เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 635 ขัดเกลาหญ้ามังกรยาจก!
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 635 ขัดเกลาหญ้ามังกรยาจก!
เจียงอี้เข้าไปในราชวังจักรพรรดิเพราะเขามีบางสิ่งที่จะต้องทำนั่นก็คือเขากำลังเตรียมจะขัดเกลาหญ้ามังกรยาจก!
การที่เก็บสมบัติเช่นนี้เอาไว้ที่ตัวเองมันเป็นเรื่องสูญเปล่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อไหร่ศัตรูจะตามมาไล่ล่า แล้วเขาอาจจะปล่อยให้ศัตรูเอามันไปได้อย่างง่ายดาย หลายวันหลังจากที่เจียงอี้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมด้านนอกด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพื่อดูให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัยแล้ว เขาก็เข้าไปในราชวังจักรพรรดิทันที
ศาสตร์อาคมของหยุนเฟยก็น่าทึ่งมากจริงๆนางสร้างม่านลวงตาที่ทรงพลังขึ้นทั้งในถ้ำที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่และด้านนอกเกาะทั้งเกาะด้วย หลังจากที่นางสร้างม่านพลังอาคมเสร็จแล้ว เจียงอี้และเฟิ่งหลวนก็บินออกไปและใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาลองมองมาที่พื้นที่นั้นดู แม้แต่ดวงจิตวิญญาณอันทรงพลังของเจียงอี้เอง หากตัวเขาไม่เข้าไปมองใกล้ๆ มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นว่ามีใครซ่อนตัวอยู่บนเกาะนี้
หยุนเฟยได้สร้างม่านลวงตาขึ้นสามสิ่งบนเกาะนี้และนางก็ใช้ศาสตร์วิญญาณพฤกษาได้มันจึงทำให้นางสามารถสร้างค่ายกลได้โดยไม่ต้องมีศิลาใดๆ นางทำแค่เพียงขยับต้นไม้และหินเพื่อสร้างม่านลวงตาธรรมชาติขึ้นมาซึ่งมันแทบจะไม่มีความผันแปรใดๆที่จะดึงดูดความสนใจได้เลย
แถมยังมีสัตว์อสูรคอยลาดตระเวนอยู่และหากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นจักรพรรดิอสูรจะเข้าไปขัดขวางก่อนในขณะที่เฟิ่งหลวนและคนอื่นๆจะได้รับข้อมูลทันที เจียงอี้ได้ให้ป้ายหยกกับนางไว้และเมื่อนางบดขยี้ป้ายหยก เขาก็จะรู้ถึงสถานการณ์ฉุกเฉิน และหากว่าเขาไม่ขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกตอนนี้ แล้วเขาจะทำมันตอนไหน?
ส่วนการขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกก็ง่ายมากซึ่งทั้งเฟิ่งหลวนและผู้อาวุโสชวีรู้ถึงวิธีการขัดเกลามันสมบัติเช่นนี้มาจากพลังงานฟ้าดินซึ่งจะไม่ทำอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ด้วยเหตุนี้เจียงอี้จึงไม่มีอะไรต้องกลัวและขัดเกลามันอย่างง่ายดาย แต่มันต้องใช้เวลาปรับแต่งอย่างน้อยสามเดือนเพื่อดูดซับฤทธิ์ยาจนสมบูรณ์
ส่วนเจียงเสี่ยวนู๋ก็ยังคงเข้าสู่สันโดษและอาจกำลังเข้าถึงขั้นที่สองของศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ขนนกสีหมึกอยู่ด้านเฉียนว่านก้วนเองก็เข้าสู่สันโดษอย่างบ้าคลั่งและเขาจะไม่ออกมาจนกว่าเขาจะปรับแต่งชิ้นส่วนรูปแบบเต๋าวิญญาณ และไม่รู้ว่าจิ้งจอกน้อยกำลังบ่มเพาะอะไรอยู่ แต่มันได้หลับใหลอยู่ในห้วงนิทรามาตลอดทาง
จากนั้นเจียงอี้ก็ย้ายผู้อาวุโสชวี,จูสุยและผู้อาวุโสกู่ออกไปในขณะที่พาจ้านอู๋ซวงและหยุนเฟยกลับเข้ามา นางพูดคุยกับจ้านอู๋ซวงเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายกันเข้าไปในห้องของตัวเองและเข้าสู่สันโดษต่อ
“หญ้ามังกรยาจก!”
เจียงอี้หยิบกล่องหยกออกมาในขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกายตราบใดที่เขาขัดเกลาสิ่งนี้ เขาจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
เจียงอี้หายใจเข้าลึกๆและปัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจนหมดเขาค่อยๆเปิดกล่องหยกและวางก้านสมุนไพรที่เปล่งประกายไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์บนมือของเขา มันเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตที่กระพือปีกเบาๆเมื่ออยู่ในมือของเขา มันปล่อยกลิ่นที่ยั่วยวนออกมาและทำให้กลิ่นหอมๆของมันอบอวลไปทั้งห้อง
“ข้าต้องรีบขัดเกลามันแล้วล่ะ!”
เขาเข้าใจว่ากลิ่นนี้เป็นฤทธิ์ของยาและยิ่งมันกระจายไปมากเท่าไหร่ผลของมันจะน้อยลงเท่านั้น จากนั้นเขาจึงใช้แก่นแท้พลังห่อหุ้มหญ้ามังกรยาจกเอาไว้และกลิ่นของมันก็หายไปทันที ตัวเจียงอี้เองก็รู้สึกได้เช่นกันว่าหญ้ามังกรยาจกกำลังดิ้นแรงขึ้นมาราวกับว่ามันไม่ต้องการถูกขัดเกลา
ซึ่งตอนนี้เจียงอี้ก็คงจะไม่ใจอ่อนอยู่แล้วเขารีบหลั่งแก่นแท้พลังไปอย่างรวดเร็วและค่อยๆละลายหญ้ามังกรยาจก จากนั้นร่องรอยพลังงานก็เข้าสู้เส้นลมปราณผ่านฝ่ามือของเขาไป
“อ๊า!ร้อนนน!”
เมื่อหญ้ามังกรยาจกเข้าสู่เส้นปราณเจียงอี้ก็รู้สึกราวกับว่าเส้นปราณของเขาลุกเป็นไฟและเขาก็เกือบจะโยนหญ้ามังกรยาจกทิ้งไป เขารีบหยุดขัดเกลามันและชะลอไม่ให้พลังงานนั้นเข้าสู่ร่างกายของเขา ตอนที่เขากำลังรอให้พลังงานกระจายไปทั่วร่างของเขา เขารู้สึกราวกับว่าร่างของเขาลุกเป็นไฟ และพลังงานนั้นก็สลายไปอย่างรวดเร็วในขณะที่กล้ามเนื้อและเส้นเลือดทั้งหมดของเขากำลังมอดไหม้ มันเหมือนกับว่าเขากำลังว่ายน้ำอยู่ในหม้อไฟและร่างกายของเขากำลังถูกต้มอยู่
“ทำไมมันร้อนขนาดนี้?ทำไมไข่มุกวิญญาณเพลิงถึงไม่ปกป้องเจ้าของล่ะ? ฟู่ ฟู่…”…Aileen-novel
เจียงอี้กัดฟันด้วยความเจ็บปวดชั่วขณะก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นมาและฉีกเสื้อผ้าออกจากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่ไข่มุกวิญญาณแพลิงและตระหนักว่าไม่มีสัญญาณใดๆเลย และเขาก็มองกลับไปที่หญ้ามังกรยาจกและสาปแช่งอย่างเงียบๆ
ตอนนี้เขาได้เริ่มขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกไปแล้วและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดกลางคันไม่เช่นนั้นฤทธิ์ยาก็จะหายไปและมันก็จะทำให้สมบัติชิ้นนี้สูญเปล่าไปอย่างแท้จริง จากนั้นเขาก็หมุนเวียนศาสตร์นิรนามและนำทางให้พลังงานกระจายไปรอบๆเพื่อให้ร่างกายลดความแสบร้อนไป
“ต่อกันเถอะ!”
เมื่อร่างของเขาฟื้นตัวเล็กน้อยเจียงอี้ก็ยังคงขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกต่อ และเมื่อพลังงานเข้าสู่เส้นปราณของเขา ร่างของเจียงอี้ก็สั่นสะท้าน ร่องรอยพลังงานครั้งที่สองนี้ร้อนกว่าเดิมมากและมันรู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะถูกเผา หากเขาไม่ควบคุมตัวเองเขาก็อาจจะลงไปดิ้นกับพื้นแล้ว
ร้อน!
มันร้อนเกินไป!
เมื่อพลังงานนั้นเข้าสู่ร่างกายของเขามันจะกระจายไปทั่วร่างของเขาโดยอัตโนมัติ ทุกรูขุมขนบนร่างของเขานั้นคายความร้อนออกมาจนทำให้เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ และสารสีดำไหลออกมาจากร่างของเขาอยู่ตลอดเวลา มันทรมานจนแทบจะทนไม่ได้และเกือบจะทำให้เขากลายเป็นบ้าไปแล้ว
“ข้าจะทำยังไงดี?ข้าให้มันเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ ข้าคงจะเป็นลมไปเพราะความเจ็บปวดอย่างแน่นอนและหากข้าเป็นลมไป หญ้ามังกรยาจกจะคลายพลังของมันออกมาจนหมดแน่ๆ หรือวิธีการขัดเกลาของเฟิ่งเอ๋อร์และผู้อาวุโสชวีจะผิดไป?”
เจียงอี้รู้สึกราวกับว่าร่างของเขากำลังถูกย่างเกรียมและเขาต้องทนกับความรู้สึกนั้นซึ่งมันทำให้เขาแทบคลั่งเขากำลังคิดหาทางอย่างรวดเร็ว หากมันยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องหยุดขัดเกลาหรือไม่ก็ต้องหมดสติไป และไม่ว่าจะเป็นทางใดก็อาจจะทำให้หญ้ามังกรยาจกสิ้นฤทธิ์ไปได้และมันจะทำให้สมุนไพรลึกลับนี้ไร้ค่า
“เอ๊ะ….ทำไมตัวข้าทั้งตัวมันเหนียวขนาดนี้กัน?สารสีดำนี่คืออะไรกัน?”
เจียงอี้ตระหนักได้ว่าร่างของเขาปล่อยสารสีดำออกมาและมันมีกลิ่นเหม็นซึ่งทำให้เขาค่อนข้างงุนงงแต่สักพักเขาก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
มันดูเหมือนว่าความร้อนจากการขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกนั้นเป็นสมุนไพรที่ทำให้ร่างกายของเขาเย็นลงและขับสิ่งสกปรกออกไปหลังจากที่สิ่งสกปรกนั้นถูกขับออกไป ร่างกายของเขาก็จะเข้าสู่สภาพสมบูรณ์
“อดทนไว้ข้าต้องทนไว้ ไม่เช่นนั้นข้าจะสูญเสียผลของหญ้ามังกรยาจกไปและไม่สามารถทะลวงไปสู่ภาวะที่ไร้ที่ติได้”
เจียงอี้เตือนตัวเองอย่างเงียบๆว่าอย่าเสียโอกาสที่ดีนี้ไปหญ้ามังกรยาจกปรากฏเพียงครั้งเดียวในรอบหมื่นปี หากเขาพลาดโอกาสครั้งนี้ไป เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีกเลยตลอดชั่วชีวิตนี้ของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องคิดหาวิธีทั้งหมดเพื่อที่จะได้รักษาโอกาสนี้เอาไว้
แต่อย่างไรก็ตาม!
เมื่อร่องรอยพลังงานที่สามเข้าสู่ร่างของเขาเขารู้สึกว่าตัวเองค่อยๆร้อนขึ้นและรู้สึกว่าเขาไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไป แม้ว่าใจเขาจะทนได้แต่ร่างกายของเขาทนไม่ได้และกำลังจะเป็นลมไป
“โอ้ใช่แล้ว!”
จู่ๆเขาก็นึกออกว่าตัวเองมีทักษะสภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์!เขาจะฝืนทนต่อความเจ็บปวดในร่างกายและทำให้ตัวเองลืมทุกสิ่งเพื่อเข้าสู่สภาวะลึกลับนั้น
และมันเป็นอย่างที่คาด!
หลังจากที่เข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์แล้วทุกสิ่งก็ต่างไป เจียงอี้รู้สึกราวกับว่าวิญญาณของเขาออกจากร่างและถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะถูกย่างอยู่ในเตาหลอม แต่ตราบใดที่ดวงจิตวิญญาณของเขาไม่ได้สนใจมัน เขาก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ
“ขัดเกลาต่อ!”
หญ้ามังกรยาจกนั้นไม่ได้เผาไหม้ร่างกายเขาจริงๆแต่เป็นเพียงการทำให้ร่างกายของเขาเข้าสู่สภาวะไร้ที่ติ เจียงอี้ไม่ได้สนใจร่างกายของเขาอีกต่อไป เขาควบคุมแก่นแท้พลังของเขาเพื่อขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกต่อและปล่อยให้พลังงานไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างไม่หยุดยั้งและปรับสภาพร่างกายของเขา ซึ่งทำให้ร่างของเขาถูกชำระล้างและไร้ที่ติ!
เขามองไปที่ร่างกายที่ปล่อยสารสีดำออกมาอย่างต่อเนื่องและกำลังรอคอยที่จะได้เห็นว่าร่างกายของเขาจะสมบูรณ์เพียงใดหลังจากที่หญ้ามังกรยาจกปรับร่างของเขาเสร็จแล้ว