เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 327 แผนการจะไม่ล่ม
บทที่ 327 แผนการจะไม่ล่ม
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ: แปลได้แล้ว
“ฆ่าหยุนลู่?”
เจียงอี้เลิกคิ้วขึ้นขณะที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเมื่อตอนที่อยู่ในท้องพระโรง เขาได้กล่าวออกมาว่าเขาจะฆ่าหยุนลู่ แต่อย่างไรก็ตาม เขาเพียงแค่พูดและไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าหยุนลู่จริงๆ
สงครามเพิ่งจะหมดลงและอาณาจักรต้าเซี่ยต้องทนทรมานจากการนองเลือดมาอาณาจักรมีทหารมากกว่าแสนคนเพียงเล็กน้อยและผู้เชี่ยวชาญกว่าครึ่งก็เสียชีวิตลง ผู้คนในอาณาจักรก็ยังคงวิตกกังวล และมีสถานที่มากมายที่ยังไม่ได้เข้าไปจัดการและเหล่าโจรก็อาละวาดในบางแห่ง หากมีสงครามอีกครั้ง อาณาจักรต้าเซี่ยคงล่มสลายไปก่อนที่จะมีศัตรูมาจู่โจมเสียอีก
หยุนลู่นั้นเป็นน้องชายของหยุนเฮ่อมีข่าวลือว่าเขาเกือบจะได้ขึ้นครองราชย์อยู่แล้วแต่กลับถูกสังหารด้วยน้ำมือของเจียงอี้ไปเสียก่อน ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นในสงครามราชอาณาจักร มันก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะถูกสังหารไปได้
หยุนลู่ถูกส่งมาโดยฐานะของราชทูตแห่งอาณาจักรเทียนเซวี่ยนเพื่อยินดีกับซูรั่วเสวี่ยในการขึ้นครองราชย์แต่ในนามเท่านั้นหากเจียงอี้จะฆ่าหยุนลู่ ราชาแห่งอาณาจักรเทียนเซวี่ยนคงจะต้องพิโรธอย่างแน่นอน หากเขาใช้กองกำลังของอาณาจักรเพื่อจู่โจม สุ่ยโย่วหลาย,จูเก๋อชิงหยุนและคนอื่นๆจะไม่เข้ามายุ่งอีกใช่ไหม? จักรพรรดินีสัตว์อสูรก็คงไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามภายในระหว่างมนุษย์กันเอง
เจียงอี้นั้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเขาพึมพำครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “หยุนเฟยอยู่ในอันตรายที่นั่นหรือ? หากหยุนลู่ไม่ตาย ชีวิตของหยุนเฟยจะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่?”
“ใช่…”
เส้นเลือดบนใบหน้าของจ้านอู๋ซวงปูดออกมาขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งลึก“หยุนเฮ่อตายแล้ว และมันควรจะลดอิทธิพลของสายเลือดของพวกเขาลง เมื่อหยุนเฟยกลับไป นางก็ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหมิง ตระกูลหั่ว และตระกูลอื่นๆที่เพิ่มอำนาจให้นางในทันใด”
“เดิมทีองค์ราชาแห่งอาณาจักรเทียนเซวี่ยนนั้นจะกำหนดให้น้องชายของหยุนเฟยเป็นองค์รัชทายาท แต่หยุนลู่ก็ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรเทียนเซวี่ยน พวกตระกูลจอมเวทย์! สถานการณ์ก็แปรเปลี่ยนไปในทันทีและหยุนเฟยก็ถูกกุมตัวอยู่ภายใต้อาณาจักรในตอนนี้ หากหยุนลู่ถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์รัชทายาท ด้วยธรรมชาติของเขานั้น หยุนเฟยและพี่น้องของนางจะต้องตายอย่างแน่นอน”
“นี่….”
เจียงอี้ขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัย“ราชาแห่งอาณาจักรเทียนเซวี่ยนจะไม่รู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนหรือ? เขาสามารถมองดูพี่น้องเข่นฆ่ากันเองได้? ในฐานะองค์ราชา เขาน่าจะมีสิทธิ์ในการแต่งตั้งรัชทายาทตั้งแต่ต้น เป็นไปได้ไหมว่าองค์ราชาแห่งอาณาจักรเทียนเซวี่ยนนั้นจะมีบุคลิกที่อ่อนแอเสียยิ่งกว่าซูตี๋หวัง?”
“ไม่ใช่แบบนั้น!”
เฉียนว่านก้วนขัดจังหวะและอธิบาย“สถานการณ์ของอาณาจักรเทียนเซวี่ยนนั้นมักจะซับซ้อน พวกเขามีตระกูลที่ยิ่งใหญ่สิบตระกูลที่จะจัดการเรื่องขององค์รัชทายาทและมันไม่ได้ถูกตัดสินโดยองค์ราชา พวกเขามักจะตัดสินโดยการดูว่าองค์ชายผู้ใดที่จะได้รับการสนับสนุนจากทุกตระกูล! ลูกพี่ก็คงเห็นหัวหน้าตระกูลของตระกูลจอมเวทย์แล้ว”
“ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังของอาณาจักรเทียนเซวี่ยนผู้นั้น?”
ภาพหญิงชราผมสีเงินผุดขึ้นในใจของเขาณ ตอนนี้ เข้าก็รู้ทันทีว่าเหตุใดตระกูลจอมเวทย์จึงสนับสนุนหยุนลู่และต่อต้านพี่ของหยุนเฟย มันอาจจะเกี่ยวข้องกับเขา
หยุนเฟยและจ้านอู๋ซวงเป็นคู่รักกันขณะที่จ้านอู๋ซวงเป็นพี่น้องของเขาอาณาจักรเทียนเซวี่ยนอาจต้องการที่จะฆ่าเขาตั้งแต่ตอนนี้ พวกเขาคาดว่าเจียงอี้จะต้องตายหลังจากผ่านไปสามปีให้หลังและเพราะเขา ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังจึงไม่ต้องการที่จะสนับสนุนน้องชายของหยุนเฟยให้เป็นองค์ราชทายาท
เขากลับมาเงียบสงัดอีกครั้งและพูดออกมาหลังจากเวลาผ่านพ้นไปเนิ่นนาน“หลังจากฆ่าหยุนลู่แล้ว เจ้าจะแน่ใจหรือไม่ว่าน้องชายของหยุนเฟยจะได้ขึ้นตำแหน่งองค์รัชทายาท?”
“หกส่วน!”
จ้านอู๋ซวงพูดออกมาด้วยความมั่นใจขณะที่เฉียนว่านก้วนพยักหน้าและกล่าวว่า“สายเลือดของหยุนเฮ่อนั้นมีเพียงหยุนเฮ่อและหยุนลู่ที่เป็นผู้ลงเลือกตำแหน่งเท่านั้น ส่วนหยุนเฟยนั้นมีกายวิญญาณพฤกษาขณะที่น้องชายของนางมีพรสวรรค์ที่พิเศษที่เหนือกว่าหยุนลู่โดยสมบูรณ์”
“ก็ได้!”
เจียงอี้กระแทกมือลงที่โต๊ะแล้วตะโกนออกมา“เช่นนั้นก็ฆ่าหยุนลู่ แต่การที่จะทำเรื่องนี้จำเป็นต้องมีแผนการณ์ที่ไร้ที่ติที่ต้องไม่ทิ้งหลักฐานใดๆไว้! นอกจากนี้จะต้องไม่มีคนของมันเล็ดรอดไปได้ ในครานี้มันนำคนของมันมากันกี่คน?”
ดวงตาของจ้านอู๋ซวงสว่างไสวขณะที่เขายิ้มและพูดว่า“มันนำคนมาประมาณพันคน มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวสามสิบคน! ว่านก้วนและข้านำคนมาสามพันคน และผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวมาหนึ่งร้อยคน!”
“อะไรนะ?”
เจียงอี้งงงวยในขณะที่เขาถามด้วยความสับสนว่า“พวกเจ้าสองคนพาคนออกมามากมายเช่นนี้ได้อย่างไรน่ะ? แล้วก็นะ… ในเมื่อพวกเจ้ามีคนตั้งมากมายเช่นนี้ ทำไมพวกเจ้าจึงต้องการให้ข้าช่วยอีก? พวกเจ้าสามารถฆ่าหยุนลู่ได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีข้าเลยด้วยซ้ำ”
“อื้อ!”
จ้านอู๋ซวงพยักหน้าและกล่าว“คราวนี้ พ่อของข้าและท่านลุงเฉียนได้อนุมัติพวกเรา กำลังพลทั้งสามพันคนนี้เป็นกองกำลังลับจากทั้งสองตระกูลของเรา แม้ว่าพวกเขาจะถูกเปิดเผยตัวตน ตระกูลของเราก็จะสามารถปฏิเสธในเรื่องการพัวพันนี้ได้! พวกเรามาขอให้เจ้าช่วย….ไม่ได้มาขอให้เจ้าเข้ามามีส่วนร่วม ตอนนี้เจ้าเป็นอุปราชของอาณาจักรต้าเซี่ยและสามารถรับรู้ตำแหน่งของหยุนลู่ได้ เมืองทุกเมืองของอาณาจักรต้าเซี่ยนั้นล่มสลายลงไปหมด และหน่วยลับของพวกเราก็สูญสิ้นไปหมดเช่นกัน หากไม่มีเจ้า พวกเราจะวางแผนการฆ่าหยุนลู่ได้อย่างไร?”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง!”
เจียงอี้รู้สึกว่าเขาผ่อนคลายลงเยอะแต่เดิมเขาพร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตและฆ่าคนของหยุนลู่ทุกคนเพื่อจ้านอู๋ซวง แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าพวกเขาทั้งสองมาที่นี่พร้อมกับแผนการที่เหมาะสมและต้องการความช่วยเหลือจากเขาในด้านข้อมูล
เขามองทั้งสองด้วยการแสดงออกที่งุนงงและถามว่า“ทำไมลุงจ้านและลุงเฉียนถึงได้สนับสนุนพวกเจ้ากับเรื่องที่เสี่ยงเช่นนี้กัน? หากเหตุการณ์นี้ล้มเหลวและพวกเจ้าถูกเปิดเผยตัวตน พวกเขาจะไม่สามารถปกป้องพวกเจ้าได้เลยนะ”
“เฮ้อออ….”
เฉียนว่านก้วนและจ้านอู๋ซวงมองหน้ากันและถอนหายใจเบาๆจ้านอู๋ซวงเหลือบมองไปด้านนอกก่อนที่จะลดเสียงและพูดว่า “เจียงอี้ ข้าคิดว่าเจ้าคงเดาออกว่าใครเป็นผู้บงการในเรื่องการลักพาตัวจิ้งจอกน้อยนั่น! องค์ราชานั้นมีทักษะที่ยอดเยี่ยมและมีความทะเยอทะยานมากขณะที่จอมพลกองทัพทหารตะวันตกนั้นสาบานว่าจะเป็นอันดับหนึ่งให้ได้มาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ทั้งสองคนนั้นมีความทะเยอะทะยานที่จะปกครองทั้งทวีป!”
“ตระกูลของเราต่อต้านมัน!เราไม่คิดว่านี่จะเป็นช่วงที่ดีที่สุด แต่องค์ราชาและจอมพลทัพทหารตะวันตกนั้นตกลงกันแล้ว ดังนั้น กองทัพของตระกูลเราจึงเตรียมเส้นทางการล่าถอย และหยุนเฟยคือหนึ่งในเส้นทางนั้น!”
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
เจียงอี้รู้ในทันทีเซี่ยถิงเวยและเจียงเปี๋ยหลีต้องการที่จะปกครองทั้งทวีป แต่ตระกูลจ้านและตระกูลเฉียนไม่ได้มีความคาดหวังที่สูงเช่นนั้น พวกเขากลัวว่าอาณาจักรเสินหวู่จะล่มสลายแทนที่จะรุ่งโรจน์ ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มหาเส้นทางเพื่อที่จะได้มีไว้ล่าถอยได้
ตระกูลพิเศษอย่างตระกูลจ้านและตระกูลที่น่าทึ่งที่มีความมั่งคั่งที่เทียบเทียมกับอาณาจักรอย่างตระกูลเฉียนจะสามารถตั้งรกรากได้ดีไม่ว่าจะอยู่ในขั้วอำนาจไหนๆหากน้องชายของหยุนเฟยกลายเป็นองค์รัชทายาทและหากตระกูลของพวกเขาไม่มีที่ไป พวกเขาก็จะสามารถไปยังอาณาจักรเทียนเซวี่ยนที่ซึ่งพวกเขาจะสามารถตั้งรกรากได้อย่างรวดเร็ว
“ก็ได้!”
เจียงอี้ได้ตัดสินใจแล้วและถามว่า“พวกเจ้าพร้อมจะลงมือเมื่อไหร่? ที่ไหน?”
จ้านอู๋ซวงพูดพร้อมเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร“เวลาไม่สำคัญ ส่วนตำแหน่งนั้นจะต้องไม่ใช่ในอาณาจักรต้าเซี่ย เราจำเป็นจะต้องรู้ที่พักของหยุนลู่และเมื่อเขาออกจากอาณาจักรต้าเซี่ยและอยู่ที่ชายแดนของอาณาจักรเทียนเซวี่ยนแล้ว เราจะฆ่าเขาทันที! จากนั้นเราก็จะฆ่าคนทั้งหมดที่เขานำมาด้วย!”
“อื้ม”
เจียงอี้ลุกขึ้นยืนและเดินออกไปด้านนอกเขายิ้มอยู่ตรงประตูและพูดว่า “พวกเจ้าทั้งสองพักอยู่ที่นี่ก่อน และรอข่าวของข้าได้เลย!”
เจียงอี้เดินออกจากวังหิมะเลื่อนลอยและไปยังท้องพระโรงในทันที
พิธีดังกล่าวได้สิ้นสุดลงขณะที่ซูรั่วเสวี่ยไปยังจัตุรัสเพื่อรับการถวายความจงรักภักดีจากประชาชนเจียงอี้เรียกแม่ทัพหลูผู้มีอำนาจสูงสุดในกองทัพมา แม่ทัพผู้นี้เป็นแม่ทัพที่เจียงอี้นั้นเชื่อใจมากที่สุด
หลังจากแม่ทัพเฒ่ามาถึงเจียงอี้ก็หาข้ออ้างสารพัดในการตรวจสอบเบาะแสของหยุนลู่ ซึ่งแม่ทัพหลูก็ไม่ได้มีความสงสัยใดๆและคิดว่าเจียงอี้กลัวว่าหยุนลู่จะสร้างปัญหามากขึ้น เขาจึงรีบไปจัดการในเรื่องนี้ให้โดยไว
ซึ่งข่าวนี้ก็ได้ถูกรายงานกลับมาอย่างรวดเร็วหยุนลู่ออกจากเมืองไปแล้วและตั้งค่ายอยู่นอกเมือง ตอนนี้เขากำลังนำทัพและเดินทางกลับสู่อาณาจักรเทียนเซวี่ยน
“ส่งใครสักคนไปติดตามพวกเขาอย่างเงียบๆและพวกเขาจะต้องไม่ถูกจับได้เป็นอันขาด รายงานกลับมาทุกๆสองชั่วโมง เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลกับหยุนลู่เมื่อเขาก้าวออกจากดินแดนต้าเซี่ยไปแล้ว นอกจากองค์ราชินี อย่าให้ใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอันขาด”
เมื่อเจียงอี้ได้รับข้อมูลมาแล้วเขาก็สั่งการอย่างอื่นแก่แม่ทัพหลูอีกครั้ง หลังจากจัดการอย่างรวดเร็ว นี่เป็นคำสั่งแรกที่เจียงอี้สั่งลงมาหลังจากที่เขาได้เป็นอุปราช ซึ่งแม่ทัพหลูก็ไม่ต้องการให้งานนี้มีความผิดพลาดใดๆ
หลังจากแม่ทัพหลูออกไปแล้วเจียงอี้ก็เข้าไปยังวังหิมะเลื่อนลอยอย่างรวดเร็วและยิ้มพร้อมแจ้งข่าว “หยุนลู่กำลังจะกลับไปยังอาณาจักรเทียนเซวี่ยน และเขาเพิ่งจะออกไป คนของพวกเจ้าสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว โอ้ใช่แล้ว…..พวกเจ้าจะไปด้วยไหม? หากพวกเจ้าจะไป เช่นนั้นก็ให้ข้าไปด้วย หากมีข้าอยู่รอบๆ แผนการนี้จะไม่ล่มแน่ๆ!”
…