เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 636 ในที่สุดก็เจอตัวมันแล้ว ฆ่ามันซะ
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 636 ในที่สุดก็เจอตัวมันแล้ว ฆ่ามันซะ
เวลาค่อยๆผ่านเลยไปในขณะที่ผิวของเจียงอี้กลายเป็นสีแดงร่างกายของเขาสั่นเทาขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เสื้อผ้าบนตัวของเขาเต็มไปด้วยสารสีดำ
เจียงอี้มองดูอย่างถี่ถ้วนและพบว่าร่างกายของเขานั้นกำลังเปลี่ยนไปอย่างช้าๆอย่างเส้นปราณบางส่วนของเขากำลังขยายตัวขึ้นในขณะที่บางส่วนกำลังหดตัว กระดูกบางส่วนของเขายาวขึ้นในขณะที่กล้ามเนื้อบางส่วนพองออกมา
มันทำให้เจียงอี้หวาดกลัวขึ้นมาหากว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นอันตรายต่อร่างกายของเขาและเส้นลมปราณของเขาถูกทำลายลงไป เขาก็จะกลายเป็นผู้พิการไปอย่างสมบูรณ์
แต่หญ้ามังกรยาจกก็มีไว้เพื่อเปลี่ยนแปลงร่างกายของบุคคลหากไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของผู้ที่ใช้มันแล้วจะยังเรียกว่าเปลี่ยนแปลงรูปกายหรือ? ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่สนใจกับมันและยังคงควบคุมแก่นแท้พลังเพื่อขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกต่อไป
การปรับเปลี่ยนของหญ้ามังกรยาจกนั้นช้ามากและเจียงอี้ก็ไม่กล้าที่จะเร่งรัดมันเมื่อพิจารณาตามสถานการณ์แล้วเขาจะต้องใช้เวลาประมาณสามเดือนกว่าจะขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกเสร็จสิ้น และเจียงอี้ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เพราะเขาก็คงไม่สามารถนอนหลับไปตลอดสามเดือนได้หรอกใช่ไหมล่ะ?
“เช่นนั้นข้าจะเข้าถึงศาสตร์เวทย์ไปด้วยแล้วกัน”
ศาสตร์เวทย์มากมายของเขายังอยู่ในขั้นต้นอยู่และเจียงอี้ก็เลิกสนใจร่างกายของตัวเองในขณะที่เขาตั้งสมาธิเพื่อเข้าถึงศาสตร์เวทย์ ก่อนหน้านี้เขาเคยใช้สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์เพื่อสอดแนมไปทั่วพื้นที่และเขาก็ไม่รู้ว่ามันสามารถเข้าถึงศาสตร์นี้ได้หรือไม่
เขาลองแบ่งดวงจิตส่วนหนึ่งเอาไว้ควบคุมแก่นแท้พลังไว้คอยขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกเพราะไม่ว่าจะเป็นยังไง พลังงานของหญ้ามังกรยาจกก็จะกระจายสู่ร่างกายไปเองซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจกับมันมากนัก ในขณะที่เขาเริ่มตั้งสมาธิและเริ่มศึกษาร่างจำแลงคณานับ
จนในที่สุด….!
มันมีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อเขากำลังทำความเข้าใจศาสตร์วิชาอยู่ในขณะที่เขากำลังอยู่ในสภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ มันทำให้เขาเข้าใจศาสตร์เวทย์เร็วขึ้น ความลึกลับมากมายที่เขาไม่เข้าใจมันกลับถูกค้นพบได้อย่างรวดเร็ว และการเรียนรู้เพียงสามวันมันจะทำให้เร็วกว่าตอนที่เขาเคยศึกษาศาสตร์เหล่านี้เกือบสามสิบวัน
“สภาวะนี้น่าทึ่งจริงๆความเร็วในการทำความเข้าใจศาสตร์วิชาของข้าเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า แต่ข้ากลับไม่รู้มาก่อนเลย!”
เจียงอี้ประหลาดใจกับมันมากและมันก็เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ เขาไม่รู้มาก่อนด้วยว่าสภาวะนี้จะทำให้เขาเป็นเช่นนี้
หากอีฉานและคนอื่นๆได้รู้ความคิดของเจียงอี้พวกเขาคงจะสาปแช่งเขาอย่างแน่นอนว่าเป็นคนโง่เง่า เพราะเหตุผลที่อีฉานและหยิ่นรั่วปิงคิดว่าเจียงอี้น่ายกย่องนั่นเป็นเพราะว่าเขาเข้าใจสภาวะนี้
สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์!
มันเป็นสภาวะที่ดีที่สุดที่จะศึกษารูปแบบเต๋าและกฎแห่งฟ้าดินแม้แต่ยอดฝีมือมากมายต่างก็โหยหาสภาวะนี้
มันเป็นเหตุผลว่าเหตุใดอีฉานถึงถูกดึงดูดและช่วยเจียงอี้ในตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ในทะเลบูรพาเวิ้งว้างแต่น่าเสียดายที่อีฉานไม่มีความเข้าใจในสภาวะนี้มากนัก นอกจากนี้ ร่างกายของเจียงอี้ก็ได้พิการไปแล้วในตอนที่เขาขัดเกลาศิลาสวรรค์ และเนื่องจากหญ้ามังกรยาจกไม่ได้หาได้ง่ายๆ นางจึงไม่ได้พาเขากลับไปยังเมืองจักรพรรดิอรหังด้วย
อีกอย่างก็ไม่มีใครบอกเจียงอี้ว่าสภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์นั้นน่าอัศจรรย์มากดังนั้นเขาจึงไม่รู้อะไรเลย ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจสิ่งอื่นใดและปล่อยวางหัวใจและดวงจิตวิญญาณของเขาไปกับการศึกษาศาสตร์เวทย์ แถมเขายังไม่สนใจในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับการเปลี่ยนร่างกายของเขาด้วยเช่นกัน
…
เวลาผ่านไปเร็วมากและหนึ่งเดือนก็ได้ผ่านไปในพริบตา
เสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงค่อนข้างกระสับกระส่ายในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นักโหราศาสตร์ของทั้งสองตระกูลจะใช้วิชาทุกๆสามวัน และทุกครั้ง พวกเขาก็ไม่สามารถจับตำแหน่งของเจียงอี้ได้ ซึ่งเสียเฟยพาคนกลุ่มหนึ่งไปที่เกาะและต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่นั่น เขาเบื่อมากและไม่มีความคิดจะบ่มเพาะพลังอะไรเลย…ไอรีนโนเวล
ส่วนเจี้ยนอู๋อิงค่อนข้างดีกว่าเขาจะเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มที่เลิศรสในขณะที่เขาใช้ชีวิตเยี่ยงราชาอยู่ในเมืองทางใต้สุดของจักรวรรดิเฟยหม่า ส่วนเฟยฉีจะส่งสาวงามมาให้เขาอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็มีสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถขจัดออกไปได้คือเขาไม่เจอตัวเจียงอี้ซึ่งมันทำให้เขาไม่สามารถเพลิดเพลินกับความสุขได้อย่างเต็มที่
หนึ่งเดือนต่อมา……..ไอรีนโนเวล
ทั้งคู่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและส่งคนไปสอดแนมทะเลราตรีสีเลือดเพราะอย่างไรเสียคนเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว และในเมื่อพวกเขามาที่นี่แล้ว พวกเขาก็อาจจะตามหาตามพื้นที่ต่างๆกันไปก่อน อีกอย่างพวกเขาคงไม่พอใจมากหากต้องกลับไปอย่างน่าอับอาย นอกจากนี้พ่อของเสียเฟยยังบอกเขาอีกว่าอย่าทำให้ตระกูลเสียต้องขายขี้หน้า
ผู้เชี่ยวชาญสามสิบคนจากตระกูลเสียที่อยู่ในจักรวรรดิเฟยหม่ามารวมตัวกับเสียเฟยในบรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งหกสิบคนต่างพากันกระจายไปทั่วเกาะ และมีอีกห้าคนที่ยังคอยอยู่ที่เดิม พวกเขาจัดกลุ่มออกเป็นสองกลุ่มและเมื่อพวกเขาไปยังด้านเหนือของทะเลราตรีสีเลือดมันก็เหมือนกับตาข่ายขนาดยักษ์ที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
ตระกูลเจี้ยนเองก็ส่งคนไปสามสิบคนเช่นกันมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนเกือบร้อยคนหลังจากที่เพิ่มคนของจักรวรรดิเฟยหม่าไปด้วย และพวกเขาทั้งหมดก็ถูกส่งออกไปหมดเลย ทันใดนั้น ทางเหนือของทะเลราตรีสีเลือดก็มีความครื้นเครงขึ้น เหล่าปีศาจทะเลถูกสังหารหมู่ในขณะที่เกาะต่างๆก็ถูกค้นหาทั้งเกาะ
มีผู้เชี่ยวชาญบางคนลงไปถึงใต้ทะเลเพื่อตามหาเจียงอี้นักโหราศาสตร์จากทั้งสองตระกูลจับตำแหน่งเจียงอี้ได้คร่าวๆว่าเขาอยู่ทางด้านเหนือของทะเลราตรีสีเลือด ทั้งสองตระกูลจึงตัดสินใจที่จะตามหาเขาแม้ว่าจะต้องพลิกผืนดินแดนเหนือทั้งหมดก็ตาม
ทะเลราตรีสีเลือดมีขนาดใหญ่มากและมีจักรพรรดิอสูรอยู่ในนั้นมากมายซึ่งมีอย่างน้อยหลายร้อยตน นอกจากนี้มันยังเป็นจำนวนการคาดเดาที่ไร้เหตุผลของจอมยุทธทั้งหลาย ไม่มีใครรู้จำนวนที่แน่นอนเพราะไม่มีผู้ใดกล้าเดินทางข้ามทะเลราตรีสีเลือด และมีข่าวลืออีกว่ามีจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่มีพลังท้าทายสวรรค์อยู่ใจกลางทะเลราตรีสีเลือดและความแข็งแกร่งของมันเทียบเท่ากับเก้าจักรพรรดิของทวีปจักรพรรดิบูรพา
โชคดีที่เจียงอี้ซ่อนอยู่ทางตอนเหนือและมันห่างไกลจากใจกลางทะเลราตรีสีเลือดมากนักแต่หากว่าเขาอยู่ใจกลางทะเลราตรีสีเลือด เหล่าผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลเสียและตระกูลเจี้ยนจะไม่มีวันกล้าบุกเข้าไปแม้ว่าพวกเขาจะมีความกล้าเกินร้อยก็ตาม แต่แน่นอนว่าหากเจียงอี้กล้าเข้าไปยังใจกลางทะเลราตรีสีเลือด เขาเองก็คงจะต้องถูกจักรพรรดิอสูรฉีกเป็นชิ้นๆแน่
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองตระกูลได้ปะทะกันหลายครั้งและเริ่มโต้เถียงกันหลังจากตามค้นหามาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแต่หลังจากที่พวกเขารายงานกลับไปยังเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิง ทั้งเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงก็ให้คนของพวกเขาข่มใจเอาไว้และยังให้เพิ่มความเร็วในการค้นหาอีกด้วย
ไม่กี่วันต่อมาผู้เชี่ยวชาญตระกูลเสียได้เข้าใกล้เขตพื้นที่ทะเลที่เจียงอี้ซ่อนตัวอยู่ พวกเขาถูกปีศาจทะเลมากมายโจมตีในขณะที่จักรพรรดิมังกรวารีสีทองเข้าไปในเกาะและส่งข้อความไปยังเฟิ่งหลวนทันที จากนั้นเฟิ่งหลวนก็บดขยี้ป้ายหยกในมือของนางทันที
อย่างไรก็ตามแต่เจียงอี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
เนื่องจากหญ้ามังกรยาจกกำลังจะถูกขัดเกลาอย่างสมบูรณ์และต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยสองวันเพื่อจะทำให้เสร็จหากเขาออกไปตอนนี้ หญ้ามังกรยาจกที่เหลืออยู่ก็จะสูญเปล่าไป แต่หากเขาไม่ออกไป เฟิ่งหลวนและคนอื่นๆก็จะตกอยู่ในอันตรายเมื่อพวกนั้นพบเกาะนี้
และในที่สุดเจียงอี้ก็ส่งข้อความเสียงออกไป เขาให้จักรพรรดิมังกรวารีสีทองล่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนสองคนที่อยู่ใกล้ๆออกไปก่อน เพื่อที่จะยื้อเวลาไปได้อีกสองวัน และเขายังพาเฟิ่งหลวน, สัตว์อสูรหยาจื้อและคนอื่นๆเข้ามาในราชวังจักรพรรดิด้วย!
ผู้ที่มาที่นี่มีเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนสองคนและเจียงอี้มั่นใจว่าเขาสามารถหนีได้แม้ว่าพวกนั้นจะเจอเกาะนี้แล้ว
และอีกสองวันต่อมาร่างสีทองก็พุ่งมาที่ใจกลางเกาะ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือดในขณะที่เขาร้องออกมาทันทีที่เข้าไปในเกาะ “นายท่าน หากท่านยังไม่ออกมา ข้าจะต้องตายแน่ๆ!”
ปัง!
ณบริเวณทะเลที่ไกลออกไป น้ำทะเลปะทุขึ้นมาขณะที่ร่างสองร่างโผล่ขึ้นมาจากน้ำ พวกเขางุนงงเมื่อเห็นว่าจักรพรรดิมังกรวารีสีทองที่พวกเขาไล่ล่าอยู่ได้หายไปทันทีที่มันเข้ามาในเกาะ
จากนั้นทั้งสองคนก็ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบอย่างละเอียดจากนั้นพวกเขาก็เจอมันอย่างรวดเร็ว ป้ายหยกปรากฏขึ้นในมือของคนผู้หนึ่งขณะที่เขาส่งข้อความถึงเสียเฟย ส่วนอีกคนหนึ่งเผยจิตสังหารออกมาขณะที่เขาแสยะยิ้ม “ในที่สุดก็เจอตัวมันแล้ว ฆ่ามันซะ!”