เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 620 นายน้อยเจียง เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 620 นายน้อยเจียง เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง
บทที่ 620 นายน้อยเจียง เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง
“ฮ่าฮ่าพวกท่านทั้งสองโปรดรอก่อน!”
เจียงอี้ยืนอยู่เหนือยอดเขาและถูกล้อมรอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนที่อยู่กลางอากาศและห่างกันไม่ถึงสามร้อยเมตรแต่เขาก็ไม่ได้เป็นกังวลเลย แก่นแท้พลังหมุนเวียนอยู่รอบฝ่ามือเขา ตราบใดที่เขาบีบมัน หญ้ามังกรยาจกก็จะถูกทำลายลงไป เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนที่จะตอบอย่างเคอะเขินว่า “อ้อใช่ พวกท่าน…พอจะรู้วิธีส่งข้อความไหม? ข้าไม่รู้จักการส่งข้อความใดๆเลย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ผู้คนด้านล่างนิ่งไปชั่วขณะก่อนที่จะหัวเราะออกมาอีฉาน, หยิ่นรั่วปิงและหลิงชือหย่าเองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน จอมยุทธทุกคนต่างรู้วิธีการส่งข้อความเสียงกันทั้งนั้น แต่เจียงอี้กลับไม่รู้เรื่องเลยแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะมาถึงขอบเขตจินกังแล้วเนี่ยนะ?
หลิงชือหย่ากระแอมและพูดว่า“เจ้านี่โง่เขลานัก เจ้าเพียงแค่ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพ่งไปยังคนผู้นั้นและเปลี่ยนสิ่งที่เจ้าต้องการจะพูดเข้าไปในความคิด หลังจากนั้นเจ้าจะส่งข้อความไปยังผู้รับได้อย่างง่ายดาย”
“โอ้ขอบคุณแม่นางหย่า”
เจียงอี้พยักหน้าเขาเหลือบมองไปที่เสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิง “ให้คนของพวกท่านถอยไปสิบกิโลเมตร ข้าเพียงต้องการส่งข้อความเสียง และหลังจากนั้น ข้าจะมอบสมบัติด้วยมือทั้งสองข้างของข้า หรือไม่งั้นก็….เหอะๆ!”
สีหน้าของเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงเปลี่ยนไปหากพวกเขาถอยไปสิบกิโลเมตร หวู่นี่, อีฉานและคนอื่นๆก็มีโอกาสที่จะฉกชิงสมบัติไปได้เช่นกัน เป็นไปได้ไหมว่าเจียงอี้คิดจะหาที่ลี้ภัยจากหนึ่งในตระกูลพวกเขาหรือ? ข้อความที่เขาส่งมานั้นส่งมาเพื่อให้เขาได้ติดต่อกับตระกูลนั้นเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า?
เสียเฟยจ้องไปที่เสียจวินและความเยือกเย็นก็กวาดมองไปยังเสียจวินก่อนที่เขาจะโบกมือ“ทุกคน ถอยกลับมา!”
ฟรึ่บ!
ทุกคนจากตระกูลเสียบินกลับมาแต่เสียจวินป้องมือไปที่เจียงอี้ในขณะที่แสงสีแดงส่องประกายอยู่ในดวงตาของเขาก่อนที่จะตอบว่า “นายน้อย ตระกูลเสียซื่อตรงกับเรื่องนี้จริงๆ ข้าหวังว่าท่านจะตัดสินเรื่องนี้อย่างจริงจัง!”
มันเป็นเพียงประโยคธรรมดาแต่ในตอนนั้นเอง อีฉาน, หยิ่นรั่วปิง, หวู่นี่และคนอื่นๆก็มีท่าทีเปลี่ยนไป ทันใดนั้นอีฉานก็ส่งข้อความมาว่า “เจียงอี้ระวังตัวด้วย เสียจวินกำลังโจมตีดวงจิตวิญญาณของเจ้า!”
บรึฟ!
ดูเหมือนว่ามันจะช้าไปกว่าที่เจียงอี้จะรู้ตัวเขารู้สึกถึงพลังงานบางอย่างเข้ามาในดวงจิตวิญญาณของเขา มันเหมือนกับเข็มสีแดงบางๆนับหมื่นที่เจาะเข้ามาในทะเลแห่งดวงจิตของเขา ซึ่งมันเร็วมากและใช้เวลาเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะเข้ามาถึงทะเลแห่งดวงจิตของเขา
การจู่โจมดวงจิตวิญญาณ?ฮึ่ม!
เจียงอี้ฟึดฟัดออกมาอย่างเย็นชาดาบวิญญาณภายในดวงจิตของเขาเริ่มแล่นไปรอบทะเลแห่งดวงจิตและรอจนกว่าเข็มแดงบางๆนับหมื่นจะพุ่งเข้ามาก่อนที่จะปะทะกัน
ตูม!ตูม! ตูม!
เสียงระเบิดดังก้องอยู่ในทะเลแห่งดวงจิตเข็มบางๆนับหมื่นเล่มถูกดาบวิญญาณปราบปรามอย่างไร้ปรานี และเพียงพริบตา พวกมันทั้งหมดก็ถูกกำจัดไปในขณะที่ดาบวิญญาณทั้งสามสิบหกเล่มไม่มีความเสียหายใดๆเลย
“อั๊ก!”
เสียจวินกระอักเลือดออกมาในขณะที่ร่างของเขาสั่นเทาและล้มลงยิ่งเขาพยายามจะได้เปรียบแต่มันกลับยิ่งแย่ลงเท่านั้น ในตอนนั้นเองที่เจียงอี้กลับมามีสติและดวงตาของเขาก็เผยความเดือดดาลขณะที่ตะโกนออกมาว่า “มันคงจะหยาบคายหากว่าข้าไม่ตอบโต้กลับ เจ้ากล้าลอบโจมตีข้างั้นรึ? งั้นก็จงตายซะ!”
ฟรึ่บฟั่บ!
หว่างคิ้วของเจียงอี้สาดส่องไปด้วยแสงสีแดงดาบวิญญาณทั้งสามสิบหกเล่มกลายเป็นลำแสงสวรรค์และถูกฝังลงไปในหว่างคิ้วของเสียจวิน การโจมตีดวงจิตวิญญาณของเสียจวินถูกเจียงอี้ทำลายไปและดวงจิตของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาจะไปคิดได้อย่างไรว่าเจียงอี้จะไม่เป็นไรแถมยังกล้าที่จะโต้กลับด้วย? เพียงชั่วขณะ ดาบวิญญาณของเจียงอี้ก็พุ่งเข้าสู่ทะเลแห่งดวงจิตของเสียจวินอย่างง่ายดาย และเมื่อถึงคราวเขาโต้กลับบ้าง ดาบวิญญาณทั้งสามสิบหกเล่มก็ฟาดฟันดวงจิตวิญญาณของเสียจวินไม่ยั้ง
“อั๊ก!”
เสียจวินกระอักเลือดออกมาอีกครั้งร่างของเขาสั่นเทาขณะที่ดวงตาของเขากลอกไปมา กลิ่นอายของเขาค่อยๆอ่อนลงไปในขณะที่ร่างของเขาร่วงลงไปอย่างไร้กำลัง
ปัง!
ร่างของเสียจวินตกลงไปที่พื้นจนทำให้พื้นที่ตรงนั้นสั่นสะเทือนนอกจากนี้มันยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดพากันตกตะลึง เมื่อครู่นี้ตอนที่เสียจวินลอบโจมตี เจียงอี้ได้แยกดวงจิตวิญญาณโจมตีได้ และเพียงพริบตาเดียวเท่านั้นที่เจียงอี้โต้กลับ พวกเขาก็เห็นเพียงเสียจวินเพิ่งโน้มตัวไปทางเจียงอี้ก่อนที่ร่างของเขาจะตกลงมาอย่างไร้พลัง จากนั้นเขาก็สิ้นใจทันที ซึ่งพวกเขานั้นไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“เอ่อ….!”
อีฉานและหยิ่นรั่วปิงมองหน้ากันพวกนางทั้งคู่เห็นความประหลาดใจในแววตาของกัน ศาสตร์เวทย์ของเสียจวินมุ่งเน้นไปที่การโจมตีดวงจิตวิญญาณ ความแข็งแกร่งของเขาอาจอยู่ในขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำ แต่การโจมตีดวงจิตวิญญาณนั้นแปลกมากจึงทำให้เขาค่อนข้างเลื่องชื่อในตระกูลเสีย
แม้ว่าการโต้กลับของเจียงอี้จะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงแต่เสียจวินถูกสังหารภายในพริบตาได้อย่างไร? มันมีเพียงคำอธิบายเดียวเท่านั้น คือการโจมตีดวงจิตวิญญาณของเจียงอี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเสียจวินอย่างแน่นอน
หลังจากที่พวกนางสรุปได้ดวงตาของพวกนางก็สว่างขึ้น การโจมตีดวงจิตวิญญาณมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากจะหยั่งรู้ได้ หากดวงจิตของคนผู้หนึ่งไม่แข็งแกร่งหรือไม่มีสมบัติป้องกันดวงจิต พวกเขาจะไม่มีทางรู้เลยว่าพวกเขาตายได้อย่างไรแม้ว่าจะถูกโจมตีดวงจิตวิญญาณกลับมาแล้วก็ตาม และเมื่อการโจมตีดวงจิตวิญญาณของเจียงอี้แข็งแกร่งมาก มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นผู้ที่ควรค่าแก่การรับเข้าตระกูล
“เหอะ!”Aileen-novel
อันที่จริงเจียงอี้ก็ตกตะลึงกับสถานการณ์ตอนนี้เช่นกัน ตอนที่เสียจวินลอบโจมตีเขา เขาเพียงโต้กลับเพราะความเดือดดาลและไม่คิดว่าจะเกิดผลลัพธ์เช่นนี้ เขาได้สังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทันทีที่เขาแค่โต้กลับอย่างไม่คาดคิดเท่านั้น และดูเหมือนว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนที่ค่อนข้างมีฝีมือด้วย การโจมตีด้วยดาบวิญญาณมันไม่ป่าเถื่อนไปหน่อยหรือ?
อันที่จริงทั้งเจียงอี้, อีฉาน, หยิ่นรั่วปิงและคนอื่นๆเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่นี้ เสียจวินได้ปลดปล่อยศาสตร์เวทย์ชนิดพิเศษบางอย่างออกมาและพยายามจะควบคุมเจียงอี้เพื่อยึดสมบัติทั้งสามชิ้นไป เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่าเจียงอี้จะรู้วิธีการโจมตีดวงจิตวิญญาณ ดังนั้น การโจมตีของเขาจึงถูกเจียงอี้พังไม่เป็นท่าและทำให้ดวงจิตวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นเจียงอี้ก็โต้กลับทันทีมันเหมือนกับเกิดภัยพิบัติขึ้นกับเสียจวินแล้ว เพราะความแตกต่างในพลังการโจมตีดวงจิตวิญญาณของพวกเขาต่างกันมากเกินไป มันจึงกลายเป็นความล้มเหลวไปในทันทีจากการที่เขาคิดผิดไป หากว่าเสียจวินใช้การโจมตีดวงจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาตั้งแต่แรก ตอนนี้เจียงอี้คงต้องตายอย่างแน่นอน
แต่แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ไม่สำคัญอีกต่อไป!
ในตอนนี้ทุกๆคนต่างพากันตกตะลึง เดิมทีผู้เชี่ยวชาญจากจักรวรรดิเฟยหม่าเองก็จะลอบโจมตีเขาเช่นกัน แต่ในตอนนี้พวกเขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวอีกต่อไป มันไม่ใช่เพราะเขาสังหารเจียงอี้ไม่ได้ แต่พวกเขากลัวว่าจะทำให้เจียงอี้โกรธเคืองจนทำลายหญ้ามังกรยาจก
“ลุงจวิน!”
เสียงร้องของความโกรธเคืองดังก้องออกมาเสียเฟยเบิกตากว้างและจ้องมองเจียงอี้อย่างโกรธแค้น แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไปชั่วขณะ หากเจียงอี้ต้องการจะหนีภัยและไปเข้าหาเจี้ยนอู๋อิง เสียจวินก็จะตายไปอย่างไร้ประโยชน์
“ยังไม่ถอยไปกันอีกหรอ?”
เจียงอี้ยกกล่องหยกที่บรรจุหญ้ามังกรยาจกขึ้นมาสายตาเย็นชาของเขากวาดมองไปยังผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนจากจักรวรรดิเฟยหม่า ซึ่งเจี้ยนอู๋อิงมองไปยังเฟยฉีและเฟยฉีก็รีบสั่งการอย่างรวดเร็ว “ทุกคน ถอยกลับมา!”
ฟรึ่บ!
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งหมดถอยกลับไปสิบกิโลเมตรแม้ว่าพวกเขาจะไปถึงระยะทางเท่านี้ได้ในพริบตา แต่ก็ไม่มีผู้ใดมั่นใจว่าจะสังหารเจียงอี้ได้ในทันที สุดท้ายแล้วเขาก็คือผู้ที่สวมเกราะเมฆาอัคคีอยู่ และหากพวกเขาทำให้เจียงอี้โกรธก็จะไม่มีใครได้หญ้ามังกรยาจกไป
“นายน้อยเสีย!”
เจียงอี้จ้องมองไปทางเสียเฟยและพูดว่า“ข้าไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับตระกูลของท่าน แต่สมาชิกตระกูลของท่านลอบโจมตีข้าก่อน มันคงจะไม่มากเกินกว่าเหตุที่ข้าจะสังหารเขากลับใช่ไหม?”
“ไม่..เกินกว่าเหตุหรอก!”
คำพูดนี้เหมือนว่าเสียเฟยจะกัดฟันพูดมันออกมาแต่เมื่อหันไปสบตากับเขา เสียเฟยก็ระงับความปรารถนาที่อยากจะสับเจียงอี้เป็นชิ้นๆกลับเข้าไปก่อนที่จะตอบว่า “ทุกคนจงฟังข้าให้ดี ใครก็ตามที่กล้าทำอะไรโดยพลการและทำให้..นายน้อยผู้นี้ขุ่นเคือง ข้าจะสังหารพวกมันซะ!”
ทายาทของเก้าตระกูลจักรพรรดินั้นน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง
เจียงอี้ถอนหายใจอยู่ในใจและไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไปแต่เขาจ้องมองไปที่อีฉานที่ยืนอยู่ทางใต้ห่างจากเขาไปสามกิโลเมตร เขายิ้มจางๆก่อนที่จะป้องกำปั้น “เราไม่ได้พบกันนานเลยนะขอรับ แม่นางอี”
ฟรึ่บฟั่บ ฟั่บ!
สีหน้าของผู้คนมากมายเปลี่ยนไปทันทีเจียงอี้รู้จักอีฉาน? เขาจะไปขอหลบภัยกับอีฉานหรือ? ความเย็นชาสาดผ่านดวงตาเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิง พวกเขาทั้งสองส่งสัญญาณบอกใบ้คนของพวกเขาให้สังหารเจียงอี้ทันทีหากเขากล้าทำอะไรไม่คิด เพราะหากพวกเขาไม่ได้หญ้ามังกรยาจกไป พวกเขาก็จะไม่ยอมให้อีฉานได้มันไปเช่นกัน
อีฉานสวมผ้าคลุมหน้าอยู่ดังนั้นมันจึงมองเห็นไม่ชัดว่านางกำลังแสดงออกเช่นไร แต่สีหน้ายิ้มแย้มที่ออกมาจากดวงตาของนางนั้นสามารถบ่งบอกได้เล็กน้อย นางป้องกำปั้นและตอบกลับคำทักทาย “นายน้อยเจียง เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?”