เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 368 ความช่วยเหลือจากสวรรค์
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 368 ความช่วยเหลือจากสวรรค์
บทที่ 368 ความช่วยเหลือจากสวรรค์
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ: แปลได้แล้ว
บุฟ!
ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงต่อมาประตูห้องลับก็เปิดออกอย่างเงียบๆ เจียงอี้นั้นเป็นกังวลมาก เขาทำเหมือนว่าตายไปแล้วโดยหยุดหายใจและการเต้นของหัวใจ เขาเพิ่มพูนการได้ยินเสียงของเขาด้วยแก่นแท้พลังสีดำซึ่งนั่นจะทำให้เขาสามารถได้ยินทุกอย่างและพร้อมโจมตีตลอดเวลา
ตึกตึก ตึก!
คนสองคนเดินเข้ามาและหยุดอยู่ที่หน้าประตูทั้งคู่อุทานเสียงหลงและหนึ่งในนั้นก็ร้องออกมาว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมแม่ทัพเฉาและแม่นางหลิ่วถึงตายกัน?”
“อะไรนะ?”
เสียงตะโกนอันน่าเกรงขามพร้อมน่าหลงใหลดังมาจากข้างนอกหัวใจของเจียงอี้สั่นไหวเล็กน้อย บุคคลที่อยู่เบื้องหลังเสียงนี้คงจะเป็นเสียงของราชินีแม่มดที่งามเลิศในปฐพี เจียงอี้ก็มุ่งเน้นไปที่ต้นตอเสียงของนางและคำนวณระยะทางของนางที่อยู่ห่างจากห้องลับทันที
ตึกตึก ตึก!
ผู้อาวุโสสองคนนั้นเข้ามาก่อนเจียงอี้วางศพของแม่ทัพเฉาและแม่นางหลิ่วไว้ทางด้านซ้ายของห้องลับและหันหน้าเข้าหาประตู ส่วนตัวเขาอยู่ทางด้านขวา
เขาจัดสถานการณ์ไว้ได้โดยสมบูรณ์แบบเมื่อผู้อาวุโสทั้งสองเข้ามา พวกเขาก็ตรวจดูแม่ทัพเฉาและแม่นางหลิ่วทันที มันปลุกปั่นจินตนาการมากมาย ตั้งแต่เสื้อผ้าที่ถูกฉีกทึ้งของแม่นางหลิ่วและดาบในมือของแม่ทัพเฉาที่อาบไปด้วยเลือด แล้วพวกเขาก็ถูกดึงดูดให้มองไปที่เจียงอี้เพียงทิศเดียว เมื่อเห็นเจียงอี้นอนอาบเลือดอยู่ พวกเขาก็ไม่สนใจใดๆ
หกเมตร!สามเมตร! หนึ่งเมตร!
เจียงอี้ไม่ได้ใส่ใจกับผู้อาวุโสทั้งสองและจดจ่ออยู่กับราชินีแม่มดที่อยู่ด้านนอกเขารอให้นางเข้ามาและดูเหมือนว่าจะระแวดระวังมาก นางยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าและไม่เข้ามาข้างใน และนางยังให้ผู้อาวุโสขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุดทั้งสองเข้ามาตรวจสอบก่อน
หัวใจของเจียงอี้กำลังลุกไหม้หากเขาลงมือแม้แต่เพียงนิดเดียว เขาจะต้องต่อสู้กับทุกๆคนและจะต้องปลดปล่อยเจตจำนงสังหาร อย่างไรก็ตาม กลิ่นอายสังหารนั้นแข็งแกร่งมากและมันจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญรอบๆตื่นตระหนก ตามไปด้วยราชวังทั้งวัง และท้ายที่สุดก็คือแม่เฒ่าบุปผาสีเงิน สิ่งต่างๆจะกลับกลายเป็นเลวร้ายจนถึงที่สุด
เข้ามาสิ!
เจียงอี้ยังคงกรีดร้องอยู่ในใจน่าเสียดายที่ราชินีแม่มดยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เมื่อผู้ตรวจสอบทั้งสองตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว หนึ่งในนั้นก็ตะโกนขึ้นว่า “องค์ราชินี แม่ทัพเฉาและแม่นางหลิ่วตายไปไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมาพะยะค่ะ”
“พวกมันตายเพราะ?”
ราชินีแม่มดถามอย่างเฉยเมยและมองไปที่เจียงอี้“เขาก็ตายด้วยหรือ?”
“บ่าวเฒ่าผู้นี้จะดูให้นะพะยะค่ะ!”
ชายผู้หนึ่งหยุดและพูดเช่นนั้นเมื่อเขาก้าวเข้าหาเจียงอี้ หัวใจของเจียงอี้ก็แทบจะหลุดออกมาจากลำคอ หากผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเขา เขาจะพบว่าเจียงอี้นั้นแสร้งทำแน่นอน
ข้าต้องลงมือ!
เมื่อถึงช่วงที่ผู้อาวุโสอยู่ห่างจากเจียงอี้เพียงหนึ่งเมตรเจียงอี้ก็กัดฟันและพร้อมที่จะโจมตี แต่จู่ๆเสียงฝีเท้าเบาๆก็ดังขึ้นมาจากข้างนอก ทันใดนั้นราชินีแม่มดก็กล่าวออกมาอย่างรวดเร็วว่า “พวกเจาทุกคน เข้าไปในห้องลับซะ องค์ราชากำลังมาวังลี่เฟย เราไม่สามารถให้พระองค์เห็นเราได้”
ฟึ่บ!
ร่างสามร่างเข้าไปในห้องลับผู้อาวุโสปรบมือและเปิดใช้งานอาคมยับยั้งห้องลับทันที
สวรรค์มาโปรด!
ทั้งหนึ่งช่วงเวลาในนรกและอีกช่วงเวลาในสวรรค์เจียงอี้แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นเต้น ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เปิดออกและกลายเป็นสีแดงเลือด เจตจำนงสังหารของเขาแผ่ซ่านออกมา ไข่มุกวิญญาณเพลิงสว่างไสวขึ้นมาทันทีและดาบมังกรเพลิงก็ปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วและพุ่งตรงไปยังคอของผู้อาวุโสซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขา
ฟึ่บฟั่บ!
ดาบมังกรเพลิงกระหน่ำสาดไปยังผู้อาวุโสและหัวของเขาก็สะบั้นกลิ้งลงไปกองกับพื้นผู้อาวุโสอีกสามคนและราชินีแม่มดต่างก็หวาดกลัวจนใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด ภายใต้เจตจำนงสังหารหมู่นั้นไม่มีผู้ใดสามารถเคลื่อนไหวได้ แก่นแท้พลังภายในร่างกายของพวกเขาปั่นป่วนจนทำให้พวกเขาหมดโอกาสสู้กลับตั้งแต่แรก
“ตาย!”
ด้วยสายตาของเขาที่จ้องมองผู้อาวุโสทั้งสองที่อยู่ด้านหลังราชินีแม่มดเจียงอี้กวัดแกว่งดาบมังกรเพลิงอย่างรวดร็ว มังกรวายุนับไม่ถ้วนส่งเสียงดังออกมา และมังกรเพลิงสองตัวก็ออกมาหลังจากนั้นและระเบิดพวกเขาเป็นเนื้อบดทันที ราชินีแม่มดที่อยู่ถัดจากพวกเขาก็กระเด็นไปถูกกำแพงและกระดอนกลับมาด้วยเลือดที่เปื้อนไปทั่วเนื้อหนังของนาง
“เจียงอี้ตาย-!”
ผู้อาวุโสอีกคนระเบิดกลิ่นอายรุนแรงที่เป็นเปลวเพลิงสีเขียวออกมาทันทีแสงสีเขียวระเบิดออกมาจากดวงตาของเขาซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขากำลังเผาผลาญแก่นแท้พลังและพลังเวทย์มนตร์ของเขาเพื่อเสี่ยงชีวิตในการปลอดปล่อยเวทย์มนตร์ออกมา
ไม่นะ!
ห้องลับนั้นเล็กเกินไปและแสงสีเขียวทั้งสองสายนั้นก็เร็วเกินไปเจียงอี้เพ่งไปยังผู้อาวุโสทั้งสองที่อยู่หลังราชินีแม่มดและไม่คิดว่าผู้อาวุโสผู้นี้จะโหดเหี้ยมเช่นนี้ แสงสีเขียวสองสายส่องมายังหัวของเขาแต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจ เขากัดฟันและกวัดแกว่งดาบมังกรเพลิงไปด้านหน้า มังกรเพลิงทั้งสองออกมาและเผาไหม้ผู้อาวุโสเป็นเนื้อบดจนมั่นใจได้ว่าเขาไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้อีกต่อไป
บุฟ!
ในขณะนั้นไข่มุกวิญญาณเพลิงของเขาก็เปล่งประกายและพลังงานที่ไม่รู้จักก็เข้ามาในหัวของเขา จิตวิญญาณของเขาเรืองรองไปด้วยแสงสีทองและกลืนกินพลังงานสีเขียวที่ไหลเข้าสู่จิตวิญญาณของเขาไปเอง
ฮู่ฮ่า เกือบไปแล้ว!
เจียงอี้ปล่อยความโล่งอกออกมาแสงสีเขียวนี้ดูเหมือนจะโจมตีวิญญาณของเขา ไม่เช่นนั้นไข่มุกวิญญาณเพลิงก็คงไม่ปกป้องเขา หากเป็นการโจมตีประเภทอื่นเช่นพิษกัดกร่อน ตอนนี้เขาก็คงจะตายไปแล้ว
เขาเห็นตัวตนของราชินีแม่มดและพบว่านางมีกลิ่นอายที่อ่อนแอและอยู่ที่ขอบเขตจื่อฝู่เท่านั้นเจียงอี้ประหลาดใจอย่างลับๆแต่ก็โล่งใจด้วย ราชินีแม่มดมีชื่อเสียงในด้านเวทย์มนตร์ของนางและมีผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้มากมาย บางทีนางคงไม่รู้สึกอะไรหากความแข็งแกร่งของนางจะอ่อนแอ
หลังจากที่มองราชินีแม่มดอย่างใกล้ชิดดวงตาของเจียงอี้ก็สดใสขึ้น แม้ว่านางจะรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกและถูกปกคลุมไปด้วยเลือดและเนื้อบด แต่นางก็ยังคงงดงามอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะดวงตาที่โตของนางที่ดูบอบบางและน่ารักมาก หยุนเฮ่ออายุราวๆเจียงอี้ แม้ว่าราชินีจะมีบุตรอายุสิบห้าแต่นางก็ยังคงอายุสามสิบแล้วอยู่ดี แต่นางดูเหมือนหญิงสาวที่ดูยุติธรรมและดูราวกับยังเป็นสาวพรหมจรรย์ และไม่เหมือนผู้ที่มีบุตรมาสามคนแล้ว
ฟึ่บ!
เจียงอี้รีบตรงไปยังราชินีแม่มดและขยี้ช่วงท้องนางซึ่งทำให้ตันเทียนแตกสลายไปในเขณะเดียวกันเขาก็ฉกแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของนางมาและมัดนางไว้ด้วยเชือกจากไข่มุกวิญญาณเพลิง จากนั้นเขาก็หยุดปล่อยเจตจำนงสังหารและมองราชินีแม่มดอย่างเย็นชา
“ไม่เลวชื่อเสียงของเจ้านั้นเป็นความจริงที่ถูกพิสูจน์แล้ว เจียงอี้ เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังเสียจริง!”
ด้วยตำหนักม่วงของนางที่ถูกทำลายลงโดยเจียงอี้ใบหน้าของนางก็กำลังปนไปด้วยความเจ็บปวด เลือดสดไหลออกมาจากปากของนางแต่เสียงของนางฟังดูสงบ “ผู้ชนะได้ไปทุกสิ่ง ข้าไม่ต้องการที่จะเสียเวลาเจรจา บอกข้อเสนอมา”
“การพูดคุยกับผู้ฉลาดนั้นง่ายดี!”
เขาเช็ดเลือดออกจากใบหน้าของเขาและยิ้มอย่างแจ่มใส“ข้าไม่ได้ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับอาณาจักรเทียนเซวี่ยนหรือราชินีแม่มดเลย ข้าแค่หวังว่าหยุนเฟยและหยุนเสียนไปกับข้า หวังว่าข้าจะรบกวนราชินีจัดการเรื่องนี้ เมื่อเราออกจากอาณาจักรเทียนเซวี่ยนอย่างปลอดภัย ข้าจะส่งท่านกลับอย่างปลอดภัยและท่านจะเป็นองค์ราชินีต่อไปได้”
“ไร้สาระ!”
ราชินีแม่มดเย้ยหยัน“เจ้าคาดหวังว่าข้าจะเห็นด้วยกับข้อตกลงของเจ้าหรือ? หากไม่ใช่เพราะเจ้า, หยุนเฟยและหยุนเสียน ลู่เอ๋อร์(หยุนลู่)และเฮ่อเอ๋อร์(หยุนเฮ่อ)ของข้าก็ยังคงมีชีวิตอยู่ เจ้าคิดว่าข้าจะไม่ทำอะไรแล้วปล่อยให้เจ้ามีชีวิตที่สุขสบายอย่างนั้นหรือ นอกจากนั้น ข้าไม่ได้มีความสามารถที่จะส่งเจ้าออกไปอย่างปลอดภัยหรอก หากองค์ราชาและผู้อาวุโสรู้เรื่อง เจ้าจะไม่มีวันออกไปจากที่นี่ได้ เจ้าควรจะฆ่าข้าเสียดีกว่า!”
“ฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้หัวเราะแล้วพูดว่า“หากหยุนเฟยและหยุนเสียนไปแล้ว ใครจะแข่งขันกับบุตรชายคนสุดท้องในตำแหน่งองค์รัชทายาทกัน? บุตรท่านอายุเพียงเก้าขวบ ท่านทำให้ผู้คนมากมายโกรธแค้น หากท่านตายไป ใครจะอยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องบุตรท่านกันล่ะ? ส่วนวิธีที่ท่านจะพาพวกเราออกไปโดยองค์ราชาและแม่เฒ่าบุปผาสีเงินไม่รับรู้นั้นเป็นงานของท่าน อ้อ ข้าลืมบอกท่านอย่าง….คนของข้าได้ใช้ศาสตร์ลับค้นหาวิญญาณกับแม่นางหลิ่วไปแล้ว มิฉะนั้นพวกเราจะแทรกตัวเข้ามาในราชวังได้อย่างไร? หากท่านไม่ร่วมมือ ข้าก็สามารถใช้ศาสตร์ลับค้นหาวิญญาณแก่ท่านและเปลี่ยนท่านเป็นหุ่นเชิดเอาก็ได้”
“เจ้า….”
คำพูดของเจียงอี้ดูเหมือนจะทำให้ราชินีแม่มดอ่อนข้อใบหน้าที่งดงามของนางเปลี่ยนเป็นซีดเผือด นางพูดด้วยแววตาที่งดงามของนางว่า “ก็ได้ ข้าจะส่งเจ้าออกไป แต่มากที่สุดก็ออกไปจากเมืองเซวี่ยนเทียนประมาณห้าสิบกิโลเมตร จากนั้น เจ้าต้องปล่อยข้าไป มิฉะนั้น องค์ราชาจะรู้แน่นอนและเจ้าจะไม่สามารถออกไปได้อีก”
“ตกลง!”
เจียงอี้ยิ้มกว้างและเนื่องจากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด เขาจึงดูน่ากลัวผิดปกติและดูเหมือนปีศาจ