เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 361 ศพของหยุนเฟยและหยุนเสียนคงเย็นแล้ว
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 361 ศพของหยุนเฟยและหยุนเสียนคงเย็นแล้ว
บทที่ 361 ศพของหยุนเฟยและหยุนเสียนคงเย็นแล้ว
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ: แปลได้แล้ว
“สถานการณ์เป็นอย่างไร?”
เจียงอี้และผู้อาวุโสเฮ่อต่างก็ตกตะลึงดวงตาของเจียงอี้กระพริบสองครั้งก่อนที่จะถามว่า “หยุนเฮ่อและหยุนลู่ตายแล้ว ไม่ใช่ว่าน้องของหยุนเฟยนั้นเป็นผู้มีคุณสมบัติที่สุดในการขึ้นครองราชย์หรอ? ทำไมพวกนั้นกล้าที่จะลงมือต่อลูกหลานตน? แล้วฝ่าหยุนเฮ่อไม่เกรงกลัวว่าจะทำให้กษัตริย์เทียนเซวี่ยนเดือดดาลหรือ? พวกเขาต้องการจะสังหารองค์ชายทุกพระองค์แล้วก็จะไม่มีผู้ใดได้ครองบัลลังก์?”
จ้านอู๋ซวงเคยบอกว่าหากหยุนลู่ตายไปฝ่ายนั้นก็จะไม่มีองค์ชายอีกต่อไป และจะไม่มีผู้ขัดขวางหยุนเสียนขึ้นครองบัลลังก์ ในตอนนี้แผนได้ลุล่วงไปแล้ว แต่ทำไมสิ่งต่างๆมันกลับแย่ลง?
“ข้อมูลนี้น่าเชื่อถือหรือไม่?สายเลือดพวกนักเวทย์ชั่วพวกนั้นเตรียมลงมือเมื่อไหร่?”
ผู้อาวุโสเฮ่อถามด้วยสีหน้าผ่าเผยเขารู้เป็นอย่างดีว่าจ้านอู๋ซวงชอบพอหยุนเฟยมากเพียงใด และด้วยความระส่ำระส่ายทั้งหมดในอาณาจักรเสินหวู่ อาณาจักรเทียนเซวี่ยนนั้นเป็นเส้นทางที่ยอดเยี่ยมในการหลบหนี หากหยุนเฟยตาย ไม่พียงแต่จ้านอู๋ซวงจะเสียใจ แต่ตระกูลจ้านและตระกูลเฉียนต่างก็จะไม่มีทางให้หลบหนี และการเสียสละทั้งหมดจะไร้ประโยชน์
“ข้อมูลนี้แม่นยำแน่นอนขอรับ!”
ผู้ดูแลตระกูลจ้านพูดอย่างแน่วแน่“สิบสองวันให้หลัง ราชาแห่งอาณาจักรเทียนเซวี่ยนจะมอบเครื่องบรรณาการแด่จอมเวทย์ที่หุบเขาจอมเวทย์ซึ่งอยู่นอกเมืองเซวี่ยนเทียน เหล่าสายเลือกนักเวทย์ชั่วช้าจะต้องลงมือในวันนั้นแน่ๆ ในตอนนี้องค์หญิงหยุนเฟยและองค์ชายหยุนเสียนยังคงถูกจับกุมไว้ใต้ตำหนัก หากสายเลือกนักเวทย์ชั่วนั้นลงมือจริงๆ พวกเขาจะต้องพินาศอย่างแน่นอน ข้อมูลนี้มาจากประมุขน้อยตระกูลหั่ว หั่วซู่ ท่านอุปราชคงจะจดจำเขาได้ใช่ไหมขอรับ?”
“ผนึกแห่งดวงจิตของนายน้อยหั่วซู่อยู่ในมือขององค์หญิงหยุนเฟยและหากองค์หญิงหยุนเฟยกำลังจะตายเขาก็จะตายเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่เขาเสี่ยงชีวิตถ่ายทอดข้อมูลนี้มาให้กับเรา เราได้รับข้อมูลต่างๆนี้ในเมืองเซวี่ยนเทียนและพิจารณาแล้วว่าข้อมูลค่อนข้างแม่นยำ”
“ส่วน….เหตุผลที่ว่าทำไมนักเวทย์ชั่วพยายามสังหารองค์หญิงหยุนเฟยและองค์ชายหยุนเสียน….”
ผู้ดูแลตระกูลจ้านหยุดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ“ข้าคิดว่าเขาคงจะมีความเกรงกลัวต่อองค์ชายหยุนเสียน หยุนเฟยและหยุนเสียนมีพี่ชายที่ถูกสังหารโดยสายเลือดนักเวทย์ชั่วร้าย ราชาแห่งอาณาจักรเทียนเซวี่ยนนั้นอ่อนแอและอาจสวรรคตในอีกไม่กี่ปี หากหยุนเสียนได้ขึ้นครองบัลลังก์ เขาอาจจะชำระล้างสายเลือดนักเวทย์ชั่วด้วยเลือด…”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
เจียงอี้พยักหน้าเขาเคยได้ยินเรื่องที่พี่ชายของหยุนเฟยตายเพราะหยุนเฮ่อมาบ้าง นอกจากนี้ เขายังรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังที่หยุนเฟยมีต่อนักเวทย์ชั่วช้า หากหยุนเสียนได้เป็นกษัตริย์ เขาจะต้องฆ่าล้างสายเลือดนักเวทย์ชั่วแน่ๆ ซึ่งนี่ก็เป็นคำอธิบายที่ดีว่าทำไมพวกเขาถึงทำตัวเช่นนี้
“อาณาจักรเทียนเซวี่ยนรู้เรื่องนี้หรือไม่?นี่เขาจะมองดูหยุนเสียนตายหรือ?” เจียงอี้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะถามอีกครั้ง
“ไม่มั่นใจขอรับ!”
ผู้ดูแลไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“ราชินีแม่มด…ผู้เป็นมารดาหยุนเฮ่อและหยุนลู่ นางได้ฝึกเวทย์มนตร์ชั่วร้ายและยังมีความเชี่ยวชาญในด้านมนตร์เสน่ห์ นางเป็นหญิงที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ขณะนี้นางได้ควบคุมตำหนักนางสนมเป็นที่เรียบร้อยแล้วขณะที่องค์ราชาทรงอยู่แต่ในตำหนักพระราชวังในช่วงนี้ หั่วซู่ที่เป็นนายน้อยที่ต่ำต้อยไม่มีโอกาสได้เข้าไปถ่ายทอดข้อมูลนี้แก่องค์ราชาได้ และผู้บงการของเรื่องนี้ก็คือราชินีแม่มดนั่นขอรับ”
“นี่มันคงจะเป็นปัญหา…..”
ผู้อาวุโสเฮ่อรู้สึกกังวลเหลืออีกเพียงสิบสองวันเท่านั้น แม้ว่าตระกูลจ้านต้องการที่จะช่วยเหลือพวกเขา แต่มันก็สายเกินไปที่จะรวบรวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองเซวี่ยนเทียน เหล่ากองกำลังลับของตระกูลจ้านและตระกูลเฉียนที่ซ่อนอยู่ในอาณาจักรเทียนเซวี่ยนนั้นล้วนแต่อ่อนแอเพราะพวกเขามีหน้าที่เพียงถ่ายทอดข้อมูล มีผู้เชี่ยวชาญขั้นแรกของขอบเขตเสินโหยวอยู่น้อยมาก ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปช่วยเหลือพวกเขาทั้งสอง
หยุนเฟยและหยุนเสียนถูกกักขังอยู่ในตำหนักและเมื่อองค์ราชาออกไปถวายบรรณาการแก่จอมเวทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกคนในเมืองก็คงจะไปกับเขา แม้ว่าหยุนเฟยและหยุนเสียนจะมีผู้คุมที่ทรงพลัง แต่สายเลือดนักเวทย์ชั่วนั้นก็ทรงพลัง ด้วยการวางแผนอย่างแนบเนียนของราชินี ทั้งสองคนนั้นคงจะตายอย่างแน่นอน
“สิบสองวันสิบสองวัน!”
ผู้อาวุโสเฮ่อเดินวนไปมาอยู่ในห้องโถงและแววตาของเขาก็เผยความชั่วร้ายออกมาขณะที่ตะโกนว่า“ส่งข้อความไปยังผู้เชี่ยวชาญตระกูลจ้านทุกคนให้แทรกซึมเข้าไปยังเมืองเซวี่ยนเทียนและรอคำสั่งข้า! ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าจะช่วยองค์หญิงหยุนเฟยและองค์ชายหยุนเสียนให้ได้ ไม่เช่นนั้นประมุขน้อยของข้าคงโศกเศร้า”
“ผู้อาวุโสเฮ่อ….”
ผู้ดูแลตระกูลจ้านรู้สึกกังวลเฮ่อเถี่ยซู่คอยอยู่เบื้องหลังมากว่าสิบปีแล้วและมีไม่กี่คนที่รู้ถึงความกล้าหาญของเขา ผู้ดูแลตระกูลจ้านรู้ดีว่าประมุขจ้านให้ความสำคัญกับผู้อาวุโสเฮ่อเพียงใด ผู้อาวุโสเฮ่อนั้นเป็นผู้ที่คอยมองดูช่วงเวลาที่จ้านอู๋ซวงเติบโตมาและมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง
หากเขาเข้าไปในเมืองเซวี่ยนเทียนคนเดียวมันก็เป็นไปได้ที่เขาจะไม่ได้กลับมา เขาอาจจะทำลายตัวเองเสียด้วยซ้ำเพื่อไม่ให้ตระกูลจ้านถูกเปิดโปง
“พอได้แล้ว!”
ผู้อาวุโสเฮ่อพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา“ด้วยผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดจากเมืองเซวี่ยนเทียน หากข้าวางแผนการให้ถี่ถ้วนและประสานแผนงานกับหั่วซู่ กู่เท่อ และคนอื่นๆ ข้าอาจจะมีโอกาสช่วยเหลือองค์หญิงหยุนเฟยและองค์ชายหยุนเสียนได้”
หลังจากจบคำพูดของเขาผู้อาวุโสเฮ่อก็คำนับเจียงอี้และพูดว่า “นายน้อยอี้ ท่านควรกลับไปยังเมืองเซี่ยยวี่ก่อน ตาเฒ่าเฮ่อผู้นี้คงไม่สามารถไปกับท่านได้”
เจียงอี้ยังคงนิ่งเงียบและเมื่อผู้อาวุโสเฮ่อกำลังจะออกไปทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือไปจับแขนผู้อาวุโสเฮ่อเอาไว้และพูดอย่างไม่แยแสว่า “ผู้อาวุโสเฮ่อ ข้าจะไปกับท่าน”
“ท่านไปไม่ได้!”
“ไม่ได้แน่นอน!”
ผู้อาวุโสเฮ่อและผู้ดูแลตะโกนออกมาพร้อมกันมันเป็นเรื่องปกติหากว่าผู้อาวุโสเฮ่อไปเองและแม้ว่าเขาพลาด เขาก็ยังสามารถลำทายตัวเองได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้
แล้วเจียงอี้เล่า?
ยิ่งไปกว่านั้นความสามารถในการโจมตีของเขานั้นก็ไม่เหมือนใครและง่ายต่อการเปิดเผยตัวตน เมื่อเขาถูกเปิดเผยตัวตน เหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังก็จะรับรู้อย่างแน่นอน เจียงอี้คงไม่รู้จะหนีไปทางใดและคงไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเขาได้ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็จะต้องถูกตัดสินให้ตาย สุ่ยโย่วหลาน, จักรพรรดินีสัตว์อสูรและคนอื่นๆก็คงไม่สอดมือเข้ามายุ่ง
“ฮ่าๆ”
เจียงอี้ยิ้มด้วยความมั่นใจและโบกมือของเขาราวกับว่าเขาไม่สนใจ“ผู้อาวุโสเฮ่อ ท่านคงรู้เรื่องไพ่ตายของข้าแล้วแต่ดูเหมือนจะลืมความพิเศษของข้านะ! หากข้าไปยังอาณาจักรอื่น ข้าอาจจะตาย แต่หากเป็นอาณาจักรเทียนเซวี่ยน ข้าจะไม่ตาย แถมท่านยังบอกอีกนี่….ตราบใดที่มีแผนการที่แยบยล มันก็เป็นไปได้ที่จะช่วยหยุนเฟย หากข้าไปด้วย ความเป็นไปได้มันก็จะเพิ่มขึ้นกว่าเจ้าสองสามเท่า”
“ฮะ!”
ผู้อาวุโสเฮ่อตกตะลึงในขณะที่ดวงตาของเขาหรี่ลงและสว่างขึ้นอย่างรวดเร็วไพ่ตายของเจียงอี้นั้นทรงพลังอย่างแท้จริง ซึ่งก็คือราชันสัตว์อสูรขั้นสูงสุด! แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังแห่งอาณาจักรเทียนเซวี่ยนก็อาจถูกปราบปรามได้ง่าย
ที่สำคัญที่สุดคือ…!
ตอนนี้เจียงอี้เป็นผู้สืบทอดของจอมเวทย์และจอมเวทย์นั้นมีอำนาจและศักดิ์ศรีสูงสุดในอาณาจักรเทียนเซวี่ยน ทุกคนจะต้องไปส่งบรรณาการให้แก่จอมเวทย์ในหุบเขา ในวันเกิดของจอมเวทย์ มันสามารถจินตนาการได้เลยว่าจอมเวทย์นั้นสูงส่งมากเพียงใดต่ออาณาจักรเทียนเซวี่ยน หากเจียงอี้ต้องการแสดงตัวตนของเขาว่าเป็นผู้สืบทอดของจอมเวทย์ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดในอาณาจักรเทียนเซวี่ยนที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังก็คงไม่กล้าแตะต้องเจียงอี้
เจียงอี้ยังคงมีทักษะที่ทำให้เคลื่อนย้ายในพริบตา,สัตว์อสูรเถาอู้,และเจตจำนงสังหารซึ่งสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวได้อย่างง่ายดาย หากเขาไปช่วยหยุนเฟยและหยุนเสียน มันก็จะมีโอกาสมากขึ้นแน่นอน
ผู้อาวุโสเฮ่อนิ่งเงียบไปพักใหญ่และยังคงส่ายหัว“ไม่ นี่มันเสี่ยงเกินไป หากมีอะไรเกิดขึ้นกับนายน้อยอี้ แม้พวกเราจะตายไปมันก็ยังคงไม่พอ….”
“น่ารำคาญ!”
เจียงอี้ตะโกนออกมาและเดินตรงออกไปแล้วเรียกเถาอู้ออกมาเขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ท่านจะไปไหม? หากช้ากว่านี้ศพของหยุนเฟยและหยุนเสียนคงเย็นหมดแล้ว”
จ้านอู๋ซวงและเจียงอี้นั้นมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและหยุนเฟยก็ได้ช่วยเขาไว้มากมายเมื่อตอนอยู่ในป่าอาถรรพ์เช่นกัน เจียงอี้มีนิสัยเช่นนี้เสมอ หากมีคนปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี เขาจะทดแทนคืนสิบเท่า หลังจากที่รู้ว่าหยุนเฟยกำลังจะตาย แล้วเขาจะยืนกอดอกมองดูนางตายหรือ?
“ก็ได้!”
ผู้อาวุโสเข้าใจแล้วว่าเมื่อเจียงอี้ได้ตัดสินใจไปแล้วก็จะไม่มีอะไรมาหยุดเขาได้อีกเขากัดฟันและบอกให้ผู้ดูแลส่งข้อความถึงจ้านอู๋ซวงและพร้อมที่จะเป็นกองสนับสนุนทุกเมื่อ จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นเถาอู้ไป
“เหลืองใหญ่ไปเมืองเซวี่ยนเทียน!”
เจียงอี้คำรามออกมาและเถาอู้ก็มุดลงไปในพื้นดินและหายไปจากสายตาของผู้ดูแลตระกูลจ้านอย่างรวดเร็ว