เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 634 ทางเดินมิติโบราณ
“เรียบร้อย!”
หลังจากใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์ก็ปล่อยแสงออกมาสองสามร้อยสายและในที่สุดค่ายกลประหลาดก็ก่อตัวขึ้นมากลางอากาศ ค่ายกลนั้นซับซ้อนมากและมันดูน่าตื่นตาราวกับแผนที่กว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว
เมื่อปรมาจารย์ปล่อยแสงเส้นสุดท้ายออกมาค่ายกลก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา อักขระทั้งหมดบนเส้นสีขาวไหลไปบรรจบที่จุดสีขาวตรงกลาง
และจุดนั้นก็ค่อยๆขยายออกจนในที่สุดมันก็กลายเป็นช่องว่างทางเดินสีดำโบราณมันไม่ได้กว้างใหญ่มากนักและเหมาะกับคนประมาณสิบคนเท่านั้น มันดูน่าขนลุกและไม่รู้ว่าเส้นทางนี้จะยาวเพียงใดและไปโผล่ที่ใด มันเหมือนกับปากขนาดยักษ์ของสัตว์ร้ายที่ทำให้เกิดความหวาดกลัวในใจของผู้คน
“ไปเถอะ!”
เสียเฟยกวักมือของเขาขณะที่ผู้อาวุโสที่ผอมจนเหลือแต่กระดูกอุ้มปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์เข้าไปข้างในช่องทางเดินสีดำโบราณนั้นจากนั้นเสียเฟยและและยอดฝีมือทั้งสามสิบคนก็พากันตามเข้าไปเรื่อยๆ
บรึฟ!
เมื่อทุกคนหายไปในทางเดินมิติโบราณค่ายกลประหลาดก็ส่องแสงขึ้นมาพร้อมกับสลายและหายไปกลางอากาศราวกับว่ามันไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลย
…
บรึฟ!
หนึ่งชั่วโมงต่อมาเหนือทะเลราตรีสีเลือดที่อยู่ทางใต้ของทวีปจักรพรรดิบูรพา….จู่ๆก็เกิดความผันผวนในอากาศขณะที่อุโมงค์สีดำปรากฏขึ้นมา
เสียเฟยและคนอื่นๆบินออกมาจากทางเดินมิติโบราณทีละคนพวกเขามองไปที่ทะเลที่ไร้เขตแดนและรู้สึกทึ่งมาก ปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ทรงพลังจริงๆ พวกเขาใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางข้ามมานับหมื่นกิโลเมตรและมาถึงทะเลราตรีสีเลือด
“มีเกาะเล็กๆอยู่ตรงนั้นไปกันเถอะ!”
เสียเฟยตาลุกวาวหากพวกเขายังคอยไล่ล่าต่อไปพวกเขาก็อาจจะเจอที่ซ่อนของเจียงอี้ได้และจากนั้นเขาจะขอให้ปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์พาพวกเขาเดินทางผ่านค่ายกลและจากนั้น ผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์ก็จะสังหารเจียงอี้ทันที ซึ่งมันจะทำให้เขาได้สมบัติทั้งสามชิ้นไปครอง
ทุกคนบินไปที่เกาะในขณะที่ผู้อาวุโสร่างโครงกระดูกปล่อยปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์และนักโหราศาสตร์ลงไปที่พื้นจากนั้นเสียเฟยก็ป้องกำปั้นและพูดกับนักโหราศาสตร์ว่า “ผู้อาวุโสอู ข้าต้องรบกวนท่านอีกครั้งแล้ว”
“อื้ม!”
นักโหราศาสตร์ในชุดขาวพยักหน้าอย่างเฉยเมยด้วยสีหน้าอวดดีเผ่าพันธุ์ของพวกเขามีความสามารถที่เป็นที่น่าภาคภูมิ เพราะปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถบ่มเลี้ยงและฝึกฝนขึ้นมาได้ แต่ร่างของพวกเขานั้นเป็นเช่นนี้มาแต่กำเนิด ผู้ที่ไม่ได้มาจากเผ่าพันธุ์โหราจะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้แม้ว่าจะมีคนส่งต่อโหราศาสตร์ให้คนนอกก็ตาม
นักโหราศาสตร์นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นและสร้างค่ายกลขึ้นมาด้วยฝ่ามือของเขาจากนั้นร่างของเขาก็ค่อยๆเปล่งแสงหลากสีในขณะที่อักขระลึกลับค่อยๆไหลเวียนอยู่ในแสงเหล่านั้น
เสียเฟยและคนอื่นๆนั่งลงและพักผ่อนกันเพราะทุกครั้งที่โหราศาสตร์ถูกปลดปล่อยออกมา มันจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงและพวกเขาก็ไม่มีทางอื่นนอกจากจะต้องรอ
หนึ่งชั่วโมง,สองชั่วโมง….สามชั่วโมง!
นักโหราศาสตร์ก็ยังคงจมอยู่ในศาสตร์วิชาของเขาจนเสียเฟยและคนอื่นๆเริ่มมีสีหน้าที่แปลกประหลาดขึ้นมาและพวกเขาก็สงสัยว่าทำไมครั้งนี้จึงใช้เวลานานขนาดนี้ หรือว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?
“ฮู่วว….”
หลังจากนั้นอีกสามสิบนาทีในที่สุดนักโหราศาสตร์ก็หยุดและลืมตาขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้า แสงหลากสีกลับหายไปในขณะที่เขาถอนหายใจออกมาและพูดว่า “นายน้อยเฟย ศาสตร์ของข้าใช้การไม่ได้ ข้าไม่สามารถจับตำแหน่งของคนผู้นั้นได้”
“อะไรนะ?”…ไอลีนโนเวล
สีหน้าของเสียเฟยเปลี่ยนไปในขณะที่ดวงตาของผู้อาวุโสที่ผอมมากเป็นประกายด้วยความเย็นชาและถามว่า“เกิดอะไรขึ้น?”
นักโหราศาสตร์ส่ายหัวและถอนหายใจ“เดิมทีข้าต้องการจะจับตำแหน่งคนผู้นั้น แต่จู่ๆข้าก็สัมผัสถึงกลิ่นอายของเขาไม่ได้ ข้าระบุได้เพียงว่าเขาน่าจะอยู่ทางเหนือของทะเลราตรีสีเลือด เขา….อาจจะอยู่ในเขตห้วงมิติลึกลับและมีสิ่งประดิษฐ์ห้วงมิติที่อย่างน้อยก็น่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์เหนืออิทธิฤทธิ์”
“เวรเอ้ย!”
เสียเฟยสาปแช่งเงียบๆทะเลราตรีสีเลือดนั้นกว้างใหญ่ แม้แต่ทางเหนือของทะเลราตรีสีเลือดก็ยังมีขนาดพอๆกับทวีปเฟยหม่าหลายเท่า หากเขาค่อยๆค้นหาพื้นที่เหล่านั้น มันคงใช้เวลาอยู่หลายเดือน
“รอไปก่อน!”
ดวงตาของเสียเฟยกระพริบขณะที่เขากัดฟันพูดว่า“เราจะรออยู่ที่นี่และคอยใช้โหราศาสตร์ทุกๆสามวัน ข้าไม่เชื่อหรอกว่ามันจะซ่อนอยู่ที่นั่นตลอดไป”
ผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์และคนอื่นๆถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้หากพวกเขาจะคอยค้นพื้นที่แถบนี้ มันก็จะต้องใช้เวลาและพลังงานมากเกินไป ทะเลราตรีสีเลือดมีจักรพรรดิอสูรมากมาย และถึงแม้ว่าจักรพรรดิอสูรจะไม่ได้มีพลังมากขนาดนั้นแต่มันก็ยังคงสร้างความรำคาญไม่น้อยเลย
…
“นายน้อยข้าหากลิ่นอายของเป้าหมายไม่เจอแล้ว!”
ในเวลาเดียวกันในเมืองทางใต้สุดของทวีปเฟยหม่า นักโหราศาสตร์รายงานไปยังเจี้ยนอู๋อิง ซึ่งมันก็ทำให้เขาก่นด่าเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจับตำแหน่งเจียงอี้ไปแล้ว แล้วทำไมจู่ๆพวกเขาจึงหาเป้าหมายไม่เจอ?
“ทำต่อไป!เราต้องหาตัวเขาให้เจอ!” เจี้ยนอู๋อิงตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด เขายังเด็กมาและถูกจักรพรรดิแห่งศาสตราคอยเอาอกเอาใจ เขาไม่ได้สนใจสถานะนักโหราศาตร์ผู้นี้ที่ได้รับการยกย่องและหากเขาโกรธ เขาก็จะสังหารคนผู้นั้นทันทีโดยไม่ได้สนใจอะไรเลย
…
“อะไรนะ?เจ้าหาเขาไม่เจอ?”
ในเมืองจักรพรรดิอุดรหวู่นี่เพิ่งได้ตัวนักโหราศาสตร์และปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์มา เขาขอให้นักโหราศาสตร์ทำการค้นหาตำแหน่งเจียงอี้ทันทีและพบว่าพวกเขาไม่สามารถจับตำแหน่งของเจียงอี้ได้
“หรือเด็กนั่นอาจจะถูกตระกูลเสียหรือตระกูลเจี้ยนสังหารไปแล้ว?หรือเขาซ่อนตัวอยู่ในสิ่งประดิษฐ์ห้วงมิติ? แต่เขาไม่ได้สิ่งประดิษฐ์ห้วงมิติจากราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับไปนี่ ใช่ไหม?”
หวู่นี่พึมพำด้วยความสงสัยและให้นักโหราศาสตร์ไปพักผ่อนหลังจากนั้นเขาก็แจ้งให้นักโหราศาสตร์เปิดใช้ศาสตร์วิชาของเขาทุกๆสองสามวันและแจ้งให้เขาทราบเมื่อพบข้อมูลใดๆ ในตอนนี้เขากำลังถือกระดาษที่มีข้อมูลอย่างละเอียดของเจียงอี้อยู่ในนั้น มันรวมไปถึงข้อมูลของเขาในทวีปเทียนชิงและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทวีปเฟิ่งหมิงและทวีปมนุษย์กลายพันธุ์ด้วย
ในขณะที่เขากำลังอ่านข้อมูลของเจียงอี้อยู่ชายชราคนหนึ่งก็เข้ามารายงานว่า “นายน้อย สตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่หนีมาจากโถงสาขาทวีปเทียนชิงต้องการพบท่าน นางกล่าวว่านางรู้จักเจียงอี้เป็นอย่างดีและนางสามารถช่วยท่านจัดการเขาได้ขอรับ”
“นางพยายามจะเล่นอะไรอยู่?”
หวู่นี่กระพริบตาด้วยความหงุดหงิด“ไอ้สารเลวเจียงอี้อาจจะตายไปแล้วด้วยซ้ำ มีอะไรให้ต้องคุยกันอีกล่ะ? ส่งข้อความไปยังสาขาต่างๆให้คอยดูไว้อย่างใกล้ชิด หากเด็กนั่นยังมีชีวิตอยู่ก็มารายงานข้า ข้าจะไปเมืองจักรพรรดิลี้ลับก่อน หากข้าได้ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับมาครอง ข้าก็ไม่ต้องการหญ้ามังกรยาจกอีกต่อไป หึหึ….”
เมื่อนักโหราศาสตร์จับตำแหน่งกลิ่นอายของเจียงอี้ไม่ได้และสิ่งประดิษฐ์ห้วงมิตินั้นหายากมากหวู่นี่จึงคิดว่าเจียงอี้ตายไปแล้วและหญ้ามังกรยาจกอาจอยู่ที่เสียเฟยหรือเจี้ยนอู๋อิงแล้ว
เขาอาจจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับผลลัพธ์นี้แต่เขาก็ต้องยอมรับมัน และการที่ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับปรากฏขึ้นที่หุบเขาลี้ลับนั้นสำคัญหว่าหญ้ามังกรยาจก ดังนั้นหวู่นี่จึงต้องปล่อยเรื่องของเจียงอี้ไปก่อน
ด้านนักโหราศาสตร์ของถูหลงที่อยู่ในเมืองจักรพรรดิแห่งมวลอสูร,หลิงชีเจี้ยนและคนอื่นๆทั้งหมดก็ไม่สามารถจับตำแหน่งกลิ่นอายของเจียงอี้ได้เช่นกัน ในตอนแรกพวกเขาก็ยังสนใจในตัวเจียงอี้ แต่ตอนนี้พวกเขาก็ค่อยๆเลิกสนใจเจียงอี้ไปและใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายเดินทางไปยังเมืองจักรพรรดิลี้ลับและพยายามปีนภูเขาลี้ลับเพื่อครอบครองราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับกัน
ข้อมูลของราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับได้รั่วไหลออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
ในตอนนี้ทวีปจักรพรรดิบูรพาเริ่มครึกครื้นและยอดฝีมือนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันอยู่ที่เมืองจักรพรรดิลี้ลับและพยายามที่จะลองคว้าโอกาสนี้สักครั้งในชีวิต
หากพวกเขาได้ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับไปครองพวกเขาก็จะสามารถไต่เต้าขึ้นไปและกลายเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่ทรงพลังที่สุดในปฐพีได้ทันที หากว่าพวกเขามีกระบี่ลี้ลับและชุดเกราะลี้ลับ ใครจะสังหารพวกเขาได้ล่ะ? ในกรณีที่แย่มากๆ พวกเขาก็เพียงแค่ซ่อนตัวอยู่ในราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับเท่านั้น ใครจะสามารถทำลายอาคมของราชวังแห่งนี้ได้?
ในทวีปจักรพรรดิบูรพานั้นมีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นครั้งใหญ่ส่วนเจียงอี้เองก็ไม่รู้ว่าการที่เขาเข้าไปในราชวังจักรพรรดิและการที่ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับปรากฏขึ้นบนหุบเขาลี้ลับนั้นเป็นการช่วยให้เขารอดพ้นจากภัยพิบัติไปได้ หากทุกตระกูลไล่ล่าเขาพร้อมกัน ก็คงมีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเขาอยู่แม้ว่าเขาจะหนีไปยังสุดขอบโลกก็ตาม