เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 373 ทำตัวชั่วช้า
บทที่ 373 ทำตัวชั่วช้า
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ: แปลได้แล้ว
ค่ายกลจอมเวทย์โบราณถูกทำลายแล้ว!
ผู้คนมากมายคิดว่ามันยากที่จะยอมรับความเป็นจริงนี้จอมเวทย์นั้นเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในอาณาจักรเทียนเซวี่ยน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังก็ยังไม่สามารถออกจากพื้นที่ต้องห้ามของจอมเวทย์มาได้หลังจากย่างกรายเข้าไป ในจิตใจของผู้คนในอาณาจักรเทียนเซวี่ยนนั้นถือว่าความแข็งแกร่งของจอมเวทย์ได้ทะลวงขอบเขตเทียนจุนแล้วและความสามารถของเขาเรื่องศาสตร์เวทย์และอาคมยับยั้งทั้งหลายก็หาที่เปรียบไม่ได้
ค่ายกลจอมเวทย์โบราณนั้นเป็นสิ่งที่จอมเวทย์ทิ้งไว้ให้สายเลือดตระกูลหยุนก่อนที่เขาจะจากไป เขาเคยท้าทายให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังลองบุกทะลวงเข้าไป เมื่อสายเลือดของตระกูลหยุนต้องเผชิญหน้ากับอันตราย พวกเขาสามารถเปิดใช้ค่ายกลนี้เพื่อมีชีวิตรอดได้
จริงๆแล้วมันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าค่ายกลโบราณนี้ทรงพลังมาก เก้าร้อยปีที่แล้ว หนึ่งในตระกูลของอาณาจักรเทียนเซวี่ยนก่อกบฏและบุกเข้าไปในพระราชวัง กลับไปในครานั้น ทหารหลวงได้ล่อศัตรูออกไปครึ่งหนึ่งและตระกูลหยุนเกือบจะถูกโค่นทิ้ง แต่สุดท้ายค่ายกลนี้ก็ทนต่อการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวหลายร้อยคนได้เป็นเวลาหนึ่งวันสองคืน ซึ่งทำให้ตระกูลหยุนถูกช่วยเหลือโดยกองทัพช่วยเหลือในเวลาต่อมา
ตอนนี้ค่ายกลนี้ได้ถูกเจียงอี้ทำลายไปอย่างง่ายดาย จะไม่ให้ผู้คนพากันตกใจได้อย่างไร?
หลังจากเจียงอี้ปลดปล่อยเจตจำนงสังหารทุกๆคนก็ถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายสังหารที่น่ากลัวนี้ และความตกใจของพวกเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุดตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนที่ได้และไม่สามารถฮึดสู้ได้ พวกเขาไม่รู้สึกถึงสิ่งใดเลยนอกจากความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
สำหรับแผนในวันนี้ราชินีแม่มดได้ผนึกเมืองทั้งเมืองไว้ หากทหารหลวงคนใดกล้าตุกติก พวกเขาจะถูกประหารในทันที ราชินีแม่มดนั้นยังสั่งราชโองการเอง แม่ว่าจะมีคนส่งข้อความถึงองค์ราชา พวกเขาอาจจะต้องรอรับผลจากราชินีแม่มด
ดังนั้น…
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนส่งข้อความไปถึงองค์ราชาและไม่มีใครรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองสิ่งนี้จึงทำให้เจียงอี้นั้นสามารถชำระล้างเมืองนี้ด้วยเลือดได้อย่างง่ายดาย!
กลับไปเมื่อตอนที่มีการรบกันนอกเมืองเซี่ยยวี่อาณาจักรเทียนเซวี่ยนได้ส่งกองทัพไปสามแสนนายและแม่ทัพบางคนที่อยู่ในการล้อมครั้งนี้ก็มีส่วนร่วมในการล้อมครั้งนี้ก็มีส่วนร่วมในการรบครั้งนั้นเช่นกัน พวกเขาได้เห็นความบ้าคลั่งของเจียงอี้ที่ฆ่าคนเหมือนสุนัข หากเขาตั้งใจที่จะชำระล้างเมืองนี้ด้วยเลือด เมื่อองค์ราชาและแม่เฒ่าบุปผาสีเงินกลับมาถึง เมืองเซวี่ยนเทียนก็คงจะกลายเป็นขุมนรกไปเสียแล้ว
ฟึ่บ!
และในตอนนี้เจียงอี้ก็ดูเหมือนว่าพร้อมที่จะทำเรื่องเช่นนั้น เขารีบตรงไปยังราชินีแม่มดราวกับมังกรคลั่ง และดาบมังกรเพลิงของเขาก็ผ่าลงไปที่ราชินีแม่มดอย่างไม่ลังเล มังกรเพลิงทั้งสองตัวและมังกรวายุกว่าหมื่นตัวพุ่งออกมาพร้อมกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง
“อั้ก…”
ก่องที่มังกรเพลิงทั้งสองจะอยู่ห่างจากราชินีแม่มดออกไปเพียงเมตรเดียวนางก็กระอักเลือดออกมาและหายไปจากที่ที่นางอยู่
ปึง!ปึง!
มังกรเพลิงทั้งสองบินผ่านไปและชนเข้ากับรถม้าของราชินีแม่มดรถม้าคันนั้นระเบิดออกมาทันทีขณะที่คลื่นการทำลายได้ส่งกองทหารหลวงใกล้ๆระเบิดออกไป ซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างสมบูรณ์
“เคลื่อนย้ายร่างในพริบตา?”
การแสดงออกของเจียงอี้เปลี่ยนไปและงงงวยองครักษ์ของหยุนเฟยจึงส่งข้อความมาบอกว่า “ท่านอุปราช นี่เป็นศาสตร์เวทย์ลี้กายโลหิต ศาสตร์เวทย์นี้สามารถใช้ได้เพียงคราเดียว และราชินีแม่มดคงไปได้ไม่ไกลนัก นางจะต้องซ่อนอยู่ใกล้ๆนี้แน่ ออกค้นหานางเดี๋ยวนี้และอย่าให้นางหนีไปได้”
“ลี้กายโลหิต?”
คิ้วของเจียงอี้เลิกขึ้นมาเขาหลับตาของเขาลงอย่างรวดเร็วและส่งแก่นแท้พลังสีดำไปที่หูของเขาเพื่อเพิ่มความสามารถในการฟัง เขาได้ยินทุกสิ่งทั่วทั้งตำหนักปราชญ์ ได้ยินแม้กระทั่งเสียงของตั้กแตนที่อยู่ห่างออกไปในมุมเล็กๆ
“อยู่ทางตะวันตก!”
ดวงตาของเขาเปิดขึ้นอย่างกระทันหันและเขารู้สึกว่าการไหลเวียนของอากาศนั้นผิดปกติอยู่ในทิศตะวันตกและได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังหนีอยู่
“ราชินีแม่มดเจ้ายังอยากที่จะหนี?”
ขาของเขาย่อลงไปและพื้นดินก็สั่นสะเทือนขณะที่เขาพุ่งออกไปราวกับมังกรบ้าคลั่งไปยังประตูทิศตะวันตกของตำหนักปราชญ์
“ฆ่า!”
เมื่อเจียงอี้เคลื่อนไหวกลิ่นอายสังหารที่ยังคงอยู่นั้นจะอ่อนลงไปตามธรรมชาติ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุดทั้งหมดที่อยู่ภายใต้บัญชาราชินีแม่มดต่างก็เคลื่อนไหวอย่างสิ้นหวัง พวกเขาทุกคนถูกร่ายเวทย์หนอนพิษใส่และหากราชินีแม่มดตาย พวกเขาก็จะไม่สามารถรอดพ้นไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการที่จะยื้อเจียงอี้ไว้เป็นแน่แท้อยู่แล้ว
บุฟบุฟ!
ฉึกฉึก!
ตู้มตู้ม!
บางคนในนั้นปล่อยศาสตร์เวทย์ของพวกเขาออกมาในเวลาดเดียวกันอุกกาบาต, ฟ้าผ่า, ใบมีดวายุและศรน้ำแข็งแห่ตรงไปยังเจียงอี้ ส่วนคนอื่นๆก็รีบวิ่งไปทางเจียงอี้และชักอาวุธของพวกเขาออกมาเพื่อปลดปล่อยแก่นแท้พลัง
“พวกเจ้าคงเหนื่อยที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว!”
เดิมทีเจียงอี้ให้คำมั่นต่อจอมเวทย์ว่าจะปกป้องตระกูลหยุนและไม่ต้องการใช้เจตจำนงสังหาร หลังจากที่เขาเห็นคนพวกนี้ทำสิ่งเหล่านี้ เขาก็โกรธขึ้นมาทันที อาจจะมีตระกูลหยุนอยู่ในคนเหล่านี้ แต่เขาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
บุฟ!
ร่างของเขาส่องแสงและย้ายร่างไปด้านหลังและใช้เจตจำนงสังหารดวงตาของเขาเป็นเหมือนใบมีดซึ่งกวาดมองไปยังใบหน้าของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุดและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหมดอยากตาย ข้าก็จะสนองให้อย่างสาสม”
ร่างของเขาสั่นไหวอย่างต่อเนื่องดาบมังกรเพลิงก็พุ่งออกไปซึ่งมาพร้อมกับเสียงโหยหวน ผู้เชี่ยวชาญทุกคนกลายเป็นเนื้อสับ การผสานกันระหว่างเจตจำนงสังหารและการย้ายร่างกะทันหันนั้นป่าเถื่อนเกินไป คนส่วนใหญ่ไม่สามารถตอบโต้ก่อนที่พวกเขาจะถูกสังหารได้เลย
ปัง!
ผู้ใต้บัญชาแปดคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ใต้บัญชาของราชินีแม่มดถูกสังหารทั้งหมดดวงตาของเจียงอี้กวาดไปทั่วทหารหลวงกว่าพันคนและตะโกนออกมา “ข้าจะสังหารราชินีแม่มดในวันนี้ หากผู้ใดกล้าขัดขวางข้าก็อย่าโทษว่าข้าโหดเหี้ยม”
บุฟ!
เจียงอี้ยังคงใช้ศาสตร์แปรผันดวงจิตอย่างต่อเนื่องราชินีแม่มดหนีไปทางตะวันตกและไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้ว่านางหนีไปทางนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือจากองค์ราชาและแม่เฒ่าบุปผาสีเงิน ตราบใดที่เขายังย้ายร่างไปได้ทัน เขาก็จะมีโอกาสสังหารนางได้แน่นอน
ฟึ่บ!
เมื่อเจียงอี้ออกไปทหารหลวงทั้งหมดก็รู้สึกลังเลเพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ในจุดที่สู้ดีนักที่จะช่วยเหลือราชินีแม่มดหรือแม้แต่หยุนเฟยและหยุนเสียนในการต่อสู้ภายในในครั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ฝั่งหยุนเสียนก็มีเจียงอี้ซึ่งทำให้สิ่งต่างๆยากขึ้นสำหรับพวกเขา เจียงอี้มีพลังมากเกินไปและสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดขอบเขตเสินโหยวราวกับผ่าแตงโม แม้ว่าพวกเขาจะตามเจียงอี้ไปก็จะต้องตายอย่างไร้ค่า พวกเขานั้นไม่สามารถอยู่ที่นี่เฉยๆและไม่ทำอะไรเลยไม่เช่นนั้นองค์ราชาคงจะถลกหนังของพวกเขาหลังจากกลับมาใช่ไหมนะ?
ฟึ่บ!
ดวงตาของผู้บัญชาการคนหนึ่งกระพริบตาขณะที่ยิงสัญญาณพลุขึ้นไปบนท้องฟ้าส่วนคนที่เหลือ เมื่อตระหนักได้ก็พากันยิงสัญญาณพลุออกไปทันที
ปัง!ปัง! ปัง!
ในไม่ช้าก็มีพลุเปล่งประกายเหนือตำหนักปราชญ์แม้ในยามกลางวันเมืองทั้งเมืองก็ยังคงส่องสว่าง เสียงสะท้อนได้ดังออกไปจากเมืองเซวี่ยนเทียนกว่าร้อยกิโลเมตร
“ไล่ล่า!”
ผู้บัญชาการผู้หนึ่งโบกมือของเขาเพื่อสั่งการให้ทหารหลวงไล่ตามเจียงอี้ไปเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถเลือกฝั่งได้ทั้งสองฝ่ายพวกเขาจึงต้องทำเป็นเพียงไล่ตามและรอให้องค์ราชากลับมาตัดสินเอง
วูวู!
เสียงแตรจากพระราชวังดงัสนั่นอย่างรวดเร็วและทหารหลวงต่างๆก็พากันรีบวิ่งไปทางนั้นทั่วทั้งเมืองเซวี่ยนเทียนนั้นเดือดพล่านและมีทหารหลวงที่กำลังแห่กันไปทางเจียงอี้อย่างบ้าคลั่ง
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจียงอี้กำลังตามสตรีที่สวมเสื้อคลุมวิหคเพลิงที่งดงดอยู่และในเมืองเซวี่ยนเทียนนั้นมีเพียงราชินีแม่มดเท่านั้นที่จะสามารถสวมชุดนั้นได้
“ตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรดี?”
เมื่อเจียงอี้เห็นพลุบนท้องฟ้าและทหารหลวงที่แห่กรูมาที่เขาเขามองไปยังระยะทางนั้นและจากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนหลังคาอย่างต่อเนื่องเพื่อไล่ตามราชินีแม่มดขณะที่ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความลังเล
พลุนั่นจะไปถึงองค์ราชาและแม่เฒ่าบุปผาสีเงินแน่นอนหากเขาจากไปในตอนนี้ เขาอาจมีโอกาสหนีไปกับหยุนเฟยและหยุนเสียน แต่ราชินีแม่มดก็อยู่ตรงหน้าเขาและนางเป็นคนต่ำช้า หากเขาไม่กำจัดนางในวันนี้ นางก็จะยังคงสร้างปัญหามากมายในภายหน้าได้
เขากัดฟันและยังคงย้ายร่างกะทันหันเพื่อตามนางไปเขาไม่ได้สนใจบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่เหินออกมาจากตรอกซอกซอยต่างๆ เขาจะใช้เจตจำนงสังหารเพื่อกดคนเหล่านั้นไม่ให้พวกนั้นมีโอกาสได้ปล่อยแก่นแท้พลังออกมาได้
“ตาย!”
หลังจากผ่านไปหลายอึดใจในที่สุดเขาก็ร่นช่องว่างระหว่างเขากับราชินีเหลือเพียงสามกิโลเมตร ความแข็งแกร่งของราชินีแม่มดนั้นไม่เลวนักและอยู่ในขั้นที่ห้าของขอบเขตเสินโหยว น่าเสียดายที่พลังของนางได้รับความเสียหายจากการปลดปล่อยศาสตร์เวทย์ลี้กายโลหิต ซึ่งทำให้ความเร็วของนางลดลงอย่างมากและทำให้เจียงอี้ตามนางมาได้อย่างง่ายดาย
ฟึ่บ!
ขณะเดียวกับที่เจียงอี้ต้องการจะย้ายร่างเพื่อใช้เจตจำนงสังหารเพื่อตรึงราชินีแม่มดไว้และสังหารนาง….ก็มีร่างสีเงินที่บินข้ามท้องฟ้ามาจากตะวันตกมันเหมือนสายรุ้งสีเงินที่ลากผ่านขอบฟ้าและใช้เวลาเพียงพริบตามาอยู่เหนือเจียงอี้และราชินีแม่มด
การปรากฏตัวของตัวตนที่น่ากลัวยิ่งกว่าได้ปกคลุมไปทั่วเมืองเซวี่ยนเทียนซึ่งมันได้ตรึงเจียงอี้ไว้เสียงที่เย็นชาดังก้องกังวานขึ้น “เจียงอี้ เจ้าเต็มไปด้วยความกล้าหาญนักหรอ ฮะ? เจ้ากล้าทำตัวชั่วช้าในเมืองเซวี่ยนเทียน หญิงชราผู้นี้อยากจะเห็นจริงๆว่าในครั้งนี้เจ้าจะปกป้องตัวเองได้อย่างไร?”