นหวัง
เจียงอี้นั้นมีค่าอะไร? เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยสิบหกปีเป็นผู้มีความโชคดีอยู่บ้างและถือครองสิ่งประดิษฐ์บางอย่าง เขาต้องการที่จะสังหารกองทัพที่มีกำลังพลนับหมื่นหรือ? เขายังขู่ท่านแม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรต้าเซี่ยด้วยใช่ไหม?
ผู้คนมากมายเริ่มโกรธแค้นและซูตี๋กั๋วโกรธยิ่งกว่าที่เคย แม้ว่าทุกคนจะเดือดดาล แต่ทุกคนก็ตระหนักถึงความจริงที่ว่าพวกเขาไม่สามารถฆ่าเจียงอี้ได้อย่างรวดเร็ว เจียงอี้สามารถเหวี่ยงก้อนหินก้อนเล็กๆที่มีเปลวไฟที่น่ากลัวออกมาได้ มีทหารจำนวนมากเกินไปและภูมิประเทศที่นี่ไม่ใช่ที่ราบ ทำให้กองทัพขนาดใหญ่ไม่สามารถกระจายตัวได้ในระยะเวลาอันสั้น
เจียงอี้รีบดิ่งลงมาพร้อมอินทรีมังกรอย่างรวดเร็วและเขาลงมาด้วยไหวพริบที่ดีโดยรักษาระยะทางไว้ด้วยความสูงหกถึงเก้ากิโลเมตรจากพื้นผิวดิน ที่ระดับความสูงเช่นนี้ แม้หน้าไม้ที่แข็งแกร่งที่สุดหรือพลังแก่นแท้พลังจากผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดของขอบเขตเสินโหยวก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ แม้ว่าจะมีโอกาสที่ใครบางคนจะมีโชคผิดปกติ และถึงจะยิงโดนเจียงอี้ก็อาจจะต้องพิจารณา อย่างน้อยมันก็ยังไม่สามารถฆ่าอินทรีมังกรได้
“ฟึ่บ! ฟึบ!”
เจียงอี้ไล่ล่าเซี่ยอู๋หุ่ยอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่เขาดิ่งลงไป เขาจะขว้างหินวิญญาณเพลิงออกไป เหลือหินวิญญาณเพลิงมากกว่ายี่สิบก้อนอยู่ในไข่มุกวิญญาณเพลิงและหากเซี่ยอู๋หุ่ยยืนกรานที่จะไม่ส่งมอบสมุนไพรสยบวิญญาณ เขาก็พร้อมที่จะโยนหินวิญญาณเพลิงทั้งหมด โดยการทำเช่นนั้นเขาจะล้มล้างกองทัพและทำให้เซี่ยอู๋หุ่ยและอาณาจักรเสินหวู่เสียเกียรติอย่างมาก เขาจะยังมีหน้าที่จะไปสู่ขออีกหรือ?
“อ๊าาาก!”
ขันทีเฒ่าอุ้มเซี่ยอู๋หุ่ยในขณะที่หลบหลีกอย่างรวดเร็ว มีทหารอยู่ทุกหนทุกแห่งและเจียงอี้ก็เข้าชนด้วยความแข็งแกร่ง ทำให้หินวิญญาณเพลิงพุ่งเร็วมากจนไม่มีใครสามารถหลบหนีได้ทันเวลา หินวิญญาณเพลิงแต่ละก้อนจะเผาคนไปอย่างน้อยสองร้อยถึงสามร้อยคนและเพิ่มขึ้นเป็นสี่ร้อยถึงห้าร้อยคน อุณหภูมิที่สูงมากขึ้นทำให้ทหารหลายคนร้อนรุ่ม
“เซี่ยอู๋หุ่ย เจ้าคือองค์ชายแห่งอาณาจักรเสินหวู่! ในขณะที่ทหารเหล่านี้เป็นประชากรของเจ้า เจ้าเพียงมองพวกเขาตายอย่างไร้ประโยชน์? สมุนไพรสยบวิญญาณเพียงหนึ่งต้นมีค่าอะไร? เจ้าจะยอมให้คนของเจ้าตายเพียงเพื่อวัตถุดิบ?”
“เหล่าทหารแห่งค่ายเสินหวู่ เบิกตาของพวกเจ้าและมองดูให้ดี นี่คือองค์รัชทายาทที่พวกเจ้ากำลังสนับสนุนและเป็นราชาในอนาคตของพวกเจ้า? เขามีคุณสมบัติอะไรที่จะออกคำสั่งกับพวกเจ้าทุกคนทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นเพียงไอ้บัดซบขี้ขลาดตัวหนึ่ง?”
“แม่ทัพซู เจ้าจะยังไม่สั่งให้คนของเจ้าถอยกลับไปใช่ไหม? เหอะๆ ข้าได้ยินมาว่ารัชทายาทมาที่นี่เพื่อขออภิเษกกับองค์หญิงของเจ้าใช่หรือไม่? เจ้าเต็มใจจะให้องค์หญิงของอาณาจักรที่เจ้าเฝ้าปกป้องอภิเษกกับคนที่ไร้คุณธรรมและขี้ขลาดเช่นนี้?”
หลังจากที่เจียงอี้ขว้างหินวิญญาณเพลิงออกไปหมด เขาจะตะโกนด้วยเสียงที่เสริมด้วยแก่นแท้พลัง ด้วยเสียงคำรามจากบนฟ้า ทหารทั้งหมด,กลุ่มพ่อค้าที่อยู่ใกล้เคียงผู้สัญจรไปมาและหน่วยสอดแนมที่ซ่อนอยู่ของคนจากอาณาจักรต่างๆสามารถได้ยินมันได้อย่างชัดเจน
เซี่ยอู๋หุ่ยโกรธมาก แต่เขายืนยันที่จะไม่ตอบโต้และไม่ส่งมอบสมุนไพรสยบวิญญาณ!
เซี่ยอู๋หุ่ยรู้ว่าเมื่อเขาส่งมอบสมุนไพรสยบวิญญาณแล้ว เจียงอี้ก็จะหนีไปทันที ถ้าเขาหลบซ่อนตัว มันคงเป็นการยากที่จะตามล่าเขาไปตลอดชีวิต ดังนั้นเขาต้องกล้ำกลืนความอัปยศเอาไว้ แม้จิตใจของทหารจากค่ายเสินหวู่จะสั่นคลอน เขาก็ยังคงกัดฟันและแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น
ซูตี๋กั๋วก็โกรธมากเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนบ้าเช่นเจียงอี้และที่สำคัญที่สุดคือมันเป็นคนบ้าที่น่ากลัวมากในขณะที่ใช้หินเพลิงที่เขาไม่รู้จัก
มันเป็นเพราะหินวิญญาณเพลิงของเจียงอี้ที่พวกเขาพบเจอกับสถานการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้ หากเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดของขอบเขตเสินโหยวคนอื่นที่กำลังขี่สัตว์วิญญาณทางอากาศ ซูตี๋กั๋วก็มีวิธีรับมือได้
แม้ว่ามันจะเป็นสุ่ยเชียนโหรวที่ขี่สัตว์วิญญาณที่มีปีกและใช้สร้อยเงินดับโลกา นางก็ยังคงต้องมีช่องว่างอยู่ถึงสามกิโลเมตรก่อนที่สร้อยเงินดับโลกาจะมีพลังทำลายล้างใดๆ ใครจะบ้าเช่นเจียงอี้และมีหินเพลิงที่ไม่สามารถจัดการได้และยังสามารถสังหารได้แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวเมื่อสัมผัสกับหินเพลิงนั่น!
“หากเจียงอี้มีหินเพลิงที่ไม่มีวันหมด ไม่ใช่ว่าเขาจะสังหารกองทัพนับล้านได้อย่างง่ายดายหรือ?”
ซูตี๋กั๋วเกิดความคิดที่น่ากลัวในใจของเขา โชคดีที่เจียงอี้กำลังขี่สัตว์อสูรระดับสอง หากเป็นสัตว์อสูรระดับสามขั้นสูงสุดพร้อมด้วยหินเพลิงที่ไม่สิ้นสุด เจียงอี้ก็คงจะอยู่ยงคงกระพันแม้จะอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกัง
“ทหาร! ส่งสัญญาณทันทีและขอให้ผู้อาวุโสนำกำลังเสริมมาช่วยเหลือจากนั้นไปรวบรวมนักสู้ที่มีสัตว์อสูรที่มีปีกเพื่อไล่ล่าเจียงอี้!”
ซูตี๋กั๋วส่งคำสั่งไปยังผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นที่แปดเงียบๆ ซึ่งเขารีบไปที่เมืองเซี่ยยวี่ด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด เจียงอี้ไม่เพียงแต่ทำให้เซี่ยอู๋หุ่ยเและอาณาจักรเสินหวู่เสียเกียรติเท่านั้น แต่มันยังทำลายชื่อเสียงอขงกองทัพอาณาจักรต้าเซี่ยด้วย กองทัพที่มีทหารนับหมื่นนายไม่สามารถทำอะไรกับคนเพียงคนเดียวได้ หากข่าวนี้ถูกแพร่ออกไป อาณาจักรอื่นก็คงจะหัวเราะเยาะพวกเขา
“เอ๊ะ?”
เมื่อขันทีเฒ่าที่อุ้มเซี่ยอู๋หุ่ยเห็นว่าซูตี๋กั๋วส่งผู้เชี่ยวชาญออกไป มีแสงแวบหนึ่งสะท้อนเข้ามาในดวงตาที่ขุ่นมัวของเขา เขากระซิบกับเซี่ยอู๋หุ่ย “องค์ชาย หากท่านไม่ต้องการส่งมอบสมุนไพรสยบวิญญาณ บ่าวผู้นี้สามารถพาท่านไปยังเมืองเซี่ยยวี่ด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด สำหรับค่ายเสินหวู่นั้น … เพียงแค่ปล่อยให้พวกเขากระจายตัวเองและเจียงอี้จะไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้มากเกินไป “
“นี่ …”
ดวงตาของเซี่ยอู๋หุ่ยสั่นไหวสองสามครั้ง เว้นแต่เขาจะส่งมอบสมุนไพรสยบวิญญาณ เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากฟังคำแนะนำของเว่ยกงกง จากนั้น หากเขาออกไปเช่นนี้ ความอัปยศของเขาจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
เขาต้องการที่จะรักษาชื่อเสียงของเขาหรือแก้แค้น?!
เซี่ยอู๋หุ่ยอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากเขาไปที่เมืองเซี่ยยวี่ มีโอกาสที่เจียงอี้จะอยู่ใต้เท้าเข้าได้ และมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังอยู่หนึ่งคนในเมือง เมื่อปล่อยให้เจียงอี้ไล่ตามมาจนถึงเมืองเซี่ยยวี่ ตราบใดที่พวกเขาสามารถถ่วงเวลาไว้ได้หนึ่งชั่วโมง เจียงอี้จะต้องตายอย่างแน่นอน อาณาจักรต้าเซี่ยยังมีสัตว์ปีกวิญญาณและตราบใดที่พวกเขาสามารถถ่วงเวลาไว้ได้เล็กน้อย ทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาก
“ไป ไปที่เมืองเซี่ยยวี่ ไท่สื่อเจิน เจ้าจงสั่งให้ทุกคนกระจายตัวและรอคำสั่ง!”
ในท้ายที่สุดความจิตสังหารในใจของเซี่ยอู๋หุ่ยจะต่อต้านกับตรรกะของเขา เมื่อชื่อเสียงของเขาสูญเสียไปแล้ว เขาก็จะทิ้งมันไปทั้งหมด ถ้าเซี่ยอู๋หุ่ยไม่สามารถฆ่าเจียงอี้ได้ในวันนี้และปล่อยให้เขานำสมุนไพรสยบวิญญาณไป เจียงอี้จะกลายเป็นฝันร้ายทั้งชีวิตของเขา!
“ฟึ่บ!”
ขันทีเฒ่าเริ่มเพิ่มความเร็วของเขาและวิ่งตรงไปยังเมืองเซี่ยยวี่ ไท่สื่อเจินกัดฟันของเขาและส่งคำสั่งก่อนที่เขาจะนำกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวไปติดตามเซี่ยอู๋หุ่ย ความรับผิดชอบของเขาคือความปลอดภัยของเซี่ยอู๋หุ่ยและถ้าองค์รัชทายาทสั่งลงมา เขาจะทำสิ่งใดได้อีก? คนที่เขานำมาด้วยนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เหนือกว่าขั้นที่ห้าของขอบเขตเสินโหยวทุกคน พวกเขามีความเร็วเหมือนสายฟ้าผ่าและใช้เวลาเพียงไม่กี่พริบตาในการวิ่งหนีไปสามสิบกิโลเมตร
“ไอ้โง่!”
“เจ้าโง่ …”
เจียงอี้และซูตี๋กั๋วสบถออกมาในเวลาเดียวกัน แม่ทัพผู้บังคับบัญชาของกองทัพหนีไปท่ามกลางการต่อสู้? ละทิ้งทหารโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดเลย? บุคคลนั้นต้องงี่เง่าขนาดไหนถึงทำมันลงไปได้? คนของเขาจะคิดยังไง?
หากผู้ใดสามารถสละพวกเขาในช่วงเวลาสำคัญนี้และปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนวัตถุที่ไม่มีชีวิต สิ่งใดที่จะทำให้พวกเขาอยากที่จะขายชีวิตให้กับบุคคลเช่นนี้? ทำไมพวกเขาจึงต้องให้ความจงรักภักดีกับคนๆนี้?
“ฮือฮา!”
ทหารจากค่ายเสินหวู่ทุกคนตกอยู่ในความงงงวย แม้ว่าคำสั่งจะลงมาแล้วก็ไม่มีใครหนีไป ขณะที่พวกเขามองไปที่องค์รัชทายาทและผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่หลบหนีไปอย่างไม่สะทกสะท้าน พวกเขาดูเหมือนว่าจะมีข้อกังขาบางอย่างเกี่ยวกับองค์รัชทายาทและผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่พวกเขานับถือขณะที่คิดว่าพวกเขาทำตัวขี้ขลาดจริงๆ และทอดทิ้งพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดเลย?
“ฮ่าๆๆๆ…”
เจียงอี้ไม่ได้ตามไปเพราะอินทรีมังกรของเขาเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับสองขั้นสูง เขาจะตามฝีเท้าผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดของขอบเขตเสินโหยวได้อย่างไร? เขาแค่รู้สึกว่ามันน่าขับขัน, น่าเย้ยหยันและน่าเศร้าใจเช่นกัน
เขาไม่ได้ใช้หินวิญญาณเพลิงเพื่อฆ่าทหารของค่ายเสินหวู่อีกต่อไป
เขาเป็นบ้าจริงๆหรือเป็นคนคลุ้มคลั่ง หากเขาไม่ได้ถูกบังคับให้จำเป็นต้องฆ่าเขาก็ไม่ต้องการฆ่าทหารแม้แต่คนเดียว เขาอาจหันหลังให้อาณาจักรเสินหวู่และไม่พอใจต่อผู้คนมากมายและกองทัพหลวงของอาณาจักรเสินหวู่ แต่เขาก็ยังเกิดในอาณาจักรเสินหวู่และมีความผูกพันต่ออาณาจักรนี้
หากมีชีวิตที่สงบสุขมีสุขภาพที่ดี ใครจะอยากใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ?
ใครจะอยากอับอายขายหน้าตลอดชีวิต?
ใครจะอยากได้รับการปฏิบัติที่โดนดูถูกเหยียดหยาม?
ใครจะต้องการใช้ชีวิตราวสุนัขจรจัดที่ถูกไล่ล่าขณะถูกสาปแช่ง?
เขาไม่เคยต้องการที่จะมีปัญหากับใคร เขาไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความมั่งคั่งใดๆ เขาเกลียดที่จะต้องฆ่า!
ถ้าเซี่ยถิงเวยและเซี่ยอู๋หุ่ยไม่ได้บังคับเขาและยึดสมุนไพรสยบวิญญาณที่ควรเป็นของเขา…เขาจะไม่คิดคดที่จะทำการทรยศต่อสาธารณะและไล่กัดทุกคนเหมือนสุนัขบ้าเลย
สมุนไพรสยบวิญญาณหายไปแล้ว
เจียงอี้ไม่มีอารมณ์จะอยู่ที่นี่อีกต่อไปและเขาจะไม่ทำตัวเหมือนคนโง่ที่จะไล่ตามเซี่ยอู๋หุ่ย เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่าในขณะที่ยืนอยู่บนอินทรีมังกร มองดูผู้คนที่มีขนาดเล็กเหมือนมดและถอนหายใจลึกๆ
“ท่านแม่ทัพซูตี๋กั๋ว ทหารของค่ายเสินหวู่และอาณาจักรต้าเซี่ย ในวันนี้ ในใจข้าน้อยเจียงผู้นี้ไม่ลังเลที่จะสังหารเพื่อสมุนไพรสยบวิญญาณและข้าก็ถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น! หากพวกเจ้าต้องการแก้แค้น จงมาและไล่ตามข้าผู้นี้ แล้วข้าจะไม่ปริปากบ่นอะไรเลย!”
เจียงอี้ทิ้งคำพูดเอาไว้และบินไปทางเหนือพร้อมกับอินทรีมังกรโดยไม่ลังเล เขาทิ้งไว้เพียงแผ่นหลังที่มองดูแล้วรู้สึกถึงความอ้างว้างและเปล่าเปลี่ยวราวหมาป่าโดดเดี่ยวที่ราวกับกำลังออกเดินทางทั่วพิภพ